บทที่ 359 เปิดค่ายกล

เฟิงสีเดินอย่างเชื่องช้า ร่างกายมหึมา เหยียบป่าเขาราบเรียบ บดขยี้ก้อนหิน ทำให้สัตว์อสูรในป่าลึกแตกฮือ

แต่เดินไปเดินมา เฟิงสีดูเหมือนเข้าใจบางอย่าง กดความเกลียดชังในดวงตาลง แล้วทรุดตัวลงกับพื้น กลั่นกรองพลังเลือดต่อ

หยางจี้หย่งระดมพลังวิญญาณอีกครั้ง ใช้วิชาหอก โจมตีเฟิงสี

แต่เขาใช้อาคมชั้นสูงหอกรัศมีทองไปแล้ว สูญเสียพลังวิญญาณไปครึ่งหนึ่ง ตอนนี้พลังวิญญาณไม่พอ พลังอาคมธรรมดา แม้ปลายหอกจะพุ่งราวสายฝน แทงเข้าร่างเฟิงสี เฟิงสีก็ไม่สนใจ

เฟิงสีดูเหมือนรู้ว่า เพียงกลั่นกรองพลังเลือดเสร็จ ก็สามารถลงเขาหาอาหารได้ จึงไม่เอาชนะชั่วคราว

หยางจี้หย่งไม่กล้าโจมตีอีก

หากพลังวิญญาณหมด คนที่อันตรายก็คือเขา ถ้าถูกเฟิงสีกิน ไม่เพียงเขาจะตายที่นี่ หมูตัวนี้ก็เท่ากับได้ "ยาเลือด" ขั้นสร้างฐานเพิ่มอีกเม็ด

หยางจี้หย่งถอย จางหลานก็ก้าวออกมา

พลังวิญญาณทั่วร่างเขาสั่นสะเทือน นิ้วชี้รวมเป็นดาบยักษ์สีฟ้าอ่อน ชี้ไปแต่ไกล คมดาบพุ่งตรง แทงเข้ากลางศีรษะเฟิงสี

เนื้อหนังบนศีรษะเฟิงสีแตกกระจาย แล้วค่อยๆ รวมตัวใหม่

นี่เป็นอาคมที่จางหลานทุ่มสุดกำลัง เขาเพิ่งเข้าสู่ขั้นสร้างฐาน ยังไม่ได้เรียนอาคมชั้นสูงของตระกูลจาง แต่อาคมนี้ก็มีพลังไม่ธรรมดา เพียงพอให้เฟิงสีเกรงกลัว

เฟิงสีโกรธอีกครั้ง ดิ้นลุกขึ้น ม่านตาหมุนคลั่ง แล้วจ้องจางหลานไม่วางตา คำรามเสียงดัง พุ่งเข้าใส่จางหลาน

จางหลานล่อเฟิงสีเดินไปอีกระยะ พลังวิญญาณหมดสิ้น ไม่สามารถใช้อาคมที่เหมาะสมคุกคามเฟิงสีได้อีก

ตอนนี้หยางหรงพุ่งหอกดั่งมังกร ใช้พลังทั้งหมดโจมตีครั้งเดียวแล้วถอย ล่อเฟิงสีต่อไป

เมื่อพลังวิญญาณเขาไม่พอ ผู้อาวุโสหยู หัวหน้าสำนักงานโจว ท่านผู้เฒ่าอันก็ออกโรงต่อเนื่อง

คนหนึ่งโจมตีหลัก ทหารเต๋าคอยล่อ คนอื่นพักฟื้นพลัง

แล้วผลัดกันออกรบ ทีละก้าว ล่อเฟิงสีมาถึงค่ายโจรเขาดำเก่า ซึ่งก็คือที่ตั้งมหาค่ายกลปราบอสูรห้าธาตุในปัจจุบัน

ระหว่างภูเขาสองลูก อาคารตั้งเรียงราย ค่ายกลเคร่งขรึม

เฟิงสีก้าวเข้ามหาค่ายกล พลันรู้สึกตัว คำรามเสียงดังจะถอยหนี

หยางจี้หย่งตะโกนทันที "ปิดประตู!"

ที่ทางเข้ามหาค่ายกลระหว่างภูเขา ประตูเหล็กขนาดใหญ่สองบาน ปิดจากซ้ายขวา กลายเป็นกำแพงเหล็กกล้าสองชั้นใน-นอก ปิดทางถอยของมหาอสูร

เฟิงสีไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น พุ่งชนประตูเหล็ก

ประตูที่หล่อด้วยเหล็กกล้าและผ่านการตีของช่างหลอมอาวุธ ถูกเฟิงสีพังทะลุหนึ่งบาน ประตูราวกับปั้นดิน บิดเบี้ยวยุบลง พังในพริบตา

พลังของเฟิงสี น่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้!

ทุกคนสูดลมเย็นเฮือก

เห็นเฟิงสีจะพุ่งชนอีกครั้ง ประตูเหล็กอีกบานก็คงจะพัง

แสงทองสายหนึ่งจู่ๆ ก็ปรากฏบนประตูเหล็ก ลายค่ายกลบนนั้นวาบ แผ่ไปทุกมุมของประตู เสริมความแข็งแรงให้ประตูทั้งบาน

เฟิงสีพุ่งชนอีกครั้ง คราวนี้ชนเข้ากับค่ายกล

แสงทองบนค่ายกลสั่นสะเทือนรุนแรง ค่อยๆ หม่นลง จนในที่สุดก็ดับไป แต่ประตูเหล็กยังคงสมบูรณ์

เฟิงสีถูกขัดขวาง ถ่วงเวลาได้ชั่วครู่ แววตาโม่ฮว่าเข้มขึ้น รวดเร็วใช้จิตสำนึกติดต่อแกนกลาง เส้นทางพลังวิญญาณทั้งหมดของมหาค่ายกล ที่ซับซ้อนแน่นขนัด เชื่อมถึงกันหมด ปรากฏในห้วงจิตสำนึกของโม่ฮว่าอย่างชัดเจนทุกเส้น

จิตสำนึกโม่ฮว่าขยับเล็กน้อย ใช้แกนกลางควบคุมมหาค่ายกล เปิดเส้นทางพลังวิญญาณทั้งหมดในพริบตา

โม่ฮว่าตะโกนเสียงเย็น

"มหาค่ายกลปราบอสูรห้าธาตุ เปิด!"

ในชั่วพริบตา จุดศูนย์กลางมหาค่ายกลสว่างขึ้น หินวิญญาณที่กองบนค่ายกลซ้อนรวมพลังละลายในทันที กลายเป็นพลังวิญญาณมหาศาล ไหลทะลักเข้าสู่มหาค่ายกลทั้งหมด

พลังวิญญาณทะลัก ไหลเวียนเร็วจี๋ มหาค่ายกลสั่นสะเทือน ถึงกับส่งเสียงครืนดังสนั่น

ราวกับเครื่องจักรบำเพ็ญเพียรขนาดมหึมา กำลังทำงานสุดกำลัง หรือราวกับสัตว์อสูรยักษ์ กำลังคำรามต่ำ

กระแสพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งไร้ที่เปรียบ สะเทือนออกไปในพริบตา

พร้อมกันนั้น ผู้ฝึกตนทั้งหมดในเมืองตงเซียน ต่างสะท้านในใจ พากันเงยหน้ามองไปทางเขาใหญ่เฮยซาน

พวกเขาเห็นภายใต้แสงอาทิตย์ยามเช้า รัศมีห้าสีพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้า

ลายค่ายกลบนภูเขาสว่างขึ้นทีละสาย เชื่อมต่อกันเป็นผืน ทอเป็นม่านห้าสีมหึมา พลังวิญญาณมหาศาลรวมตัวเป็นแม่น้ำ ไหลเวียนในมหาค่ายกล

มหาค่ายกลแผ่รัศมีสี่ทิศ ครอบคลุมป่าลึก งดงามและยิ่งใหญ่ กดทับกลิ่นคาวเลือดที่คลุ้งอยู่บนภูเขามานาน ให้สลายสิ้น!

ในชั่วขณะนั้น ผู้ฝึกตนทั้งหมด ต่างตะลึงงัน ในใจสะเทือนอย่างบอกไม่ถูก

นี่คือมหาค่ายกลอันยิ่งใหญ่สง่างาม...

คือมหาค่ายกลที่พวกเขาทุ่มเทสุดกำลังสร้างขึ้น...

ค่ายกลนี้ ราวกับการปรากฏของวิถีสวรรค์อันยิ่งใหญ่

แข็งแกร่งจนใจสั่น งดงามจนใจลอย

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต และอาจเป็นครั้งเดียวในชีวิต ที่ผู้ฝึกตนทั้งหมดในเมืองตงเซียนได้เห็นมหาค่ายกลระดับหนึ่งเปิดเต็มกำลัง!

บนภูเขาทางใต้อันห่างไกล

อาจารย์จวงก็มองมหาค่ายกลอันกว้างใหญ่ในป่าลึกอย่างหวนคำนึง สีหน้ามีแววคิดถึง

ส่วนปู่ขุยที่อยู่ด้านหลัง สีหน้าเรียบเฉย แววตาเข้มขึ้น ปากพึมพำ

"ถึงกับ...สร้างสำเร็จจริงๆ..."

ในขณะเดียวกัน เฟิงสีรู้สึกถึงอันตรายถึงตาย คำรามคลั่ง

มันใช้ขาทั้งสี่ ดิ้นรนสุดกำลัง พยายามวิ่งออกจากมหาค่ายกล

แต่เมื่อเข้ามาในมหาค่ายกลของโม่ฮว่าแล้ว การจะออกไปก็ไม่ง่ายเช่นนั้น

โม่ฮว่าเพียงมองมันแวบเดียว ยกมือน้อยๆ ขึ้น ลวดลายตรงกลางแกนกลางวาบแสง

พื้นในมหาค่ายกลจู่ๆ ก็กลายเป็นทรายไหล หมุนวนเร็วจี๋ เกิดเป็นวังวน ไหลรวมเข้าสู่ส่วนกลาง

ค่ายกลดักธาตุดินในระบบห้าธาตุ - ค่ายกลทรายไหล!

แววตาเฟิงสีดุร้าย มือเท้าดิ้นรน แต่พื้นกลายเป็นทรายไหล ไม่มีที่ยันตัว มันไม่อาจดิ้นหลุด ได้แต่ถูกวังวนทรายดูด ร่างมหึมาถูกทรายลากเข้าสู่ใจกลางมหาค่ายกล

และตรงกลางมหาค่ายกล คือแก่นแท้ของการล้อมสังหารในมหาค่ายกลปราบอสูรห้าธาตุ

ค่ายกลซ้อนล้อมสังหารห้าธาตุ

ค่ายกลซ้อนล้อมสังหารห้าธาตุ ใช้รากฐานดินหินที่ช่างฝีมือสร้างเป็นสื่อค่ายกล มีรูปร่างเป็นเขาวงกตห้าธาตุหมุนเวียน ประกอบด้วยทองไม้น้ำไฟดิน สร้างตามตำแหน่งห้าธาตุ

ทิศตะวันตกเป็นทอง ทิศตะวันออกเป็นไม้ ทิศเหนือเป็นน้ำ ทิศใต้เป็นไฟ ตรงกลางเป็นดิน

แต่ละทิศ มีธาตุหลักเป็นแกน สร้างเป็นค่ายกลพื้นฐานห้าธาตุที่เต็มไปด้วยค่ายกล กลายเป็นเขาวงกตห้าธาตุ

หลักการพื้นฐาน หนึ่งคือ "ล้อม" สองคือ "สังหาร"

ค่ายกลพื้นฐานธาตุทองอยู่ซ้าย ใช้ค่ายกลโซ่ทองเป็นค่ายกลล้อม ทองเกิดน้ำ ใช้ค่ายกลดาบวารีเป็นค่ายกลสังหาร

ค่ายกลพื้นฐานธาตุไม้อยู่ขวา ใช้ค่ายกลคุกไม้เป็นค่ายกลล้อม ไม้เกิดไฟ ใช้ค่ายกลฝนเพลิงเป็นค่ายกลสังหาร

ค่ายกลพื้นฐานธาตุน้ำอยู่บน ใช้ค่ายกลคลื่นน้ำเป็นค่ายกลล้อม น้ำเกิดไม้ ใช้ค่ายกลพิษไม้เป็นค่ายกลสังหาร

ค่ายกลพื้นฐานธาตุไฟอยู่ล่าง ใช้ค่ายกลเพลิงแดงเป็นค่ายกลล้อม ไฟเกิดดิน ใช้ค่ายกลแยกดินเป็นค่ายกลสังหาร

ค่ายกลพื้นฐานธาตุดินอยู่กลาง ใช้ค่ายกลทรายไหลเป็นค่ายกลล้อม ดินเกิดทอง ใช้ค่ายกลรัศมีทองเป็นค่ายกลสังหาร!

ค่ายกลห้าธาตุครบถ้วน เชื่อมโยงกัน เกิดไม่สิ้นสุด กลายเป็นระบบล้อมสังหารที่สมบูรณ์

ค่ายกลล้อมขังเฟิงสี ขัดขวางการเคลื่อนไหว ค่ายกลสังหารทำลายพลังเลือด ปลิดชีวิต

พร้อมกันนั้นยังใช้การเกิดของห้าธาตุ ใช้ธาตุของค่ายกลล้อมเพิ่มพลังค่ายกลสังหาร ใช้พลังวิญญาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพิ่มพลังค่ายกลสังหาร

ค่ายกลพื้นฐานห้าธาตุ ตรงที่ติดกันเชื่อมต่อกัน กลายเป็นเขาวงกต

รอบเขาวงกต คืออาคารดินไม้แข็งแรง

บนอาคาร มีค่ายกลเสริมความแข็งแรง ส่วนใหญ่เป็นธาตุดินไม้ เสริมด้วยธาตุทอง แทรกด้วยค่ายกลธาตุน้ำไฟ และมีพลังวิญญาณมหาศาลของมหาค่ายกลหนุน แข็งแกร่งทำลายไม่ได้

เฟิงสีไม่อาจแหกวง ไม่มีทางออก ได้แต่ไปตามเขาวงกตห้าธาตุ วิ่งซ้ายพุ่งขวา ผ่านค่ายกลล้อมสังหารห้าธาตุ วนเวียนไปมา จนพลังเลือดหมดสิ้นและตาย

ห้าธาตุหมุนเวียน ตัดขาดชีวิต นี่คือมหาค่ายกลปราบอสูรห้าธาตุ ระดับหนึ่งสิบเอ็ดลาย!

เฟิงสีถูกค่ายกลทรายไหลดูดเข้าค่ายกล ตำแหน่งแรกที่อยู่คือค่ายกลพื้นฐานธาตุดินตรงกลาง

พลังวิญญาณอันมหาศาลของมหาค่ายกล และเสียงครืนของการไหลเวียนพลังวิญญาณ ทำให้เฟิงสีที่ดุร้ายและโง่เขลารู้สึกถึงภัยคุกคามยิ่งใหญ่

มันใช้กำลังทั้งหมด พุ่งชนกำแพงเขาวงกต

เสียงครืนดังสนั่น แต่กำแพงที่มีพลังมหาค่ายกลเสริม ไม่ได้แตก เพียงแต่แสงค่ายกลบนนั้นหม่นลงบ้าง เห็นได้ชัดว่าพลังวิญญาณถูกใช้ไปไม่น้อย

โม่ฮว่าความคิดขยับ จิตสำนึกนำทาง ในพริบตา พลังวิญญาณใหม่ก็ไหลมาเติม แสงค่ายกลบนกำแพงหินก็กลับมาเป็นปกติ

เฟิงสีชนกำแพงหลายครั้งไม่สำเร็จ จำต้องไปตามเขาวงกต เริ่มวิ่งหนี

แต่ค่ายกลทรายไหลขังมันไว้ พื้นทรายยุบ เฟิงสีก้าวเดินลำบาก เคลื่อนไหวช้ามาก

พร้อมกันนั้น ค่ายกลรัศมีทองสองข้างก็สว่างขึ้นทีละอัน รวมเป็นคมดาบทองนับร้อยนับพัน ราวห่าฝน พุ่งเข้าใส่ พันรอบเฟิงสี ทำลายพลังเลือดครั้งแล้วครั้งเล่า

พลังวิญญาณอันมหาศาล และพลังสังหารอันรุนแรง ทำให้ผู้ฝึกตนขั้นสร้างฐานทั้งหมดนอกมหาค่ายกลขวัญผวา

"นี่คือพลังของมหาค่ายกลล้อมสังหารระดับหนึ่งหรือ..."

แม้มหาค่ายกลจะเป็นแค่ระดับหนึ่ง ค่ายกลก็เป็นแค่ขั้นฝึกลมปราณ แต่จำนวนค่ายกลนี้ น่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน!

เมื่อค่ายกลสังหารทำงาน เหมือนผู้ฝึกตนนับหมื่นใช้อาคมพร้อมกัน หนาแน่นดั่งห่าฝน ไม่มีที่หลบ ไม่มีทางป้องกัน

เมื่อติดอยู่ในมหาค่ายกลเช่นนี้ แม้ผู้ฝึกตนขั้นสร้างฐานร้อยคน รวมตัวเป็นกองทัพเต๋า ก็คงตายหมดไม่มีรอด!