บทที่ 316 : ฤดูใบไม้ร่วง (17)
[แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ]
[Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย]
[หลังแปลจบ คิดว่าจะมีการเกลาคำเบื้องต้น แก้คำผิด ปรับสำนวนให้สละสลวย เทียบคำต่อคำ อยากขอให้ทุกคนสนับสนุนไปจนจนนะครับ ส่วนคนที่สนับสนุนแล้ว ก็ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนกันเสมอมาครับ]
บทที่ 316 : ฤดูใบไม้ร่วง (17)
ไมลีย์ คาร่า หนึ่งในดาราหญิงแถวหน้าของฮอลลีวูด ผู้ทรงอิทธิพลอย่างมหาศาล เธอไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในฐานะนักแสดงเท่านั้น แต่ยังเป็นนักร้องสาวผู้โด่งดังอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังมีผู้ติดตามบน Youtube จำนวนมหาศาล และมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายร้อยล้านคน
แล้วเหตุใด ไมลีย์ คาร่า ถึงจะมาแสดงให้กันเล่า?
PDซงมันวู กะพริบตาปริบ ๆ ขณะแนบโทรศัพท์มือถือไว้ที่หู ดวงตาของเขาฉายแววสงสัย แม้จะได้ยินคังวูจินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยทางโทรศัพท์ถึงสองครั้งแล้ว แต่เขาก็ยังคงไม่เข้าใจ
“······ไม··· ไมลีย์ คาร่า?”
แต่วูจินก็ยังคงตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นเดิม
“ครับ”
“เอ่อ- นั่นอะไรนะ ไมลีย์···คาร่า กำลังทำงานเพลงอัลบั้มใหม่กับคุณวูจินอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
“ครับ”
“ชื่อสับสนหรือเปล่า?”
“ไม่ครับ”
“หรือว่าหมายถึงนักแสดงฮอลลีวูดคนอื่นที่ชื่อคล้าย ๆ กัน? อย่าง เมลีย์ คาร่า หรือ ไมลีย์ คิราระ อะไรแบบนั้น”
“ไม่ครับ ไมลีย์ คาร่า ถูกต้องแล้วครับ”
“···ไมลีย์ คาร่า ที่ผมรู้จัก ไม่สิ ที่คนทั้งโลกรู้จักน่ะเหรอ?”
“ใช่ครับ”
PDซงมันวู ผู้มีเคราแพะ อ้าปากค้างอยู่นานหลายวินาที ก่อนจะร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งภายในใจ
‘ไมลีย์ คาร่าเนี่ยนะ??!!!’
เขาคิดว่าจะได้นักแสดงทั่วไปมาเล่นใน ‘มารร้ายผู้แสนดี’ แต่จู่ ๆ กลับกลายเป็น ไมลีย์ คาร่า ที่โผล่มา เขาได้ยินแล้วแต่ก็ไม่อยากจะเชื่อ ดาราฮอลลีวูดสุดฮอตคนนั้นจะมาเล่น ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ได้ยังไง? PDซงมันวู ลูบหัวตัวเองพลางถามย้ำอีกครั้งด้วยความเคลือบแคลง
“คุณวูจิน นี่ไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย? จริงจังใช่มั้ย?”
"จริงใจร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ"
"ว่ายังไงนะ ไมลีย์ คาร่า มาเล่นในงานของเราได้ยังไง"
"มันเป็นแบบนั้นแหละครับ เอ่อ...เรื่องนี้ถือเป็นความลับนะครับ"
คำอธิบายสั้น ๆ เพียงเท่านี้กลับสร้างแรงระเบิดมหาศาลในหัวสมองของPDซงมันวู คลื่นความตกตะลึงซัดสาดเข้าใส่จนความคิดทั้งหมดหยุดชะงัก เรื่องราวเช่นนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าในอดีตหรืออนาคตของเกาหลี
'มันดูไร้สาระมาก แต่คุณวูจินไม่ใช่คนที่จะมาพูดเล่นแบบนี้'
ไม่สิ ต้องบอกว่าเป็นไปไม่ได้เลยถึงจะถูกต้องกว่า
'เออ ไม่สิ แต่นี่มันเรื่องใหญ่ระดับระเบิดปรมาณูล่ะ ทำไมถึงพูดออกมาเหมือนเรื่องเล็กน้อยแบบนั้น!'
ถึงแม้จะเป็นการดึงตัวซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่างไมลีย์ คาร่า มาร่วมงาน "มารร้ายผู้แสนดี" แต่น้ำเสียงของคังวูจินทางโทรศัพท์กลับราบเรียบและสงบนิ่ง ยิ่งขับเน้นให้ความร้อนรนในใจของPDซงมันวูลุกโชนขึ้นอีกเท่าตัว ทว่าPDซงมันวูก็คือผู้กำกับมากประสบการณ์หลายสิบปี เขาพยายามรวบรวมสติที่แตกกระจายกลับมาทีละน้อย
ใจเย็น ๆ ก่อน ถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
'แต่ที่แน่ ๆ เรื่องนี้ต้องพลิกโฉมวงการบันเทิงแน่'
PDซงมันวูผู้มีเคราแพะแต้มแต่งอยู่บนใบหน้า พยายามระงับความตื่นเต้นที่พลุ่งพล่าน ก่อนจะเอ่ยปากถามอีกครั้ง
"คือ คุณวูจิน ช่วยอธิบายหน่อยสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
"ผมบอกรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้ แต่ผมคุยกับไมลีย์ คาร่า เรียบร้อยแล้ว"
คังวูจินแจ้งเพียงใจความสำคัญให้PDซงมันวูฟัง เช่น คาร่าติดหนี้บุญคุณวูจิน ข้อเสนอของคังวูจิน เป็นต้น แน่นอนว่าเรื่องที่เธอถูกทำร้ายนั้นไม่ถูกเอ่ยถึง PDซงมันวูที่ฟังคำอธิบายอย่างใจจดใจจ่อ เริ่มเปลี่ยนจากความตกใจเป็นความปิติยินดีอย่างช้า ๆ
“สรุปคือ คุณวูจินไปเสนอให้ไมลีย์ คาร่ามาเล่นหนังเรื่องนี้เพื่อใช้หนี้คุณใช่มั้ย?”
“ใช่ครับ ผมลองเสนอดูเผื่อฟลุค แต่เธอก็ตกลงเลยครับ”
“แล้วทำไมคุณวูจินถึงคิดจะใช้หนี้ด้วยวิธีนี้ล่ะครับ?”
“ผมว่ามันน่าสนใจดีนะครับ”
“น่าสนใจ?”
“‘มารร้ายผู้แสนดี’ เป็นผลงานที่ท้าทายระดับโลก การจัดอะไรแบบนี้ลงไปน่าจะไม่เลวนะครับ”
“······”
PDซงมันวูขมวดคิ้วครุ่นคิดกับคำตอบที่ได้ยิน แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความซาบซึ้งจนเอ่อล้น
‘ทุ่มเทให้กับผลงานขนาดนี้เชียวเหรอ’
ถึงแม้จะรู้ดีว่าคังวูจินทุ่มเทให้กับการถ่ายทำอย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะรักและใส่ใจผลงานชิ้นนี้มากมายถึงเพียงนี้ ทั้งที่ยังคงทำสีหน้านิ่งเฉยราวกับไม่ได้ใส่ใจอะไร
ไม่นานนัก ภาพของผู้กำกับชินดงชุนใบหน้าเหลี่ยมคมจาก ‘สำนักงานนักสืบ’ ก็ลอยเข้ามาในห้วงความคิดของPDซงมันวู
‘ความรู้สึกซาบซึ้งจนพูดไม่ออกที่ไอ้หมอนั่นเคยพูดถึง คงเป็นแบบนี้สินะ’
แม้ความซาบซึ้งนั้นจะเกิดจากความเข้าใจผิด แต่PDซงมันวูที่ไม่รู้เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังใด ๆ ก็เผยรอยยิ้มเปี่ยมสุขออกมา
“ขอบคุณมากนะครับ คุณวูจิน ที่มอบประสบการณ์ ไม่สิ โอกาสอันล้ำค่าที่ผมไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนในชีวิต”
“ไม่เป็นไรครับ”
“แบบนี้ผมก็เป็นหนี้บุญคุณคุณวูจินแล้วสิ ไมลีย์ คาร่านี่ ขนาดผู้กำกับดัง ๆ ในฮอลลีวูดก็ยังจ้างยากเลยนะ ชาติหน้าผมคงต้องเอาชีวิตไปใช้หนี้แล้วล่ะ”
สำหรับPDซงมันวู นี่คือโอกาสระดับจักรวาล ในบรรดาผู้กำกับเกาหลีทั้งหมด คงมีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่ได้พบเจอเรื่องเหลือเชื่อเช่นนี้ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และแม้กระทั่งในอนาคต
“อ่า- ว่าแต่ คุณวูจินได้คุยเรื่องบทของไมลีย์ คาร่าไว้หรือยังครับ?”
“เรื่องนั้นผมให้เธอจัดการเอง เธอบอกว่าบทเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ไม่เป็นไร”
เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นอย่างกระตือรือร้น “หมายความว่าผมสามารถใส่บทพูด ตั้งชื่อให้ตัวละครได้เลยใช่ไหมครับ?”
“ใช่ครับ ผมคิดว่าการถ่ายทำฉากต่างประเทศที่กรุงเทพ ซึ่งตรงกับตอนที่ 1 และ 2 ของ 'มารร้ายผู้แสนดี' น่าจะลงตัวที่สุดครับ”
น้ำเสียงหนักแน่นของชายอีกคนดังขึ้น “การถ่ายทำ 'CQC' ที่มีอยู่ หมายถึงให้เธอปรากฏตัวในฉากที่เกี่ยวข้องกับอดีตของ 'จังยอนอู' ใช่ไหม?”
“นั่นแหละครับ จะเหมาะสมที่สุด”
“งั้นผมสรุปได้เลยใช่ไหมครับว่าเรื่องนี้คอนเฟิร์มแล้ว”
“ครับ”
“โอเค”
PDซงมันวูผู้แกร่งกล้าเงียบงันอยู่เบื้องหลัง พลันต้องเผชิญหน้ากับกำแพงความจริงอันน่าตกตะลึง การได้ตัวซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกมาถือเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ค่าตัวของเธอก็เป็นสิ่งที่เกินจะคาดคิด
“ว่าแต่... ถ้าเป็นไมลีย์ คาร่า... ค่าตัวจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่กัน”
คังวูจินตอบกลับอย่างฉับไว
“ผมจ่ายไปแล้วครับ”
“หืม? หมายความว่ายังไงครับ”
“แต่เพื่อเป็นการแสดงน้ำใจ ผมคิดว่าเราควรดูแลเธอในเรื่องที่พัก และค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยนะครับ”
“นั่นเป็นสิ่งที่แน่นอนอยู่แล้ว”
“ขออภัยนะครับ PD ผมต้องขอวางสายก่อน”
คังวูจินกล่าวลาอย่างสุภาพ ก่อนจะตัดสายไป ดูเหมือนเขาจะกำลังยุ่งอยู่ PDซงมันวูลดโทรศัพท์มือถือลงอย่างช้า ๆ ความรู้สึกตกตะลึงยังคงวนเวียนอยู่ในห้วงความคิด พลันนึกถึงคำพูดของหัวหน้าทีมสตั๊นท์ อีธาน สมิธ เมื่อเช้านี้ ที่สร้างความประหลาดใจไม่น้อย
‘มีคนดังในฮอลลีวูดจะมาดูการถ่ายทำฉากต่างประเทศที่กรุงเทพ นี้เพื่อคุณวูจิน งั้นเหรอ? แถมยังเป็น ไมลีย์ คาร่า อีกด้วย?’
ถ้าคาร่าขยับ ทีมงานมากมายของเธอก็ต้องเคลื่อนที่ตามไปด้วยเช่นกัน
‘ทำไมคนดังในฮอลลีวูดถึงมารวมตัวกันที่นี่ได้นะ? ทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับคุณวูจินสินะ’
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคังวูจิน
เช้าวันที่ 20 ที่ลอสแอนเจลิส
วันจันทร์ผ่านเลยไป วันอังคารก็มาเยือน คังวูจินยืนอยู่ในสตูดิโอขนาดใหญ่ที่คุ้นตา เมื่อไม่กี่วันก่อน สถานที่แห่งนี้ยังคงคึกคักไปด้วยกองถ่ายมิวสิควิดีโอของไมลีย์ คาร่า การถ่ายทำที่หยุดชะงักลงเพราะเหตุการณ์โจมตี ได้กลับมาดำเนินต่ออีกครั้ง
ทว่า บรรยากาศในครั้งนี้กลับอบอวลไปด้วยความระมัดระวังอย่างเข้มงวด
จำนวนการ์ดร่างยักษ์เพิ่มขึ้นอย่างน้อยสามเท่า ขั้นตอนการตรวจสอบทีมงานก็ละเอียดถี่ถ้วนยิ่งกว่าเดิม แน่นอนว่ารวมถึงทีมของคังวูจินด้วย การถ่ายทำมิวสิควิดีโอจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดราวกับป้อมปราการ
ถึงอย่างนั้น ขั้นตอนการถ่ายทำก็ยังคงเหมือนเดิม
คังวูจินต้องสวมชุดเดิมที่เคยใส่ สายตาของเขามองไปยังคาร่าที่กำลังซ้อมเต้นกับเหล่าแดนเซอร์อย่างขะมักเขม้น ก่อนจะยกนิ้วโป้งขึ้นอย่างชื่นชม
‘มืออาชีพจริง ๆ ’
การกลับมาถ่ายทำต่อทันทีหลังเหตุการณ์โจมตีเช่นนั้นคงไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ อาจเป็นเพราะกังวลเกี่ยวกับตารางงานของเขาด้วย แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ครั้งนี้โชคดีที่การถ่ายทำดำเนินไปอย่างราบรื่น
แม้จะเป็นประสบการณ์ครั้งแรก แต่คังวูจินก็แสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ
‘อืม ก็ไม่ได้ยากอะไรนี่ สำหรับฉันก็ไม่มีบทพูดหรือท่าเต้นอะไรอยู่แล้ว’ เขาครุ่นคิด
เมื่อการถ่ายทำช่วงเช้าเสร็จสิ้นและกำลังจะย้ายไปยังฉากถัดไป ก็ถึงเวลาพัก คังวูจินเปลี่ยนชุดจากทักซิโด้เป็นเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์สบาย ๆ
ทันใดนั้นเอง
-กึก
ชเวซองกุนผู้มัดผมหางม้าที่เริ่มยุ่งเหยิงเพราะความเหนื่อยล้า เดินเข้ามาหา แล้วก็ยื่นโทรศัพท์มือถือให้เขาดู
'เพื่อนชาย: รีเมค' ตอนที่ 2 เรตติ้งออกแล้ว
ไม่ทันข้ามวัน เรตติ้งจากแดนอาทิตย์อุทัยของ “เพื่อนชาย: รีเมค” ตอนที่ 2 ก็ประกาศออกมาเป็นที่เรียบร้อย
-[เรตติ้ง]
1. เพื่อนชาย: รีเมค/ TBE/ 15.5%
2. มหาเวทย์ผนึกมาร/ ฟูจิ ETV/ 9.3%
3. สุดยอดสายลับ/ โตเกียว ETV/ 7.1%
4. ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน/ NHM/ 5.9%
�
�
�
�
ชเวซองกุนปรายตามองผลลัพธ์ที่ปรากฏเบื้องหน้า รอยยิ้มพึงพอใจผุดขึ้นบนริมฝีปาก
“ขึ้นอีกแล้วนะ”
เรตติ้งตอนที่ 2 ของ “เพื่อนชาย: รีเมค” พุ่งสูงขึ้นกว่าตอนแรกอย่างเห็นได้ชัด เพลงเปิดที่วูจินขับร้องก็ยังคงครองบัลลังก์อันดับ 1 ในชาร์ต Oricon อย่างไม่มีทีท่าว่าจะตก อีกด้วย ด้านคังวูจินนั้นตอบรับด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ไร้อารมณ์
“ดีจังนะครับ”
ทว่าภายในใจกลับกำลังโห่ร้องด้วยความปลื้มปิติ
‘เยี่ยม! สุดยอดไปเลย!!’
แม้ไม่ได้ลงมือตรวจสอบด้วยตนเอง แต่เขามั่นใจว่าขณะนี้ทั้งเกาหลีและญี่ปุ่นคงเต็มไปด้วยกระแสข่าวคราวของ “เพื่อนชาย: รีเมค” อย่างแน่นอน
การถ่ายทำมิวสิควิดีโอเพลงใหม่ของคาร่าดำเนินไปจนถึงยามราตรี เมื่อใกล้ถึงเวลาปิดกล้อง เหล่าสมาชิกคาร่าและทีมงานต่างชาติกว่าร้อยชีวิตต่างอ่อนล้าจากการทำงานหนัก มีเพียงวูจินเท่านั้นที่ยังคงเปี่ยมไปด้วยพลัง การเก็บกวาดอุปกรณ์หลังถ่ายทำก็กินเวลาไปไม่น้อย
ราวสองชั่วโมงเห็นจะได้
กว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นก็ล่วงเลยไปจนถึงเที่ยงคืน แต่คังวูจินและชเวซองกุนก็ไม่ได้ตรงดิ่งกลับโรงแรม เพราะยังมีงานเลี้ยงฉลองเล็ก ๆ ที่บ้านของไมลีย์ คาร่า รออยู่
“ทุกคนทำงานกันเต็มที่มากเลยนะคะ!”
แชมเปญรสเลิศคือดาวเด่นประจำงานเลี้ยง ถึงแม้จะไม่มีใครดื่มจนเมามาย แต่ทุกคนยกเว้นวูจินและคาร่าต่างก็ปล่อยใจให้ความรื่นเริงครอบงำ กับแกล้มรสชาติเยี่ยมฝีมือคังวูจิน คือบุลโกกิสองรสชาติ ทั้งแบบซอสซีอิ๊วและแบบรสจัดจ้าน
บุลโกกิรสเผ็ดร้อนเป็นของคาร่าโดยเฉพาะ
ปรุงแต่งตามความต้องการของเธอ รสชาติจึงจัดจ้านสมคำขอ คาร่าสาวผมบลอนด์สวยน้ำตาคลอเบ้าขณะลิ้มรสบุลโกกิ
“ฮ่า...เผ็ด เผ็ดร้อนแรงเกินไปแล้วค่ะ”
“คุณคาร่าบอกว่าอยากลิ้มลองรสชาติเผ็ดร้อนจนทรวงอกแทบไหม้นี่นะครับ”
คาร่าพ่ายแพ้ให้กับความเผ็ดแบบฉบับเกาหลี ประกอบกับฤทธิ์แอลกอฮอล์จากแชมเปญที่ดื่มไปพอสมควร จึงเผลอหลับไหลไปอย่างรวดเร็ว
นี่คือช่วงเวลาสุดท้ายของตารางงานที่แอลเอของคังวูจิน
‘เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้เหมือนกันแฮะ แต่ก็ไม่เลวเลยทีเดียว’
วูจินขึ้นเครื่องบินกลับเกาหลีในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ราว ๆ ตีสองตีสาม
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากคังวูจินออกจากแอลเอ
ณ คฤหาสน์หลังงามของไมลีย์ คาร่า คาร่าตื่นขึ้นบนเตียงนุ่มของตัวเอง เธอนิ่งค้างอยู่ครู่หนึ่งราวกับต้องมนต์ แล้วจึงผุดลุกขึ้นนั่ง
“อ๊ะ!”
เรือนผมบลอนด์ยาวสยายกระเซอะกระเซิงไม่เป็นทรง แต่คาร่าก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะหวีให้เรียบร้อย เธอสวมเสื้อฮู้ดตัวยาวคลุมสะโพกไว้หลวม ๆ แล้วเดินลงบันไดไปยังชั้นล่าง โจนาธานผู้จัดการส่วนตัวนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ในห้องนั่งเล่นกว้างขวาง เขากำลังก้มดูแท็บเล็ตอยู่ในมือ เงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ให้เธอ
“ตื่นแล้วเหรอครับ?”
คาร่าถามอย่างร้อนใจ
“โจนาธาน คังวูจินล่ะคะ?”
“เขากลับเกาหลีไปแล้วครับ”
“อ่า...เป็นอย่างนี้นี่เอง”
คาร่ายกมือขึ้นเสยผมอย่างลวก ๆ รู้สึกผิดที่ตัวเองเผลอหลับไปเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
“ไม่ได้ร่ำลากันเลย”
“แค่ติดต่อกันทีหลังก็ได้นี่ครับ ไม่เห็นต้องกังวล”
“ถึงอย่างนั้น...เราลำบากกันมาเกือบสิบวัน เสียดายแย่เลย”
ในขณะเดียวกัน ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในใจคาร่า 'เราจะได้พบกันอีกเมื่อไหร่นะ' แต่ริมฝีปากของเธอกลับปิดสนิท ไม่เอ่ยถ้อยคำใดออกมา โจนาธานลุกขึ้นยืน ตบไหล่คาร่าเบา ๆ อย่างอ่อนโยน ราวกับต้องการปลอบประโลม
“ไม่ต้องกังวล ผมไปส่งเขาเรียบร้อยแล้ว”
“…”
คาร่าเม้มริมฝีปากแน่น ครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้นกับโจนาธานอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“ฉันคิดว่าจะใช้เพลงที่คุณวูจินร่วมงานด้วยเป็นเพลงไตเติ้ลของอัลบั้มใหม่นี้ล่ะ”
หลายชั่วโมงผ่านไป
เช้าวันที่ 21 คังวูจินเดินทางมาถึงเกาหลี หลังจากใช้เวลาอยู่บนเครื่องบินเป็นเวลานาน เขาไม่ได้แจ้งข่าวให้สื่อมวลชนทราบ และเนื่องจากตารางงานที่ลอสแอนเจลิสมีการเปลี่ยนแปลง จึงไม่มีนักข่าวคนใดรออยู่ที่สนามบิน ถึงกระนั้น เมื่อคังวูจินปรากฏตัว ก็มีผู้คนมากมายหลายร้อยชีวิตมารอต้อนรับเขาอย่างเนืองแน่น
ภาพถ่ายการเดินทางเข้าประเทศของเขาถูกเผยแพร่ลงบน Instagram เรียบร้อยแล้ว
เวลานี้ คังวูจินนั่งอยู่ในรถตู้สีดำที่แล่นอยู่บนทางด่วน บรรยากาศภายในเงียบสงัด สมาชิกในทีมต่างพากันหลับใหล พักผ่อนร่างกายที่เหนื่อยล้าจากตารางงานอันยาวนานที่ลอสแอนเจลิส มีเพียงชเวซองกุนและวูจินเท่านั้นที่ยังคงตื่นอยู่ ชเวซองกุนหาวหวอด ๆ ก่อนจะรวบผมหางม้าของตัวเองอีกครั้ง แล้วหันมาพูดกับวูจิน
“นักข่าวเริ่มได้กลิ่นการกลับมาเกาหลีของนายแล้วล่ะ เริ่มมีข่าวเล็ดลอดออกมาบ้างแล้ว”
“อย่างนั้นเหรอครับ”
“หึ ๆ ตื่นเต้นกันใหญ่เลย สงสัยจะอยากรู้อยากเห็นกันน่าดู แต่ฉันก็คงไม่ต่างกันหรอก อยากเห็นเพลงและเคมีของนายกับคาร่าในมิวสิควิดีโอจะแย่แล้ว”
ชเวซองกุนยิ้มกว้าง
“ยังไงก็เถอะ พอเสร็จงานอัลบั้ม ไมลีย์ คาร่าจะแจ้งให้เรารู้ก่อนประกาศ และมิวสิกวิดีโอจะปล่อยทีเซอร์ในYoutubeของคาร่าก่อน จากนั้นเราถึงจะใช้ได้”
“ครับ ท่านประธาน”
“นั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่ฉันรอคอยคือการปรากฏตัวแบบพิเศษของคาร่าใน ‘นางมารร้ายแสนดี’ นี่สิ”
ชเวซองกุนยิ้มกว้าง รอยยิ้มนั้นเผยให้เห็นความยินดีอย่างปิดไม่มิด มือทั้งสองข้างเสียดสีกันเบา ๆ อย่างลืมตัว
“ถึงจะประกาศทีหลัง แต่วิดีโอเปิดตัวเมื่อไหร่ ไม่ใช่แค่ในประเทศ แต่ฮอลลีวูด หรือแม้แต่ทั่วโลกอาจจะต้องตื่นตะลึงก็ได้นะ?”
ด้วยบารมีระดับโลกของคาร่า ภาพที่วาดไว้ก็เป็นไปได้มาก แค่คิดถึงตอนนี้ วงการบันเทิงในเกาหลี ญี่ปุ่น และฮอลลีวูดก็คงสั่นสะเทือนน่าดูชม
ทันใดนั้น คังวูจินกลับขยับนิ้วชี้แทนการตอบคำถาม
-ฟุบ!
เขาคว้าบทที่วางอยู่ใกล้ ๆ แล้วเข้าสู่มิติว่างเปล่า เหตุผลนั้นเรียบง่าย
“โอ้ เกือบหลุดหาวออกมาแล้ว”
ระหว่างที่กำลังอินกับบทบาท ความง่วงก็เริ่มเข้ามาเยือน ความเหนื่อยล้าจากการทำงานราวสิบวันกำลังกัดกินร่างกายของวูจิน จึงไม่แปลกที่มันจะเกิดขึ้น หลังจากนั้นวูจินก็สลัดคราบการแสดงออก หาวออกมาหนึ่งที ก่อนจะยืดเส้นยืดสายคลายความเมื่อยล้า
พร้อมกันนั้น
-กึก
เขาก้าวเดินไปข้างหน้า ซึ่งเรียงรายไปด้วยสี่เหลี่ยมสีขาว อันที่จริง การที่คังวูจินเข้าสู่มิติว่างเปล่านั้น ไม่ใช่แค่เพราะใกล้จะหาว แต่ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง หรือควรจะเรียกว่าการคาดเดาหรือการคาดการณ์ล่วงหน้าดี?
“โอ้!! ใช่แล้ว แบบนี้สิ! เยี่ยมยอด!”
คังวูจินจ้องมองสี่เหลี่ยมสีขาวอันหนึ่ง อย่างเจาะจงคือสี่เหลี่ยมของ ‘นางมารร้ายแสนดี’ แล้วขยับไหล่ไปมาอย่างอารมณ์ดี
ก็สมควรอยู่หรอก เพราะระดับของ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ นั้น...
[9/บทละคร (ชื่อเรื่อง: มารร้ายผู้แสนดี) ระดับ EX]
เพราะมันติดป้ายระดับใหม่ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน นั่นคือระดับ EX ซึ่งบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นการยกระดับขั้นที่สูงขึ้นไปอีก
“อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด! มีระดับที่เหนือกว่านี้อยู่อีกจริงด้วย”
ไม่อาจหยั่งถึงได้เลยว่าพลังทำลายล้างของมันจะร้ายกาจถึงเพียงใด
-จบ-
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_