บทที่ 57 เยี่ยหวี่ลี่ (บทหน้าจะเริ่มเรื่องหลักแล้ว!)
เด็กสาวผมสีเงินดูเหมือนจะรู้ตัวว่าเธอกำลังจะถูกนายคนใหม่จากต่างแดนพาไป
เธอเงยหน้าขึ้น ใต้เส้นผมสีเงินที่ถูกอู๋หยางหรงเช็ดจนยุ่งเหยิง ดวงตาคู่โตเหลือบขึ้นเล็กน้อย จ้องมองเขาไม่กะพริบ
แววตาไม่มีความเขินอายหวาดกลัวเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่กลับเป็นแววตาแบบที่อู๋หยางหรงมองไม่ค่อยออก
นิสัยของเด็กสาวชาวตะวันตกผิวขาวแตกต่างจากเด็กสาวตะวันออกที่ขี้อายและเรียบร้อย เห็นได้ชัดว่ากล้าหาญกว่ามาก
ดวงตาของเธอภายใต้แสงอาทิตย์เป็นสีฟ้าเทาแบบหมอกมัว สีแบบนี้ อู๋หยางหรงไม่สามารถหาสิ่งใดมาเปรียบในยุคที่ขาดแคลนวัตถุและสีสันเช่นนี้ได้
ไม่ว่าจะเป็นดวงตา เส้นผมสีเงิน หรือผิวพรรณของเด็กสาวผมสีเงิน ล้วนแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับโทนสีดำมืดของลานหลังที่เต็มไปด้วยทาสอันโสโครกนี้
หากเจอเด็กสาวผมสีเงินแบบนี้ในโรงเรียนหรือร้านกาแฟในชาติก่อน เขาคงไม่รู้สึกแปลกใจอะไร แต่กลับมาเจอในมณฑลเจียงหนานของราชวงศ์ต้าโจวที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายโบราณเช่นนี้
ดังนั้นทันทีที่อู๋หยางหรงเข้ามาในลาน สายตาก็ถูกดึงดูดทันที เกิดความรู้สึกผิดที่ผิดเวลา ชั่วขณะคิดว่าตนเองกลับชาติมาใหม่อีกครั้ง
พูดได้เพียงว่า ความรุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวอาจต้องถกเถียงกัน แต่บรรยากาศที่นานาประเทศมาถวายบรรณาการนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เส้นทางการค้าทางทะเลที่กว่างโจวทางใต้นั้นมีอะไรน่าสนใจอยู่จริงๆ...
เสมียนตลาดที่ดูแลโรงทาสและม้าได้รีบตามหัวหน้างานเล็กมาที่ลานหลังอย่างรวดเร็ว เริ่มทำสัญญาซื้อขายทาส ออกใบอนุญาตทางการ นี่เป็นขั้นตอนที่จำเป็นในตลาดทาสของราชวงศ์ต้าโจว แม้แต่ขุนนางชั้นสูงก็ต้องทำตาม มิฉะนั้นจะถูกลงโทษ
การซื้อขายทาสครั้งนี้ที่โรงทาสและม้าจิ่นเสี่ยวเกี่ยวข้องกับเงินจำนวนน้อย สำหรับเสมียนตลาดที่คุ้นเคยกับงานแล้วควรจะเป็นเรื่องธรรมดา รับสินบนนิดหน่อยก็จบเรื่องได้เร็ว แต่พอเข้ามาในลานหลัง เขาก็อดไม่ได้ที่จะชะงักและมองด้วยความสงสัย
อย่างแรก... ทาสหญิงที่ซื้อขายนี่คืออะไรกันแน่ ในสัญญาควรกรอกว่าเป็นทาสเด็กหรือทาสชรา? แล้วพวกท่านแน่ใจหรือว่ามีคนกล้าซื้อของแบบนี้?
อย่างที่สอง...
สีหน้าเสมียนตลาดเปลี่ยนไปทันที ยิ้มประจบพลางถูมือ: "ท่านนายอำเภอ ท่าน... ท่านมาได้อย่างไรขอรับ?"
ในลานนั้น นายอำเภอหนุ่มที่แต่งกายธรรมดาโบกมือ: "ท่านทำหน้าที่ของท่านไปเถอะ ไม่ต้องสนใจข้า"
พ่อค้าจากดาหลาลี่เหยี่ยนและหัวหน้างานเล็กข้างกายตะลึงจนตาค้าง จากนั้นหลังจากสีหน้าที่น่าดูหลากหลาย เถ้าแก่ลี่ที่ก่อนหน้านี้ยังภูมิใจในตัวเองก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าไม่มั่นใจ เสนอเบาๆ ว่าจะปรับราคาใหม่หรือไม่ เหมือนคำนวณราคาข้าวผิดไป และยังมีโปรโมชั่นพิเศษซื้อหนึ่งแถมสิบเฉพาะวันนี้ แต่ทั้งหมดถูกอู๋หยางหรงปฏิเสธอย่างสงบ
การซื้อขายดำเนินต่อไป ไม่นานเสมียนตลาดที่วันนี้ทำงานอย่างเต็มที่เป็นพิเศษก็ร่างเอกสารเสร็จ ส่งให้อู๋หยางหรงตรวจสอบอย่างนอบน้อม เพื่อกรอกข้อมูลนายและบ่าวเป็นครั้งสุดท้าย
อู๋หยางหรงหันไปพูดกับเด็กสาวผมสีเงินเป็นครั้งแรกของวัน: "เจ้าชื่ออะไร?"
เห็นเขารอคอยด้วยความอดทน เด็กสาวผมสีเงินเงียบไปครู่หนึ่ง เสียงของเธอเหมือนน้ำพุใสที่แห้งเล็กน้อย:
"วีร่า... แนร์..."
ดูเหมือนเธอจะเข้าใจภาษาราชการของต้าโจว แต่สำเนียงแปลกประหลาดจริงๆ ไม่รู้ว่าพยางค์เหล่านี้เป็นภาษาบ้านเกิดของเธอหรือเป็นภาษาราชการต้าโจวที่ไม่คุ้นเคย เมื่อเข้าหูอู๋หยางหรง ก็ราวกับเป็นเสียงสี่พยางค์เหล่านี้
อู๋หยางหรงมองดวงตาสีฟ้าเทาที่โตและมีชีวิตชีวาของเธอ ก้มหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วเขียนสองตัวอักษรลงในสัญญาให้เธอ
"ต่อไปเจ้าจะชื่อ... หวี่ลี่"
เขาหยุดครู่หนึ่ง แล้วถามเสียงเบา: "มีแซ่หรือไม่?"
เด็กสาวผมสีเงินอดไม่ได้ที่จะแอบมองชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งที่มีเสียงนุ่มนวลตรงหน้า เขาดูมีความอดทนมาก ตั้งแต่เมื่อกี้จนถึงตอนนี้พูดจาอ่อนโยนตลอด และคนรอบข้างที่ดูดุร้ายทั้งหมดล้วนนอบน้อมต่อเขา
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ เด็กสาวผมสีเงินรู้สึกเหมือนกำลังฝันประหลาด ไม่เหมือนความจริง
เธอก้มหน้าบิดชายเสื้อ พูดประโยคหนึ่งออกมาอีก
อู๋หยางหรงได้ยินเพียงพยางค์แรกของเสียงยาวนี้ ดูเหมือนจะออกเสียง "เยี่ย" เขาจึงเขียนลงไปทันที
เด็กสาวผมสีเงินที่ก้มหน้าแอบมองใบหน้าที่จดจ่อของเขา ดูเหมือนอยากจะพูดอะไรกับเขาสักสองสามประโยค แต่ตอนนั้นเจิ้นซื่อก็โน้มตัวเข้ามา
สตรีมองดูกระดาษ แล้วบ่นเบาๆ: "เยี่ยหวี่ลี่? มีชื่อที่เรียกได้ก็พอแล้ว ทาสคนหนึ่งจะมีแซ่ไปทำไม ตันหลางช่างใจดีจริง เสียเวลากับเรื่องพรรค์นี้"
อู๋หยางหรงส่ายหน้าไม่พูดอะไร ก้มหน้าเขียนให้เสร็จ ให้หวี่ลี่กับลี่เหยี่ยนประทับลายนิ้วมือลงไปตามลำดับ จากนั้นภายใต้การเป็นพยานของเสมียนตลาด สัญญาก็เสร็จสมบูรณ์โดยไม่มีอุปสรรคใดๆ
มองส่งแขกผู้มีเกียรติจากไป หัวหน้างานเล็กอดไม่ได้ที่จะพูดเบาๆ: "นายอำเภอผู้นี้คงโง่ไปหน่อย ทำไมถึงซื้อ..."
"เจ้ารู้อะไร!" ลี่เหยี่ยนทำหน้าบึ้งตวาด หันไปมองแผ่นหลังของอู๋หยางหรง ถอนหายใจ: "เมื่อกี้ข้าเข้าใจผิดไป น่าแปลกที่ทาสสาวละเอียดอ่อนของโรงทาสและม้าของพวกเรา เขาไม่สนใจสักคน ไม่ใช่แค่เรื่องราคา ท่านอู๋หยางผู้นี้สมกับคำเล่าลือจริงๆ เป็นคุณชายที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสตรี...แม้แต่ซื้อสาวใช้มาอุ่นเตียงก็ไม่ดูรูปโฉม เลือกแต่คนที่น่าเวทนาที่สุดและดูไม่ได้ที่สุด"
...
บนถนนคึกคักในตลาดตะวันตก
เด็กสาวผมสีเงินที่อู๋หยางหรงและคณะพามา ทันทีที่ปรากฏตัวก็ดึงดูดสายตาและการเหลียวมองของผู้คนที่เดินผ่านไปมา
ไปที่ไหนก็เป็นเช่นนี้ คณะของพวกเขาจึงกลายเป็นจุดสนใจของทั้งตลาดตะวันตกในทันที
อย่างไรก็ตาม ชาวเมืองหลงและพ่อค้าแม่ค้าที่มองด้วยความสนใจนั้น ไม่ได้ถูกดึงดูดด้วยความงามใดๆ แต่กลับเบิกตาโต ราวกับกำลังมองสิ่งน่าเกลียดที่แปลกประหลาด อยากรู้อยากเห็นแต่ไม่กล้าเข้าใกล้
เนื่องจากอู๋หยางหรงเคยปรากฏตัวบนเวทีการแข่งขันในวันตวนอู่ จึงมีคนไม่น้อยที่จำได้ว่าเขาคือเจ้าเมืองหนุ่ม ดังนั้นคณะของอู๋หยางหรงจึงสร้างความตื่นตะลึงมากขึ้นไปอีก
แต่อู๋หยางหรงกลับทำเป็นไม่สนใจ แม้ว่าจะยังไม่เข้าใจว่าความแตกต่างในรสนิยมระหว่างเขากับชาวต้าโจวคนอื่นๆ อยู่ตรงไหนกันแน่ แต่นั่นก็ไม่ได้กระทบอารมณ์ดีๆ ของเขา แม้แต่การเดินก็ยังดูเบาสบายมีชีวิตชีวา
สาเหตุหลักคือการได้ของถูกนั้นมันรู้สึกดีในตัวมันเอง
"ที่แท้กรรมดีพันหน่วยของข้าถูกใช้ไปตรงนี้นี่เอง... ระฆังบุญยังเข้าใจเรื่องกรรมดีอยู่"
อู๋หยางหรงจู่ๆ ก็รู้สึกสนุกขึ้นมา นึกว่าถ้าตอนนี้เขามีโทรศัพท์มือถือสักเครื่อง ถ่ายรูปเด็กสาวผมสีเงินที่เรียกเขาว่านายท่านส่งไปในกลุ่มติวสอบบัณฑิตที่เต็มไปด้วยคนจริงจัง แล้วเขียนคำอธิบายยียวนเรื่องการได้ของถูกสักบรรทัด คงทำให้พวกสัตว์เดรัจฉานทั้งกลุ่มสอบไม่ผ่านกันหมดในปีนี้...
"ตันหลาง!"
จู่ๆ ก็มีเสียงต่อว่าของป้าดังมาจากด้านหลัง อู๋หยางหรงที่กำลังเหม่อลอยสะดุ้ง หันกลับไปมอง พบว่าเมื่อครู่เขาเดินเร็วเกินไป นอกจากเด็กสาวผมสีเงินที่ก้มหน้าจับชายเสื้อเขาเดินตามติดๆ และหลิวอาซานแล้ว คณะของเจิ้นซื่อถูกทิ้งห่างไปไกล
อู๋หยางหรงเอามือปิดปากไอเบาๆ ยืนรออยู่กับที่ให้เจิ้นซื่อและคนอื่นๆ ตามมาทัน
หากไม่ใช่เพราะอยู่กลางถนน สตรีในชุดกระโปรงคงอดไม่ได้ที่จะไปบิดหูเจ้าตัวดื้อคนนี้เสียแล้ว
เจิ้นซื่อแค่นเสียงเบาๆ เดินเข้ามา ยื่นมืองามออกไปจับคางของหวี่ลี่ บังคับให้หันหน้าตรง อีกฝ่ายตัวสั่นเล็กน้อย ไม่กล้าขยับหรือต่อต้านสตรีร่างสูงสง่าตรงหน้า
เจิ้นซื่อขมวดคิ้ว มองสำรวจพักหนึ่ง ส่วนผมสีเงินที่ถูกเชือกมัดของเด็กสาว นางยิ่งไม่อยากแตะต้องด้วยนิ้วมือ กลัวจะติดอัปมงคล สตรีถอนหายใจ: "ทำไมตันหลางถึงสนใจพวกจมูกโด่งตาลึกพรรค์นี้ด้วย? เหมือนยักษ์ปีศาจในวัดไม่มีผิด; แล้วดวงตาก็ด้วย เหมือนแมวป่า ถ้าตกดึกแล้วทำให้เจ้าตกใจขึ้นมาจะทำอย่างไร แล้วผมขาวทั้งหัวนี่อีก... ไม่เอาอย่างนี้ดีกว่า กลับไปโกนทิ้งเสีย แล้วให้ใส่หมวกภิกษุณีแทน...
"แล้วอีกอย่างตันหลาง พาเขากลับไปจะให้ทำอะไร ซักผ้าถูพื้นหรือ? งานพวกนี้มีคนรับใช้ทำอยู่แล้ว ที่เหมี่ยวลู่หยวนไม่ขาดอะไรเลย ขาดแค่สาวใช้คนสนิทของเจ้าเท่านั้น วันนี้นับว่าเสียเที่ยวเปล่า ป้าว่าคุณหนูตกยากจากโกกูเรียอที่เห็นเมื่อกี้ก็ดูดีนะ อ่านออกเขียนได้ ยังจัดการบัญชีเป็นด้วย..."
ถูกจับคางไว้ หวี่ลี่เริ่มตัวสั่นน้อยๆ ไม่ใช่แค่เพราะสายตาคมกริบจับผิดของเจิ้นซื่อ แต่ยังรวมถึงการชี้นิ้วนินทาถึง "รูปลักษณ์แปลกประหลาด" ของเธอจากผู้คนที่เดินผ่านไปมารอบข้าง ทำไมมีแค่เธอที่หน้าตาเป็นแบบนี้... เด็กสาวรู้สึกต่ำต้อยอย่างที่สุด ถึงขั้นตัวสั่นหลับตา ไม่กล้าแม้แต่จะมองชายหนุ่มที่อ่อนโยนที่ช่วยเปิดกรงเหล็กและจูงเธอออกมา
เขา... เขาต้องเสียใจแน่ๆ ความแปลกใหม่แรกเห็น สุดท้ายกลับซื้อของที่ขาดทุน แล้วในดวงตาของเขาก็จะค่อยๆ เผยความรังเกียจออกมา รู้สึกอัปมงคล พยายามหลีกเลี่ยง... ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ ตั้งแต่เด็กจนโต ทุกคนที่พบเจอก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือ...
"ไม่ได้เสียเที่ยวหรอก เอาเขานี่แหละ สาวใช้คนสนิทของหลาน"
อู๋หยางหรงเบาๆ กดมือของเจิ้นซื่อลง จูงมือเย็นเฉียบของสาวใช้ผมสีเงิน เขาเงียบๆ ล้วงเหรียญทองแดงสองเหรียญจากอก ยัดใส่มือเธอโดยตรง พูดกับเธออย่างจริงจัง: "เอาไว้ หวี่ลี่ช่วยข้าเก็บเงินก่อน สองเหรียญทองแดงนี่คือทรัพย์สินทั้งหมดที่พวกเรามีตอนนี้ น้อยก็น้อยหน่อย แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นไม่ใช่หรือ ต้องเก็บรักษาให้ดีนะ"
อู๋หยางหรงหันหลัง เดินไปข้างหน้าพลางไขว้มือไว้ด้านหลัง ทิ้งไว้เพียงประโยคหนึ่งที่พูดอย่างยิ้มๆ: "ป้า หวี่ลี่ตรงไหนกันที่น่าเกลียด? หลานชอบผมของนางมาก ห้ามโกน สาวใช้คนสนิทของข้า ข้าชอบก็พอแล้ว"
เจิ้นซื่อพยักหน้าอย่างจนใจ ถอนหายใจแล้วตามไป
หวี่ลี่ก้มหน้า จ้องมองเหรียญทองแดงเล็กๆ สองเหรียญที่นอนนิ่งอยู่ในฝ่ามือ
นี่คือ... จุดเริ่มต้นของเธอกับนายท่าน
(จบบท)
จากนี้ขอเรียกน้าสะใภ้ว่าป้าแทนนะคะ 🫨
สารจากผู้แต่ง ✍🏻 …
ขอโทษพี่น้องทุกคน อดใจไม่ไหวเขียนละเอียดเกินไป ห้ามปากไม่อยู่ บทหน้าจะเริ่มเรื่องหลักแล้ว!
คือยังไม่เริ่มเรื่องหลักอีกหรอ (โว้ยยยย555555) คนอ่านสู้คนแปลก็สู้55555🤣