บทที่ 17 สิ่งที่พ่อแม่ทิ้งเอาไว้ (1)
“จะ...จัวเซ่า นายไม่ปวดแล้วเหรอ?” เหลียงเฉินมองไปยังจัวเซ่าด้วยความงุนงง
“ฉันแค่แกล้งทำน่ะ” จัวเซ่าพูดออกไปตรง ๆ ไม่ได้คิดจะปิดบังเขา ทั้งยังเอ่ยขอโทษออกไป “ก่อนหน้านี้ขอโทษด้วยนะ ฉันโกหกนาย ทำให้นายเป็นห่วงแล้ว”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” เหลียงเฉินรีบตอบออกมาอย่างรวดเร็ว มองไปยังจัวเซ่าด้วยความงุนงง “ทะ...ทำไมเหรอ?” ทำไมจัวเซ่าต้องแกล้งว่าตัวเองไม่สบายด้วยล่ะ?
“ฉันมีเรื่อง...นายจะยอมช่วยฉันไหม?” จัวเซ่าเอ่ยถามออกไป
เหลียงเฉินพยักหน้าอย่างไม่ลังเล เขาต้องช่วยจัวเซ่าแน่นอนอยู่แล้ว สามารถช่วยจัวเซ่าได้ เขาดีใจมาก! เพียงแต่...แล้วเขาต้องทำอย่างไรล่ะ? เหลียงเฉินมองจัวเซ่าด้วยความประหลาดใจ ดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกายระยิบระยับ
“ฉันต้องออกไปข้างนอกหน่อยน่ะ นายไปเอาการบ้านมานั่งทำตรงนี้สิ ช่วยดูต้นทางให้ฉันหน่อย” จัวเซ่าเอ่ย “ถ้ามีใครมาดูฉัน นายก็บอกว่าฉันไม่สบาย กำลังพักผ่อน...ถ้ามีใครเข้ามาแล้วเจอว่าฉันไม่อยู่ที่นี่ ตอนนั้นฉันค่อยพูดกลบเกลื่อนเอา”
คาบนี้และคาบต่อไปเป็นคาบเรียนด้วยตนเอง ไม่ต้องเข้าเรียน แม้เหลียงเฉินจะไม่กลับเข้าห้องเรียนก็ไม่ใช่ปัญหา และคาบต่อไปอาจารย์หยางต้องไปสอนห้องสาม ไม่ว่างเข้ามาดู
เขาสามารถใช้โอกาสนี้แวบออกไปข้างนอกได้ ไปจัดการเรื่องอะไรบางอย่าง ทั้งยังมีหลักฐานที่อยู่ที่สมบูรณ์แบบ
หลังจากจัวเซ่าอธิบายให้เหลียงเฉินฟังสองสามคำ สีหน้าของเหลียงเฉินพลันยุ่งเหยิง เขาตื่นเต้น รีบกลับไปเอาการบ้านของตนมาทันที
เหลียงเฉินกังวลเล็กน้อย แต่เขาเชื่อใจจัวเซ่ามาก จัวเซ่าให้ทำอะไรก็ไม่ปฏิเสธทั้งนั้น
“อาจารย์ครับ เพื่อนของผมอยากจะนั่งทำการบ้านอยู่ข้างนอกได้ไหมครับ?” จัวเซ่าเอ่ยถามแพทย์ประจำโรงเรียนที่หน้าห้องพยาบาล ภายในห้องพยาบาลไม่มีอะไรเลยนอกจากเตียง และไม่มีที่สำหรับให้ทำการบ้าน
“ได้สิ ให้เขามานี่สิ” แพทย์ประจำโรงเรียนเอ่ย เธอเก็บหนังสือเกี่ยวกับการถักนิตติ้งที่กางอยู่ แล้วให้เหลียงเฉินขยับเก้าอี้ไปทำการบ้านที่อีกฟากหนึ่งของโต๊ะ
เหลียงเฉินช่วยจัวเซ่าปิดประตูและไปนั่งทำการบ้าน
เขากระสับกระส่ายไม่มีสมาธิ การบ้านที่ต้องคิดทั้งหลายล้วนทำไม่ได้เลย จึงหยิบเอาหนังสือภาษาอังกฤษขึ้นมา เริ่มคัดคำศัพท์
เขาและแพทย์ประจำโรงเรียน คนหนึ่งถักนิตติ้ง คนหนึ่งอ่านหนังสือ มองแล้วดูเข้ากันดี และในเวลาเดียวกันนั้น เมื่อปิดประตูห้องพยาบาลแล้ว จัวเซ่าก็ออกจากห้องพยาบาลผ่านทางหน้าต่างของห้องด้านใน
ห้องพยาบาลตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างของอาคารที่คนไม่ค่อยพลุกพล่านมากนัก นอกหน้าต่างเป็นกำแพงด้านทิศเหนือของโรงเรียน...จัวเซ่าออกมาจากห้องพยาบาล และสามารถปีนกำแพงออกจากโรงเรียนไปได้ทันที
หลังออกมาจากโรงเรียน จัวเซ่าก็ตรงไปยังชุมชนที่จัวเจียเป่าอาศัยอยู่ทันที
ที่เขาออกมาครั้งนี้ เพราะต้องการบางสิ่งบางอย่างจากจัวหรงหมิงและต้องการขโมยของบางอย่างแถมมาด้วย
การตายของพ่อแม่ในชีวิตก่อนนั้นกะทันหันเกินไปสำหรับเขาที่เพิ่งเข้าเรียนมัธยมต้น ตอนนั้นเขายังอายุน้อยเกินไป จึงไม่ได้เข้าใจอะไรเลย หลังจากสับสนอยู่หลายวัน เขาถูกส่งไปหาจัวหรงหมิงพร้อมกับมรดกที่พ่อแม่ของเขาทิ้งไว้
เขาไม่รู้ว่าพ่อแม่ของเขาทิ้งอะไรเอาไว้ให้บ้าง จำได้เพียงว่าไม่กี่วันหลังจากที่พ่อของเขาเสีย จัวหรงหมิงแสร้งร้องห่มร้องไห้ บอกว่าเงินสินไหมชดเชยที่ได้มาจากคนขับรถที่เป็นผู้ก่อเหตุ จัดงานศพก็ไม่เหลืออะไรแล้ว
ในตอนนั้นเขาเชื่อเช่นนั้น แต่พอลองคิดดูดี ๆ ก็พบว่าเรื่องนี้มีช่องโหว่เต็มไปหมด
ตอนนี้เขาอยากรู้ว่าพ่อแม่ของเขาทิ้งเงินไว้ให้พวกเขาเท่าไร และเขายังต้องการเอาของที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้คืนมาจากจัวหรงหมิง ไหนจะมีสมุดทะเบียนบ้านของเขาอีก
ในชีวิตก่อนตอนที่เขาทะเลาะกับครอบครัวของจัวหรงหมิง ชวีกุ้ยเซียงเคยฉีกทะเบียนสมรสของพ่อกับแม่และสมุดทะเบียนบ้านของเขาและจัวถิงทิ้ง จัวเซ่ายังคงจำความรู้สึกในตอนนั้นได้ดี
ในตอนนี้แม้ว่าจะเกิดเรื่องเช่นเดิมกับเขาอีกครั้ง ก็ไม่ได้รู้สึกสิ้นหวังหรือรู้สึกว่าตนถูกทำร้ายจิตใจอะไร ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ต้องการให้ของของพ่อแม่ตกไปอยู่ในมือของจัวหรงหมิง
นอกจากนี้เขายังอยากจะขโมยอะไรบางอย่างแถมมาอีกด้วย
จัวหรงหมิงไม่ชอบรับผิดชอบอะไร นิสัยของจัวเจียเป่าเขาก็รู้ดี ถ้าที่บ้านโดนขโมยขึ้น จัวเจียเป่าจะต้องสงสัยเขาแน่นอน จากนั้นก็จะมาหาเรื่องเขา
เขาเฝ้ารอ และในที่สุดวันนี้ก็มาถึง
สิ่งที่เขาทำในวันนี้อาจจะถูกจับได้...ถ้าอีกฝ่ายอยากมา เขาก็แค่ร้องไห้กับภาพทะเบียนสมรสของพ่อกับแม่ที่ถูกฉีก
แม้ว่าชุมชนที่จัวเจียเป่าอาศัยอยู่จะเป็นชุมชนที่มีรั้วรอบขอบชิด แต่ชุมชนที่มีรั้วในเมืองเล็ก ๆ ของเขตปกครองในปัจจุบันนั้นแตกต่างจากชุมชนที่มีรั้วในยุคหลัง ๆ อย่างสิ้นเชิง
ชุมชนที่จัวเจียเป่าอาศัยอยู่มีเพียงกำแพงล้อมรอบและมีชายแก่ ๆ เฝ้าที่ประตูเท่านั้น นอกจากนั้นก็ไม่ได้มีการเฝ้าระวังหรือคอยตรวจตราอะไร
ในตอนที่จัวเซ่าอยู่ในคุก ผู้ต้องขังหลายคนถูกจำคุกฐานลักทรัพย์ บ่อยครั้งที่จัวเซ่ามักจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ ‘ประสบการณ์’ มากมาย ต่อมาเขาได้ทำงานเกี่ยวกับการรีโนเวต จึงคุ้นเคยกับจุดบอดของโครงสร้างบ้านเสียยิ่งกว่าตาเห็น
จัวเซ่าแอบเข้าไปในชุมชนที่จัวเจียเป่าอาศัยอยู่อย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็เข้าไปในอาคารที่อยู่ถัดจากบ้านของจัวเจียเป่า เปิดหน้าต่างทางเดินออก ปีนผ่านไปสองสามห้องก็ถึงระเบียงบ้านของจัวเจียเป่า
ครั้งล่าสุดที่มาที่นี่กับตำรวจ จัวเซ่าก็ได้เห็นสภาพบ้านของจัวเจียเป่าแล้ว
บ้านที่จัวเจียเป่าอาศัยอยู่มีขนาดหนึ่งร้อยยี่สิบตารางเมตร สามห้องนอน สองห้องนั่งเล่น ตำแหน่งของห้องค่อนข้างดี มีระเบียงขนาดใหญ่ แต่การตกแต่งนั้นอธิบายไม่ถูกจริง ๆ ... หรือบางทีก็ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้ตกแต่งอะไรเลย
จัวหรงหมิงและชวีกุ้ยเซียงรู้สึกว่าเมื่อจัวเจียเป่าแต่งงานจะต้องรีโนเวตบ้านใหม่ ดังนั้นจึงทำเพียงติดตั้งไฟฟ้า น้ำประปา และทำห้องน้ำแบบง่าย ๆ อย่างอื่นก็ไม่ได้ทำอะไรเลย
ห้องนอนของจัวเจียเป่า ในตอนนี้พื้นและผนังยังคงปูและฉาบด้วยปูนซีเมนต์
ตัวบ้านนั้นเรียบง่ายมาก และจัวเจียเป่าเองก็เป็นคนไม่เอาไหน หากระเบียงปิดไม่สนิท เขาก็ไม่สนใจที่จะปิดหน้าต่างที่เชื่อมระหว่างห้องนั่งเล่นกับระเบียง