ตอนที่แล้วบทที่ 18 ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ไม่มีหลักฐาน (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 19 ต้อนรับชีวิตใหม่ (1)

บทที่ 18 ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ไม่มีหลักฐาน (2)


เขาถูกจัวเซ่าทุบตีจึงกลัวจัวเซ่ามาก ไม่กล้าที่จะมาหาจัวเซ่าคนเดียว แต่ถ้าในโรงเรียน...เป็นเรื่องยากที่จัวเซ่าจะกล้าทุบตีเขาต่อหน้าคนมากมาย?

“ฉันไม่ได้ขโมยเงิน” จัวเซ่าเงยหน้าขึ้นและมองไปยังจัวเจียเป่า

“ไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใคร?” จัวเจียเป่าพูด “ต้องเป็นแกแน่ ๆ ที่เข้ามาขโมยเงินที่บ้านฉัน”

เมื่อเพื่อนร่วมชั้นได้ยินสิ่งที่จัวเจียเป่าพูดออกมาชัด ๆ ก็อึ้งจนพูดไม่ออก

เพิ่งจะมีผู้หญิงมาบอกว่าจัวเซ่าขโมยเงิน เพียงพริบตาเดียวก็มีผู้ชายมาอีก...

หยางเจี้ยนหวาปรี่เข้ามาด้วยความรวดเร็วและเกรี้ยวโกรธ “เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของจัวเซ่าเหรอ? มาสร้างปัญหาในโรงเรียนรู้ไหมว่ามันผิดกฎหมาย? ฉันโทรแจ้งตำรวจแล้ว รออีกเดี๋ยวตำรวจก็มาถึงแล้ว!”

เมื่อจัวเจียเป่าได้ยินว่าตำรวจกำลังมาก็หดศีรษะอ้วน ๆ ลง เขากลัวนิดหน่อย แต่ในไม่ช้าเขาก็ยืดคอของเขาอีกครั้งและพูดว่า “ก่อนหน้านี้เป็นของปลอม แต่คราวนี้เป็นเรื่องจริง! จัวเซ่าเขาขโมยเงินไปสี่พันหยวน!”

ครั้งล่าสุดที่มีคนเชื่อชวีกุ้ยเซียง เพราะชวีกุ้ยเซียงดูน่าสงสาร แต่ครั้งนี้...

จัวเจียเป่ามีศีรษะและหูอ้วน ๆ ดูเหมือนพวกอันธพาล ในทางตรงกันข้าม จัวเซ่าดูน่าสงสารกว่ากันมาก

ไม่มีใครเชื่อจัวเจียเป่าเลย

เพื่อไม่ให้รบกวนนักเรียนในชั้นเรียน หยางเจี้ยนหวาพาจัวเจียเป่าและจัวเซ่าไปที่ห้องพักอาจารย์ของเขา หลังจากนั้นไม่นานตำรวจก็มาถึง

เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นจัวเจียเป่า

นี่...ลูกชายอยากจะไปอยู่สถานีตำรวจกับแม่อย่างนั้นเหรอ?

“ผู้กอง ครั้งนี้เป็นเรื่องจริงนะ! เมื่อวานผมกับพ่อไปที่ธนาคารเพื่อถอนเงินสี่พันหยวน แต่วันนี้เงินกลับถูกขโมยไปแล้ว ทั้งยังถูกขโมยไปพร้อมกับสมุดทะเบียนบ้านของจัวเซ่าด้วย...ต้องเป็นมันแน่ ๆ ที่ขโมยไป!” จัวเจียเป่าแสดงท่าทางว่าตนพูดเรื่องจริง

“ฉันไม่ได้ขโมย” จัวเซ่าตอบกลับทันควัน

“เขาเป็นคนขโมย” จัวเจียเป่ามองจัวเซ่าแบบอยากกินเลือดกินเนื้อ

“อยู่ดี ๆ ทำไมบ้านของคุณถึงมีเงินสี่พันหยวนได้ล่ะ?” เจ้าหน้าที่ตำรวจถามเหมือนครั้งที่แล้ว พวกเขาไม่สนใจที่จะไปดูที่เกิดเหตุแม้แต่น้อย

“ผมบอกแล้วไงว่าผมกับพ่อเพิ่งไปถอนออกมาจากธนาคารเมื่อวานนี้!” จัวเจียเป่าพูด “เงินนั้นถอนออกมาเพื่อเอาไปจ่ายค่าปรับของแม่ผม ผมมีหลักฐานอยู่นี่ไง” จัวเจียเป่ารู้ความมากกว่าชวีกุ้ยเซียง เขารู้ว่าเขาต้องการหลักฐาน ไม่ใช่ใช้เพียงคำพูดเท่านั้น เขาหยิบสมุดบัญชีเงินฝากออกมายื่นให้กับตำรวจ

เจ้าหน้าที่ตำรวจดูสมุดเงินฝากที่จัวเจียเป่าส่งให้ สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีนัก เมื่อมองไปยังจัวเจียเป่ากลับรู้สึกแปลกเล็กน้อย

เมื่อวานตอนบ่ายคนคนนี้ไปที่สถานีตำรวจจริง ๆ แต่กลับไม่ยอมจ่ายค่าปรับ เหตุผลในตอนนั้นคือไม่ได้เอาเงินมา แล้วนี่มันอะไรกัน? ทั้ง ๆ ที่เมื่อวานตอนเที่ยงไปธนาคารถอนเงินออกมาสี่พันหยวน...

จัวเจียเป่าไม่ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพูดขึ้นมาอีกครั้ง “ครั้งนี้เงินถูกขโมยไปจริง ๆ! คนที่ขโมยต้องเป็นจัวเซ่าแน่ ๆ”

“ฉันไม่ได้ขโมยเงิน” จัวเซ่าพูดออกไปอีกครั้ง มองแล้วน่าสงสารเป็นอย่างมาก

“เงินโดนขโมยที่ไหน โดนขโมยตอนไหน?” ตำรวจถามอีกครั้ง พวกเขามองไปยังจัวเจียเป่าด้วยความดูถูกเล็กน้อย แต่ถ้าเงินหายไปจริง ๆ พวกเขาก็ยังต้องจัดการ

“เงินหายที่บ้านใหม่ของผม เมื่อตอนเช้ายังมีอยู่เลย เขาน่าจะขโมยมันไปตอนเที่ยง!” จัวเจียเป่าชี้นิ้วไปยังจัวเซ่า

“เมื่อตอนกลางวันฉันไปกินข้าวกับถิงถิง ไม่ได้ขโมยของ!” ใบหน้าของจัวเซ่าเต็มไปด้วยความดื้อรั้นและความโกรธ “คนที่โรงเรียนของน้องสาวผมสามารถเป็นพยานให้ผมได้”

“ไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใคร? ถ้าเป็นขโมย ใครเขาจะขโมยสมุดทะเบียนบ้านของแกกัน?” จัวเจียเป่าพูด

“ใครจะไปรู้ นายอาจจะซ่อนเงินกับสมุดทะเบียนบ้านของฉัน แล้วใส่ร้ายฉันว่าขโมยเงิน?” จัวเซ่าถามกลับไป ต่างฝ่ายต่างไม่ลดราให้กัน

ตำรวจเหล่านั้นไม่คิดว่าจัวเซ่าจะมีความสามารถในการขโมยเงิน แต่จัวเจียเป่าก็สาบานว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริงเช่นกัน สุดท้ายก็ต้องไปที่บ้านของจัวเจียเป่า

ครั้งนี้พวกเขาได้เห็นสถานที่เกิดเหตุในการขโมยจริง ๆ เพียงแต่...

ชุมชนที่นี่ไม่ได้ใหญ่นัก ทั้งภายในตึกยังไม่มีลิฟต์ เป็นอาคารห้าชั้นทั้งหมด ดังนั้นจึงมีบ้านไม่ถึงร้อยหลัง และเนื่องจากคนจำนวนมากไม่ได้เริ่มเข้ามาอยู่อาศัยตั้งแต่สร้างใหม่...

ขณะนี้จึงมีเพียงยี่สิบหรือสามสิบครอบครัวที่อาศัยอยู่ในชุมชน ในทุก ๆ วันมีคนเข้าออกชุมชนน้อยมาก ดังนั้นยามเฝ้าประตูของชุมชนจึงสังเกตเห็นจัวเจียเป่า จำได้ว่าจัวเจียเป่าออกไปจากที่นี่หลังจากเที่ยงนิดหน่อย

จัวเจียเป่าออกจากชุมชนเที่ยงกว่า ๆ วันนี้ตอนเที่ยงจัวเซ่าอยู่ที่โรงเรียน

ก่อนหน้านี้จัวเจียเป่าเชื่อว่าจัวเซ่าต้องเป็นคนมาขโมยแน่ ๆ แต่เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องของเวลาเลยแม้แต่น้อย พอรับรู้เรื่องนี้ก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจัวเจียเป่าจะโง่หรือไม่อยากเชื่ออย่างไร จัวเซ่าก็มีหลักฐานยืนยันข้อแก้ต่างของเขา

ตำรวจเหล่านั้นไม่เชื่อว่าจัวเซ่าเป็นคนขโมยเงินไปตั้งแต่แรก เมื่อพวกเขาได้รับข้อมูลเหล่านี้ก็ยิ้มเยาะและมองไปยังจัวเจียเป่า “ตอนนี้เธออยากจะทำอะไรต่อล่ะ?”

พวกเขาเห็นสมุดบัญชีเงินฝากเล่มนั้นแล้ว พบปัญหาหลายอย่าง เช่น บ้านของจัวเจียเป่าใช้เงินที่พ่อแม่ของจัวเซ่าเหลือทิ้งเอาไว้ให้...มาซื้อบ้านให้จัวเจียเป่า

แม้ว่าจัวเซ่าจะขโมยเงินไปจริง ๆ แต่ก็เป็นเงินของพ่อแม่ของเขา!

เมื่อจัวเจียเป่าถูกถามด้วยเรื่องเหล่านี้ กลับไม่สามารถตอบกลับได้ และไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดี

“คุณลุงตำรวจ ผมไม่อยากอาศัยอยู่กับพวกเขาอีกแล้ว” จัวเซ่าก็พูดขึ้นทันที

หลังตามเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาจากโรงเรียน จัวเซ่าเสนอให้ไปรับจัวถิง ตำรวจตอบตกลง และในขณะนั้นเองจัวเซ่าและจัวถิงมองไปยังตำรวจเหล่านี้ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

ทั้งจัวเซ่าและจัวถิงยังไม่เป็นผู้ใหญ่ พวกเขาไม่สามารถอยู่เพียงลำพังได้ แต่ก็ไม่ดีเลยแม้แต่น้อยที่จะปล่อยให้เด็กทั้งสองคนนี้อาศัยอยู่กับครอบครัวนี้ต่อไป...เมื่อมองไปที่จัวเซ่าและจัวถิง เจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านี้รู้สึกลำบากใจเล็กน้อย

“พวกแกไสหัวออกไปซะ! ครอบครัวฉันไม่เลี้ยงพวกแกอีกแล้ว!” จัวเจียเป่าตะเบ็งเสียงออกมา หลังจากตะเบ็งเสียงออกมาแล้วก็สังเกตเห็นกระเป๋านักเรียนของจัวเซ่า...

“เงินก็เป็นแกนั่นแหละที่ขโมยไป แกต้องขโมยไปแล้วซ่อนมันเอาไว้แน่ ๆ!” จัวเจียเป่าพูดออกมา ก่อนจะรีบวิ่งพุ่งไปหาจัวเซ่าและเปิดกระเป๋านักเรียนของจัวเซ่าออก

กระเป๋านักเรียนของจัวเซ่า แม่ของเขาซื้อให้ในราคาสิบหยวนในตอนที่เขาขึ้นปี 1 เขารักและทะนุถนอมสิ่งของของเขามาก กระเป๋านักเรียนใบนี้มองจากภายนอกยังดูไม่เก่า แต่นี่ไม่ใช่กระเป๋านักเรียนยี่ห้อดังที่มีคุณภาพเยี่ยม เมื่อจัวเจียเป่าดึงมัน ซิปก็แตกออกทันที

หนังสือในกระเป๋านักเรียนของจัวเซ่าถูกจัวเจียเป่าโยนลงพื้น ในกระเป๋าไม่มีเงินที่ถูกขโมยอยู่ในนั้นเลยแม้แต่น้อย

“ลุงตำรวจ ช่วยโทรหาป้าของผมให้หน่อยได้ไหมครับ?” จัวเซ่ามองจัวเจียเป่าทำเรื่องพวกนี้ เขากัดฟันแน่นแล้วเงยหน้ามองไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด