ตอนที่แล้วตอนที่ 36 : พ่อครับสอนผมหน่อย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 38 : ช่วงเวลาแห่งการฝึกทหาร

ตอนที่ 37 : อย่าหมกมุ่นเรื่องรักใคร่มากเกินไป


“ไม่ๆ ฉันแค่เล่นมุกปลอบใจเหล่าเจียงเฉยๆ คนรวยรุ่นสองอย่างฉันจะไปตามจีบสาวๆ อยู่ตั้งสามปีได้ยังไง? ยิ่งคิดก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย!”

เฉากวงอวี่รู้สึกเสียใจ เขาพยายามแก้ตัว

“อ่า ใช่ๆๆ”

โจวเชาไม่ต้องการได้ยินอะไรจากเขาอีก เขาจึงหยิบกระดาษชำระแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ

“ฉันเคยคบกับสาวห้าคนจริงๆ นะ แต่ยิ่งคบมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่าน่าสนใจน้อยลงเรื่อยๆ จนมารู้ทีหลังว่าการโสดต่างหากที่เป็นรสนิยมของไฮโซ”

“ฉันรู้แล้วน่า เหล่าเฉา แต่นายช่วยเลิกตามรังควานฉันทีได้ไหม ฉันจะไปเข้าห้องน้ำบัดซบนี่ ถ้านายอยากแก้ตัวก็ไปหาเหรินจื้อเฉียงโน่น!”

โจวเชาหยุดอยู่หน้าประตูห้องน้ำพร้อมกับม้วนกระดาษชำระ ถูกเฉากวงอวี่ตามตื๊อจนทนไม่ไหวจึงยื่นมือออกไปปิดประตูระเบียง

เฉากวงอวี่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันหลังกลับมาแล้วไปหาเหรินจื้อเฉียง

เวลานี้เหรินจื้อเฉียงกำลังนอนอยู่บนเตียงพลางพูดคุยกับพานซิ่ว เขายิ้มจนปากแทบฉีกถึงรูหู ปล่อยให้คำพูดของเฉากวงอวี่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา

“อาเฉียง นายน่าจะเข้าใจใช่ไหม? คนรวยรุ่นสองอย่างฉันคงไม่มีทางเป็น…เป็นอะไรนะ เมื่อกี้คำที่เหล่าเจียงเพิ่งพูดคืออะไร? ฉันว่ามันค่อนข้างตรงเลย”

เจียงฉินยิ้ม: “สุนัขขี้ประจบ”

เฉากวงอวี่พนักหน้าอย่างดุเดือด: “ไม่มีทางที่ฉันจะเป็นสุนัขขี้ประจบได้!”

“อ่า ใช่ๆๆ” เหรินจื้อเฉียงกำลังยุ่งอยู่กับการแชท เขาจึงตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ

เฉากวงอวี่ของขึ้นทันที: “เหล่าเหริน นายกำลังดูหมิ่นฉัน!”

“ฉันกำลังคุยกับพานซิ่วอยู่!”

“พวกนายคุยเรื่องอะไรกัน?”

“เอ่อ…”

“บัดซบ อย่าบอกพานซิ่วนะว่าฉันเป็นสุนัขขี้ประจบ ถ้านายบอกเธอ ต่อไปนี้ในชั้นเรียนการเงินที่สามฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?!”

ยังไม่ทันที่เหรินจื้อเฉียงจะได้หันโทรศัพท์หนี เฉากวงอวี่ก็เห็นคีย์เวิร์ดบนนั้นก่อนแล้ว ทันใดนั้นเขาก็สบถออกมาทันที

เหรินจื้อเฉียงเองก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน เขานั่งคุยของเขาอยู่ดีๆ ก็มีคนมาพูดข้างหูว่าสุนัขขี้ประจบ เพราะงั้นก็เลยเผลอพิมพ์ไปตามสัญชาตญาณ

QQ ในเวอร์ชันปี 2008 ยังไม่มีฟังก์ชันการยกเลิกข้อความ ซึ่งทำให้เรื่องราวนี้ยิ่งน่าเศร้าขึ้นไปอีก

เฉากวงอวี่เอาแต่จ้องมองเขาโดยไม่พูดอะไรสักคำ สุดท้ายก็ล้มตัวลงบนเตียงอย่างสิ้นหวัง นอนหงายมองดูเพดานสีขาวอย่างเงียบๆ

คืนนี้เขาสูญเสียทั้งความรักและศักดิ์ศรีของตัวเอง

กลางคืนของฤดูร้อนนั้นอบอ้าวราวกับถูกไฟแผดเผา แต่ในหอพักของมหาวิทยาลัยหลินชวนมีพัดลมเพียงสองตัว ตัวหนึ่งแขวนอยู่เหนือประตูห้องพัก และอีกตัวแขวนอยู่เหนือประตูระเบียง ใบพัดเก่าๆ หมุนอย่างบ้าคลั่งด้วยพลังไฟฟ้า ทำให้เกิดเสียงดังหึ่งๆ ราวกับชายชราตัวน้อยที่กำลังไอจนปอดสั่น

เจียงฉินยื่นหัวออกไปรับลมขณะที่ใช้คอมพิวเตอร์สื่อสารกับซูไน่เกี่ยวกับรายละเอียดเฉพาะของการสร้างเว็บไซต์

แต่ทว่าไม่รู้พี่สาวปีสามคนนี้กำลังทำอะไรอยู่ เธอมักจะตอบข้อความช้ามาก บางครั้งถึงกับพิมพ์ผิดด้วยซ้ำ ซึ่งมันไม่เหมือนท่าทางของคนที่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคเลย มันเหมือนกับว่าเธอไม่ได้จับคอมพิวเตอร์มาแล้วหลายปีมากกว่า

“รุ่นพี่ ฉันพบเว็บไซต์สองสามแห่งที่คล้ายกับความต้องการของคุณ เดี๋ยวคุณลองตรวจสอบมันดูก่อนนะคะ ฉันยังมีบางอย่างต้องทำ”

“?????”

หลังจากผ่านไปครึ่งค่อนวันซูไน่ก็ส่งรูปภาพบางส่วนมาให้ ตามด้วยลิงก์เว็บไซต์ ซึ่งถือเป็นเว็บไซต์ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ในปัจจุบัน โครงสร้างพื้นฐานและเฟรมเวิร์กของเว็บไซต์มีความชัดเจนมากและค่อนข้างตรงตามความต้องการของเจียงฉิน

เจียงฉินศึกษาดูอยู่สักพักและรู้สึกว่าเว็บไซต์เหล่านี้ดูเหมือนจะมีปัญหาทั่วไปร่วมกัน นั่นก็คือการพยายามแสดงความหลากหลายของเนื้อหาโดยทำให้หน้าแรกดูรกแน่นเกินไป

ส่วนของบล็อกพื้นฐานนั้นไม่จำเป็นต้องพูดถึง เพราะมันเป็นสิ่งที่ต้องมีอยู่แล้ว แต่ส่วนต่างๆ อย่างเช่น การจัดอับดับฮอตคีย์เวิร์ด การค้นหาด้วยคำสำคัญ และลิงก์ภายนอกบางส่วนนั้นไม่จำเป็นเลย เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้หน้าเว็บดูยุ่งเหยิง แต่ยังทำให้ผู้ใช้เว็บไซต์เสียเวลาไปกับการคัดกรองสิ่งที่ไม่ต้องการเห็นมากเกินไป

แน่นอนว่าผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของเว็บไซต์ใหญ่ๆ ก็ไม่ได้ทำงานรับค่าแรงไปวันๆ ที่พวกเขาทำแบบนี้เพราะต้องการให้ระยะเวลาการรับชมโฆษณาสูงเพียงพอ ดังนั้นจึงมีแต่ต้องยอมสละตรงส่วนประสบการณ์ของผู้ใช้งานไป

เจียงฉินพิมพ์ความคิดเห็นหนึ่งบรรทัดแล้วส่งไปให้ซูไน่ และยังเสนอความคิดเห็นไปอีกสองสามข้อ

แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะยังยุ่งอยู่จึงไม่ได้ตอบกลับ

เหมือนฉันจะเป็นฝ่ายผู้ว่าจ้างนะ แล้วทำไมถึงต้องมานั่งรอคำตอบเหมือนสุนัขขี้ประจบเลยล่ะ?

ดึกดื่นป่านนี้เธอยังยุ่งกับอะไรอีก เธอไม่แม้แต่จะตอบข้อความของเจ้านายด้วยซ้ำ สงสัยยังไม่เคยโดนสังคมทุบตี

เจียงฉินสบถขณะปิดหน้าต่างแชท จากนั้นเลื่อนเมาส์ไปคลิกที่บัญชี QQ ของหงหยานแล้วถามว่าทุกอย่างโอเคไหม

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรื่องที่เกิดในวันนี้ก็เป็นเพราะเขาเต็มๆ ถ้าเขาไม่แม้แต่จะส่งความห่วงใยธรรมดาๆ ออกไปก็ดูจะไร้มนุษยธรรมเกินไป

หงหยานตอบกลับเร็วมาก อันดับแรกเธอส่งยิ้มให้ จากนั้นก็บอกว่าไม่มีอะไรมาก แค่ไม่ได้คุยกับฉู่ซือฉีแล้วเท่านั้นเอง

อิโมจิยิ้มในปี 2008 แสดงถึงรอยยิ้มที่จริงจังและตรงไปตรงมา ไม่ได้มีความหมายในเชิงลบอะไร ดังนั้นเจียงฉินจึงโล่งใจเล็กน้อย

ไม่มีใครสามารถต้านทานความเย่อหยิ่งของฉู่ซือฉีได้ ท้ายที่สุดเธอก็ถูกพ่อแม่เลี้ยงแบบตามใจมาตั้งแต่เด็ก จึงคิดว่าโลกทั้งใบต้องหมุนรอบตัวเธอ แต่ถ้าคุณไม่สนใจเธอซะอย่าง แม้ว่าเธอจะโกรธแค่ไหนมันก็ไม่มีความหมายอะไร หงหยานคือผู้หญิงฉลาด เธอน่าจะเข้าใจวิธีรับมือด้วยความเย็นชาแบบนี้

แต่เดี๋ยวนะ เรื่องความรักฉันก็ไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวอย่างเห็นได้ชัด แต่ทำไมพฤติกรรมของฉันมันถึงได้เหมือนผู้ชายหน้าหม้อเลยล่ะ?

เจียงฉินรู้สึกหดหู่ใจ หรือว่าชะตาดอกท้อเป็นสิ่งที่ต้องก้าวผ่านสำหรับผู้ที่กลับมาเกิดใหม่?

จากนั้นเจียงฉินก็คลิกที่ QQ ของเฟิงหนานซู และถามเธอว่าปรับตัวกับการนอนที่มหาวิทยาลัยได้หรือยัง เฟิงหนานซูไม่ได้บอกว่าเธอคิดถึงบ้านเลย เพียงแค่บอกว่ากลางคืนที่มหาวิทยาลัยหลินชวนนั้นมืดมาก ในคำพูดของเธอดูเหมือนจะสะท้อนถึงความคิดถึงบ้านหน่อยๆ

นอกจากนี้หยูชาชายังส่งข้อความมาถามเขาว่าได้เจอกับฉู่ซือฉีหรือเปล่า แต่เจียงฉินเป็นคนที่แยบคายมาก พอเห็นข้อความก็รู้ได้ทันทีว่าเธอน่าจะได้ยินเรื่องเหตุการณ์วันนี้จากหวังฮุ่ยหรู ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเหตุผลที่จะมาถามแบบนี้ เขาก็เลยแกล้งทำเป็นออฟไลน์และไม่ตอบกลับ

นอกจากข้อความแชทแล้ว ดูเหมือนว่าในรายการแจ้งเตือนของเขาจะมีคำขอเป็นเพื่อนอยู่หลายรายการ ซึ่งข้อมูลที่กำกับไว้ทั้งหมดอยู่ในรูปแบบเช่น ชั้นเรียนการเงินที่สาม XXX และส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง

หนึ่งในนั้นคือเจี่ยงเถียนที่เฉากวงอวี่ชื่นชมอย่างมาก ซึ่งค่อนข้างเกินความคาดหมายของเขา

[เพื่อนร่วมชั้นเจียงฉิน ฉันเจี่ยงเถียนเองนะ รับเพื่อนฉันหน่อย]

เจียงฉินที่กำลังจะขยับเมาส์ ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนมีฝ่ามือใหญ่และหนามาวางที่ไหล่ เขาหันไปมองและพบว่าหลี่ว์กวงหรงยืนอยู่ข้างหลัง สีหน้าท่าทางของอีกฝ่ายดูค่อนข้างซับซ้อน

“สวัสดีตอนเย็นครับอาจารย์หลี่ว์ คุณมาตรวจหอพักเหรอครับ?”

หลี่ว์กวงหรงอืมครั้งหนึ่งแล้วก็เปิดปากพูดอย่างจริงจัง: “เจียงฉิน คุณค่อนข้างหน้าตาดี แต่ในฐานะนักศึกษาคุณยังต้องให้ความสำคัญกับการเรียน แม้ว่ามหาวิทยาลัยหลินชวนจะไม่ได้ห้ามเรื่องความรักระหว่างนักศึกษา แต่ก็อย่าหมกมุ่นกับมันมากเกินไป”

เจียงฉิน: “??????”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ เหรินจื้อเฉียงและโจวเชาก็ส่งเสียงหัวเราะดังลั่นราวกับเสียงหมาเห่า หัวเราะไปครึ่งทางก็ยังรู้สึกว่าไม่หนำใจ ดังนั้นจึงก้มตัวลงไปขำพร้อมกับโบกกำปั้นทุบเตียงไปด้วย

“เอาล่ะๆ หยุดหัวเราะได้แล้ว ที่ผมมาครั้งนี้ หนึ่งก็เพื่อมาตรวจหอพัก สองก็คือมาแจ้งให้พวกคุณรู้ว่าพรุ่งนี้เช้าจะเริ่มการฝึกทหารอย่างเป็นทางการแล้ว ทุกคนควรเข้านอนแต่หัวค่ำและอย่าไปสาย จะได้สร้างความประทับใจที่ดีให้ครูฝึก”

หลี่กวงหรงพูดตามหน้าที่ประโยคหนึ่ง จากนั้นก็หันหลังออกจากห้องพัก แล้วก็ไปพูดประโยคเดิมเป๊ะๆ ที่ห้องพักถัดไป

(จบตอน)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด