บทที่ 23 : เจอช่องทางหาเงินครั้งใหญ่!
บทที่ 23 : เจอช่องทางหาเงินครั้งใหญ่!
ณ ภัตตาคารสวนลอยฟ้า
ภัตตาคารแห่งนี้เป็นหนึ่งในห้าร้านอาหารหรูหราใจกลางเมืองหลงอิ๋น แขกที่มาใช้บริการล้วนแต่ร่ำรวยและมีชื่อเสียง
เซียวซิงหยูนั่งอยู่บนโซฟานุ่มๆ มองไปรอบๆด้วยท่าทางประหม่าเล็กน้อย
"เซียวหยู นี่คงเป็นครั้งแรกที่นายมาที่นี่สินะ" ฉินเยียนหรันเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
"ชะ...ใช่ครับ ผมจนจะตาย จะมีปัญญาที่ไหนมากินร้านหรูแบบนี้"
ร้านอาหารแห่งนี้ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของตึกหลงอิ๋น ซึ่งสูงถึง 101 ชั้น
บรรยากาศโดยรอบเป็นแบบเปิดโล่ง สามารถนั่งจิบกาแฟชมวิวกลางคืนของเมืองได้อย่างเพลิดเพลิน
"นี่เมนู อยากกินอะไรก็สั่งเลย พี่เลี้ยงเอง!"
เซียวซิงหยูเปิดเมนูดู แล้วก็แทบจะตกเก้าอี้
"พี่เยียนหรัน มันแพงไปหน่อยไหมเนี่ย?"
"น้องชาย ฉินเยียนหรันคนนี้มีเงินเลี้ยงน้องอยู่แล้ว!"
เพื่อให้เซียวซิงหยูสบายใจ ฉินเยียนหรันจึงเปิดข้อความการแจ้งเตือนธุรกรรมธนาคารในโทรศัพท์ของเธอให้เขาดู
[บริษัทฟู่ซิงเทคโนโลยี โอนค่าคอมมิชชั่น 2 ล้านหยวน]
[โรงงานเคมีเทียนฮั่น โอนค่าคอมมิชชั่น 3 ล้านหยวน]
[กลุ่มบริษัทหลิว โอนค่าคอมมิชชั่น 5 ล้านหยวน]
…
เซียวซิงหยูไล่อ่านข้อความแต่ละอันแล้วก็ต้องอ้าปากค้าง
"พี่เยียนหรัน กิลด์นภารับงานแล้วได้เงินเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ!"
ฉินเยียนหรันเท้าคาง จิบไวน์แดงด้วยท่าทางสง่างาม
"ใช่เเล้ว รายได้หลักของกิลด์ปรมาจารย์อสูรอย่างพวกเราก็คือการรับงานกำจัดสัตว์อสูร แล้วก็รับค่าคอมมิชชั่นนี่แหละ..."
ในประเทศหลง กองทัพจักรวรรดิมีหน้าที่ปกป้องประเทศ
แต่กองทัพจักรวรรดิก็มีจำนวนจำกัดพวกเขาไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนทั่วประเทศได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้กิลด์ปรมาจารย์อสูรเกิดขึ้น
กิลด์ปรมาจารย์อสูรคือองค์กรที่รวมตัวกันของปรมาจารย์อสูรที่ไม่ได้สังกัดราชวงศ์, กองทัพจักรวรรดิใช้งบประมาณของรัฐบาล ส่วนกิลด์ปรมาจารย์อสูรต้องหารายได้ด้วยตัวเอง
เเละรายได้ของพวกเขาก็มาจากบริษัทที่ถูกอสูรโจมตี หรือหมู่บ้านมีคดีอสูรฆ่าคน
หากกองทัพจักรวรรดิไม่ว่าง ผู้ว่าจ้างก็สามารถขอความช่วยเหลือจากกิลด์ปรมาจารย์อสูรได้
เเละเมื่อเสร็จงานก็จะจ่ายค่าคอมมิชชั่น ยิ่งสัตว์อสูรมีระดับสูงและจำนวนมากเท่าไหร่ ภารกิจก็จะยิ่งยากและค่าตอบแทนก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
ฉินเยียนหรันเล่าเรื่องราวการต่อสู้ของเธอในสนามรบให้เซียวซิงหยูฟังอย่างออกรส
"เซียวหยู ถ้าไม่นับเงินเก็บเล็กๆน้อยๆที่พ่อเก็บไว้ให้เป็นสินสอดในอนาคต ตอนนี้พี่มีเงินเก็บประมาณ 80 ล้านหยวน, เเละทั้งหมดนี่พี่หาได้จากการรับภารกิจเดี่ยวล้วนๆ"
ภารกิจเดี่ยวคือภารกิจที่ปรมาจารย์อสูรทำคนเดียว โดยไม่มีเพื่อนร่วมทีมคอยช่วยเหลือใดๆ
"พี่เยียนหรัน พี่เก่งมาก สมกับที่เป็นวีรสตรี!" เซียวซิงหยูรู้สึกนับถือพี่สาวคนนี้จากใจจริง
ฉินเยียนหรันเป็นคนที่มีบุคลิกโดดเด่น มีความสามารถ เเละยังเป็นถึงปรมาจารย์อสูรระดับห้าดาว
คนแบบนี้ต่อให้ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพ่อ เธอก็สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้อย่างสบายๆ
จากนั้น เมื่ออาหารมาเสิร์ฟแล้ว
เซียวซิงหยูที่หิวมาก จึงกินอย่างเอร็ดอร่อย
"ค่อยๆกินสิ เดี๋ยวก็ติดคอหรอก”
ฉินเยียนหรันเอ็นดูเซียวซิงหยูมาก เธอจึงดูแลเขาอย่างใกล้ชิดราวกับเป็นน้องชายแท้ๆ
หลังจากอิ่มแล้ว เซียวซิงหยูก็มองออกไปยังวิวทิวทัศน์
จากภัตตาคารสวนลอยฟ้าแห่งนี้เขาสามารถมองเห็นวิวกลางคืนของเมืองได้ทั้งหมด
เเละเซียวซิงหยูก็คิดขึ้นในใจว่า
“เมื่อไหร่ที่ฉันหาเงินได้ก้อนแรก ฉันจะพาพี่สาวมากินข้าวที่นี่ เเล้วจะพาเหมิงเหมิงมาด้วย”
“แต่เหมิงเหมิงเป็นถึงคุณหนูรองตระกูลเย่ คงจะเคยชินกับร้านอาหารแบบนี้แล้วมั้ง…”
สำหรับเซียวซิงหยูแล้ว เซียวรั่วเสวี่ยคือที่หนึ่งในใจเขาเสมอ และตอนนี้เขาก็มีสมาชิกในครอบครัวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน นั่นก็คือเย่ซือเหมิง น้องสาวคนใหม่ของเขา
"น้องเซียวหยู อีกสามปีนายก็คงเรียนจบแล้ว" ฉินเยียนหรันถามเปรยด้วยรอยยิ้ม
"พอเรียนจบแล้ว นายอยากมาทำงานที่กิลด์นภาไหมล่ะ?"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวซิงหยูก็รู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย
วิธีที่ปรมาจารย์อสูรจะหาเงินได้ง่ายที่สุดก็คือการเข้าร่วมกิลด์ปรมาจารย์อสูร
กิลด์ต่างๆจะใช้ระบบจ่ายเงินตามผลงาน ตราบใดที่ปรมาจารย์อสูรมีความสามารถ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ค่าคอมมิชชั่นซึ่งมากมายมหาศาล
อย่างที่รู้กัน วัตถุดิบวิวัฒนาการและอาหารเสริมสำหรับอสูรระดับราชานั้น ราคาไม่เคยต่ำกว่าร้อยล้านหยวน
ในยุคนี้ เงินทองเป็นสิ่งสำคัญสำหรับปรมาจารย์อสูร โดยเฉพาะปรมาจารย์อสูรระดับสูงกว่าหกดาว, การเลี้ยงดูสัตว์อสูรของพวกเขานั้นต้องใช้เงินจำนวนมาก
เเละตอนนี้ เซียวซิงหยูก็มีรายได้แค่ทุนการศึกษาเท่านั้น
เวลาที่เขาจะไปซื้อของที่ร้านขายอุปกรณ์อสูรทีไร…ก็ต้องคิดแล้วคิดอีก..."
เซียวซิงหยูจึงครุ่นคิดหาวิธีรวยทางลัดมาตลอด
เเละทันใดนั้น สายตาของเขาก็หันไปมองฉินเยียนหรัน เพราะว่านึกอะไรบางอย่างออก
"พี่เยียนหรัน ผมเข้าร่วมกิลด์นภาตอนนี้เลยได้ไหมครับ?"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินเยียนหรันก็ลูบหัวเซียวซิงหยูพร้อมกับพูดว่า
"น้องชายคนเก่ง นายยังเรียนไม่จบเลยนะ กิลด์ปรมาจารย์อสูรทุกแห่งในประเทศจะไม่รับนักเรียนที่ยังไม่จบการศึกษาหรอก"
นี่ไม่ใช่การเลือกปฏิบัติ แต่เป็นการปกป้องต่างหาก
เพราะเมื่อเป็นสมาชิกกิลด์แล้ว ปรมาจารย์อสูรก็ต้องรับภารกิจต่างๆ ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายถึงชีวิตในสนามรบ รัฐบาลจึงตั้งกฎนี้ขึ้นมาเพื่อปกป้องนักเรียนที่ยังขาดวุฒิภาวะและความสามารถ
"ผมไม่ได้อยากเป็นปรมาจารย์อสูรของกิลด์นภา แต่อยากเป็นแพทย์อสูรของกิลด์นภาต่างหาก"
"แพทย์อสูร?" ฉินเยียนหรันวางแก้วไวน์ลงแล้วพึมพำ
"จริงสิ อาชีพแพทย์อสูรไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุและวุฒิการศึกษา"
เนื่องจากต้องรับภารกิจและต่อสู้กับอสูรในสนามรบอยู่เสมอ สัตว์อสูรของปรมาจารย์อสูรจึงมักจะได้รับบาดเจ็บอยู่เป็นประจำ ดังนั้นกิลด์ปรมาจารย์อสูรทุกแห่งจึงมีแผนกการแพทย์และจ้างแพทย์อสูรมาดูแลรักษาอสูรที่บาดเจ็บ
แพทย์อสูรไม่จำเป็นต้องออกไปเสี่ยงอันตรายในสนามรบ จึงไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุและวุฒิการศึกษา
ฉินเยียนหรันมองเซียวซิงหยูตั้งแต่หัวจรดเท้าเเล้วเอ่ยอย่างจริงจัง
"ในด้านการแพทย์ นายมีความสามารถมากพอแน่นอน"
ฉินเยียนหรันรู้ดีถึงความสามารถทางการแพทย์ของเซียวซิงหยู
ก่อนหน้านี้ อสูรของเธอป่วยเป็นโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ…เเม้ว่าจะไปหาหมอมามากมายก็ไม่หาย
จนกระทั่งเซียวซิงหยูปรากฏตัวขึ้นและจ่ายยาให้ โรคนี้จึงหายไปอย่างน่าอัศจรรย์
"เซียวหยู ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริงๆ แต่พี่ยอมรับเลยว่านายเหมาะที่จะเป็นแพทย์อสูรของกิลด์นภา"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวซิงหยูก็ฉีกยิ้มกว้าง
เขามั่นใจในความสามารถทางการแพทย์ของตัวเองมาก, เพราะตราบใดที่เขามีดวงตาเทพอสูร เขาก็สามารถมองเห็นอาการป่วยของอสูรทุกชนิดและหาวิธีรักษาที่ดีที่สุดได้
"งั้นไปกันเถอะ พี่จะพานายไปที่กิลด์นภา"
"พี่เยียนหรันครับ ถ้าผมทำงานเป็นแพทย์อสูรได้จริงๆผมจะได้เงินเดือนเท่าไหร่ครับ?"
"ไม่ต้องห่วงหรอก ด้วยฝีมือของนาย เงินเดือนไม่น้อยแน่ แถมยังมีค่าคอมมิชชั่นพิเศษให้อีกด้วยนะ!"
เซียวซิงหยูแอบดีใจอย่างมาก
วันนี้ เขาบังเอิญเจอช่องทางหาเงินของเขาเข้าแล้ว!
………………….