ตอนที่แล้วบทที่ 260 แพ็คซัง (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 262 แพ็คซัง (3)

บทที่ 261 แพ็คซัง (2)


[แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ\]

[Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย]

[หลังแปลจบ คิดว่าจะมีการเกลาคำเบื้องต้น แก้คำผิด ปรับสำนวนให้สละสลวย เทียบคำต่อคำ อยากขอให้ทุกคนสนับสนุนไปจนจนนะครับ ส่วนคนที่สนับสนุนแล้ว ก็ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนกันเสมอมาครับ]

บทที่ 261 แพ็คซัง (2)

สายตากล้องทุกตัวจับจ้องไปที่คังวูจิน เหล่านักแสดง พิธีกร นักแสดงตลก ผู้กำกับ และบุคคลที่เกี่ยวข้องต่างตะลึงงัน ทุกคนลุกขึ้นยืนเป็นตาเดียว หันมองคังวูจินด้วยความพิศวง

แล้วเสียงปรบมือก็ดังขึ้น

-แปะ แปะ!

-แปะ แปะ!

เสียงปรบมือดังกึกก้องทั่วห้องโถงอันโอ่อ่า แม้จะยังตกอยู่ในภวังค์ แต่ทุกคนก็ปรบมือแสดงความยินดีให้กับคังวูจิน เสียงฮือฮาดังก้องไปทั่วทุกมุมห้อง ประสานกับเสียงปรบมือที่ดังกระหึ่ม

“ว้าว- แค่คังวูจินได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมก็น่าตกใจจะแย่อยู่แล้ว······แต่เขาคว้ารางวัลมาได้จริง ๆ เชียวเหรอ?”

“นั่นสิ พูดตรง ๆ แค่ปีแรกที่เข้าชิงรางวัลแพ็กซังในฐานะนักแสดงสมทบชายก็ถือว่าไม่ธรรมดาแล้วนะ? แต่นี่ได้รางวัลนักแสดงสมทบชายไปเลย”

“โอ้โห···อิจฉาชะมัด คังวูจินนี่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์ไหนคุ้มครองกันแน่? ทำอะไรก็สำเร็จไปหมด”

“ไม่คิดเลยว่าจะได้รางวัลนักแสดงสมทบชาย”

ตั้งแต่ปีก่อนจนถึงปีนี้ เหล่าคนดังในวงการบันเทิงเกาหลีที่โด่งดังและเป็นที่กล่าวขวัญต่างมารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้ ในสายตาของพวกเขา คังวูจินเป็นบุคคลที่แปลกประหลาดยิ่งนัก แปลกแบบไม่เหมือนใคร

“ปีก่อนกวาดรางวัลนักแสดงหน้าใหม่จากงานประกาศรางวัลภาพยนตร์และรางวัลบันเทิงไปหมดแล้วยังไม่สาแก่ใจ ปีนี้ได้ทั้งรางวัลนักแสดงหน้าใหม่และรางวัลนักแสดงสมทบชายพร้อมกันอีกหรือ? ไม่เคยมีปรากฏการณ์แบบนี้มาก่อนใช่มั้ย?”

“ที่ได้เข้าชิงพร้อมกันก็มีถมไป”

“นี่ไม่ใช่แค่เข้าชิง มีใครบ้างที่ปีที่สองในวงการได้ทั้งรางวัลนักแสดงหน้าใหม่แล้วยังคว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายมาครองได้อีก?”

“เมื่อก่อนสมัยบลูดราก้อน คุณมุนโซบินเคยคว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่ สาขานักแสดงสมทบมาแล้วนี่ ปี 2002 หรือเปล่านะ แต่สำหรับแพ็กซัง คุณคังวูจินนี่คนแรกเลย เท่าที่ฉันรู้”

“เกือบสิบปีเชียวกว่าจะมีคนได้อีก แถมที่แพ็กซังนี่ คุณคังวูจินเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์คนแรกเลย”

“เดบิวต์แค่สองปี ทำไมพลังมหาศาลขนาดนี้กันนะ”

เดบิวต์ปุ๊บก็กวาดรางวัลนักแสดงหน้าใหม่และรางวัลอื่น ๆ ไปได้ถึงแปดรางวัล นับเป็นปรากฏการณ์เหนือความคาดหมายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่พลังของคุณคังวูจินไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านั้น ในครั้งนี้เขากลับมาสร้างตำนานบทใหม่ด้วยการคว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่และนักแสดงสมทบพร้อมกัน ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยปรากฏในวงการบันเทิงเกาหลี แต่นับว่าหาได้ยากยิ่งในประวัติศาสตร์หลายสิบปี

“เส้นทางของเขามันเหลือเชื่อสุด ๆ ใคร ๆ ก็เลยอยากเป็นแบบคุณคังวูจินกันหมด แม้แต่เด็กฝึกในบริษัทเราก็พูดถึงแต่คุณคังวูจิน”

“ก็น่าเหลือเชื่อจริง ๆ นั่นแหละ อายุก็ห่างกันแค่ปีสองปี แต่คุณคังวูจินได้เล่นเป็นตัวเอกในผลงานของผู้กำกับระดับตำนาน แถมยังได้รางวัลนักแสดงสมทบอีก”

ปฏิกิริยาของทุกคนที่มาร่วมงานไม่ได้ผิดแผกแปลกไปจากที่ควรจะเป็น หากจะแปลกก็คงเป็นตัวตนของคุณคังวูจินเอง เขาเป็นเสมือนพายุลูกใหญ่ที่พลิกโฉมวงการบันเทิง

จากนั้น

-แปะ แปะ!

เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วงาน คุณคังวูจินลุกขึ้นจากที่นั่ง

-ลุกขึ้น

และก้าวเดินไปยังเวที ระหว่างทางเหล่านักแสดงอย่างฮงฮเยยอนและรยูจองมินต่างก็ส่งเสียงแสดงความยินดีอย่างครื้นเครง

“บ้าไปแล้ว! คุณวูจินสร้างเรื่องใหญ่แล้ว! ยินดีด้วย!”

เสียงหัวเราะดังก้องกังวาน “ฮ่าๆ ๆ คุณวูจิน! ยินดีด้วยนะครับ พลิกโผอีกแล้วนะ”

ไม่ใช่แค่คนในวงการบันเทิงหรือผู้กำกับที่เพิ่งพบหน้าเป็นครั้งแรกเท่านั้น ทุกคนที่เดินผ่านคังวูจินต่างก็เอ่ยแสดงความยินดี เขาจึงค่อย ๆ เดินออกมาตามช่องว่างระหว่างที่นั่ง

“······”

ทางเดินจากกลางห้องโถงไปจนถึงเวทีที่สว่างไสวถูกเปิดโล่ง วูจินก้าวเท้าอย่างสุขุม มีกล้องคอยถอยหลังบันทึกภาพเขาอยู่ด้านหน้า บนจอภาพขนาดยักษ์ที่ติดตั้งบนเวทีใหญ่ ฉายภาพด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังของเขา

ใบหน้าคมคายดูสง่าและหนักแน่น โดดเด่นเป็นสง่าราศี

ภายนอกดูเข้มแข็ง แต่ภายในใจกลับว่างเปล่า หัวใจของวูจินเต้นระรัวเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน

‘โอ้โห! บ้าจริง! จริงเหรอเนี่ย?! ใจเย็น ๆ อย่าสะดุดนะ ตั้งสติ! คังวูจิน ตั้งสติไว้!’

ภายในใจของเขาสับสนวุ่นวาย แต่ไม่มีใครล่วงรู้ถึงความรู้สึกนี้ ดังนั้นวูจินจึงยิ่งต้องตั้งใจเดิน เป้าหมายมีเพียงแค่เวทีเบื้องหน้า เขาไม่สนใจเสียงปรบมือและผู้คนที่มุงดูอยู่สองข้างทาง รวมถึงกล้องที่เขาหลงลืมไปนานแล้ว

‘ฮู้ว- ฮู้ว ตื่นเต้นชะมัด แค่ขึ้นรับรางวัลทำไมรู้สึกอยากจะอาเจียนแบบนี้วะเนี่ย? แล้วนี่มันรางวัลนักแสดงสมทบใช่ไหม? ฉันได้แน่ ๆ ใช่มั้ย?!’

เบื้องหลังท่าทางที่ดูหยิ่งยโส ภายในใจของคังวูจินกลับเปราะบางเหลือเกิน เขายังไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง ตอนที่รู้ว่าตัวเองได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบก็ตกใจมากอยู่แล้ว แต่พอฮวาลินประกาศชื่อเขา วูจินเกือบจะร้อง “ว้าว!!” แล้วลุกพรวดขึ้นยืน

น่าขันที่แม้ในวินาทีนี้ ความเข้าใจผิดยังคงก่อตัวขึ้นทั่วทั้งงานประกาศรางวัล

ฮงฮเยยอนและรยูจองมินกำลังปลื้มปริ่มใจอย่างเหลือล้น

“ดูสิ วูจิน สีหน้านิ่งเฉยเชียว รู้ตัวบ้างไหมว่ากำลังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการบันเทิงเกาหลี?”

“รู้อยู่แล้วล่ะ ถึงทำหน้านิ่งแบบนั้นไง เห็นชัด ๆ ว่าเป็นสีหน้าแบบ ‘ก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้’”

“······ยังไม่พอใจอีกเหรอ”

“ลืมไปแล้วหรือไงว่าที่บลูดราก้อน วูจินประกาศอะไรไว้? เขาบอกว่าจะคว้ารางวัลนักแสดงนำชาย รางวัลนักแสดงสมทบชายก็เป็นแค่ก้าวเล็ก ๆ เท่านั้น”

“เฮ้อ เหลือเชื่อจริง ๆ คาแรกเตอร์แบบนี้ไม่เบื่อบ้างหรือไงนะ”

ผู้กำกับอันกาบกและผู้กำกับควอนกีแท็กนั่งปรบมืออย่างเงียบเชียบ เคียงข้างกัน

“หึ ๆ คำประกาศที่บลูดราก้อนกำลังกลายเป็นความจริงขึ้นเรื่อย ๆ”

“หมายถึงที่เขาบอกว่าจะคว้ารางวัลนักแสดงนำชายปีหน้าใช่ไหมครับ?”

“ใช่ แล้วนักแสดงคนอื่น ๆ ที่เห็นแบบนี้จะร้อนใจขนาดไหนกันนะ ดูล่ะสิ วูจินทำหน้ามั่นใจขนาดนั้น สร้างประวัติศาสตร์ให้แพ็กซังได้แล้วแท้ ๆ แต่ก็ยังนิ่งเฉย ใครได้เห็นอิมแพ็คแบบนี้ต่อหน้าต่อตาก็ต้องเสียวสันหลังวาบกันทุกคนแหละ”

ผู้กำกับควอนกีแท็ก ที่ดูล้าขึ้นกว่าเดิม อาจเพราะพักผ่อนน้อย ได้มองวูจินที่กำลังเดินขึ้นเวทีพลางแย้มยิ้ม

“อืม... ผมว่า ‘รางวัลนักแสดงนำชาย’ นั่นน่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ผมคิดว่าเขาน่าจะได้จากที่อื่นที่ไม่ใช่เกาหลีนะครับ”

ผู้กำกับอันกาบกเหลือบมองผู้กำกับควอนกีแท็ก ก่อนจะพยักหน้าอย่างเชื่องช้า

“เห็นด้วย ถ้าไม่เป็นแบบนั้นคงน่าเสียดายแย่”

-กึก

คังวูจินก้าวขึ้นสู่เวทีอันกว้างใหญ่ของงานประกาศรางวัลแพ็กซังอีกครั้ง บรรยากาศต่างจากตอนที่เขาได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ราวฟ้ากับดิน สภาพจิตใจของวูจินก็เช่นกัน

‘ใกล้เข้ามาแล้ว ใกล้เข้ามาแล้ว อีกแค่นิดเดียว’

ความตื่นเต้นเอ่อล้นจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ วูจินพยายามรวบรวมสติทั้งหมดเพื่อรักษาบุคลิกภาพ เขาค่อย ๆ ก้าวเข้าไปหาสองนักแสดงที่ถือช่อดอกไม้และถ้วยรางวัลอยู่ในมือ วูจินรับช่อดอกไม้จากนักแสดงชาย

“ขอแสดงความยินดีด้วยครับ คุณวูจิน”

“ขอบคุณครับ”

ถ้วยรางวัลสีทองอร่ามอยู่ในมือของฮวาลิน เธอส่งมอบถ้วยรางวัลให้วูจินพร้อมรอยยิ้มบางเบา บรรยากาศโดยรอบดูเงียบสงบกว่าที่คาดคิด

“วูจิน ยินดีด้วยจริง ๆ ค่ะ จากใจจริงเลย”

“ครับ ฮวาลิน ขอบคุณครับ”

ทว่าภายในใจของคนทั้งคู่กลับแตกต่างจากภายนอกลิบลับ โดยเฉพาะฮวาลิน แม้ภายนอกจะดูสุขุมเยือกเย็น แต่ภายในใจกลับเต้นรัวราวกับกลองรบ หากไม่มีใครอยู่ตรงนั้น เธอคงปรบมืออย่างบ้าคลั่งและเต้นรำอย่างเริงร่าไปแล้ว

‘กรี๊ด!! นี่มันเรื่องจริงเหรอ? จริง ๆ ใช่มั้ย?! สุดยอดไปเลย! คุณวูจินเก่งมาก!! ทำไมฉันถึงดีใจขนาดนี้เนี่ย?! อ๊ะ ไม่สิ ก็ต้องดีใจอยู่แล้วนี่! ’

ฮวาลินพยายามอย่างหนักเพื่อสะกดกลั้นความต้องการที่จะโผเข้ากอดวูจิน เธอและนักแสดงชายถอยหลังไปสองสามก้าว ถึงเวลาที่คังวูจินจะกล่าวแสดงความรู้สึก

“อืม-”

แต่วูจินไม่ได้พูดใส่ไมโครโฟนในทันที เขาก้มมองถ้วยรางวัลนักแสดงสมทบชายในมือครู่หนึ่ง 'นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันได้รับมันจริง ๆ งั้นเหรอ? รู้สึกเหมือนฝันไปเลย'

'ช่างเถอะ พูดอะไรออกไปก็ได้'

คังวูจินเงยหน้าขึ้น สายตาว่างเปล่า ความคิดวนเวียนอยู่ในหัว 'จะพูดอะไรดีล่ะ?' นี่มันกี่ครั้งกี่หนแล้วนะ กับการขึ้นรับรางวัลแบบนี้ ถึงแม้คราวนี้จะเป็นรางวัลนักแสดงสมทบ ซึ่งต่างจากรางวัลนักแสดงหน้าใหม่โดยสิ้นเชิง แต่มันก็ไม่ได้มีความหมายต่างจากเดิมมากนักสำหรับเขา

ไม่มีอะไรจะพูดเป็นพิเศษ... สมองเหมือนแผ่นกระดาษขาว

“เอ่อ-”

วูจินรู้สึกคับขันขึ้นมาทันที ไม่ว่าจะเค้นสมองอย่างไร ก็ยังนึกคำพูดไม่ออก ทั้งที่เป็นรางวัลนักแสดงสมทบแท้ ๆ ถ้าพูดอะไรจืดชืดเกินไปก็คงไม่ดีแน่ ทันใดนั้นภาพหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว เอาเถอะ! เอาแค่นี้แหละ! เขาตัดสินใจแล้วจึงพูดต่อเสียงเบา

“ขอบคุณครับ ผมรู้สึกว่าพูดไปเยอะแล้วในครั้งก่อน ๆ งั้นผมจะแสดงความรู้สึกด้วยท่าทางง่าย ๆ แทนนะครับ”

ทันใดนั้น ฮวาลินที่ยืนอยู่ด้านหลัง และนักแสดงมากมายที่นั่งอยู่ด้านหน้าก็ต่างพากันเอียงหัวด้วยความสงสัย แต่คังวูจินยังคงทำหน้าตาย

ตุบ!

เขาวางถ้วยรางวัลและช่อดอกไม้ลงบนพื้นใกล้เท้า จากนั้น

สวบ!

ก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาทำท่าทางที่กำลังฮิต ฮวาลินหลุดขำโดยไม่รู้ตัว ทำไมน่ะเหรอ? เพราะท่าทางที่คังวูจินทำอยู่นั้น เหมือนกับภาพบนฝาบะหมี่ถ้วยสำเร็จรูป “มักกุกซูโรยสาหร่าย” ไม่มีผิดเพี้ยน

‘หืม นิ้วโป้งสองข้างนั่น! น่ารักชะมัด!!’ ฮวาลินได้แต่คิดในใจ

นิ้วโป้งสองข้างที่ดูเคร่งขรึมนั่น คังวูจินกำลังแสดงท่าทางที่ตนเคยดูถูกเหยียดหยามออกมาอย่างภาคภูมิใจ ประมาณ 5 วินาทีเห็นจะได้

ภายในงานอันกว้างใหญ่พลันเงียบสงัดชั่วขณะ

“······”

“······”

“······”

ใครสน? หลังจากชูนิ้วโป้งสองข้างให้กับกล้องและผู้ชมนับพัน วูจินก็โค้งคำนับโดยไม่สนใจความอับอายที่พุ่งขึ้นมาจากข้างใน

‘เฮ้อ เวรเอ๊ย’

ความอับอายถาโถมเข้าใส่ แต่คังวูจินกลับกลบเกลื่อนด้วยท่าทีแข็งกร้าว 'นิ่งไว้ไอ้ชาย นิ่งเข้าไว้ อะไรก็แก้ไขได้'

จากนั้นคังวูจินก็ถือช่อดอกไม้และถ้วยรางวัล เดินลงจากเวทีอย่างเงียบเชียบ

ในเวลาเดียวกัน

“อุ้บ!”

“หึ ๆ ไอ้หมอนี่ คาแรกเตอร์เด่นจริง ๆ”

“ฮ่าๆ ๆ อะไรเนี่ย ท่าสองนิ้วโป้งเนี่ย!”

เสียงหัวเราะดังกึกก้องไปทั่วงานประกาศรางวัลแพ็กซัง

ย้อนกลับไป

ช่วงที่ 1 และ 2 ของ ‘งานประกาศรางวัลศิลปะแพ็กซัง’ ซึ่งคังวูจินได้สร้างความฮือฮาไว้ ก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยรางวัลผลงานยอดเยี่ยมฝ่ายโทรทัศน์ตกเป็นของ ‘ผู้เชี่ยวชาญนิติจิตวิทยาเสเพล’ และรางวัลใหญ่ฝ่ายภาพยนตร์ตกเป็นของ ‘พ่อค้ายาเสพติด’ นักแสดงที่สนิทกับคังวูจินอย่างรยูจองมินและฮงฮเยยอน ต่างก็คว้าถ้วยรางวัลมาได้คนละรางวัล

แน่นอนว่า การได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่และรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมพร้อมกันนั้น คังวูจินเป็นคนแรกและคนสุดท้ายที่ทำได้

เมื่อพิธีมอบรางวัลแพ็กซังสิ้นสุดลง เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากที่ต้องทยอยออกจากงาน การออกจากงานจึงต้องเป็นไปตามลำดับ คังวูจินอยู่ตรงกลางจึงต้องรออยู่ครู่หนึ่ง และในขณะนั้นกำลังถูกกล้องของทีมงานบันทึกภาพไว้

ชเวซองกุนที่มัดผมหางม้า กำลังยืนมองดูอยู่ที่ทางเข้าด้วยแววตาเปี่ยมสุข

“หึ ๆ ไอ้เด็กคนนี้ เหมือนมนุษย์ต่างดาวไม่มีผิด! ก็รู้อยู่แล้วว่านายต้องได้ ถ้านายไม่ได้ ใครจะได้ล่ะ สุดยอดจริง ๆ นายเนี่ย ตลอดเวลาที่ฉันอยู่ในวงการบันเทิงก็แทบไม่เคยเห็นใครเป็นแบบนี้เลย!”

หลังจากนั้นไม่กี่สิบนาที

ก็ถึงคิวของคังวูจินและนักแสดงคนอื่น ๆ ที่จะออกจากงาน ไม่ผิดคาด ที่ทางเข้าของห้องโถงจัดงานแพ็กซัง มีนักข่าวจำนวนมากมายืนรออยู่ พวกเขาดูคลั่งไคล้อย่างมาก

-แชะ แชะ แชะ!!

เพื่อข่าวพิเศษที่กำลังเดินเข้ามา

“ออกมาแล้ว! คังวูจิน!” เสียงร้องตื่นเต้นดังขึ้น

“คุณวูจิน! ได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่และรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมพร้อมกัน รู้สึกอย่างไรบ้างครับ!”

“กรี๊ด! อย่าผลักสิ! คุณวูจิน! ถือถ้วยรางวัลแล้วโพสท่าหน่อย!” เสียงโหวกเหวกดังระงม ท่ามกลางความวุ่นวายนั้น นักข่าวคนหนึ่งตะโกนถามขึ้น

“คุณวูจิน! รู้ไหมครับว่าการได้รับรางวัลพร้อมกันในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์แพ็กซัง! การได้รับรางวัลครั้งนี้ คุณพอจะคาดการณ์ไว้บ้างไหมครับ!”

คังวูจินยังคงสีหน้านิ่งเฉย ตอบกลับเสียงเรียบ

“ไม่รู้ครับ ไม่ได้ใส่ใจอะไรเป็นพิเศษ”

เช้าวันรุ่งขึ้น วันศุกร์ที่ 19

เวลาประมาณ 10 โมงเช้า ณ ตึกสูงระฟ้าใจกลางย่านยางแจ เป็นที่ตั้งของสตูดิโอให้เช่าขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ชั้น 4 และ 5 โดยเฉพาะชั้น 4 ที่คึกคักเป็นพิเศษ ทีมงานถ่ายทำและพนักงานบริษัทผู้ผลิตหลายสิบคนกำลังเคลื่อนไหววุ่นวายราวกับผึ้งแตกรัง

“30 นาที! อีกแค่ 30 นาที-”

“เก้าอี้ในห้องพักนักแสดงไม่พอครับ!”

“PD มาถึงแล้วครับ!”

“เชิญทางนี้ไปห้องออดิชั่นครับ!”

เมื่อก้าวออกจากลิฟต์ จะพบสำนักงาน 3 ห้องเรียงรายตลอดทางเดิน ประตูทุกบานเปิดอ้า ป้ายเคลือบพลาสติกถูกติดไว้ที่หน้าประตูแต่ละบาน

ห้องพักนักแสดง 1 ห้องพักนักแสดง 2 ห้องพักนักแสดง 3

ภายในห้องพักนักแสดงทั้งสามห้อง ซึ่งมีขนาดกะทัดรัด มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เก้าอี้หลายสิบตัวถูกจัดวางไว้ ปราศจากการตกแต่งใด ๆ มีเพียงเจตนาเดียวคือการรองรับผู้คนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

เมื่อเดินออกจากห้องพักนักแสดงไปจนสุดทางเดิน จะพบกับพื้นที่หลักของสตูดิโอให้เช่า

ป้ายที่ติดอยู่หน้าประตูเขียนว่า

-‘ห้องออดิชั่น’

ภายในห้องที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีโต๊ะยาวตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าประตู บนโต๊ะมีถังน้ำดื่มวางไว้พร้อมกล้องขนาดเล็กสามตัวที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้า กลาง และปลายโต๊ะ นอกจากนั้นก็ว่างเปล่า

ทันใดนั้น

เสียงประตูแง้มเปิดเบา ๆ ดังแคร่ก

ร่างคุ้นตาของชายร่างท้วมหนวดเคราเข้มปรากฏขึ้น PDซงมันวู ในชุดแจ็คเก็ตสีกากี เดินเข้ามาในห้อง เขาสำรวจห้องออดิชั่นโดยรอบ ก่อนพยักหน้ารับรู้

“อืม… พอใช้ได้” ซงมันวูพึมพำ

ในเวลาเดียวกัน ทีมงานเบื้องหลัง ทั้งผู้ช่วยผู้กำกับและทีมงานอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ด้านหลังPDซงมันวู ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไม่นาน PDซงมันวู ก็นั่งลงกลางโต๊ะยาวพลางถอนหายใจยาวเหยียด

“โอ๊ย…ตายแล้ว” ซงมันวูบ่นพึมพำ

ฤทธิ์แอลกอฮอล์จากงานเลี้ยงเล็ก ๆ หลังงานประกาศรางวัลแพ็กซังเมื่อคืนยังคงหลงเหลือ บวกกับความเหน็ดเหนื่อยจากการเตรียมงานสร้าง “มารร้ายผู้แสนดี” ปรากฏชัดบนใบหน้าของเขา ในขณะนั้นเอง ก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ใช่ทีมงาน เดินเข้ามาทักทายPDซงมันวู ราวสิบห้าคนเห็นจะได้

“สวัสดีครับ PD” เสียงทักทายดังขึ้น

“อ้อ…มาถึงแล้วเหรอครับ” PDซงมันวู ตอบรับ

พวกเขาคือทีมงานฝ่ายผลิตจาก Netflix เกาหลี

เหตุผลนั้นแสนเรียบง่าย

อีกเพียงชั่วโมงกว่า ๆ ข้างหน้านี้ การออดิชั่นรอบแรกของ “มารร้ายผู้แสนดี” จะเริ่มต้นขึ้นในห้องนี้

ข่าวสารการออดิชั่นได้ถูกกระจายไปยังค่ายบันเทิงและสถาบันการแสดงทั่วประเทศ รวมถึงประกาศอย่างเป็นทางการ สร้างความฮือฮาให้กับวงการบันเทิง ชุมชนและโซเชียลมีเดียของเหล่านักแสดงต่างคึกคัก เป็นโอกาสอันหาได้ยากที่งานสร้างระดับบล็อกบัสเตอร์จะเปิดออดิชั่นใหญ่เช่นนี้

นี่คือโอกาสทองของผู้ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดง

ดังนั้น แม้จะไม่อาจรู้จำนวนที่แน่ชัด แต่วันนี้น่าจะมีนักแสดงหน้าใหม่หรือไร้ชื่อเสียงหลายร้อยคนหลั่งไหลมาเข้าร่วมออดิชั่น

และแล้ว

เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

ติ๊ง!

ภายในลิฟต์ บรรดาผู้สมัครเข้าออดิชั่น ‘มารร้ายผู้แสนดี’ กำลังทยอยลงมาไม่ขาดสาย มีผู้มาถึงแล้วราวสามสิบคน กลุ่มเพื่อนห้าคนที่เพิ่งลงจากลิฟต์มาเป็นนักแสดงจากสถาบันสอนการแสดงหลายแห่ง แต่ละคนล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป

ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มร่างสูงโปร่งราวกับนายแบบ หนุ่มหน้าตาน่ารัก หญิงสาวใบหน้าหวานละมุน ชายหนุ่มร่างกำยำ หรือหญิงสาวที่มีใบหน้าโดดเด่นสะดุดตา

ชายหนุ่มร่างกำยำในกลุ่มมองไปยังเหล่าทีมงานจำนวนมากด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“โอ๊ย… แย่แล้ว ใจเต้นแรงจนแทบจะวายอยู่แล้ว”

ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งตบหลังเพื่อนเบา ๆ

“ไปห้องน้ำเป็นเพื่อนหน่อยไหม? ไปปล่อยของกัน”

“ไปสิ”

“ว่าแต่ เมื่อวานงานประกาศรางวัลแพ็กซัง คังวูจินสร้างเรื่องอีกแล้ว คนสมัครคงจะแน่นขนัดกว่าเดิมอีกแน่ ๆ”

“อ่า… ได้รางวัลนักแสดงหน้าใหม่กับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมพร้อมกันเลย สุดยอดจริง ๆ”

“ใช่ สุดยอดมาก แต่ก็นั่นแหละ เขาคือเป้าหมายของฉัน เขาก็ต้องเก่งขนาดนั้นแหละ”

“วันนี้ฉันก็เตรียมการแสดงของคังวูจินมาเหมือนกัน ว่าจะลองเล่นบทรองหัวหน้าพัค”

“ห๊ะ? บ้าไปแล้วเหรอ? เอาบทที่ยากขนาดนั้นมาแสดงเนี่ยนะ?”

สำหรับวิธีการออดิชั่นคือการแสดงแบบอิสระ ขณะนั้นหญิงสาวผมบ๊อบร่างเล็กในกลุ่ม ซึ่งมองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นคนน่ารักจิ้มลิ้ม พึมพำเสียงเบา

“คังวูจินน่ะของปลอม”

“······อะไรนะ?”

หญิงสาวมีหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ทว่าน้ำเสียงกลับดูเย็นเยียบน่าขนลุก

“ของปลอม ฉันมองออก”

ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งถอนหายใจ

“นี่เธอเริ่มอีกแล้วนะ ห้ามพูดจาแปลก ๆ เกี่ยวกับไอดอลของฉันเชียว”

“แม่ฉันก็เคยพูดแบบนี้ ท่านบอกว่าคังวูจินโดนปีศาจสิง ฉันก็เห็นด้วย”

“...” เขาเว้นจังหวะเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณแม่ของเธอทำงานอะไรเหรอ”

“หมอดูค่ะ” เธอตอบกลับเสียงใส

ในวินาทีนั้นเอง เสียงประกาศดังก้องขึ้น

“เอาล่ะครับ! ทุกท่านที่เดินทางมาถึงแล้ว เชิญนั่งประจำที่ได้เลยครับ! เดี๋ยวผมจะแจกบัตรคิวให้ทุกท่านนะครับ!”

การออดิชั่นรอบแรกของภาพยนตร์เรื่อง ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว

-จบ-

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_

5 2 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด