บทที่ 260 แพ็คซัง (1)
[แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ\]
[Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย]
[หลังแปลจบ คิดว่าจะมีการเกลาคำเบื้องต้น แก้คำผิด ปรับสำนวนให้สละสลวย เทียบคำต่อคำ อยากขอให้ทุกคนสนับสนุนไปจนจนนะครับ ส่วนคนที่สนับสนุนแล้ว ก็ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนกันเสมอมาครับ]
บทที่ 260 แพ็คซัง (1)
“อุ๊บ!” คังวูจินอุทานในใจ รู้สึกขาพันกันจนร่างเซถลา หากปล่อยไว้เช่นนี้คงได้หน้าทิ่มพื้นเป็นแน่
‘อึ๊ด! เฮ้ย! แป๊บนึง!’
ในเวลานี้ เขาพยายามรักษาภาพลักษณ์สุดเท่เอาไว้ หากล้มลงไปในสภาพเช่นนี้ ถึงแม้จะยังคงสีหน้าเรียบเฉยไว้ได้ แต่มันก็คงกลายเป็นภาพชวนหัวไม่น้อย เหล่านักข่าวนับร้อยคงบันทึกภาพกันอย่างเมามัน
แค่คิดก็ขนลุกแล้ว
ทว่าร่างกายของวูจินเสียสมดุลไปเสียแล้ว กำลังจะล้มหน้าคว่ำ โอ๊ย แป๊บนึง! ในเสี้ยววินาทีนั้น วูจินใช้พลังเฮือกสุดท้ายยื่นแขนออกไป ด้านซ้ายมีป้ายโลโก้แพ็กซังตั้งอยู่
-ผั๊วะ!
คว้าได้! รอดตัวแล้ว คว้าไว้ได้ทันเวลา หากเป็นคนทั่วไปคงลงไปกองกับพื้นเสียแล้ว แต่เพราะวูจินมี “ความสามารถต่อสู้” สลักอยู่ภายใน จึงแสดงไหวพริบเช่นนี้ออกมาได้
‘หืด! บ้าเอ๊ย เกือบไปแล้วไหมล่ะ?’
ปัญหาอยู่ตรงนี้ต่างหาก ท่าทางของวูจินในตอนนี้ดูไม่เป็นธรรมชาติอย่างเห็นได้ชัด หากทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาว คงดูน่าขันไม่ต่างจากการล้มลงไป
วูจินใช้ความหน้าด้านขั้นสุดยอด ครุ่นคิดหาทางแก้ไขสถานการณ์
-กึก
ราวกับสายน้ำที่ไหลเอื่อย เขาแสร้งทำเป็นว่าทุกการเคลื่อนไหวที่ผ่านมาตั้งใจทำ ยื่นมือไปยังป้ายโลโก้ที่เกี่ยวพันกัน หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายก็คือ
“กรี๊ด!! ว้าว!! คุณวูจิน!! ฉันเป็นแฟนคลับคุณจริง ๆ ค่ะ!!”
“ขอบคุณครับ”
วูจินคว้าโทรศัพท์มือถือจากมือแฟนคลับที่ยื่นมาให้ กดชัตเตอร์รัว ๆ สร้างภาพความเป็นกันเอง ก่อนจะแจกลายเซ็นให้แฟน ๆ รอบข้าง "แบบนี้โอเคไหมครับ? ดูเป็นธรรมชาติใช่ไหม?" เขาใช้แฟนเซอร์วิสกลบเกลื่อนเหตุการณ์เกือบหกล้มเมื่อครู่ได้อย่างแนบเนียน แม้จะเกือบเสียฟอร์มไปเล็กน้อย แต่รอยยิ้มและคำทักทายที่ส่งให้แฟน ๆ ยังคงดูเป็นกันเองราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะก้าวเท้าต่อไปบนพรมแดง
พรมแดงในตอนนี้กลับกลายเป็นเส้นทางสู่ขุมนรกในสายตาของคังวูจิน
‘คลื่นไส้ชะมัด’
ยังไงซะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
-กึก
คังวูจินเดินผ่านพรมแดงแสนยาวเหยียดมาถึงทางเข้าห้องโถง หลังจากถ่ายรูปและให้สัมภาษณ์สั้น ๆ กับเจ้าภาพ คังวูจินก็ก้าวเข้าสู่หอประชุม D สถานที่จัดงาน ความงดงามอลังการภายในนั้นทำเอาเขาแทบหยุดหายใจ แน่นอนว่าอาการตะลึงงันนั้นถูกเก็บซ่อนไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉย
‘โอ้โห...นี่มันอะไรกันเนี่ย จอเบ้อเริ่มเทิ่ม!’
ที่นั่งในห้องโถงหลักมีมากกว่าพันที่นั่ง บนเวทีมีจอสกรีนขนาดมหึมามากกว่าห้าจอ แสงไฟจากเพดานและรอบเวทีส่องประกายลงมา ทีมงานถ่ายทอดสดและเหล่าดาราที่เดินทางมาถึงก่อนกำลังทักทายปราศรัยกันอย่างคึกคัก
บรรยากาศก่อนเริ่มงานยังคงดูผ่อนคลาย เป็นกันเอง
คังวูจินที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าห้องโถงรู้สึกอึดอัดใจที่จะแทรกตัวเข้าไปในกลุ่มคน อยากจะชิ่งหนีกลับบ้านเสียเหลือเกิน แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้
“สวัสดีครับ คุณวูจิน!”
เหล่านักแสดงที่จำคังวูจินได้พากันเข้ามาทักทาย เขาสะดุ้งเล็กน้อยอย่างปิดไม่มิด ถึงแม้จะเป็นครั้งแรกที่ได้พบกันตัวเป็น ๆ แต่ทุกคนกลับแสดงออกอย่างสนิทสนม ราวกับรู้จักกันมานาน
“‘พ่อค้ายาเสพติด’ สนุกมากเลยครับ! ‘ปลิง’ ถ่ายทำไปถึงไหนแล้ว?”
"อ้อ... ครับ"
"ว่าแต่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั่นยังพอมีเหลือบ้างไหมครับ ผมหาซื้อไม่ได้เลย"
"ขออภัยด้วยครับ ผมก็ไม่มีเหมือนกัน"
ฮงฮเยยอนผู้มาใหม่ เดินเข้ามาในงานเพียงลำพัง เธอยื่นมือเข้าช่วยเหลือวูจิน ชุดเดรสสีดำเปิดไหล่เผยผิวขาวเนียนขับเน้นรูปร่างระหง เธอก้าวเข้ามาใกล้เขา กลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยมาแตะจมูก
"ทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ?"
แม้กลิ่นกายหอมกรุ่นจะยั่วยวนเพียงใด แต่วูจินก็ยังคงทำทีเมินเฉย เขาตอบกลับเสียงเรียบ
"ทักทายคนนิดหน่อยครับ"
"ถ้าโดนรุมตรงนี้จะแย่นะคะ ไปที่ของเรากันเถอะ"
"ครับ"
ฮงฮเยยอนคว้าแขนวูจินไว้แล้วกล่าวลาบรรดานักแสดง แต่เส้นทางกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด ผู้คนมากมายต่างรุมล้อมเข้ามาทักทาย ทั้งทีม 'รักน้ำค้างแข็ง' ที่ไม่ได้พบหน้าค่าตากันเสียนาน รวมถึงทีม 'พ่อค้ายาเสพติด' ที่มีจินแจจุนร่วมวงสนทนาด้วย ระหว่างทาง พวกเขาบังเอิญเจอรยูจองมินจึงพากันเดินกลับพร้อมกัน ด้วยผู้คนในแวดวงบันเทิงมากมายเบียดเสียดกัน บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความคึกคักวุ่นวาย
พวกเขาได้พูดคุยกับPDยุนบยองซอนและPDคนอื่น ๆ อย่างสั้น ๆ
ภายในงานมีทั้งพิธีกร นักแสดงตลก และเหล่าไอดอลชื่อดังมากมาย
ถึงแม้จะเคยเห็นหน้าค่าตากันบ้างผ่านทางโทรทัศน์หรือข่าวคราว แต่วูจินก็ยังรู้สึกไม่คุ้นเคยกับพวกเขาอยู่ดี
'แปลกดีแฮะ'
ช่างน่าสนใจเสียจริง คงเป็นเพราะมีแต่คนดังระดับแนวหน้าอยู่เต็มไปหมดกระมัง วูจินเริ่มรู้สึกเฉยชาต่อภาพเบื้องหน้า ท่ามกลางผู้คนมากมาย เขาเหลือบไปเห็นฮวาลิน
"คุณวูจิน ทักซิโดชุดนี้เข้ากับคุณมากเลยนะคะ"
"ครับ คุณฮวาลินก็เช่นกัน ชุดสวยมากครับ"
"จริงเหรอคะ? อืม! ว่าแต่ฉันได้ลองกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้นเมื่อวานนี้แล้วค่ะ หายากมากเลย แต่รสชาติก็ใช้ได้อยู่นะ"
"งั้นเหรอครับ?"
เมื่อวานก็ได้พบกับผู้กำกับอันกาบกเช่นกัน ช่วงท้ายของกระบวนการตัดต่อใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ผู้กำกับควอนกีแท็กและทีมผู้กำกับคนอื่น ๆ ก็เข้ามาทักทายอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แค่พูดคุยและทักทายตามมารยาทก็แทบจะหมดแรง หากมองแบบนี้ก็คงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าบารมีของคังวูจินเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
แต่ทว่า
“โอ้โห! คุณคังวูจิน? ฮ่าๆ ๆ ยินดีที่ได้พบครับ”
ดูเหมือนคนที่จะเข้ามาใกล้ชิดคังวูจินจะไม่มีทีท่าว่าจะลดน้อยลงง่าย ๆ
ณ ขณะนี้
ชเวซองกุนเจ้าของผมทรงหางม้าไม่ได้อยู่ที่ห้องจัดงานแพ็กซัง แต่กำลังนั่งอยู่มุมหนึ่งของล็อบบี้ชั้น 1
‘โอเค บรรยากาศเยี่ยมมาก’
เขากำลังตรวจสอบหลายสิ่งหลายอย่างผ่านจอมอนิเตอร์ แน่นอนว่าฮันเยจอง จางซูฮวาน และทีมงานทั้งหมดของวูจินก็เช่นกัน การตรวจสอบเป็นสิ่งที่ทำเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ในเวลานี้เป็นการตรวจสอบเกี่ยวกับ ‘มักกุกซูโรยสาหร่าย’ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของคังวูจินที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวาน
“ทางฝั่งคอมมูนิตีแทบจะล้นหลามแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวหรือคำติฉิน ก็หลั่งไหลเข้ามาอย่างมากมาย ว้าว มีแท็กแยกออกมาด้วยเหรอเนี่ย?”
“ทางโซเชียลมีเดียก็เพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อวานมากเลยค่ะ! ทั้งแฮชแท็กและการแชร์ก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว!”
“ทางYoutubeเป็นอย่างไรบ้าง?”
“คลิปของYoutuberที่เราจ้างโฆษณากำลังทยอยเผยแพร่แล้วครับ”
หลังจากเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพียงหนึ่งวัน เพียงแค่วันเดียว ‘มักกุกซูโรยสาหร่าย’ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็กำลังก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จอย่างถล่มทลาย
Youtube แพลตฟอร์มที่เป็นผู้นำเทรนด์ คือเครื่องยืนยันที่ชัดเจน
เหล่าYoutuberที่มักจะกระโจนเข้าหาทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อยอดวิว หากมีสิ่งใดที่กำลังเป็นกระแส พวกเขาเรียกมันว่า ‘การเสียบหลอด’ และผลิตคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องออกมาอย่างมหาศาลโดยไม่เลือกหน้า ขอแค่เมื่อมีสิ่งใดได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม
และในตอนนี้ ‘มักกุกซูโรยสาหร่าย’ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของวูจินก็ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น
ด่วน! บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคังวูจิน! ในที่สุดก็ได้ลอง “มักกุกซูโรยสาหร่าย”!!|รีวิวจริงใจTV
เหล่าYoutuberต่างพากันรุกคืบ ไม่ว่าจะสายทำอาหาร สายกิน หรือแม้แต่สายที่ไม่ข้องเกี่ยวกับอาหารการกินเลยสักนิด ต่างก็ทยอยปล่อยวิดีโอเกี่ยวกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาราวกับนัดหมายกันไว้ ราว 30% เป็นYoutuberที่ได้รับการสนับสนุนจาก “เทพแห่งการเกษตร” แต่ที่เหลืออีกถึง 70% กลับเป็นYoutuberอิสระที่ไม่ได้รับสปอนเซอร์ใด ๆ ต่างก็หวังจะเกาะกระแสโกยยอดวิวกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
ทำไมหาซื้อยากจังครับ? #รีวิวอย่างเป็นกลาง #บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคังวูจิน #มักกุกซูโรยสาหร่าย|ชีวิตหอมรัญจวน
“มักกุกซูโรยสาหร่าย” รีวิวแบบตรงไปตรงมา|เจ้าหญิงแว่นกันแดด
เปิดขายปุ๊บ ของหมดเกลี้ยง???! ผมก็ไปต่อแถวซื้อ “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคังวูจิน” มาเหมือนกัน!! แล้วรสชาติล่ะ?!|รีวิวใช่เลยTV
แอบบอกแหล่งซื้อ “มักกุกซูโรยสาหร่าย” แบบยกโหล|ราชาปีศาจเจ้าปัญหาทีวี
�
�
�
�
รีวิวพร้อมหลักฐาน ชิมจริง วิจารณ์รสชาติ ซื้อเองจ่ายเอง และอื่น ๆ อีกมากมาย แม้สินค้าหลักของทุกคนจะเป็น “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคังวูจิน” เหมือนกันหมด แต่เพียงแค่เปลี่ยนคีย์เวิร์ด วิดีโอเหล่านั้นก็มียอดวิวพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ เริ่มตั้งแต่ 5 หมื่นวิว ไปจนถึง 3 แสนวิว บางวิดีโอทะลุ 7 แสนวิว หรือแม้กระทั่งแตะหลักล้านวิวก็มีให้เห็น
ไม่เพียงแค่ใน Youtube เท่านั้น แต่แพลตฟอร์มวิดีโออื่น ๆ ก็มีกระแสตอบรับที่คล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นคลิปสั้นหรือวิดีโอแบบยาว
กระแสที่ถาโถมเข้ามาดุจพายุคลั่ง ยิ่งกระพือความต้องการของผู้คนให้เพิ่มพูนขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ
-บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคังวูจิน อร่อยจริง ไม่โกหก อร่อยจนต้องร้องตะโกน….แค่หาซื้อยากไปหน่อยนี่แหละชวนขัดใจ….
-บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสาหร่าย อยากลิ้มลองก็หาซื้อไม่ได้ในตอนนี้
-ดูจากรีวิวของคนนี้แล้ว เขาค่อนข้างจะวิจารณ์ตรงไปตรงมานะ แต่กลับชมซะยกใหญ่แบบนี้ ต้องลองซื้อกินดูบ้างแล้วสิ? แล้วตอนนี้จะซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคิมมักได้ที่ไหนกันล่ะ?
-ฉันทำงานพาร์ทไทม์ร้านสะดวกซื้อตอนกลางคืน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคังวูจินพอของมาถึงปุ๊บ แค่ 5 นาทีก็หมดเกลี้ยงเลย ฮ่าๆ ๆๆ ๆ บ้าจริง คนแห่กันมาเหมือนฝูงซอมบี้เลย
-ต้องไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตั้งแต่ร้านเปิดเลยหรือเนี่ย…น่าเสียดาย ฉันพลาดซะแล้ว
-โอ้โห…คนนี้ทำหน้าเสียดายขนาดนั้นเชียว น่าสนใจจริง ๆ
-0:48 เห็นแล้วว่าเส้นยังไม่สุกดี แต่ก็ซัดเข้าไปเต็ม ๆ เลย ฮ่าๆ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ๆ บ้าไปแล้ว
-ดูท่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี่จะฮิตติดลมบนนะ ฮ่าๆ ๆ ๆ คังวูจินฟอร์มแรงสุด ๆ
-ในฐานะคนที่ดูวิดีโอของคนนี้ทุกอัน บอกเลยว่าสีหน้านั่นของจริง ฮ่าๆ ๆ ๆ อย่างน้อยก็ต้องระดับดีมากแน่ ๆ
ใน Youtube ก็เป็นแบบนี้ ใน SNS คงไม่เงียบเหงาหรอก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่กำลังดังอยู่แล้ว ได้รับพลังจากคังวูจิน ยิ่งเหมือนติดปีกบินเลย
นี่เพิ่งเริ่มต้นเองนะ แต่กลับทรงอิทธิพลขนาดนี้
ยอดขายถล่มทลายของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นอกจากจะทำเงินมหาศาลแล้ว ยังส่งผลโดยตรงต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของคังวูจินอีกด้วย เป็นเรื่องที่แยกออกจากความสำเร็จของผลงานอย่างชัดเจน
『อิทธิพลของคังวูจินที่ทำให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขาดตลาด…มีนักแสดงแบบนี้มาก่อนหรือ? 』
ชเวซองกุนมีสีหน้าพึงพอใจ
‘แค่แตะต้องอะไร ดีมาก ไม่สิ เรียกว่าระดับสุดยอดเลยต่างหาก’
ด้วยเซนส์อันเฉียบแหลมนั่น แค่ผลงานปังก็แทบจะแบกบริษัทไว้บนบ่าแล้ว แต่คังวูจินยังมีอิทธิพลมหาศาลในด้านอื่น ๆ อีกอย่างไม่น่าเชื่อ ในฐานะประธานของบริษัทบันเทิง จะไม่หลงรักได้อย่างไร?
และตอนนี้
‘วันนี้ต้องมีเรื่องอะไรสักอย่างแน่’
งานประกาศรางวัลแพ็กซังก็เป็นสิ่งที่น่าคาดหวังเช่นเดียวกัน
ประมาณ 20 นาทีต่อมา
‘ฮือ ในที่สุดก็…’
คังวูจินนั่งลงบนเก้าอี้ที่จัดไว้ให้ ตรงกลางแถวที่แปดจากเวที ฮงฮเยยอน รยูจองมิน และอีฮันนาก็นั่งอยู่ด้วยกัน เท่ากับว่าเขาได้นั่งร่วมกับครอบครัวของบริษัทสื่อบันเทิง Bw แม้ข่าวการเซ็นสัญญาของรยูจองมินจะยังไม่เป็นทางการ แต่ทุกอย่างก็แทบจะเรียบร้อยแล้ว
ในวินาทีนั้น
เสียงรอบข้างค่อย ๆ เงียบลง แสงสีขาวนวลจากเพดานสาดส่องลงมาจับที่เวที ทีมงานรอบ ๆ เวทีหันหน้าไปยังจุดเดียวกัน เช่นเดียวกับผู้ชมเกือบพันชีวิต รวมถึงเหล่านักแสดงที่ต่างเบนสายตาไปยังเบื้องหน้า
ท่วงทำนองเพลงที่สดใสดังก้องขึ้น พร้อมกับโลโก้งานประกาศรางวัลแพ็กซังที่ปรากฏบนจอขนาดใหญ่หลายจอเบื้องหน้า จากนั้นจอด้านข้างก็เลื่อนออกเผยให้เห็นนักแสดงชายหญิงคู่หนึ่ง บรรยากาศไม่ต่างจากงานบลูดราก้อน คำกล่าวเปิดงานก็เป็นแบบเดิม ๆ จากนั้นพิธีกรก็ดำเนินรายการต่อ
การประกาศรางวัลเริ่มต้นด้วยรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ เช่นเคย
โดยแบ่งเป็นสาขาภาพยนตร์และสาขาโทรทัศน์
“เอาล่ะครับ! เริ่มกันเลย! รางวัลนักแสดงชายหน้าใหม่ สาขาโทรทัศน์! ไปพบกับผู้เข้าชิงกันเลยครับ!”
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
“ครับ! ขอแสดงความยินดีกับ! นักแสดงคังวูจิน จาก ‘รักน้ำค้างแข็ง’!!”
รางวัลนักแสดงหน้าใหม่ชาย สาขาโทรทัศน์ตกเป็นของคังวูจินอย่างที่คาดไว้ แต่กลับเป็นผลงานเรื่อง ‘รักน้ำค้างแข็ง’ ไม่ใช่ ‘นิติจิตวิทยา’ แน่นอนว่าการแสดงเป็นคนพิการของคังวูจินใน ‘รักน้ำค้างแข็ง’ นั้นยอดเยี่ยมจับใจ ในตอนนั้นได้รับคำชื่นชมอย่างท่วมท้นในวงการ ถึงขั้นยกระดับมาตรฐานการแสดงเป็นคนพิการไปอีกขั้น
ถึงแม้จะได้รางวัลสมใจ แต่เขาก็ยังอดสงสัยไม่ได้
คังวูจินก้าวขึ้นรับรางวัลอีกหนึ่งชิ้นบนเวที ท่ามกลางแสงไฟสว่างไสว แต่ใบหน้ากลับเรียบเฉย ไร้ซึ่งแววตื่นเต้นเร้าใจอย่างที่เคยเป็นในงานบลูดราก้อน เขากล่าวขอบคุณอย่างสุภาพ เสงี่ยมเจียมตัว จนดูราวกับไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับรางวัลนี้สักเท่าไหร่ ทำให้นักแสดงบางคนอดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบกัน
“อะไรกันเนี่ย? ได้รางวัลนักแสดงหน้าใหม่บ่อยจนเอือมแล้วหรือไง?”
“แล้วจะให้เขาทำยังไงล่ะ? ปีนี้ถ้าไม่ใช่คังวูจินแล้วให้คนอื่น คงจะเกิดเรื่องใหญ่โตไม่แพ้กัน”
“นั่นสิ นี่แหละที่เขาเรียกว่าความมั่นใจที่สมเหตุสมผล”
“ไม่ใช่แค่เรื่องการแสดงหรอก แต่เรื่องการสร้างกระแสเนี่ย ไม่มีใครเทียบคังวูจินได้จริง ๆ”
ถัดมาเป็นรางวัลนักแสดงหญิงหน้าใหม่ฝ่ายโทรทัศน์ และรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ฝ่ายภาพยนตร์ แต่ในรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ฝ่ายภาพยนตร์นั้น ไม่มีชื่อของคังวูจินรวมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงที่ได้ทำกันไว้ เพราะเขาได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่มามากพอแล้ว ภาพที่ซ้ำ ๆ กันอาจส่งผลลบต่อภาพลักษณ์ของเขาในสายตาสาธารณชน
อย่างไรก็ตาม รางวัลนักแสดงหญิงหน้าใหม่ฝ่ายภาพยนตร์ตกเป็นของฮันโซจิน
งานประกาศรางวัลแพ็กซังดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
รางวัลผู้กำกับหน้าใหม่ฝ่ายภาพยนตร์ รางวัลฝ่ายศิลป์ทั้งภาพยนตร์และโทรทัศน์ รางวัลบทโทรทัศน์ รางวัลบทภาพยนตร์ หลังจากช่วงเวลาแห่งรางวัลของผู้กำกับและนักเขียน ก็ถึงช่วงเวลาของรางวัลฝ่ายละครเวที เหล่าผู้ได้รับรางวัลต่างส่งเสียงหัวเราะและหลั่งน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ และแล้วช่วงสุดท้ายของพาร์ทที่ 1 ที่อัดแน่นไปด้วยรางวัลก็มาถึง
ลำดับต่อไปปรากฏขึ้นบนจอขนาดใหญ่
-‘รางวัลนักแสดงสมทบชายฝ่ายโทรทัศน์’
นักแสดงชายหญิงผู้คว้ารางวัลสมทบเมื่อปีก่อนปรากฏกายขึ้นบนเวที ในนั้นนักแสดงหญิงคือฮวาลิน เธอสวมชุดเดรสสีขาวเทา ผมยาวสลวยถูกรวบเป็นเปียเส้นเดียว ฮวาลินควงแขนนักแสดงชายมายืนอยู่กลางเวที เธอเหลือบมองคิวการ์ดพร้อมขยับริมฝีปากแดงระเรื่อ
“ความรู้สึกตื่นเต้นยามได้รับรางวัลบนเวทีนี้เมื่อปีก่อนยังคงตราตรึงอยู่เลยค่ะ พอมาเป็นผู้ประกาศรางวัลเองแบบนี้ก็รู้สึกแปลกใหม่ไปอีกแบบนะคะ”
“ฮ่าๆ ๆ ใช่แล้วครับ ผมก็มือสั่นไปหมดแล้ว”
“งั้นเราไปพบกับนักแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลกันเลยดีกว่าไหมคะ?”
“ได้เลยครับ!”
แสงไฟในห้องโถงหรี่ลง ภาพของนักแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเริ่มปรากฏขึ้นบนจอขนาดยักษ์ ทีละคน สองคน สามคน ภาพของพวกเขาในผลงานสลับกับภาพนักแสดงที่นั่งอยู่ในห้องโถง
และคนสุดท้าย
-‘คังวูจิน’/‘ผู้เชี่ยวชาญนิติจิตวิทยาเสเพล’
รองหัวหน้าพัคหรือก็คือคังวูจิน ปรากฏตัวขึ้นบนจออย่างสง่างาม กล้องจับภาพของเขาที่นั่งอยู่กลางห้องโถง ใบหน้าเรียบเฉยไร้ความเปลี่ยนแปลง บรรยากาศในห้องโถงแบ่งออกเป็นสองฝ่ายในทันที บางคนตื่นเต้น บางคนมองดูอย่างผ่อนคลาย
ทันทีที่ภาพของรองหัวหน้าพัคเลือนหายไปจากจอยักษ์
-ฟู่ม
แสงไฟในห้องโถงสว่างขึ้น ฮวาลินดึงคิวการ์ดออกจากซองที่ส่งมาให้
‘ฉันตื่นเต้นไปหมดแล้ว จริง ๆ นะ’
ฮวาลินเอ่ยออกมาจากใจจริง เธอไม่ได้พูดตามบทที่กำหนดไว้ แต่หัวใจของเธอกำลังเต้นแรงจนแทบระเบิด ความรู้สึกชื่นชมและคลั่งไคล้กำลังเอ่อล้นออกมา นักแสดงคนอื่นก็มีความสามารถ แต่ได้โปรด ได้โปรด ขอให้คนที่เธอรักที่สุดได้รับรางวัลเถอะ
แต่ภายนอกฮวาลินพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้
“······”
ฮวาลินกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ก่อนจะค่อย ๆ คลี่คิวการ์ดที่พับไว้ออก ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นในฉับพลันราวกับต้องมนตร์ ความตกตะลึงแล่นริ้วไปทั่วกาย มือเรียวสั่นไหวเล็กน้อยขณะที่เธอขยับริมฝีปากเข้าหาไมโครโฟน
แม้สีหน้าจะยังคงฉายแววตื่นเต้น แต่เสียงที่เปล่งออกมากลับหนักแน่นมั่นคง
“รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม สาขาโทรทัศน์!! ขอแสดงความยินดีกับ... ‘ผู้เชี่ยวชาญนิติจิตวิทยาเสเพล’ คังวูจิน!!!”
ในชั่วพริบตา กล้องนับสิบตัวในห้องโถงก็หันไปจับจ้องที่ร่างสูงโปร่งของคังวูจิน ใบหน้าเรียบเฉยของเขาปรากฏขึ้นบนจอภาพขนาดยักษ์ทุกจอที่ตั้งอยู่บนเวที สายตาของทุกคนในงานต่างจับจ้องมาที่เขาเป็นจุดเดียว
-กึก
ท่ามกลางความตกตะลึง คังวูจินกลับลุกขึ้นยืนอย่างสงบนิ่ง เหล่านักแสดงรอบข้างอ้าปากค้าง ความประหลาดใจฉายชัดในดวงตาของพวกเขา
รางวัลนักแสดงหน้าใหม่และรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมในปีเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่คว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้ไปครองกลับเป็นนักแสดงหนุ่มที่มีประสบการณ์เพียงสองปี นับเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ยากที่จะเกิดขึ้น
หรืออาจกล่าวได้ว่า นี่คือครั้งแรกในประวัติศาสตร์อันยาวนานของงานประกาศรางวัลแพ็กซัง
“ว้าว! แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ?”
“ฉันก็เพิ่งเคยเห็นเหมือนกัน”
“สุดยอดไปเลย”
คังวูจินคือผู้ที่สร้างปรากฏการณ์ครั้งนี้
-จบ-
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_