ตอนที่ 38 : ช่วงเวลาแห่งการฝึกทหาร
เช้าวันรุ่งขึ้นเวลาเจ็ดโมง การฝึกทหารที่มหาวิทยาลัยหลินชวนเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ รถบัสสองชั้นสีดำบรรทุกเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารติดอาวุธจำนวนมากเข้าสู่บริเวณมหาวิทยาลัยหลินชวน
ในเวลาเดียวกัน นักศึกษาปีหนึ่งจำนวนมากก็หลั่งไหลเข้ามาในสนามกีฬาจากบริเวณหอพัก
ในขณะนั้น รอบๆ แถวของชั้นเรียนการเงินที่สี่มีเสียงพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเสียงอุทานอย่าง “เชี่ย” “โคตรสวย” “นางฟ้า” และ “สมองฉัน” ทำให้บรรยากาศดูคล้ายๆ กับงานพบปะของเหล่าคนดัง จนผู้คนที่อยู่ข้างๆ ก็ถูกดึงดูดให้มามุงดูด้วย
เจียงฉินใช้หมวกต่างพัดพร้อมกับสางผมไปพลางๆ บ่นว่าอากาศร้อนหมาตับแตกจริงๆ
นี่เพิ่งจะเช้าเอง แต่หมวกก็เริ่มจะหมดสภาพแล้ว พอถึงตอนที่เริ่มฝึกทหารก็ยังไม่แน่ใจว่าจะร้อนจนนกเขาขนร่วงหรือเปล่า
ในเวลาเดียวกัน เฉากวงอวี่ โจวเชา และเหรินจื้อเฉียงก็พากันเดินมาจากแถวของชั้นเรียนที่สี่ ใบหน้าพวกเขาแต่ละคนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“เหล่าเจียง ฉันเพิ่งตระหนักว่าตัวเองเป็นกบก้นบ่อมาโดยตลอด!”
เจียงฉินยิ้ม: “นายเพิ่งรู้เหรอ?”
เฉากวงอวี่: “????”
เหรินจื้อเฉียงไม่สนใจเฉากวงอวี่ เขาเอ่ยขึ้นว่า: “เหล่าเจียง นายอย่าเพิ่งหัวเราะ นายคงคิดว่าหงหยานและฉู่ซือฉีสวยที่สุดแล้วใช่ไหม ฉันบอกเลยว่าในชั้นเรียนที่สี่มีสาวสวยที่น่าตะลึงยิ่งกว่าซะอีก เสน่ห์ของเธอนั้นเปล่งประกายจนแทบไม่อาจละสายตาได้เลย”
โจวเชาพยักหน้าเห็นด้วยอย่างดุเดือด: “นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เห็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ เธอเหมือนกับดวงดาว ไม่สิ สวยยิ่งกว่าดวงดาว โลกทัศน์ของฉันแทบพังทลายเลย”
เจียงฉินใช้หมวกในมือโบกเป็นพัดแล้วพูดอย่างใจเย็น: “เว่อร์ขนาดนั้นเลย?”
“ฉันไม่ได้เว่อร์เลย ถ้าไม่เชื่อนายก็ไปดูกับเราสิ เดี๋ยวนายต้องรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นกบในบ่อน้ำแน่นอน!”
“ใช่แล้วเหล่าเจียง ไปดูสาวสวยกันเถอะ ดูฟรีไม่เสียเงิน!”
เจียงฉินโบกมือเบาๆ: “ช่างมันเถอะ อากาศร้อนหมาหอบแบบนี้ แค่เดินสองก้าวก็เหงื่อแตกแล้ว ยังไงก็เก็บแรงไว้ฝึกทหารดีกว่า”
เฉากวงอวี่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย: “ให้ตายเถอะ ทั้งหอพักมีแค่นายคนเดียวเลยที่หยิ่งผยองขนาดนี้!”
“การฝึกทหารใช้เวลาครึ่งเดือน มีโอกาสมากมายให้เจอเธอ ไม่ต้องห่วงหรอก บางทีเธออาจจะมาหาฉันเองก็ได้”
“อะไรนะ มาหานาย? ถ้าเธอมาหานายฉันจะกินขี้ให้ดูเลย”
เจียงฉินอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเฉากวงอวี่: “ถ้าอยากกินขี้ก็พูดมาเลยตรงๆ อย่าเอาฉันไปเป็นข้ออ้าง!”
ในขณะที่กลุ่มคนจากห้อง 302 กำลังคุยกันอยู่ จู่ๆ สาวๆ จากชั้นเรียนการเงินที่สามก็เกาะกลุ่มกันเดินเข้ามาจากทางด้านหลัง: “จะไปดูทำไม ดูไปก็ไม่ใช่ของพวกนายสักหน่อย”
เฉากวงอวี่อดไม่ได้ที่จะหันไปมองและได้เห็นใบหน้าธรรมดาๆ แต่ดูสะอาดตา: “พานซิ่ว ฉันไม่ได้ไปทำอะไรให้เธอโกรธเลยนะ”
“ฉันก็แค่พูดความจริงให้ฟัง”
ชุดฝึกทหารของพานซิ่วตัวใหญ่มาก ดูเหมือนจะย้วยและไม่กระชับ ทำให้ความน่ารักที่เธอเคยมีหายไปหมดสิ้น
“ความรักสวยรักงามเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แค่ดูเฉยๆ จะเป็นอะไร?” เฉากวงอวี่เอ่ยอย่างเคร่งขรึม
พานซิ่วอดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียง: “ว่าไงนะ สาวสวยในชั้นเรียนของเรายังไม่พอให้นายดูหรือไง ถึงได้ไปมองคนที่ไม่อาจเอื้อมแบบนั้น”
เหรินจื้อเฉียงผู้ซึ่งเป็นสุนัขขี้ประจบตอบทันที: “ซิ่วซิ่ว ฉันไม่ได้มองคนอื่น ฉันมองแค่เธอเท่านั้น”
“เพื่อนร่วมชั้นเหรินจื้อเฉียง ถึงเราจะเคยคุยกันครั้งสองครั้ง แต่เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น” พานซิ่วกล่าวกับเขาด้วยสีหน้าเย็นชา
“เอ่อ นี่…”
เฉากวงอวี่เผยสีหน้าเหยียดหยามทันที: “เห็นสาวๆ เป็นไม่ได้ กลายเป็นสุนัขขี้ประจบไปทันที เป็นไงล่ะทีนี้ เอาหน้าร้อนๆ ไปแนบก้นเย็นๆ แท้ๆ!”
เหรินจื้อเฉียงมองไปที่พานซิ่วด้วยสีหน้าเศร้าหมอง จากนั้นก็มองไปยังเฉากวงอวี่: “เออๆ ก็ได้ ฉันหุบปากแล้ว ฉันจะไม่พูดอีก”
และในขณะที่พวกเขากำลังทะเลาะกัน สาวๆ คนอื่นในชั้นเรียนการเงินที่สามก็มองไปยังเจียงฉิน
เจียงฉินที่มีส่วนสูงถึง 1.8 เมตร ยังคงสูงโปร่งท่ามกลางแสงแดดอันเจิดจ้า ชายหนุ่มแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรในมหาวิทยาลัยหลินชวน แต่ในชั้นเรียนการเงินที่สามยังคงถือว่าหากยาก ไม่ต้องพูดถึงเพื่อนร่วมห้องสามคนของเขา ในหอพักเดียวกันมีแค่จั่วป๋อเฉียงซึ่งอยู่ห้องพักถัดไปเท่านั้นที่พอจะสู้เขาได้
แต่ในแง่ของใบหน้าและสีผิว จั่วป๋อเฉียงไม่สามารถเทียบเจียงฉินได้เลย นี่จึงทำให้เจียงฉินดูโดดเด่นมากขึ้นไปอีก
ในเวลานี้เจียงฉินกำลังบ่นพึมพำอยู่ ดูเหมือนจะไม่พอใจมากกับอุณหภูมิในวันนี้ จากนั้นเขาก็เอาน้ำแร่แช่เย็นมาประคบหน้าไปพลาง มองดูร้านสะดวกซื้อฝั่งตรงข้ามไปพลาง และดูเหมือนจะไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบข้างเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นฉากนี้ สาวๆ ทุกคนในชั้นเรียนที่สามก็อดไม่ได้ที่จะกระซิบกัน
“ในบรรดาผู้ชายทั้งหมดในชั้นเรียนที่สาม เจียงฉินนี่แหละขี้เก๊กที่สุด!”
“ถูกต้อง ถ้าฉันไม่ได้ยินมาก่อนว่าเขาแอบชอบคนอื่นตั้งสามปี ฉันคงโดนเขาหลอกไปแล้ว!”
“เขาตามจีบคนอื่นมาตั้งสามปีจริงๆ เหรอ ทำไมฉันมองแล้วไม่เห็นเหมือนเลยอะ”
“เรื่องจริงสิ เหรินจื้อเฉียงเป็นคนบอกกับพานซิ่วด้วยตัวเอง มันจะไม่จริงได้ยังไง”
“ฉิงฉิง เรื่องที่ถนนคนเดินเมื่อวานเธอยังโกรธไม่หายเลยไม่ใช่เหรอ ทำไมเธอไม่ไปแกล้งเขาหน่อยล่ะ?”
ซ่งฉิงฉิงมองไปที่แผ่นหลังของเจียงฉินแล้วส่งเสียงฟึดฟัดเบาๆ ทันใดนั้นก็นึกถึงภาพเมื่อวานที่ตัวเองถูกมองข้าม ใบหน้าที่ผ่านการเมคอัพมาอย่างพิถีพิถันของเธออดไม่ได้ที่จะถูกปกคลุมด้วยความเย็นชา
เธอยังนึกว่าเจียงฉินเป็นคนที่ไม่ชอบทำตัวเด่นและแตกต่างจากคนอื่นๆ แต่เมื่อคืนหลังจากกลับมาถึงหอพัก พานซิ่วก็ได้รู้จากเหรินจื้อเฉียงว่าเจียงฉินตามจีบเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายอยู่สามปี แต่กลับถูกปฏิเสธอย่างโหดร้าย จากนั้นเธอจึงหันไปเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนร่วมห้องฟังอย่างละเอียด
หลังจากได้ยินเรื่องราวนี้ พวกเขาก็ตระหนักว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนถนนคนเดินเมื่อวานล้วนเป็นความเข้าใจผิดทั้งสิ้น จริงๆ แล้วเจียงฉินเป็นเป็นหมาขี้แพ้ที่ชอบเอาอกเอาใจสาวๆ แต่เขาแค่แสร้งทำเป็นสงบเมื่อมองเผินๆ
“แกล้งเขาสักหน่อยก็ได้ ใครบอกให้เมื่อวานเขาเมินฉัน”
ซ่งฉิงฉิงเผยสีหน้าท่าทางน่ารักออกมาและอดไม่ได้ที่จะก้าวไปข้างหน้า แต่ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยปาก เสียงคำสั่ง “หนึ่งสองหนึ่ง หนึ่งสองหนึ่ง” ก็ดังขึ้นจากปากทางเข้าสนามกีฬา จากนั้นก็ตามด้วยขบวนทหารในเครื่องแบบที่กำลังวิ่งเข้ามาด้วยฝีเท้าที่เป็นระเบียบและเสียงคำขานรับที่ดังทรงพลัง
เมื่อเห็นฉากนี้ นักศึกษาปีหนึ่งที่เดิมขี้เกียจและเอื่อยเฉื่อยก็ยืนตัวตรงกันทันที จากนั้นก็เริ่มจัดระเบียบแถวด้วยตัวเอง ซ่งฉิงฉิงจำต้องละทิ้งความคิดและหันหลังกลับไปที่แถวของเธอ
การฝึกทหารครั้งแรกในมหาวิทยาลัยหลินชวนนั้นง่ายมาก นั่นคือการยืนตากแดดจ้าๆ เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง เพื่อทำให้ความดื้อรั้นของนักศึกษาใหม่ลดลงและยังเป็นการฝึกความอดทนของพวกเขาอีกด้วย
แต่มันเป็นวันแรกของการฝึกทหาร ดังนั้นจึงมีสถานการณ์มากมาย บางคนหมดสติไปกลางทาง บางคนก็อาเจียนออกมาอย่างกะทันหัน เมื่อใดก็ตามที่มีบางอย่างเกิดขึ้น เจียงฉินก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังแถวของชั้นเรียนที่สี่ แววตาเขาดูกังวลเล็กน้อย
แต่โชคดีที่ทุกแถวของชั้นเรียนที่สี่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนถึงช่วงพักครึ่ง
“เหล่าเจียง ไปห้องน้ำไหม? ไปด้วยกันสิ”
หลังจากกิจกรรมอิสระช่วงสั้นๆ เริ่มต้นขึ้น โจวเชาก็อดไม่ได้ที่จะตบไหล่เจียงฉินที่ยืนอยู่ข้างหน้า
เจียงฉินหันไปมองเขา: “เมื่อเช้านายเพิ่งฉี่ไปไม่ใช่เหรอ ผ่านไปไม่ถึงสองชั่วโมงจะฉี่อีกแล้ว? ไตนายมีปัญหาหรือเปล่า?”
ลมหายใจของโจวเชาชะงักไป: “นายไม่ปวดเหรอ?”
“ฉันสามารถอั้นไว้ได้อย่างน้อยสามชั่วโมง”
“งั้นฉันไม่ไปแล้ว”
โจวเชาไม่รู้ว่าทำไม แต่เมื่อได้ยินคำว่า “ไต” เขากลับเกิดความรู้สึกมุ่งมั่นขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด จากนั้นก็กัดฟันอั้นปัสสาวะไว้ แล้วนั่งนิ่งๆ อยู่บนสนามกีฬา
ในเวลาเดียวกัน ซ่งฉิงฉิง เจี่ยงเถียน พานซิ่ว และผู้หญิงอีกหลายคนก็เดินเข้ามาล้อมรอบเจียงฉินเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมกันนั้นกลิ่นน้ำหอมต่างๆ ก็ลอยมาตีหน้าเขาทั้งซ้ายและขวา ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้ทำให้เจียงฉินแทบทนไม่ไหว
“เจียงฉิน ฉันได้ยินมาว่านายเคยตามจีบผู้หญิงคนหนึ่งอยู่สามปีตอนเรียนมัธยมปลาย แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวเหรอ?”
(จบตอน)