บทที่ 240 เฮ้ย นายกำลังเล่นกับพวกเราใช่ไหม?
เฟิงไหลเปิดนิยายเรื่องใหม่แล้ว! และยังเป็นที่เว็บไซต์วรรณกรรมเมี่ยวปี้เหมือนเดิม!
คืนนั้น ข่าวนี้สร้างความตื่นเต้นไปทั่ววงการนิยายออนไลน์ ถึงขนาดขึ้นเว่ยป๋อฮอตเซิร์ช ข่าวนี้ทำให้คนที่ติดตามเรื่องราววุ่นวายตะลึง เกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่บอกว่าตัดสินใจจะย้ายค่ายแล้วหรือ? ว่าจะแยกทางกันไง บอกว่าจะไม่ร่วมงานกันแล้วไง?! ที่วุ่นวายมาตั้งนาน นายกำลังเล่นกับพวกเราหรือเปล่า?
ส่วนแฟนนิยายต่างดีใจสุดๆ ตื่นเต้นจนพูดไม่ออก ขอแค่เฟิงไหลยังเขียนหนังสือ และยังเขียนที่เมี่ยวปี้ต่อ อะไรก็คุยกันได้ เรื่องอื่นไม่สำคัญ! สมแล้วที่เป็นคนขยัน เชื่อมต่อไม่มีช่องว่าง ไม่ขาดแม้แต่วันเดียว!
แต่เมื่อพวกเขารีบร้อนเข้าไปดูหน้าหนังสือใหม่ ทุกคนก็ตะลึง หมวดหมู่ของนิยาย กลายเป็นสืบสวนสอบสวน??? โธ่เว้ย เบื่อกำลังภายในแล้วก็มาเล่นสืบสวนสอบสวนอีกเหรอ?
และในเวลานั้น นักเขียนในแผนกสืบสวนก็เครียดจนระเบิด พี่ชาย ถึงไม่ย้ายก็เขียนกำลังภายในต่อไม่ดีกว่าหรือ ที่นั่นมีผู้อ่านรวยๆ เยอะนะ! แผนกสืบสวนของพวกเราก็เป็นแผนกเล็กๆ อยู่แล้ว หวังแค่คู่แข่งน้อยๆ จะได้หาเงินประทังชีวิต นายมาวุ่นวายแบบนี้ พวกเราจะอยู่ยังไง? สภาพที่แผนกกำลังภายในข้างๆ โดนยึดอันดับไปครึ่งปี พวกเขาเห็นกับตาหมดแล้ว!
แต่มีสิ่งที่ทำให้พวกเขาแปลกใจ... ทำไมคราวนี้ทางการของเมี่ยวปี้ไม่ได้ช่วยโปรโมท กับระดับของเทพสายลมตอนนี้ เปิดเรื่องใหม่ต้องมีแบนเนอร์ใหญ่ที่หน้าแรกเป็นพื้นฐานแล้วนี่ เกิดอะไรขึ้น?
ที่สวนเล็กๆ ในหลินหาง ห้องพักโฮมสเตย์
"หา?!" หลินซีหน่าที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงร้องอุทานขึ้นมา "ลุงเปิดเรื่องใหม่อีกแล้ว?!"
ซวี่หลิงเยว่ที่นั่งอยู่ข้างหน้าต่างกำลังเป่าผมที่เปียกชื้น หยดน้ำไหลตามเส้นผมหยดลงในรอยต่อชุดนอน ชวนให้จินตนาการ
"เขาก็เปิดเรื่องใหม่ทุกวันไม่ใช่หรือ มีอะไรต้องตกใจขนาดนั้น"
"ไม่ใช่นะ" หลินซีหน่าทำหน้าตกใจ "เขาเปิดเรื่องใหม่ที่เว็บไซต์วรรณกรรมเมี่ยวปี้อีก"
แกร๊ก ซวี่หลิงเยว่ปิดไดร์เป่าผมทันที บนใบหน้าปรากฏความสงสัย อะไรกัน?
แม้ตัวโจวฮ่าวจะไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ใครที่ไม่ตาบอดก็เห็นได้ว่าเขาชัดเจนว่าจะแยกทางกับค่ายเก่า "มังกรหยก" จบ น่าจะเป็นจุดที่เขาจากไป แต่ผลลัพธ์... ตอนนี้เปิดเรื่องใหม่อีก?
พันผ้าขนหนูดูดซับน้ำ เธอหยิบโทรศัพท์ของตัวเอง เปิดเว็บไซต์วรรณกรรมเมี่ยวปี้ สืบสวนสอบสวน? เปลี่ยนแนวอีกแล้ว?
"การเสียสละของผู้ต้องสงสัย X เหรอ?" หลินซีหน่าที่อยู่ข้างๆ อ่านออกมาเบาๆ "ชื่อเรื่องนี้ฟังแปลกๆ นะ"
ซวี่หลิงเยว่ไม่ตอบ กดเข้าไปอ่านทันที บทแรกไม่ใช่เนื้อเรื่อง แต่เป็นประกาศสั้นๆ
[ช่วงนี้ในโลกออนไลน์มีข่าวลือว่าผมจะออกจากเมี่ยวปี้ ผมขอชี้แจงอย่างเป็นทางการว่า นี่ไม่ใช่ข่าวลือ]
หลินซีหน่าถูกประโยคนี้ทำให้ชะงักไปสองวินาทีเต็มๆ ก่อนจะเข้าใจความหมาย แล้วหัวเราะพรืดออกมา
[ใช่แล้ว ผมจะออกจากเมี่ยวปี้ ทิศทางและแผนการพัฒนาในอนาคตยังไม่ชัดเจน ดังนั้นอย่าถามผมเลย เพราะตัวผมเองก็ยังไม่รู้
ที่ผมต้องจากไป เป็นเหตุผลของผมเองล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับทางเมี่ยวปี้ กรุณาอย่าคิดและคาดเดาไปเอง ผมเขียนหนังสือที่นี่มาหกปี หวังว่าจะได้จากกันด้วยดี
ถึงเวลาต้องจากกัน สิ่งที่เสียดายที่สุดก็คือแฟนนิยาย หากไม่มีพวกคุณใช้เงินจริงๆ ยกผมขึ้นมาอยู่ตำแหน่งนี้ ผมก็ไม่ใช่อะไรเลย
ตอนนี้ผมจะจากไป อาจจะดูเหมือนทรยศอยู่บ้าง ผมไม่ขอแก้ตัวอะไร ได้แต่ส่งของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้พวกคุณเป็นครั้งสุดท้าย นั่นก็คือหนังสือเล่มนี้]
[ขอให้เป็นเช่นนี้ เข้าสู่เนื้อเรื่องกันเลย]
เมื่อเห็นประกาศนี้ ซวี่หลิงเยว่อดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ ในใจรู้สึกอิจฉาอย่างบอกไม่ถูก แม้จะมีเรื่องไม่สบายใจเหมือนกัน แต่ท่าทางการจากไปของโจวฮ่าวก็ยังดูสง่างามอยู่
เมื่อเทียบกัน การที่เธอออกจากตงซิงนั้นดูน่าเกลียดเกินไป และท่าทีที่โจวฮ่าวตามใจแฟนๆ ก็น่าเรียนรู้จริงๆ
จริงๆ แล้วถ้าจะย้ายค่าย ทุกคนก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก เพราะคนย่อมมองหาที่ที่ดีกว่า เป็นเรื่องปกติที่สุด แต่เขากลับปล่อยนิยายฟรีเป็นของขวัญอำลา... คนทั่วไปจริงๆ ไม่มีวิสัยทัศน์แบบนี้หรอก
และในเวลาเดียวกัน ผู้อ่านหลายหมื่นคนก็ตะลึงกับประกาศเปิดเรื่องนี้ ข่าวร้าย: เทพสายลมยังคงตัดสินใจจะไป ข่าวดี: ก่อนไปเขาให้นิยายฟรีหนึ่งเรื่อง... พูดยากว่าควรจะดีใจหรือไม่ดีใจ
ด้วยความรู้สึกที่สับสน ทุกคนเปิดหน้าแรกของเนื้อเรื่อง
[เจ็ดโมงสามสิบห้านาที สือหงออกจากอพาร์ตเมนต์เหมือนทุกวัน แม้จะเข้าเดือนมีนาคมแล้ว แต่ลมก็ยังหนาวมาก เขาซุกคางไว้ในผ้าพันคอแล้วก้าวเดิน ก่อนจะขึ้นถนน เขาชำเลืองมองที่จอดจักรยานก่อน ที่นั่นมีจักรยานอยู่หลายคัน แต่ไม่มีจักรยานสีเขียวที่เขาสนใจ...]
[...เมฆหนาทึบปกคลุมท้องฟ้า อากาศมืดครึ้ม ดูสกปรก เรือเล็กกำลังมุ่งหน้าขึ้นเหนือ สือหงมองภาพนั้นพลางเดินข้ามสะพานใหม่...]
เปิดเรื่องเพียงไม่กี่ย่อหน้า ก็สร้างบรรยากาศและโทนของเรื่องได้แล้ว ฝีมือการเขียนยังคงเห็นได้ชัดว่าแน่น แต่สไตล์การเขียนกลับแตกต่างจาก "มังกรหยก" อย่างชัดเจน
ความแตกต่างนี้ ทำให้ผู้อ่านมากมายทึ่ง และทำให้นักเขียนร่วมอาชีพหลายคนได้แต่ถอนหายใจ โดยปกติแล้ว สไตล์การเขียนของนักเขียนคนหนึ่งจะค่อนข้างตายตัว บางครั้งแม้จะปิดชื่อผู้เขียน ก็ยังสามารถเดาได้จากลีลาการเขียนว่าเป็นผลงานของใคร นักเขียนดังๆ หลายคนเปิดนามปากกาใหม่ก็โดนจับได้ทันที ปัญหาอยู่ตรงนี้
แต่ความสามารถด้านการเขียนของ "เฟิงไหล" นั้น ถึงขั้นที่สามารถเปลี่ยนสไตล์ได้ตามใจชอบ เขียนแฟนตาซีแนวต่อสู้ ก็มีกลิ่นอายการ์ตูนแบบวัยรุ่นติดมาด้วย เขียนประวัติศาสตร์แนวแฟนตาซี ทุกตัวอักษรก็แฝงความหนักแน่นทางประวัติศาสตร์
เขียนนิยายกำลังภายใน ความสง่างามของชายหญิงในยุทธภพก็ปรากฏบนกระดาษ เขียนนิยายเซียน บรรยากาศอันเลื่อนลอยของความเป็นเซียนก็ทำให้จิตใจผู้อ่านโหยหา...
และตอนนี้เปลี่ยนมาเขียนสืบสวนสอบสวน สไตล์การเขียนก็เปลี่ยนเป็นแนวเรียบง่ายหม่นหมองทันที ไม่มีความขัดแย้งเลยแม้แต่น้อย
แค่ฝีมือการเขียนระดับนี้ ก็ทำให้เพื่อนร่วมอาชีพกว่า 95% ได้แต่มองตาปริบๆ!
เมื่อตัวละครทยอยปรากฏตัว โครงเรื่องก็ค่อยๆ เผยออกมา นักคณิตศาสตร์ที่หลงรักข้างเดียว หญิงม่ายข้างบ้านที่ยังมีเสน่ห์ ความรักที่ผิดปกติที่แฝงอันตราย...
และสิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจยิ่งกว่าเนื้อเรื่อง คือ... เทพสายลมเริ่มปล่อยตอนรัวติดต่อกันตลอดทั้งคืน! หนึ่งชั่วโมงหนึ่งตอน เฉลี่ยแต่ละตอน 2,500-3,000 ตัวอักษร ผลงานมั่นคงมาก เพราะเป็นนิยายฟรี จึงไม่ต้องสนใจจังหวะการตัดตอนแล้ว พอครบจำนวนตัวอักษรก็ตัดเลย รัวติดต่อกันมาถึงหกตอน! นี่จะเขียนให้จบภายในคืนเดียวเลยหรือ?
(จบบท)
แฟนๆ ของเฟิงไหลยังได้อ่านฟรี แล้วทำไมเราถึงไม่เปิดให้ทุกคนอ่านฟรีล่ะ!! ฮี่ฮี่