ตอนที่แล้วบทที่ 307 การหายตัวไปของสามีภรรยาตระกูลหลี่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 309 ลองดูสักตั้ง

บทที่ 308 การจับกุมท่านจาง


ทาโนซ่อนตัวอยู่ในเงามืด เสียงฝีเท้าและเสียงลมหายใจของคนที่เดินเข้ามาใกล้ขึ้นทุกขณะ

ในจังหวะที่อีกฝ่ายเกือบจะเข้ามาใกล้ ทาโนก็ฉายแววความมุ่งร้ายในแววตาขึ้นมา

“ต้าจวง เจ้าทำไมมาอยู่ที่นี่”

เป็นเสียงของจางหยาง

คิ้วของทาโนที่ขมวดอยู่คลายออกเล็กน้อย คนที่เข้ามานี้เป็นคนรู้จักของจางหยางหรือ

ฝีเท้าของคนที่เดินเข้ามาชะงักลง จากนั้นจึงหันหลังออกไปนอกถ้ำ

เมื่อออกมาข้างนอกถ้ำ ต้าจวงก็เห็นจางหยางที่ถือห่อสัมภาระเล็กๆอยู่

“เสี่ยวหยาง”

“ข้ากับพี่ชายผ่านมาเห็นถ้ำนี้ จึงเกิดสงสัยว่าข้างในมีอะไร” ต้าจวงอธิบาย

พี่น้องคู่นี้ก็คือพี่น้องที่เคยพบในร้านยาไป่เฉ่าถังเมื่อก่อนหน้านี้

เอ้อร์จวงที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บก็ตามพี่ชายต้าจ้วงออกมาอีกครั้ง

จางหยางที่มีมิตรไมตรีกับทั้งสองพูดอย่างสบายใจว่า “ข้าเคยสำรวจถ้ำนี้แล้ว มีร่องรอยสัตว์ป่าทิ้งไว้บ้าง แต่ข้าเก็บกวาดไปบ้างแล้ว เผื่อบางทีจะได้ใช้พักชั่วคราวเมื่อจำเป็นต้องอยู่บนเขา”

“เช่นนั้นก็ดีทีเดียว”

ต้าจวงกับเอ้อร์จวงไม่ได้สงสัยคำพูดของจางหยาง เมื่อเห็นว่าเริ่มเย็นแล้ว และรู้ว่าข้างในถ้ำไม่มีอะไรน่าสงสัย ทั้งสองจึงพากันกลับไปพร้อมกับของป่าที่ล่าสะสมมาในวันนี้

หลังจากพวกเขาจากไป จางหยางก็ถือห่อสัมภาระเดินกลับเข้าไปในถ้ำ

“คนสองคนนั้น...”

เมื่อเห็นว่าเป็นจางหยาง ทาโนจึงค่อยๆ ก้าวออกจากหลังก้อนหิน

ห่อสัมภาระของจางหยางบรรจุยาสมานแผลจำนวนหนึ่งและเสบียงอาหารเล็กน้อย เขาช่วยทาโนเปลี่ยนยาและพันผ้าพันแผลอย่างชำนาญ “พวกเขาทั้งสองเป็นชาวบ้านธรรมดา แม้ข้าจะอธิบายแล้ว แต่เพื่อความปลอดภัย ข้าควรหาที่ซ่อนใหม่ให้เจ้า”

“ถ้าพี่ข้าหลบหนีออกมาได้ บางทีท่านอาจไปตรวจดูที่วัดร้างแห่งหนึ่งแทนข้าได้”

“วัดร้างรึ” จางหยางขมวดคิ้วแล้วถามว่า “อยู่ที่ไหนหรือ”

“ออกจากประตูเมืองไปทางทิศตะวันออกก็จะเห็น”

ทาโนเองก็ไม่รู้ว่าจุดที่เขาอยู่ตอนนี้อยู่ห่างจากวัดร้างมากเพียงใด จึงบอกจางหยางคร่าวๆ

โดยใช้ประตูเมืองเป็นจุดเริ่มต้น

แท้จริงแล้ว ในชานเมืองหลวงมีวัดร้างอยู่หลายแห่ง บ้างเป็นที่พักพิงของขอทาน บ้างก็รกร้างจนไร้ผู้คนไปโดยสิ้นเชิง

จางหยางเองก็รู้จักวัดร้างอยู่หลายแห่ง ทว่าวัดร้างที่ทาโนเอ่ยถึง เขากลับไม่มีความคุ้นเคยนัก

“พรุ่งนี้ข้าจะไปตรวจดูให้เจ้าเอง”

ทาโนหยิบกระดาษกับพู่กันขึ้นมา เขียนข้อความบางอย่างลงไปก่อนจะส่งให้จางหยาง

“ช่วยวางกระดาษแผ่นนี้ไว้ใต้เชิงเทียนตรงกลาง ถ้าพี่ชายข้ากลับมาที่วัดร้าง เขาต้องเห็นแน่ๆ”

“เข้าใจแล้ว”

จางหยางเก็บกระดาษแผ่นนั้นไว้ จากนั้นจึงจัดการเก็บกวาดรอบๆ ก่อนจะจากไป

เช้าวันถัดมา จางหยางเดินทางไปที่วัดร้างตามคำบอกของทาโน ภายในวัดเงียบสงัด ไม่มีร่องรอยของใครเคยอยู่มาก่อน เขาก้าวไปข้างหน้า วางกระดาษแผ่นนั้นไว้ใต้เชิงเทียน เมื่อสำรวจโดยรอบเรียบร้อยแล้ว จึงออกจากวัดไป

ไม่นานหลังจากนั้น เงาร่างหนึ่งก้าวเข้ามา หยิบกระดาษแผ่นนั้นออกไปจากเชิงเทียน

...

จวนของอ๋องอัน

“เจอตัวแล้วหรือ”

อ๋องอันนั่งอยู่บนเก้าอี้ ดวงตาฉายแววดุดัน นึกถึงเหตุการณ์ที่คนของพี่สามจับตามองจนเขาไม่อาจทำอะไรกลุ่มมือสังหารพวกนั้นได้ ยังมีคนลอบพาพวกมือสังหารหลบหนีไปอีก เรื่องนี้รบกวนใจอ๋องอันอย่างยิ่ง ราวกับมีก้างติดคอ ถ้าไม่ถอนออกให้สิ้นก็ยิ่งหงุดหงิด

“วัดร้างแห่งนั้นคือที่กบดานของกลุ่มมือสังหาร แต่จู่ๆ ก็มีคนมาวางข้อความไว้ใต้เชิงเทียน กระหม่อมเห็นแปลกจึงสืบหา แต่ข้อความนั้นยังไม่รู้รายละเอียดแน่ชัด”

“ยังไม่ชัดเจนหรือ? ถ้าเช่นนั้น จับตัวคนที่นำข้อความมาวางเสีย”

อ๋องอันแสยะยิ้ม แม้คนวางกระดาษอาจไม่ใช่มือสังหารโดยตรง แต่เขามั่นใจว่าคนผู้นั้นต้องมีความเกี่ยวข้อง การจับตัวเขาไว้ก็อาจเป็นเบาะแสสำคัญ

“กระหม่อมสั่งการไปแล้ว”

“ดี อย่าให้คนของจิ้นอ๋องรู้เรื่องนี้”

อ๋องอันกำชับ เขาไม่ได้คิดปิดบังจิ้นอ๋องเป็นพิเศษ เพียงแค่อยากจะใช้โอกาสนี้สร้างความดีความชอบต่อหน้าฝ่าบาท และที่สำคัญเพื่อระบายโทสะด้วย

...

ขณะที่จางหยางกำลังเดินกลับบ้านพร้อมของใช้ที่ซื้อมา เมื่อเข้าใกล้เรือนของตน เขาก็พบกลุ่มทหารล้อมรอบบ้านไว้ ดวงหน้าของเขาเปลี่ยนสีทันที มือที่ถือของไว้พลันปล่อยลงกับพื้น

เขามองเห็นท่านผู้เฒ่าถูกมัดออกมาจากเรือน โดยมีทหารคุมอยู่สองข้าง

จางหยางรีบซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้

เรื่องของทาโนถูกเปิดเผยแล้วหรือ นี่คือสิ่งเดียวที่จางหยางพอจะคาดเดาได้ เขาจดจำเครื่องแต่งกายของพวกทหารไว้อย่างระมัดระวัง ก่อนจะหายตัวไป มุ่งหน้าขึ้นเขา

ทาโนที่ยังซ่อนตัวอยู่ในถ้ำเห็นจางหยางกลับมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก็อดใจเต้นแรงไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้น”

“ท่านปู่ถูกจับตัวไปแล้ว”

“เป็นไปได้อย่างไร”

ทาโนสีหน้าแปรเปลี่ยนทันที “...เป็นเพราะข้าทำให้ท่านจางต้องเดือดร้อน”

เขาพูดพร้อมกับลุกขึ้นเตรียมออกไป แต่จางหยางรีบคว้าเขาไว้ “เจ้าจะทำอะไร”

“พวกเขาต้องการจับข้า”

“แล้วอย่างไร?เจ้าจะออกไปมอบตัวเพื่อแลกกับท่านปู่หรือ”

จางหยางแค่นหัวเราะ ตั้งแต่วันที่ท่านปู่ตัดสินใจช่วยทาโน เขาก็เตรียมใจไว้แล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

ท่านปู่เป็นคนไม่ยุ่งเรื่องใครง่ายๆ ตลอดชีวิตนี้เขาเห็นท่านปู่เปลี่ยนไปก็เพราะทาโนเท่านั้น

“เจ้าออกไปไม่ได้” จางหยางพูดเสียงเย็น

“ท่านปู่ช่วยชีวิตเจ้า ไม่ใช่เพื่อให้เจ้าไปตายอีก ข้าจะหาทางช่วยท่านปู่ แต่เจ้าต้องรีบหนีไป”

วันนี้เขาเพิ่งไปวางข้อความไว้ที่วัดร้าง แล้วยังมีคนตามมาถึงเรือน ดูท่าแล้วคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ วัดร้างแห่งนั้นอาจมีคนจับตามองอยู่แล้ว รอให้พวกเขาโผล่มา

จางหยางรู้สึกเสียใจที่ไม่ทันสังเกตเห็นสิ่งนี้มาก่อน

ทาโนที่เพิ่งเข้าใจสถานการณ์ รู้สึกสับสนเมื่อเห็นจางหยางเก็บข้าวของให้อย่างรวดเร็ว

“แผลของเจ้ายังไม่หายดี อย่าขยับตัวมากนัก เดี๋ยวแผลจะเปิด เดินไปตามทางเล็กๆ ทางทิศตะวันตกลงจากเขา จากนั้นเดินตรงไปให้ไกลที่สุด อย่าหยุดพักเป็นอันขาด”

จางหยางยัดห่อสัมภาระใส่มือทาโน แล้วรีบวิ่งกลับไป เขาต้องไปดูสถานการณ์ของท่านปู่

...

ในคุกใต้ดินอันหนาวเย็นและชื้นแฉะ ผู้เฒ่าจางนั่งขัดสมาธิพิงกำแพง

ดวงหน้าสงบนิ่ง ไม่แสดงอาการหวาดหวั่นแม้แต่น้อย

เสียงฝีเท้าดังขึ้น ก่อนที่ใครบางคนจะเปิดประตูคุก

“พาตัวเขาออกมา”

ผู้เฒ่าจางลืมตาขึ้น เห็นผู้คุมสองคนเดินเข้ามาหิ้วเขาขึ้นจากสองข้าง แล้วพาเขามาต่อหน้าอ๋องอัน

“ข้าได้ยินว่าเจ้าเป็นหมอจากร้านไป่เฉ่าถัง ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าจะใจดี ยอมช่วยแม้แต่คนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า”

อ๋องอันมองผู้เฒ่าจางด้วยสีหน้าเย็นชา

ผู้เฒ่าจางช้อนตามองขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “องค์ชาย หมายความว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”

“ยังจะกล้าเสแสร้งอีกหรือ เจ้าซ่อนคนที่ข้าต้องการไว้ที่ไหน หรือว่าเจ้ายังมีหลานชายอีกคนที่คอยช่วยคนผู้นั้นอยู่”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด