บทที่ 21 : ตรอกที่ถูกปิดกั้น โทรหาพี่สาวเสียหน่อย!
บทที่ 21 : ตรอกที่ถูกปิดกั้น โทรหาพี่สาวเสียหน่อย!
ณ เวลาหกโมงเย็น
เสียงออดเลิกเรียนก็ดังก้องไปทั่ววิทยาลัยชิงหลง
"ในที่สุดก็เลิกเรียนซะที!"
"ไปๆๆ รีบไปโรงอาหารกันเร็ว คืนนี้มีซี่โครงหมูตุ๋นด้วยนะ!"
"เพื่อน ฝากซื้อกลับไปหอให้หน่อยดิ ขอบใจนะ!"
"เพื่อนเหรอ?"
"พ่อบุญธรรมต่างหาก"
"ลูกชายที่น่ารัก พ่อจะซื้อกลับไปให้ที่หอนะ!"
มิตรภาพระหว่างเพื่อนร่วมห้องก็เป็นแบบนี้, มันเหมือนพ่อบุญธรรมกับลูกบุญธรรมเลย
ตอนนี้ นักเรียนทั้งห้องไปโรงอาหารกันหมด ยกเว้นเซียวซิงหยู
เเละนั่นเป็นเพราะเซียวรั่วเสวี่ยจะมาส่งข้าวกล่องให้เขาที่หน้าโรงเรียน
เเต่เมื่อเซียวซิงหยูเดินออกจากประตูโรงเรียน เขากลับไม่เห็นเซียวรั่วเสวี่ยมารอ
ทันใดนั้น มันก็มีข้อความส่งมาจากเซียวรั่วเสวี่ย
[เซียวหยู เมื่อกี้ปีกไก่ทอดไหม้ พี่กำลังทำใหม่ อาจจะช้าสักสิบห้านาทีนะ]
เซียวซิงหยูปลอบใจตัวเองแล้วตอบกลับไปว่า "โอเคครับ"
จากนั้นเขาก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าพลางคิดในใจ
"แปลกจัง ฝีมือทำอาหารของพี่สาวไม่เคยพลาดเลยนี่นา ทำไมคราวนี้ถึง..."
…..
ณ หอพักสำหรับครอบครัว
ในครัวมีควันโขงตลบ
เย่ซือเหมิงหน้าดำไปด้วยเขม่า กำลังยืนยิ้มแห้งๆอยู่ข้างๆ
"พี่รั่วเสวี่ย หนูขอโทษนะคะ"
ในที่สุดก็เจอต้นตอของเรื่องแล้ว
คนที่ทำปีกไก่ไหม้ก็คือสาวน้อยคนนี้นี่เอง
"ไม่เป็นไรหรอกเหมิงเหมิง เธอก็แค่อยากทำอาหารให้เซียวหยูด้วยมือตัวเอง" เซียวรั่วเสวี่ยยิ้มอย่างอ่อนโยน
"พี่รั่วเสวี่ย ต่อไปนี้หนูจะขอเรียนทำอาหารกับพี่!" เย่ซือเหมิงกำหมัดแน่น
"เอ่อ...เหมิงเหมิง เชื่อพี่เถอะ”
“ต่อไปอย่าเข้าครัวอีกเลยนะ เมื่อกี้เธอเกือบจะทำให้เครื่องจับควันไฟทำงานแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่ซือเหมิงก็ได้เเต่แลบลิ้นเล็กน้อย เเละทำท่าทางน่ารักกลบเกลื่อนความเขินอาย
เเต่เมื่อมองดูเซียวรั่วเสวี่ยทอดปีกไก่รอบใหม่, น้ำลายของเย่ซือเหมิงก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้
"อยากกินแล้วล่ะสิ?" เซียวรั่วเสวี่ยถามด้วยรอยยิ้ม
"อื้อ~" เย่ซือเหมิงตอบรับ
"ไม่ต้องกังวล พี่ทำเผื่อไว้แล้ว นอกจากส่วนของเซียวหยู ที่เหลือให้เธอทานเต็มที่เลย"
"ขอบคุณพี่รั่วเสวี่ย พี่ใจดีที่สุดเลย!"
จากนั้นสักพัก เย่ซือเหมิงก็ถามขึ้น
"พี่รั่วเสวี่ยคะ เดี๋ยวหนูไปส่งข้าวกล่องกับพี่เซียวหยูที่หน้าโรงเรียนด้วยได้ไหม?"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวรั่วเสวี่ยก็ส่ายหน้าเล็กน้อย
"อย่าลืมสิว่าเย่ซวงหนิง พี่สาวของเธอก็อยู่ที่วิทยาลัยชิงหลงนะ ถ้าเธอไปกับพี่แล้วพี่สาวเธอเห็นขึ้นมาจะทำยังไง?"
รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่ซือเหมิงหายวับไป เธอนิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะตาโตขึ้น
"หนูปลอมตัวได้!"
ห้านาทีต่อมา เย่ซือเหมิงในชุดปลอมตัวก็กลับมาหาเซียวรั่วเสวี่ย
"พี่รั่วเสวี่ย หนูแต่งตัวแบบนี้ปลอดภัยแล้วใช่ไหมคะ?"
เมื่อเห็นชุดของเหมิงเหมิง กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเซียวรั่วเสวี่ยก็กระตุกเล็กน้อย
"อย่างแรกเลยนะ แบบนี้ไม่ปลอดภัยเเน่ๆ”
“อย่างที่สองนะเหมิงเหมิง เธอเอาถุงน่องของพี่มาคลุมหัวแบบนี้ มันเหมือนโจรปล้นธนาคารมากกว่านะ รู้ตัวไหม?”
เด็กคนนี้ไม่ใช่แค่เด็กน้อยธรรมดา แต่เป็นเด็กน้อยสุดแสบจริงๆ
……
อีกด้านหนึ่ง
ที่หน้าโรงเรียน เซียวซิงหยูนั่งรออยู่ใต้ต้นไม้
เเละทันใดนั้นเอง เด็กหนุ่มผมสีเหลืองก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเซียวซิงหยู
"นายคือเซียวซิงหยูใช่ไหม?"
"ใช่…มีอะไรเหรอ?"
"ตามฉันมาหน่อย หัวหน้าของพวกเราอยากเจอนาย"
เซียวซิงหยูรู้ทันทีว่ามาไม้นี้ ถ้าเขาไม่ไปด้วย อีกฝ่ายคงไม่ยอมเลิกราแน่
เขาจึงตัดสินใจไปตามคำชวน
เด็กหนุ่มผมสีเหลืองพาเซียวซิงหยูเข้าไปในตรอกตันข้างๆโรงเรียน
จากนั้น มันก็มีกลุ่มคนกรูกันเข้ามาล้อมเซียวซิงหยูไว้
กลุ่มคนกลุ่มนี้มีสีหน้าดุร้าย เเละจากจำนวนดาวบนตราที่หน้าอก ส่วนใหญ่เป็นปรมาจารย์อสูรระดับสามดาว
เด่นสุดคือชายหัวโล้นที่เป็นหัวหน้าซึ่งเป็นปรมาจารย์อสูรระดับสี่ดาว เเละทุกคนมีรอยสักรูปเสือดำที่แขนหรือหน้าอก
"อ้อ กิลด์เสือดำนี่เอง" เซียวซิงหยูพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
"ไอ้หนู ดูท่าจะรู้จักกิลด์ของเราดีนี่”
“เอาล่ะ ฉันคือเล่ยซานลี่ หัวหน้ากิลด์เสือดำ” ชายหัวโล้นซึ่งก็คือเล่ยซานลี่กล่าว
ในเมืองหลงอิ๋น กิลด์เสือดำไม่ได้มีอันดับสูงนัก แต่พวกเขาก็ขึ้นชื่อในเรื่องการทำตัวเป็นพวกอันธพาลที่ชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่า
"หัวหน้าเล่ย พวกเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเเละเเน่นอนว่าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เเล้วคุณทำแบบนี้ทำไม?" เซียวซิงหยูเอ่ยถามอย่างสงสัย
"ใช่เเล้ว เราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน แต่เเกดันไปขวางลูกขวางตาคุณชายหวัง"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวซิงหยูก็เลิกคิ้วขึ้นทันที
"อ๋อ อย่างนี้นี่เอง"
เห็นได้ชัดว่าหวังเยี่ยนยังแค้นใจที่แพ้เขาในการแข่งขัน อีกฝ่ายจึงจ้างกิลด์เสือดำมาเล่นงานเขา
"คุณชายหวังบอกว่า แค่หักขาแกข้างเดียวก็พอแล้ว"
"หัวหน้าเล่ย พวกคุณเป็นปรมาจารย์อสูรระดับสามดาวกับระดับสี่ดาว มารังแกผมที่เป็นปรมาจารย์อสูรระดับหนึ่งดาวเเบบนี้ มันไม่เกินไปหน่อยหรือ?"
เเ่ต่ทันใดนั้นเอง, มันก็มีร่างหนึ่งเดินออกมาจากด้านข้าง พร้อมมุมปากที่ยกยิ้มอย่างยโส
"ใช่! นี่มันเกินไป…เเต่เเล้วเเกจะทำอะไรได้!"
เมื่อได้ยินเสียงแหบๆนั่น เซียวซิงหยูก็ยกมือขึ้นกุมขมับทันที
"คุณชายหวัง เเกนี่มันพวกขี้แพ้ชัดๆ"
"เซียวซิงหยู นี่คือราคาที่เเกต้องจ่ายที่บังอาจมาต่อกรกับฉัน!"
แค่คิดถึงตอนที่แพ้เซียวซิงหยูบนเวที แล้วถูกคนทั้งโรงเรียนหัวเราะเยาะ หวังเยี่ยนก็แทบจะคลั่งเเล้ว
"หัวหน้าเล่ย สั่งสอนไอ้บ้านี่ให้หน่อย หักขามันซะ!" หวังเยี่ยนพูดพร้อมยื่นบัตรธนาคารให้เล่ยซานลี่
เล่ยซานลี่ยิ้มกว้าง ฟันทองสองซี่ของเขาดูแวววาวอย่างชัดเจน
"คุณชายหวัง ตราบใดที่เงินถึง ทุกอย่างก็คุยกันได้!"
"เซียวซิงหยู ฉันรอที่จะเห็นภาพเเกคลานไปโรงเรียนพรุ่งนี้แล้ว ฮ่าๆๆ" หวังเยี่ยนหัวเราะอย่างสะใจ
สถานการณ์นี้ตึงเครียดเเละอันตรายมาก
ถึงเซียวซิงหยูจะมีพรสวรรค์ แต่อย่างไรเขาก็เป็นแค่มือใหม่ระดับหนึ่งดาว
ในขณะที่พวกอันธพาลเหล่านี้ล้วนมีระดับสามดาว เเถมหัวหน้าเล่ยซานลี่ก็มีระดับถึงสี่ดาว
ต่อหน้าการกดข่มทางระดับที่เหนือกว่า พรสวรรค์ใดๆก็ไร้ความหมาย
เเต่ทันใดนั้น เซียวซิงหยูก็หยิบโทรศัพท์ออกมา
"คุณชายหวัง ในเมื่อนายหาพวกมาช่วย งั้นฉันก็ขอโทรตามคนมาบ้างก็แล้วกัน"
"เเกเนี่ยนะ? โทรตามคน?”
“ฉันฟังผิดไปหรือเปล่า ฮ่าๆๆๆ” หวังเยี่ยนหัวเราะเสียงดังลั่น
คนทั้งโรงเรียนรู้กันดีว่าเซียวซิงหยูมาจากเมืองเล็กๆ กำพร้าพ่อแม่ มีเเค่พี่สาวที่ไม่มีคุณสมบัติเป็นปรมาจารย์อสูรอยู่แค่คนเดียว
"ฉันอยากรู้จริงๆว่าไอ้ยาจกอย่างเเกจะโทรตามใครมาได้!"
หวังเยี่ยนยังไม่รู้ตัวว่ากำลังเล่นอยู่กับไฟ เขาจึงปล่อยให้เซียวซิงหยูทำตามใจ
เซียวซิงหยูจึงได้โทรออกอย่างใจเย็น
"ฮัลโหล พี่ครับ มีคนดักผมอยู่ในตรอก ผมกลัวจัง~"
เเละปลายสายก็ตอบกลับมาสั้นๆว่า "รอห้านาที"
หวังเยี่ยนแอบฟัง แล้วก็หัวเราะลั่น
"พี่สาวของนาย เซียวรั่วเสวี่ย เป็นแค่คนไร้ค่าที่ไม่มีคุณสมบัติเป็นปรมาจารย์อสูร นายเรียกพี่สาวนายมา จะให้มาให้กำลังใจพวกเราหรือไง?"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเซียวซิงหยูก็เปลี่ยนไปในทันที
เพี๊ยะ!!!!
เสียงตบหน้าดังสนั่น
หวังเยี่ยนเอามือกุมแก้มที่แดงก่ำ พร้อมตาที่พร่ามัวไปหมด
"อย่าดูถูกพี่สาวฉัน ไม่งั้นฉันจะฆ่าเเก" เซียวซิงหยูพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เซียวรั่วเสวี่ยคือเกล็ดย้อนของเซียวซิงหยู ใครแตะเธอต้องตาย!
หวังเยี่ยนถอยหลังโดยอัตโนมัติ
เขาหวาดกลัวแววตาของเซียวซิงหยูอย่างมาก
เเถมเมื่อครู่เซียวซิงหยูยังได้เปิดใช้งานดวงตาเทพอสูร
แววตาสีแดงฉานราวกับจะจ้องมองเข้าไปในวิญญาณของหวังเยี่ยนได้สร้างความเสียหายทางจิตใจของเขาอย่างรุนแรง
"แววตาของไอ้บ้านี่... น่ากลัวชะมัด..."
…………………