บทที่ 68 ภารกิจใหม่เลเวล 10
บทที่ 68 ภารกิจใหม่เลเวล 10
เมื่อลู่หยางเดินมาถึงประตูของคณะละครสัตว์ มันก็มี NPC ตัวตลกเดินเข้ามาหาชายหนุ่มและพูดว่า
“คุณผู้ชายสนใจเข้าไปรับชมการแสดงของพวกเราไหมครับ?”
“อือ” ลู่หยางตอบพร้อมกับเดินเข้าไปในคณะละครสัตว์
ตอนนี้เป็นช่วงเวลากลางวันและภายในคณะละครสัตว์ก็กำลังทำการแสดงอยู่อย่างมากมาย ทั้งการเดินบนเชือก, การกระโดดข้ามห่วงไฟหรือการเล่นละครตลก
ลู่หยางเดินผ่านพื้นที่บริเวณนี้ไปจนกระทั่งถึงพื้นที่การแสดงที่มีชื่อว่าธันเดอร์สตอมป์
ธันเดอร์สตอมป์คือสนามขนาดใหญ่พื้นที่กว้างมากกว่า 900 ตารางเมตร ผู้แสดงจะยืนอยู่ตรงกลางและรอบ ๆ สนามจะมีประตูขนาดใหญ่ 8 บานที่ทำการปล่อยจิ้งเหลนไฟฟ้าออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยผู้แสดงจำเป็นจะต้องหลบหลีกจิ้งเหลนเหล่านี้ตลอดเวลา และถ้าหากว่าเขาถูกจิ้งเหลนไฟฟ้าสัมผัสแม้แต่ครั้งเดียวก็จะถือว่าพ่ายแพ้ให้กับการแข่งขัน
ลู่หยางเดินไปนั่งโซนผู้ชม ซึ่งในตอนนี้มี NPC กำลังแสดงอยู่ในสนามและมีการเปิดประตูปล่อยจิ้งเหลนไฟฟ้าออกมาเพียงแค่ 4 บานเท่านั้น
จิ้งเหลนไฟฟ้า 4 ตัวที่มีขนาดใหญ่มากกว่าช้างวิ่งออกมาจากประตู ซึ่งหลังจากที่พวกมันหันซ้ายหันขวาอยู่เล็กน้อย จิ้งเหลนเหล่านี้ก็พุ่งเข้าหาผู้แสดงพร้อม ๆ กัน
การวิ่งของจิ้งเหลนดูไม่ต่างไปจากฝูงช้างที่กำลังคลั่งเลยแม้แต่น้อย และพวกมันก็จะทำการก้มหัวเพื่อใช้เขาแหลมบนจมูกเพื่อพยายามขวิดผู้แสดงขึ้นมา
ผู้แสดงกระโดดหลบซ้ายขวาหลบหนีจิ้งเหลนไฟไฟฟ้าทั้งสี่ตัว เมื่อจิ้งเหลนไม่สามารถขวิดใส่เป้าหมายได้ พวกมันก็ไม่ได้มีความคิดที่จะหันหลังกลับเช่นเดียวกันแต่วิ่งเข้าไปในประตูฝั่งตรงข้ามแทน
หลังจากหลบหนีจิ้งเหลนไฟฟ้าไปหลายรอบ ประตูรอบ ๆ สนามก็ค่อย ๆ เปิดใช้งานมากยิ่งขึ้นจากตอนแรกมีประตูเปิดออกเพียงแค่ 4 บาน มันก็ค่อย ๆ เพิ่มเป็น 6 บานและเพิ่มเป็น 8 บานในที่สุด
เมื่อมีจิ้งเหลนไฟฟ้าไฟฟ้าวิ่งออกมาจากประตูทั้งแปดบานอย่างต่อเนื่อง ระดับความยากของการหลบหลีกก็เพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นหลายเท่า โดยจิ้งเหลนไฟฟ้าแต่ละระลอกจะออกมาทุก ๆ 3 วินาที ผู้แสดงจึงเป็นเหมือนกับเรือลำน้อยที่พร้อมจะล่มท่ามกลางกระแสน้ำหลากได้ทุกเมื่อ
“เป็นไง? การแสดงของเรายอดเยี่ยมเลยใช่ไหม?” เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นมาจากด้านข้าง
ลู่หยางหันไปมองทางต้นเสียงก่อนจะได้พบกับชายวัยกลางคนผู้สวมหมวกนักมายากล ใส่สูทหางนกสีดำและมีหนวดเส้นเล็ก ๆ 2 เส้นที่ถูกตกแต่งมาเป็นอย่างดี
คนคนนี้คือคนที่ลู่หยางกำลังมองหา เพราะอีกฝ่ายคือบาเน็ต ผู้จัดการคณะละครสัตว์ผู้ซึ่งเป็นคนคอยมอบภารกิจลับให้กับผู้เล่นนั่นเอง
“มันเป็นการแสดงที่ยากมากจริง ๆ ครับ” ลู่หยางกล่าว
“นี่คือเกมที่ฉันคิดว่ามันเหมาะสมสำหรับลูกผู้ชายมากที่สุด หนุ่มน้อย คุณสนใจอยากจะลองท้าทายมันดูบ้างไหมล่ะ?” บาเน็ตกล่าวอย่างภูมิใจ
“ได้ครับ” ลู่หยางตอบ
“ฉันชอบนักสู้แบบคุณจริง ๆ ว่าแต่คุณอยากจะท้าทายความยากในระดับไหน?” บาเน็ตถาม
ทันใดนั้นมันก็มีภาพหน้าจอปรากฏขึ้นตรงหน้าลู่หยาง โดยมีตัวเลือกตั้งแต่ 2 ประตู, 4 ประตู, 6 ประตู, 8 ประตู และ 16 ประตู
“ผมขอท้าทาย 16 ประตู” ลู่หยางกล่าว
“หนุ่มน้อยนั่นไม่ใช่ตัวเลือกที่ฉลาดมากเท่าไหร่เลยนะ คุณควรจะรู้ว่าโอกาสในการท้าทายมีเพียงแค่ครั้งเดียว หากการท้าทายล้มเหลวคุณจะไม่สามารถท้าทายซ้ำได้อีก คุณแน่ใจแล้วใช่ไหมที่จะเลือกการท้าทายในระดับนี้?” บาเน็ตถามย้ำ
ระบบ: คุณได้พบกับผู้จัดการบาเน็ตที่คณะละครสัตว์ เขาท้าทายให้คุณได้เข้าสู่บททดสอบอันยากลำบาก แต่คุณก็ยังคงเลือกบททดสอบความยากระดับสูงสุด ผู้จัดการบาเน็ตจึงชื่นชมความกล้าหาญของคุณมากและต้องการจะยืนยันว่าคุณต้องการเลือกความยากในระดับนี้จริง ๆ หรือไม่?
“แน่ใจครับ” ลู่หยางตอบ
“ในเมื่อคุณยืนยันแล้วก็เป็นอันตกลง ฉันจะอธิบายกฎให้คุณฟังเมื่อประตูทั้ง 16 บานเปิดออกพร้อมกันจะมีจิ้งเหลนไฟฟ้าวิ่งออกมาเป็นระลอกทุก ๆ 3 วินาที เกม ๆ นี้จะใช้เวลาทั้งหมด 3 นาทีและ คุณไม่สามารถใช้เวทมนตร์ใด ๆ ในระหว่างการท้าทายได้รวมถึงห้ามสัมผัสโดนจิ้งเหลนไฟฟ้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเข้าเงื่อนไขใดในสองเงื่อนไขนี้เกมก็จะจบลงในทันที”
“เข้าใจแล้วครับ” ลู่หยางกล่าว
ในชาติที่แล้วลู่หยางคุ้นเคยกับกฏเหล่านี้มาก เพราะเมื่อเขาได้รู้ว่ามันมีภารกิจลับในคณะละครสัตว์ เขาจึงได้ทำการศึกษากลยุทธ์และฝึกฝนวิธีการเคลื่อนไหวเป็นเวลานานกว่าหนึ่งเดือน ก่อนที่จะเริ่มกล้าท้าทายภารกิจนี้เป็นครั้งแรก
ลู่หยางเดินเข้าไปกลางสนามพร้อมกับมองไปรอบ ๆ ประตูทั้ง 16 บาน จากนั้นเขาก็สูดลมหายใจเพื่อสงบสติอารมณ์และพูดกับบาเน็ตที่ยืนอยู่บนอัฒจันทร์ว่า
“เริ่มได้เลยครับ”
“ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทั้งหลาย วันนี้พวกเรามีผู้กล้ามาเยือนโดยเขาเลือกท้าทายเกมการแข่งขันระดับสูงสุดถึง 16 ประตู ขอให้ทุกท่านส่งเสียงปรบมือให้กับเขาด้วยครับ” บาเน็ตประกาศเสียงดัง
NPC รอบสนามเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็ปรบมือขึ้นมาพร้อม ๆ กันจนทำให้ชายหนุ่มนึกย้อนกลับไปในชาติก่อนของตนเอง
“3, 2, 1”
“เริ่มการแข่งขัน!” บาเน็ตตะโกนพร้อมกับประตูทั้งสิบหกบานที่ถูกเปิดออก ก่อนจะมีจิ้งเหลนไฟฟ้าไฟฟ้า 16 ตัวแรกร้องคำรามและวิ่งออกมาจากประตู
ลู่หยางเริ่มทำการหลบหลีกในทันทีและถึงแม้จิ้งเหลนไฟฟ้าจะวิ่งเร็วมาก แต่การหลบหลีกในรอบแรกก็ไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไรขนาดนั้น
ความยากที่แท้จริงอยู่ตรงที่จิ้งเหลนมีขนาดใหญ่มาก เมื่อผู้เล่นยืนอยู่ตรงหน้าจิ้งเหลนระลอกแรกพวกเขาจะไม่สามารถรับรู้ถึงทิศทางการวิ่งของจิ้งเหลนในระลอกต่อ ๆ ไปได้เลย
ด้วยเหตุนี้การพยายามคาดเดาการเคลื่อนไหวของจิ้งเหลนระลอกต่อไปจึงจำเป็นจะต้องอาศัยทักษะการฟังอันดีเยี่ยม และทักษะในการยืนตำแหน่งของตัวผู้เล่นว่าพวกเขาจะนำตัวเองไปยืนอยู่ตรงตำแหน่งไหน
ทุกการเคลื่อนไหวจะต้องคำนวณหาพื้นที่ที่ได้ยินเสียงฝีเท้าจิ้งเหลนระลอกต่อไปได้อย่างชัดเจน หรือการเคลื่อนไหวเพื่อเปิดมุมหาพื้นที่สังเกตเป็นการล่วงหน้า ซึ่งถ้าหากว่าผู้เล่นไม่ได้ปฏิบัติตามกฎทั้งสองข้อนี้ มันก็เป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะสามารถหลบจิ้งเหลนในระลอกต่อ ๆ ไปได้
โชคดีที่ลู่หยางเชี่ยวชาญทักษะทั้งสองชนิดนี้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะในช่วงที่เขาเป็นทหารรับจ้างเขาต้องทำการต่อสู้กับผู้อื่นในป่าฝนยามค่ำคืนอยู่เป็นประจำ หากเขาไม่สามารถคาดเดาทิศทางการยิงจากฝ่ายตรงข้ามได้ การเข้าไปเผชิญหน้ากับศัตรูในป่าที่มืดมิดก็ไม่ต่างไปจากการเดินเข้าไปตายเลยแม้แต่น้อย
ลู่หยางหลบหลีกจิ้งเหลนไฟฟ้า 30 ระลอกติดต่อกันได้อย่างง่ายดาย ทำให้เหล่าบรรดาผู้ชมต่างก็ส่งเสียงร้องเชียร์ขึ้นมาดังมากขึ้นกว่าเดิม
แม้เสียงปรบมือจากผู้ชมจะดูเหมือนเป็นการยกย่องผู้เล่นในสนาม แต่ความเป็นจริงนี่คือสิ่งรบกวนที่ทางตัวเกมตั้งใจจะสร้างขึ้นมา เพราะถ้าหากผู้เล่นเสียสมาธิไปกับเสียงปรบมือของผู้ชม พวกเขาก็จะพลาดโดนจิ้งเหลนวิ่งเข้ามาชนอย่างแน่นอน
ท้ายที่สุดจิ้งเหลน 16 ตัวก็วิ่งเข้ามาจาก 16 มุมพร้อมกัน การเสียสมาธิไปแม้แต่เพียงเสี้ยววิวินาทีเดียวมันก็มากพอที่จะก่อให้เกิดข้อผิดพลาดอันร้ายแรงได้แล้ว
ลู่หยางไม่ได้ถูกรบกวนจากปัจจัยภายนอกเลยแม้แต่น้อย เขารวบรวมสมาธิทั้งหมดเอาไว้ที่จิ้งเหลนที่อยู่ในสนาม ซึ่งหลังจากชายหนุ่มหลบหนีจิ้งเหลนไฟฟ้าไปได้อีก 20 รอบ ลู่หยางก็สังเกตเห็นว่าความเร็วในการปล่อยจิ้งเหลนออกจากประตูกำลังเพิ่มมากขึ้น
แต่เดิมจิ้งเหลนจะถูกปล่อยออกมาทุก ๆ 3 วินาที แต่ในตอนนี้จิ้งเหลนถูกปล่อยออกมาในทุก ๆ 2 วินาทีแล้ว แน่นอนว่าการเร่งรอบปล่อยจิ้งเหลนออกมาย่อมทำให้ความยากลำบากในการหลบหลีกเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
หลังจากหลบหลีกติดต่อกันอีกหกรอบ ชายหนุ่มก็ถูกบีบให้ไปอยู่ตรงบริเวณมุมขวาล่างของเวที ทางด้านหลังของเขาคือประตูจำนวน 4 บาน ส่วนด้านหน้าคือจิ้งเหลน 6 ตัวที่กำลังวิ่งเข้ามา
ด้านหลังมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาอย่างอึกทึก แต่ลู่หยางก็ยังไม่แสดงท่าทีอันตื่นตระหนกออกมาเลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มรวบรวมสมาธิทั้งหมดไว้ที่หูเพื่อฟังเสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งเข้ามา จากนั้นเขาก็กระโดดหลบไปทางด้านซ้ายอย่างฉับพลัน
หลังจากกระโดดชายหนุ่มก็ยังคงไม่หยุดการเคลื่อนไหว เพราะหลังจากกลับมาตั้งหลักได้แล้วเขาก็วิ่งไปทางด้านซ้าย 6 ก้าวติดต่อกัน ซึ่งทันทีที่ลู่หยางวิ่งออกไปนั้นพื้นที่ที่เขาเคยยืนอยู่ก็มีจิ้งเหลน 4 ตัวพุ่งออกมาอย่างกระทันหันจนทำให้เขาสามารถหลบหนีการโจมตีระลอกนี้ไปได้อย่างฉิวเฉียด
ดูจากการละเล่นนี้แล้ว เราขอยอมแพ้เลยนะ หลบไม่พ้น!!! 555