บทที่ 71 ผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์เลเวลสูงสุด
บทที่ 71 ผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์เลเวลสูงสุด
ลู่หยางมองดูผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์พร้อมกับพยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นเขาก็เดินหน้าสำรวจหุบเขางูพิษต่อไป
ชายหนุ่มจำได้ว่าในหุบเขางูพิษมีบอสงูสามหัว ซึ่งถ้าหากว่าเขาสังหารมันได้สำเร็จ มันก็คงจะมีอุปกรณ์ดี ๆ ดรอปลงมาให้เขาได้ใช้การบ้าง
น่าเสียดายที่แผนที่หุบเขางูพิษมีขนาดใหญ่มากและมันก็จำเป็นจะต้องใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงกว่าที่ลู่หยางจะเดินมาถึงจุดเกิดของบอสที่เขาจำได้ในชาติที่แล้ว
ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงหวีดร้องดังมาแต่ไกล พร้อมกับเสียงก้อนหินเสียดสีกับพื้นดินราวกับมีของหนักกำลังเคลื่อนที่ผ่านไป
ชายหนุ่มมองผ่านมุมหินก่อนที่จะเบิกตากว้างขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เพราะด้านหน้าคืองูสีดำสามหัวที่มีความสูงเกือบ 4 เมตรและมีขนาดลำตัวใหญ่มากกว่าควายป่า
งูดำสามหัว (บอส)
เลเวล 8
พลังชีวิต 22,000/22,000
นี่คือบอสที่ลู่หยางกำลังมองหาอยู่นั่นเอง แล้วเมื่อเขาสังเกตรอบ ๆ ว่างูพิษถูกกำจัดไปจนหมดแล้ว ชายหนุ่มจึงชูคทาขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับร่ายสกิลคอมบัสชันใส่งูดำ
-262
หัวทั้งสามของงูดำจ้องไปยังลู่หยางอย่างเคียดแค้น ก่อนที่ลำตัวขนาดใหญ่จะเลื้อยเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ระบบ: งูดำสามหัวใช้สกิลชาร์จใส่คุณ
การชาร์จของงูดำสามหัวแตกต่างจากมอนสเตอร์ตัวอื่น ๆ เพราะเมื่อมันชาร์จถึงเป้าหมายหัวทั้งสามจะอ้าปากกว้างพร้อมกับกัดใส่ผู้เล่นพร้อม ๆ กัน
หัวทางด้านซ้ายมีความสามารถในการสร้างความเสียหายธาตุน้ำแข็ง หัวตรงกลางมีความสามารถสร้างความเสียหายทางกายภาพ หัวทางด้านขวามีความสามารถในการสร้างความเสียหายธาตุพิษ หากเขาถูกหัวทั้งสามกัด มันจะลดความเร็วในการเคลื่อนที่ลง 70% ลดพลังชีวิต 40 หน่วยต่อวินาทีและจะได้รับความเสียหายทางกายภาพอีก 400 หน่วย
หากเป็นเมื่อก่อนเมื่อบอสงูดำพุ่งเข้ามา เขาก็จำเป็นจะต้องใช้สกิลเพื่อเทเลพอร์ตหลบหนีไป อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขามีผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์เป็นตัวแทงค์ให้แล้ว เขาจึงสั่งให้ตัวแทงค์ประจำตัวพุ่งออกไปขวางหน้าบอสเอาไว้
ตูม!
งูดำสามหัวปะทะเข้ากับผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์เข้าอย่างจัง
-1
-20
ผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์สามารถต้านทานการโจมตีของงูดำสามหัวได้สำเร็จ และเนื่องมาจากพลังป้องกันของมันที่สูงกว่า 600 หน่วย หัวทั้งสามของบอสจึงสร้างความเสียหายได้เพียงแค่ 1 หน่วยเท่านั้น นอกจากนี้ความสามารถในการต้านพิษของผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ยังอยู่ในระดับที่สูงมาก มันจึงได้รับความเสียหายจากพิษไปเพียงแค่ครึ่งเดียว
หัวสุดท้ายมีความสามารถในการทำให้เป้าหมายเคลื่อนที่ได้ช้าลง แต่เนื่องจากผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ไม่จำเป็นต้องหนี มันจึงยืนสู้กับบอสงูดำได้โดยไม่มีปัญหา
ลู่หยางพอใจกับพลังของผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์มาก ก่อนที่เขาจะเริ่มใช้สกิลคอมบัสชันกับงูดำสามหัวอย่างต่อเนื่อง
เมื่อหัวใจแห่งเทพอสูรเพิ่มระดับสกิลคอมบัสชันขึ้นเป็นเลเวล 2 โบนัสความเสียหายธาตุไฟที่ทำใส่บอสมันก็เพิ่มขึ้นจาก 15 เป็น 30 หน่วย
ลู่หยางใช้สกิลคอมมิชชั่นซ้อนทับทั้งหมดห้าครั้งทำให้โดยรวมแล้วบัฟนี้จะช่วยเสริมโบนัสความเสียหายธาตุไฟได้อีก 150 หน่วย
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เริ่มร่ายคาถาเพื่อยิงเบลซซิงเบิร์สเข้าใส่หัวตรงกลางของงูดำอย่างแม่นยำ
-1,072 (คริติคอล)
บอสมีพลังชีวิตทั้งหมด 22,000 หน่วย แต่การคริติคอลของลู่หยางเพียงครั้งเดียวกลับสร้างความเสียหายให้กับมันได้ถึง 1 ใน 22
อย่างไรก็ตามลู่หยางก็มีผ้าคลุมสปอร์ที่ช่วยลดความเกลียดชัง ดังนั้นถึงแม้บอสงูดำจะส่งเสียงร้องคำรามอย่างโกรธแค้น แต่มันก็ยังคงมุ่งเป้าจู่โจมเข้าใส่ผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ต่อไป
ทางด้านผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับบอสได้ไม่น้อย เพราะการโจมตีของมันแต่ละครั้งสามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่า 130 หน่วย ยิ่งไปกว่านั้นอัศวินคนนี้ยังโจมตีได้อย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก ทำให้ในช่วงเวลา 10 วินาทีมันก็สามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่า 1,000 หน่วย
เมื่อลู่หยางกับผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ได้ร่วมมือกัน ในเวลาเพียงแค่ 1 นาทีพลังชีวิตของบอสงูดำก็ลดลงมาเหลือเพียงแค่ 6,000 กว่าหน่วย
แต่ในระหว่างที่ลู่หยางกำลังเร่งโจมตีเพื่อสังหารงูดำสามหัวอยู่นั่นเอง จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
ชายหนุ่มหันมองกลับไปด้วยสีหน้าอันเย็นชาเพราะเขารู้จักผู้มาใหม่เป็นอย่างดี ชายคนนี้คือเย่กู่ซิง มือขวาของบลัดไทแรนท์แห่งกิลด์บลัดเติสตี้ และในชาติที่แล้วคนพวกนี้ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่คอยซุ่มโจมตีลู่หยาง
“วันนี้พวกเราโชคดีแล้ว” เย่กู่ซิงกล่าวหลังจากที่เขาได้เห็นลู่หยางต่อสู้กับบอสงูสามหัว
“มันเป็นอย่างที่นายบอกเอาไว้ไม่มีผิดเลยว่าการมาคราวนี้พวกเราจะต้องได้ของดีกลับไปแน่ ๆ” ดีม่อนบลัด ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกเก่าแก่ของกิลด์บลัดเติสตี้กล่าว
สมาชิกที่เหลือภายในทีมอีกหกคนต่างก็ส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาอย่างยินดี เพราะในตอนที่พวกเขากำลังเก็บเลเวลอยู่นอกหุบเขางูพิษ เย่กู่ซิงก็สังเกตเห็นว่างูพิษในหุบเขาถูกฆ่าไปจนแล้ว เขาจึงคิดว่ามันจะต้องมีคนอยู่ด้านในหุบเขาแน่ ๆ
ด้วยเหตุนี้เย่กู่ซิงจึงพาพรรคพวกเข้ามาในหุบเขา โดยมีความคิดที่จะสังหารเป้าหมายเพื่อปล้นอุปกรณ์ แต่ใครจะไปคิดว่าหลังจากที่พวกเขามาเจอเป้าหมายแล้วจริง ๆ มันกลับมีเป้าหมายเพียงแค่ 1 คนแถมอีกฝ่ายยังจัดการกับบอสจนเหลือเลือดน้อยมากอีกด้วย
“ฆ่ามันก่อน แล้วช่วยกันฆ่าบอสทีหลัง” เย่กู่ซิงสั่งการ
“ครับ!” ผู้เล่นทั้งหกที่อยู่ด้านหลังต่างก็พุ่งเข้าใส่ลู่หยางพร้อม ๆ กัน
แม้ชายหนุ่มจะมองไม่เห็นเลเวลของคนพวกนี้ แต่เขาก็สามารถคาดเดาได้อย่างเร็วว่าอย่างน้อยผู้เล่นที่มีเลเวลต่ำที่สุดก็ควรจะมีเลเวลมากกว่า 5
อย่างไรก็ตามผู้เล่นเลเวลเท่านี้ที่พยายามเผชิญหน้ากับเขาก็ไม่ต่างไปจากการพยายามฆ่าตัวตาย ชายหนุ่มจึงร่ายคาถาใช้เบลซซิงเบิร์สยิงเข้าใส่นักรบที่กำลังชาร์จเข้ามา
ตูม!
-386
นักรบเลเวล 5 มีพลังชีวิตสูงสุดเพียงแค่ 200 กว่าหน่วย การถูกลู่หยางจู่โจมเพียงแค่ครั้งเดียวจึงทำให้เขาเสียชีวิตลงในทันที
ด้วยแรงเฉื่อยจากการใช้สกิลชาร์จ มันจึงทำให้ร่างของนักรบที่เสียชีวิตยังคงไถลไปกับพื้นได้อีกระยะหนึ่ง
ลู่หยางไม่ได้ให้ความสนใจความอนาถของศพที่กำลังไถลไปกับพื้นเลย เพราะศัตรูยังมีวอลอค 1 คน, นักเวท 2 คน, โจร 1 คน, นักรบ 2 คนและนักบวชอีก 2 คน
เย่กู่ซิงซึ่งมีอาชีพโจรรีบใช้สกิลล่องหนหลังจากได้เห็นลู่หยางสังหารนักรบของพวกเขาแล้ว ส่วนทางด้านดีม่อนบลัดที่เป็นวอลอคก็กำลังร่ายสกิลชาโดว์แอรโรว์ ส่วนนักเวทอีก 2 คนกำลังร่ายสกิลฟรอสท์แอรโรว์
นักรบอีกคนตอนแรกไม่ได้มีความคิดที่จะใช้สกิลชาร์จ เพราะเขาคิดว่าเพียงแค่สหายที่จู่โจมเข้าไปก็มากพอที่จะจัดการเป้าหมายได้แล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้เห็นสหายนักรบถูกลู่หยางสังหารลงไป เขาจึงจำเป็นจะต้องใช้สกิลชาร์จเพื่อเข้าไปประชิดนักเวทตรงหน้า
ลู่หยางไม่ได้สนใจการชาร์จของอีกฝ่ายเลย และเมื่อร่างของนักรบกำลังพุ่งเข้ามาเขาก็ใช้สกิลแฟลชเพื่อหายตัวไป
ร่างชายหนุ่มกลายเป็นแสงสีขาวหลบการชาร์จของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย ขณะเดียวกันร่างของเขาก็ปรากฏตัวขึ้นใกล้ ๆ ดีม่อนบลัดและนักเวทอีกสองคน
พวกดีม่อนบลัดกำลังจะปล่อยเวทมนตร์ออกมาได้อยู่แล้ว แต่การหายตัวไปของลู่หยางก็ทำให้เวทมนตร์ของพวกเขาสูญเสียเป้าหมายไปอย่างฉับพลัน
“มันหายไปไหนแล้ว?” ดีม่อนบลัดถามอย่างสับสน
“ฉันอยู่นี่” ลู่หยางเดินไปข้าง ๆ อีกฝ่ายพร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันหยอกล้อ
ดีม่อนบลัดสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ ก่อนที่เขาและนักเวททั้งสองจะเริ่มร่ายเวทขึ้นมาใหม่ แน่นอนว่าลู่หยางย่อมไม่ปล่อยโอกาสให้อีกฝ่ายโจมตีเขาเข้ามาอยู่แล้ว
รีซิสท์ไฟร์ริง!
วงแหวนไฟปะทุออกมาจากร่างของชายหนุ่มพร้อมกับกระจายออกไปในพื้นที่โดยรอบอย่างรุนแรง
โครม!
ตูม!
พวกดีม่อนบลัดทั้งสามถูกผลักกระเด็นออกไปในทันที และร่างของเขาก็กระเด็นออกไปไกลกว่า 10 เมตรก่อนที่จะหยุดลง
ลู่หยางฉวยโอกาสนี้หันกลับมาใช้เบลซซิงเบิร์สใส่นักรบที่กำลังชาร์จเข้ามาอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ใช้สกิลคอมบัสชัน 2 ครั้งเข้าใส่นักบวช
-272
-272
นักบวชแต่ละคนมีพลังชีวิตอยู่แค่ประมาณ 150 หน่วย การจู่โจมของลู่หยางในตอนนี้จึงเผาร่างของพวกเขาให้ไหม้ตายได้อย่างง่ายดาย
เหลือตัวหัวหน้าแก๊งสินะ