บทที่ 296 : คัมแบ็ก (1)
[แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ]
[Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย]
[หลังแปลจบ คิดว่าจะมีการเกลาคำเบื้องต้น แก้คำผิด ปรับสำนวนให้สละสลวย เทียบคำต่อคำ อยากขอให้ทุกคนสนับสนุนไปจนจนนะครับ ส่วนคนที่สนับสนุนแล้ว ก็ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนกันเสมอมาครับ]
บทที่ 296 : คัมแบ็ก (1)
คังวูจินรับแฟ้มใสจากชเวซองกุนผู้รวบผมยาวสลวยเป็นหางม้า ใบหน้าคมคายยังคงเรียบเฉย ไร้ซึ่งความรู้สึกใด แต่ภายในใจกลับเอียงคออย่างฉงน 'มารร้ายผู้แสนดี ตอนที่ 1 และ 2 มีฉากเพิ่มเข้ามางั้นหรือ' ความสงสัยก่อตัวขึ้นเป็นวงกว้างในมโนสำนึก
'แบบนี้ก็เท่ากับว่ามีการปรับแก้บทด้วยสินะ'
และหากเพิ่มเวลาออกอากาศของละครด้วย ก็หมายความว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่พอสมควร แน่นอนว่าวูจินที่เคยอ่านบท 'มารร้ายผู้แสนดี' ตอนที่ 1 และ 2 มาก่อน ย่อมรู้สึกเคลือบแคลงใจ
เหตุใดจึงเพิ่งมาแก้ไขเอาป่านนี้
ทว่าการแสดงความฉงนออกมาในขณะที่เขากำลังวางมาดเคร่งขรึมเช่นนี้อาจดูไม่เหมาะสม คังวูจินจึงเลือกที่จะเก็บงำความสงสัยไว้ พลางเปิดแฟ้มใสพร้อมกับเอ่ยถามชเวซองกุน น้ำเสียงทุ้มต่ำถูกกดลงจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ
“เพิ่มฉากอย่างนั้นเหรอครับ ไม่ช้าไปหน่อยเหรอครับ>”
แม้จะเป็นคำถามที่แฝงไว้ด้วยแรงกดดัน แต่คำถามของวูจินก็เต็มไปด้วยเหตุผล ถึง 'มารร้ายผู้แสนดี' จะเป็นละครที่ถ่ายทำล่วงหน้า แต่การแก้ไขบทในช่วงท้ายของการเตรียมงานเช่นนี้ ย่อมส่งผลให้ระยะเวลาการผลิตยืดเยื้อออกไป ซึ่งแน่นอนว่านั่นหมายถึงงบประมาณที่ต้องเพิ่มขึ้น
เดิมที 'มารร้ายผู้แสนดี' ก็เป็นละครฟอร์มยักษ์ที่ใช้ทุนสร้างมหาศาลอยู่แล้ว
ด้วยความที่เป็นละครที่ถ่ายทำล่วงหน้า จึงต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพและความประณีตบรรจงมากกว่าละครที่ถ่ายทำไปออกอากาศไป งบประมาณที่ใช้ไปจนถึงตอนนี้จึงสูงลิ่ว ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งนักแสดงและทีมงานก็มีจำนวนมากกว่าละครทั่วไปหลายเท่าตัว หากระยะเวลาการผลิตเพิ่มขึ้น เม็ดเงินก็จะรั่วไหลออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แต่ชเวซองกุนกลับยิ้มอย่างอารมณ์ดี ราวกับว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่
“ใช่ ปกติแล้วมันก็ถือว่าช้ามาก แต่โชคดีที่มันไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด”
“อย่างนั้นเหรอครับ”
“อืม PDซงเล่าให้ฟังว่า ฉากที่เพิ่มเข้ามาในบทละคร”มารร้ายผู้แสนดี“ตอนที่ 1-2 นั้น เดิมทีมีอยู่ในบทแรกสุด แต่ถูกตัดออกไปตอนเขียนบทเสร็จ แล้วค่อยเอากลับมาใส่ใหม่อีกที”
“แบบนี้ความยาวของตอนที่ 1-2 ก็จะเพิ่มขึ้นด้วยสิครับ”
“ใช่ แต่คุณนักเขียนชเวจะปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้นกว่าตอนที่ตัดออกไป ตอนนี้เหมือนกำลังหาข้อมูลอย่างหนักเลย”
หมายความว่าฉากเดิมที่เคยถูกตัดออกไปจะกลับมาอีกครั้งในเวอร์ชันที่ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม แบบนี้คงไม่น่าจะกระทบกับระยะเวลาการผลิตมากนัก วูจินพยักหน้าเหม่อ ๆ สายตาเหลือบมองแฟ้มใสในมือ ภายในบรรจุภาพร่างคอนทีของฉากที่เพิ่มเข้ามา พร้อมข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการถ่ายทำฉากนั้น
คังวูจินสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพร่างคอนที แต่เขาก็เก็บอาการไว้ได้อย่างมิดชิด
‘โหว- บ้าไปแล้ว เจ๋งสุด ๆ แค่คอนทีก็เหมือนภาพยนตร์แล้วนี่’
เดิมที “มารร้ายผู้แสนดี” ก็มีฉากแอ็กชันมากมายอยู่แล้ว แต่ฉากแอ็กชันในคอนทีที่เขากำลังพิจารณาดูอยู่นี้ ต้องบอกว่ามันดุเดือดยิ่งกว่าเดิม ราวกับฉากในภาพยนตร์ฮอลลีวูดชั้นนำ
ยิ่งไปกว่านั้น
‘แต่ว่านี่...ปืน? มีการใช้ปืนด้วยเหรอ?’
ดูเหมือนจะมีเทคนิคใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แถมยังมีปืนเข้ามาเกี่ยวข้องอีก วูจินเริ่มรู้สึกกดดันขึ้นเล็กน้อย ทั้งในแง่ของความท้าทายและความรับผิดชอบ เขาเปิดหน้าต่อไป พบตัวหนังสืออัดแน่นเต็มหน้ากระดาษ มันคือข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับฉากที่เพิ่มเข้ามา แต่สิ่งที่คังวูจินสนใจมากที่สุดมีเพียงอย่างเดียว
-สถานที่ถ่ายทำ: ประเทศไทย กรุงเทพมหานคร
กรุงเทพ? ประเทศไทย? กรุงเทพมหานคร? นี่หมายความว่ากองถ่ายจะยกพลไปปักหลักต่างแดนอย่างนั้นเหรอ? ในเสี้ยววินาทีนั้น ภาพเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "เกาะแห่งผู้สูญหาย" ก็ผุดขึ้นมาในห้วงความคิดของวูจิน
แต่เดี๋ยวก่อน มันยิ่งกว่านั้นอีก
‘กรุงเทพ เนี่ยนะ? เหลือเชื่อจริง!’
สถานที่ซึ่งไม่เคยอยู่ในความคิดแม้แต่น้อย กลับปรากฏขึ้นตรงหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว สำหรับวูจินแล้ว กรุงเทพเป็นเพียงชื่อเมืองที่ใช้พูดหยอกล้อกับเพื่อนฝูงด้วยคำว่า "แบงค็อก ๆ " เท่านั้น ไม่เคยนึกฝันว่าจะมีโอกาสได้ไปเยือนจริง ๆ
[สำหรับคนที่ไม่เก็ทมีม bangkok หรือ ชื่ออังกฤษของกรุงเทพ แปลได้ว่า กระดอระเบิด bang+cock (ปัง+ควย)]
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกแปลกประหลาดยังคงวนเวียนอยู่ในใจ
‘บ้าชะมัด จะไปถ่ายทำไกลถึงกรุงเทพ เชียวเหรอ?’
ทั้งความตื่นเต้นและความกังวลประดังประเดเข้ามา ความจริง หากจะให้พูดกันตามตรง ความกังวลนั้นมีมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้จะเคยมีประสบการณ์ถ่ายทำในต่างประเทศอย่างญี่ปุ่นมาแล้ว แต่การถ่ายทำฉากแอ็กชันจริงจังเช่นนี้ถือเป็นครั้งแรก กระนั้น วูจินก็จำต้องเก็บงำความรู้สึกเอาไว้ เขาพยักหน้าอย่างเชื่องช้า
“กรุงเทพ ก็ไม่เลวนะครับ”
ชเวซองกุนก็ยกนิ้วโป้งขึ้นมาอย่างฉับพลัน
“ฉันลองอ่านบทคร่าว ๆ ดูแล้ว ภาพสวยจับใจทีเดียว ฉากที่เพิ่มเข้ามานั้น เหมือนเป็นการบอกใบ้อดีตของพระเอกด้วย ดูเหมือนจะเน้นหนักไปทางนั้น ตั้งแต่ต้นเรื่องก็มีทั้งฉากต่อสู้ ฉากระเบิด อลังการงานสร้างจริง ๆ”
“ครับ”
“ในตอนที่ 1 และ 2 เราต้องทำให้เห็นถึงความเก่งกาจของพระเอก เพื่อส่งผลไปถึงตอนหลัง ๆ แน่นอนว่านายไม่ต้องกังวลอะไรอยู่แล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง”
“ก็เหมือนเดิมครับ ตื่นเต้นพอประมาณ”
“ฮ่า ๆ ดีแล้ว ยังไงเดี๋ยวบทที่แก้ไขแล้วจะส่งมาให้เร็ว ๆ นี้แหละ ก่อนหน้านั้นก็จะมีถ่ายโปรโมตกับทาง ‘มารร้ายผู้แสนดี’ แล้วก็นัดประชุมด้วย”
ชเวซองกุนเริ่มอธิบายเรื่องราวของ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ อยู่ราวสิบนาที ทั้งสองนั่งประจันหน้ากันที่โต๊ะกลางห้องทำงาน เมื่อชเวซองกุนบรรยายจบก็เปลี่ยนเรื่องสนทนาทันที
“แล้วเรื่องที่จินจูเป็นยังไงบ้าง? ฉันก็ต้องรู้เรื่องไว้บ้าง”
เป็นคำพูดที่สมเหตุสมผล คังวูจินเองก็คิดเช่นกัน เขาจึงเล่าเรื่องที่ศูนย์เด็กเล็กจินจูโดยย่อ เมื่อฟังจบชเวซองกุนก็หัวเราะในลำคอเบา ๆ
“ประธานผู้สนับสนุนนั่นเป็นอะไรกัน? บ้าไปแล้วรึไง? ยังไงวูจินก็ทำดีแล้วล่ะ”
ชเวซองกุนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพลางพูดต่อ
“ฉันก็กะจะใส่ใจเรื่องจินจูอยู่แล้ว บ้านเกิดของวูจินนี่นะ ที่ผ่านมาก็ปฏิเสธข้อเสนอจากเทศบาลเมืองจินจูมาตลอด ถ้าบริจาคก็น่าจะดี ได้ภาพลักษณ์ที่ดีด้วย ทางศูนย์เด็กเล็กติดต่อมาแล้ว ฉันจะจัดการเอง”
“ขอบคุณครับ” คังวูจินกล่าว
“ขอบคุณทำไม ฉันก็ตั้งใจจะทำอยู่แล้ว วูจินแค่จุดประกายให้เท่านั้นเอง แล้วนายก็จะบริจาคส่วนตัวด้วยใช่ไหม? ให้บริษัทออกให้ก็แล้วกัน ไม่ต้องคิดมาก”
โอ้ สมกับเป็นท่านประธาน! ภายนอกคังวูจินดูนิ่งขรึม แต่ภายในใจกลับรู้สึกซาบซึ้งกับน้ำใจของชเวซองกุนอย่างมาก ซึ่งชเวซองกุนก็ไม่ได้สังเกตเห็นความรู้สึกนั้นเลยแม้แต่น้อย
“ปีแรก รวมส่วนที่วูจินจะบริจาคด้วย เอาแรง ๆ ไปเลยสามร้อยล้านวอน แบบนี้สื่อถึงจะสนใจ”
เขาพูดพลางจดบันทึกบางอย่างลงในโทรศัพท์มือถือ
“อ้อ เรื่องประชาสัมพันธ์ เราจะทำร่วมกับทางเมืองจินจูนะ”
หลังจากนั้นชเวซองกุนเสริมว่า "เรื่องประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการบริจาคจะเน้นเป็นพิเศษเฉพาะปีนี้เท่านั้น ปีหน้าเป็นต้นไปจะดำเนินการอย่างเงียบ ๆ การเดินทางไปจินจูของคังวูจินเป็นที่กล่าวขวัญถึงพอสมควรในสื่อและความคิดเห็นของสาธารณชนอยู่แล้ว ฉะนั้นคราวนี้ก็ถือว่าเป็นการสานต่อกระแส"
อย่างไรก็ตาม
“เรื่องจินจูก็ว่ากันไป เอ่อ... ต่อไปเป็นตารางงานของนายนะ”
ชเวซองกุนผู้ไว้ผมหางม้า เปิดไดอารี่เล่มหนาพลางแจกแจงตารางงานแน่นเอี๊ยดของวูจิน หลังจากได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาต้องกลับมาวิ่งเต็มฝีเท้าอีกครั้ง ตารางงานที่ไม่มีที่สิ้นสุดพรั่งพรูออกมาจากปากของชเวซองกุน ในขณะเดียวกันวูจินก็
“······”
ทำหน้าตาย ปล่อยใจให้ว่างเปล่า ราวกับว่า ‘น้ำก็คือน้ำ ภูเขาก็คือภูเขา’ หากเผลอสติไปแม้เพียงนิดก็อาจจะเผลอหลับได้ เขาไม่เคยใส่ใจกับตารางงานที่วางไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว จะไปรู้ไว้ทำไม ก็แค่ลงมือทำก็เท่านั้น ไม่ว่าวูจินจะเป็นอย่างไร ชเวซองกุนก็ยังคงบรรยายสรุปอย่างกระตือรือร้นต่อไป
“อีกสองวันจะมีการถ่ายทำ ‘ตัวตนอีกด้านของคังวูจิน’ คุณ ‘อุรามัตสึ มิฟุยุ’ จะเดินทางมาเกาหลี ‘บุปผาเร้น’ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกันหลังถ่ายทำเสร็จเลยสินะ?”
“ครับ” วูจินตอบรับสั้น ๆ
“คุณมิฟุยุก็เพิ่งมาเกาหลีครั้งแรก นอกเหนือจากการท่องเที่ยว ยังไงซะดาราดังของญี่ปุ่นมาทั้งที ข่าวนี้น่าจะออกสื่อนะ”
ผ่านไปประมาณ 30 นาที การบรรยายสรุปของชเวซองกุนก็สิ้นสุดลง
“งั้นวันนี้เพิ่งกลับมา ถ้างั้นจะพักก่อนแล้วค่อยเริ่มพรุ่งนี้ไหม?”
คังวูจินส่ายหน้าพลางลุกขึ้นยืนอย่างเชื่องช้า
“ครับ”
คังวูจินก้าวขึ้นรถไฟด่วนอีกครั้ง ราวกับมุ่งหน้าสู่ห้วงนรกที่คุ้นเคย หลังแวะร้านเสร็จ เขาก็จัดการภารกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คั่งค้าง เช่น การให้สัมภาษณ์และถ่ายแบบ
รุ่งอรุณแห่งวันใหม่
คังวูจินสวมหมวกปีกกว้างบดบังใบหน้าหล่อเหลา ก้าวเข้าไปในรถตู้ เขาต้องเดินทางไปยังร้านค้าอีกครั้ง นิ้วเรียวคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ไล่สายตาอ่านสถานการณ์บนโลกอินเทอร์เน็ต
‘มาดูกันหน่อยแล้วกัน...’ คังวูจินครุ่นคิด
กระแสข่าวร้อนแรงบนโลกออนไลน์มีมากมาย ทั้งเรื่องฉาวโฉ่ของไอดอลที่เพิ่งปวดหัวไปเมื่อไม่กี่วันก่อน รายการวาไรตี้ที่ออกอากาศเมื่อวาน ข่าวการหวนคืนวงการของนักแสดงชื่อดัง และอื่น ๆ อีกมากมาย
แน่นอนว่าท่ามกลางข่าวสารทั้งหมด
『สตูดิโอแอนิเมชั่นยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ‘สตูดิโอA10’ ปล่อยภาพเบื้องหลังการพากย์เสียง ‘เพื่อนชาย: รีเมก’ มีแต่คังวูจินเต็มไปหมด/ ภาพ』
ข่าวคราวของคังวูจินย่อมได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
『บ้านเกิดของ ‘คังวูจิน’ ที่เมืองจินจู ตอนนี้เต็มไปด้วยป้ายต้อนรับเขา/ ภาพ』
『[ประเด็นร้อน] ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ที่ทั่วโลกจับตามอง คนวงในเผย “มีกำหนดถ่ายทำต่างประเทศ” จะไปที่ไหนกันนะ? 』
ด้วยกระแสที่ร้อนแรง ข่าวของคังวูจินจึงขายได้ราวกับเทน้ำเทท่า
『หมดแรงแล้วหรือ?‘เกาะแห่งผู้สูญหาย’ ทำยอดผู้ชมหยุดอยู่ที่ 19 ล้านคน ผู้เชี่ยวชาญด้านภาพยนตร์กล่าว “เป็นไปไม่ได้ที่จะถึง 20 ล้าน”』
เมื่อคังวูจินแต่งกายเสร็จสรรพและเริ่มถ่ายทำโฆษณาตามตารางงาน ชเวซองกุนที่มีผมเปียก็ยืนมองอยู่ก็กดเข้าไปในช่อง ‘ตัวตนอีกด้านของคังวูจิน’ ของเขา
[ชื่อช่อง: ตัวตนอีกด้านของคังวูจิน] [ผู้ติดตาม 15.66 ล้านคน] [วิดีโอ 71 รายการ]
ช่องYoutubeของวูจินที่มีผู้ติดตามทะลุ 15 ล้านคนไปแล้วก่อนหน้านี้ ได้อัปโหลดวิดีโอใหม่ล่าสุด โดยเป็นการแจ้งข่าวการกลับมาทำงานหลังจากหยุดพักผ่อนช่วงสั้น ๆ พร้อมทั้งประกาศการร่วมงานถ่ายทำ "บุปผาเร้น" กับอุรามัตสึ มิฟุยุ นักแสดงหญิงชื่อดังของญี่ปุ่นที่เคยร่วมงานกันมาก่อน
แน่นอนว่า…
-@Wooji_n
โพสต์ 241
ผู้ติดตาม 22.31 ล้านคน
กำลังติดตาม 81 คน
ข่าวการกลับมาของคังวูจินยังได้ประกาศผ่านทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ รวมถึงอินสตาแกรมด้วย ไม่ว่าช่องทางใดก็เต็มไปด้วยคอมเมนต์จากแฟน ๆ มากมาย ทั้งจากเกาหลี ญี่ปุ่น และต่างประเทศ ภาษาต่าง ๆ สุดแสนหลากหลายปะปนกันอย่างคึกคัก บ่งบอกถึงอิทธิพลมอลทึของวูจินในขณะนี้
ในส่วนของ "มารร้ายผู้แสนดี" หรือจะพูดให้ถูกคือ นักเขียนบทชเวนานา
'น่าเสียดาย อยากให้มันดุเดือดกว่านี้อีกหน่อย'
เธอกำลังเร่งเขียนบทเพิ่มเติมสำหรับตอนที่ 1 และ 2 ของ "มารร้ายผู้แสนดี" อย่างขะมักเขม้น ซึ่งแน่นอนว่าคงใช้เวลาไม่นานนัก เพราะเป็นเพียงการเติมแต่งรายละเอียดลงในบทที่ร่างไว้แล้ว ถึงอย่างนั้นปลายนิ้วเรียวของเธอก็ยังคงโลดแล่นไปบนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว
-ต๊อก! ต๊อกต๊อก!
เธอต้องรีบทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อจะได้ส่งให้ผู้กำกับซงมันวูตรวจสอบ ก่อนจะส่งต่อไปยังนักแสดง โดยเฉพาะคังวูจิน เธอต้องรีบส่งให้เขามากกว่าใครเพื่อน เพราะการถ่ายทำต่างประเทศครั้งนี้ ที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย มีคังวูจินเป็นศูนย์กลาง
'อยากให้วูจิน... ดูอลังการกว่านี้ หรือแบบ... ทรงพลังกว่านี้ก็ดี'
ฉากที่เพิ่มเข้ามามากกว่า 80% เป็นฉากที่เขาต้องแสดง
และในช่วงบ่าย
คังวูจินซึ่งอยู่ในช่วงพักจากการถ่ายโฆษณาให้กับแบรนด์เสื้อผ้า
-กึก
เขาทรุดตัวลงบนเก้าอี้พักผ่อน ดวงตายังคงดูผ่อนคลาย ปราศจากแววเหนื่อยล้า จางซูฮวานร่างกำยำก้าวเข้ามาจากด้านหลังพร้อมยื่นขวดน้ำให้
รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างแจ่มชัด
“พี่ครับ! ข่าวบริจาคที่จินจูเพิ่งขึ้นหน้าเว็บแล้วครับ!”
ใช่แล้ว
『[ข่าวอย่างเป็นทางการ] ‘คังวูจิน’ เดินทางไปจินจู บริจาค ‘300 ล้านวอน’ ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส/ ภาพ』
『เจ้าของ “ราชาแห่งกระแส” อันดับ 1 ‘คังวูจิน’ บริจาค 300 ล้านวอนให้กับบ้านเกิดที่จินจู···“คลาสต่างกันจริง ๆ!”』
『“ขนาดการบริจาคก็ไม่ธรรมดา” คังวูจิน บริจาคหลักร้อยล้านวอนในปีที่ 2 ของการเดบิวต์』
ข่าวการบริจาคของวูจินแพร่กระจายไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต เห็นได้ชัดว่ากระแสตอบรับนั้นร้อนแรงเพียงใด
『[ข่าวเด่น] คังวูจิน บริจาค 300 ล้านวอน เทศบาลเมืองจินจู กล่าว “ขอขอบคุณ คังวูจิน เป็นอย่างสูง”』
แน่นอนว่านี่ต้องเป็นผลงานการประสานงานกันระหว่างเทศบาลเมืองจินจูและบริษัทบันเทิง Bw
『[ภาพถ่ายคนดัง] ‘บริจาค 300 ล้านวอน’ คังวูจิน ถ่ายภาพคู่กับนายกเทศมนตรีเมืองจินจู ณ ศูนย์เด็ก/ ภาพ』
เงินบริจาค 300 ล้านวอนนั้นมากพอที่จะก่อให้เกิดกระแสฮือฮาในหมู่สื่อและสาธารณชน ใครเลยจะคาดคิดว่าการพักผ่อนกลับกลายเป็นการบริจาคเงินมหาศาล แต่สำหรับคังวูจิน เจ้าของอันดับ 1 “เรื่องกระแส” ที่มั่นคง เรื่องแบบนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจเท่าใดนัก
-ว้าว…..คังวูจินนี่สุดยอดไปเลย
-บ้าไปแล้ว ฮ่าๆ ๆ ๆ คลาสต่างกันราวฟ้ากับดิน ฮ่าๆ ๆ ๆ กลับบ้านเกิดปุ๊บ บริจาค 300 ล้านวอนทันที ฮ่าๆ ๆๆๆ ๆ
-ไม่ว่าจะบริจาคมากน้อยเพียงใด การบริจาคก็ถือเป็นสิ่งที่น่ายกย่องและงดงามเสมอ
-คังวูจิน เท่สุด ๆ … พูดตรง ๆ ตอนนี้กระแสกำลังมาแรง เดบิวต์ได้ 2 ปี บริจาค 300 ล้านวอน…..
-กลับบ้านพักผ่อนอย่างสบายอารมณ์ แถมยังได้บริจาคเงินถึงสามร้อยล้านวอนอีกด้วย!
-ไอ้พวกที่ยังมาคอมเมนต์แย่ ๆ อยู่นี่มันอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมได้ยังไงกันนะ? น่าโมโหชะมัด แค่บริจาคสามร้อยวอนก็ยังดี
-การบริจาคมันยอดเยี่ยมที่สุดเลย!
-คังวูจินอายุก็ไม่ได้มากมายอะไร นิสัยก็ดี สรุปแล้วมีข้อเสียตรงไหนกัน?
�
�
�
�
ภาพของคังวูจินที่ศูนย์เด็กเล็กในเมืองจินจู ข่าวที่บริษัทบันเทิง Bw เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ รวมถึงบทสัมภาษณ์ของนายกเทศมนตรีเมืองจินจู ล้วนเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เรื่องราวการบริจาคของคังวูจินโด่งดังเป็นพลุแตก
เงินสามร้อยล้านวอนไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เลย ตรงกันข้าม มันคือเงินจำนวนมหาศาล
ไม่ใช่จำนวนเงินที่นักแสดงหน้าใหม่ที่เพิ่งเดบิวต์ได้เพียงสองปีจะบริจาคได้ง่าย ๆ กระแสความนิยมนี้ส่งผลโดยตรงต่อผลงานต่าง ๆ ที่วูจินเคยฝากฝีมือไว้ หรือ กำลังแสดงอยู่ รวมไปถึงโซเชียลมีเดียส่วนตัว และ ‘ตัวตนอีกด้านของคังวูจิน’ ด้วย
‘นักแสดงหญิงยอดนิยมของญี่ปุ่น ‘อุรามัตสึ มิฟุยุ’ เดินทางมาเกาหลีเพื่อถ่ายทำ ‘ตัวตนอีกด้านของคังวูจิน’! เชื่อมสัมพันธ์ ‘บุปผาเร้น’ กับคังวูจิน’
กระแสข่าวการบริจาคครั้งใหญ่ของคังวูจินยังคงคุกรุ่นอยู่ในความสนใจของสาธารณชน
ในวันที่ยี่สิบเก้า ซึ่งเป็นวันถัดมา ข่าวการมาเยือนเกาหลีของ ‘อุรามัตสึ มิฟุยุ’ นักแสดงหญิงยอดนิยมชาวญี่ปุ่น เจ้าของริมฝีปากอิ่มเอิบ ผู้รับบท ‘โฮริโนจิ อามิเอะ’ ใน ‘บุปผาเร้น’ ก็ยังคงเป็นที่กล่าวถึงอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าตอนที่เธอและวูจินถ่ายทำคอนเทนต์สำหรับ ‘ตัวตนอีกด้านของคังวูจิน’ ก็สร้างความฮือฮาไม่แพ้กัน
สื่อต่าง ๆ ต่างนำเสนอข่าวกันอย่างคึกคักตลอดหลายวันที่ผ่านมา
ประเด็นข่าวมากมายต่างเกี่ยวโยงกันอย่างสลับซับซ้อน
‘บริจาค 300 ล้านวอน แถมนักแสดงหญิงระดับท็อปของญี่ปุ่น อุรามัตสึ มิฟุยุ ก็มาร่วมด้วย ราชาแห่งกระแส คังวูจิน เริ่มเดินเครื่องอีกแล้วหรือ?’
ผลปรากฏว่า
“อื้อหือ”
เช้าวันที่ 30 มิถุนายน วันสุดท้ายของเดือน คังวูจินกำลังจะก้าวเท้าออกจากบ้านไปทำงาน มือของชายหนุ่มคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดู ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นอย่างฉับพลัน ราวกับไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
เขาไม่ได้บ้า ไม่ได้เพ้อฝันกลางวันแสก ๆ แน่นอน
“บ้าเอ๊ย” คังวูจินพึมพำ ถึงอย่างนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นอย่างบ้าคลั่ง เพราะสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงความฝัน สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในโลกแห่งความจริง กลับกลายเป็นความจริงขึ้นมาแล้ว
[บ็อกซ์ออฟฟิศเกาหลีตลอดกาล] [อันดับภาพยนตร์ตลอดกาล (รวม)]
-1. เกาะแห่งผู้สูญหาย/ จำนวนผู้ชมสะสม: 20013889 คน
พูดง่าย ๆ ก็คือ
『[ข่าวอย่างเป็นทางการ] ภาพยนตร์อันดับ 1 ของเกาหลี ‘เกาะแห่งผู้สูญหาย’ มียอดผู้ชมทะลุ 20 ล้านคน ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของวงการภาพยนตร์เกาหลี!!』
『‘เกาะแห่งผู้สูญหาย’ ทำยอดผู้ชมได้ 20 ล้านคน!! อิทธิพลของ ‘คังวูจิน’ พลิกสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้!』
ถ้าไม่ใช่ คังวูจิน ปรากฏการณ์เช่นนี้คงไม่มีวันเกิดขึ้นจริง
-จบ-
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_