ตอนที่แล้วตอนที่ 65: โทษความหล่อของผมเอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 67: เขามองตนเองด้อยค่า

ตอนที่ 66 เรียกเธอว่าพี่สะใภ้


หานซานออกจากแชทกับคุณตาของเขา พอดีกับที่ซ่งซีส่งข้อความมาอีกครั้ง คราวนี้เป็นข้อความเสียงสั้น ๆ สามวินาที

หานซานปรับเสียงเบาลงเล็กน้อยก่อนจะกดฟังข้อความเสียงนั้น

ซ่งซี: พี่หานอยู่ที่ออฟฟิศหรือเปล่า ฉันอยู่ข้างล่าง

หานซานรีบตอบกลับทันที: อยู่ตรงไหน

ซ่งซีตอบกลับว่า: ชั้นใต้ดิน

หานซาน: ขึ้นลิฟต์มาชั้นเจ็ดนะ เดี๋ยวรออยู่หน้าลิฟต์

หลังจากตอบกลับข้อความของเธอ หานซานก็ลุกขึ้นเดินออกจากโรงอาหาร ทันทีที่หลี่ลี่กลับมาพร้อมจานอาหารสองจาน เขาก็สังเกตว่าหานซานหายไป เขาถามเพื่อนร่วมงานว่า “ประธานหานไปไหน”

“ไม่แน่ใจ เหมือนจู่ ๆ ก็ออกไปเลย”

หลี่ลี่คิดว่าหานซานอาจจะไปห้องน้ำ เขาวางจานลงแล้วเริ่มทานอาหาร

เมื่อหานซานพาซ่งซีเข้ามาในห้องอาหารพนักงาน ร้านอาหารที่เคยเสียงดังเงียบลงทันที ทุกสายตามองไปที่ใบหน้าของซ่งซีด้วยความอยากรู้

นี่มันซ่งซีจริง ๆ หรือ?

ซ่งซีกับหานซานมาด้วยกันแบบนี้ แสดงว่าเรื่องในฟอรัมน่าจะเป็นเรื่องจริง!

ซ่งซีใส่เฝือกคออยู่ ทำให้ความงามของเธอลดลงเล็กน้อย แต่เธอก็ยังดูสวยมาก บางคนกระซิบกับเพื่อนว่า “นั่นซ่งซีใช่ไหม ใช่ซ่งซีจริง ๆ หรือ”

“ขาว สูง และสวยขนาดนี้ จะเป็นใครได้อีกถ้าไม่ใช่ซ่งซี ฉันได้ยินว่าเธอประสบอุบัติเหตุรถชนเมื่อไม่กี่วันก่อน ดูจากสภาพแล้วก็ยังไม่หายดีเท่าไหร่”

“ดูท่าจะเป็นเรื่องจริงแล้วล่ะ ซ่งซีกับหานซานคงแต่งงานกันจริง ๆ”

หญิงคนหนึ่งที่กำลังสนใจมากใช้ตะเกียบจิ้มสเต๊กในจานพลางพูดด้วยความงุนงง “มันน่าแปลกจริง ๆ นะ ทำไมถึงมีผู้หญิงที่ใส่เฝือกคอแล้วยังดูสวยขนาดนี้ได้”

ซ่งซีได้ยินเสียงพูดคุยของทุกคน

เธอเหลือบเห็นว่าหลายคนมองหานซานด้วยความสงสัยและรังเกียจ เธอเริ่มรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา

หานซานเป็นอะไรหรือ?

หานซานไม่ดีตรงไหน?

ซ่งซีจับมือซ้ายของเขา หานซานหยุดชะงัก มองลงมาถามเธอ “มีอะไรเหรอ” หานซานคิดว่าซ่งซีน่าจะมีอะไรจะบอกเขา

ซ่งซียิ้มหวานและพูดขึ้นเบา ๆ “อยากจับมือพี่เพื่ออวดความรักของเรา” หานซานเหมือนจะเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของซ่งซี ดวงตาเขาอบอุ่นขึ้น “อืม”

หลี่ลี่เห็นซ่งซีกับหานซานเดินจูงมือกันเข้ามาแล้วถึงกับเกือบสำลักข้าว เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก แล้วยกมือขวาขึ้นโบกให้ซ่งซี “สวัสดีครับ คุณซ่ง”

ซ่งซีกำลังจะพยักหน้าเมื่อได้ยินเสียงหานซานพูดกับหลี่ลี่เบา ๆ แต่เต็มไปด้วยความเป็นเจ้าของว่า “คุณซ่งอะไรกัน ต้องเรียกเธอว่าพี่สะใภ้สิ”

ซ่งซีหน้าแดงขึ้นเล็กน้อย ใครจะไม่รู้สึกใจเต้นกับท่าทีขวยเขินของเธอ

หลี่ลี่รู้สึกเขิน ๆ แต่ก็รีบแก้คำเรียก “พี่สะใภ้”

ซ่งซีพยักหน้าเล็กน้อยแล้วนั่งลงข้างหานซาน

หานซานพอใจมากที่ได้เห็นแบบนี้

“นี่จานของฉัน เธอกินก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปตักข้าวมาให้” หานซานเลื่อนจานที่หลี่ลี่เตรียมไว้ให้ตัวเองไปไว้หน้าซ่งซี บนจานมีอาหารสี่อย่าง สองอย่างเป็นเนื้อ สองอย่างเป็นผัก มีซุปและข้าวจานใหญ่ นี่คือปริมาณอาหารที่เหมาะสมกับความอยากของหานซาน

ซ่งซีจ้องมองกองข้าวในจานและคิดถึงนิสัยของหานซานแล้วส่ายหัว “กินไม่หมดหรอก เสียดาย”

“รอแป๊บ”

หานซานเดินไปที่เคาน์เตอร์อาหาร สักพักเขากลับมาพร้อมจานอาหารที่มีแต่กับข้าวเบา ๆ และข้าวแค่สองช้อน “กินนี่นะ”

หานซานวางจานไว้ตรงหน้าซ่งซี เห็นซ่งซีจ้องมองข้าวสองช้อนนิ่ง ๆ หานซานก็รู้ว่าเธอคิดอะไร เขาทำหน้าเคร่งขรึมขึ้นแล้วเตือนเธอว่า “ต้องกินให้หมด ห้ามเหลือแม้แต่เม็ดเดียว” เธอตัวสูงกว่า 170 ซม. แต่กินข้าวแค่สองช้อนก็ไม่หมด แบบนี้มันอะไรกัน

ซ่งซีเงียบ ๆ หยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วเริ่มกิน

หลี่ลี่ที่สังเกตพฤติกรรมของทั้งคู่ก็รู้สึกว่ามันหาดูยากมาก คุณหานที่ดูแลคุณซ่งด้วยท่าทีแบบนี้เหมือนแม่เขาดูแลเขาตอนเด็ก ๆ เลย…

กินข้าวไปสองสามคำ ซ่งซีเงยหน้าขึ้นมาหายใจ และเธอก็เห็นสายตาของพนักงานหลายคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะอาหาร กำลังมองเธอกับหานซานอยู่ เธอเดาว่าพวกเขากำลังคิดอะไร

หานซานกำลังก้มหน้ากินอาหารอยู่ แล้วก็มีเนื้อเป็ดอบกรอบหอม ๆ ชิ้นหนึ่งวางอยู่บนจานของเขา มันเป็นส่วนที่มีเนื้อมาก หานซานมองซ่งซีด้วยความสงสัย ซ่งซียิ้มหวานให้เขาแล้วพูดเสียงหวานใสว่า “พี่หานคะ ฉันให้เนื้อเป็ดชิ้นที่ใหญ่ที่สุด พี่หานเห็นไหมว่าฉันใจดีกับพี่แค่ไหน”

ท่ามกลางสายตาที่เหมือนเห็นผีของหลี่ลี่ หานซานพยักหน้าเบา ๆ แล้วตอบว่า “อืม”

หานซานคิดอยู่สักพักก่อนจะหยิบเนื้อเป็ดขึ้นมากิน

หลังจากกินเสร็จ หานซานก็เห็นว่าซ่งซียังยิ้มให้เขาอยู่ เขางงอยู่สักพัก คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหยิบเนื้อวัวเย็นชิ้นหนึ่งจากจานของตัวเองส่งให้ซ่งซี

ซ่งซีส่ายหัว “ไม่ค่ะ” เธอจับมือซ้ายของหานซานแล้วพูดว่า “พี่รู้ไหมว่าต้องป้อนภรรยายังไง ถ้าไม่รู้เดี๋ยวฉันสอนให้”

หานซานมองดูซ่งซีที่จับมือเขาแล้ววางเนื้อชิ้นนั้นเข้าปากของเธอ ซ่งซีกัดเนื้อ แต่หานซานรู้สึกเหมือนเธอกัดเข้าที่หัวใจของเขา มันไม่เจ็บ แค่มันรู้สึกจั๊กจี้

หานซานดึงตะเกียบกลับมาแล้วได้ยินซ่งซีพูดขึ้นว่า “เนื้อที่พี่หานป้อนมันหอมจัง ฉันชอบนะ”

หานซานก้มหน้าลงเล็กน้อย ไม่รู้จะตอบอย่างไรกับการแหย่ของเธอ

หลี่ลี่รู้สึกแสบตากับภาพความรักที่ทั้งคู่แสดงออกอย่างเปิดเผย เขาน่าจะกินได้อีกสองสามคำ แต่ก็เลือกที่จะวางตะเกียบลง “ผมอิ่มแล้ว เชิญครับ”

หลี่ลี่ถือจานแล้วรีบเดินออกไป

พอหลี่ลี่ออกไป หานซานก็แอบมองซ่งซีด้วยสายตาเตือนกลัวว่าเธอจะทำอะไรแผลง ๆ อีก หานซานจึงพูดเบา ๆ ว่า “กินสิ ไม่งั้นข้าวจะเย็นหมด”

“พี่หานนี่รักฉันจริง ๆ” ซ่งซียิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะก้มหน้ากินต่อ

ทั้งสองคนแสดงออกอย่างเปิดเผยเพื่อนร่วมงานทุกคนต่างเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่และรู้สึกซับซ้อนกับมัน ดูท่าว่าซ่งซีกับหานซานจะมีความสัมพันธ์กันจริง ๆ และไม่ได้เป็นเพียงแผนการ

หานซานกินข้าวหมดจานไม่เหลือแม้แต่เม็ดเดียว

ซ่งซีเองก็กินอิ่มแล้ว หานซานเห็นว่าเธอกินหมดจานสะอาดมากก็รู้สึกพอใจ

ซ่งซีรู้สึกภูมิใจเหมือนเด็กอนุบาลที่ได้รับคำชมจากคุณครู ในตอนนั้นหน้าจอโทรศัพท์ของเธอสว่างขึ้น ซ่งซีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเห็นว่าเป็นข้อความจากมู่ชิว

เธอขมวดคิ้วแล้วเปิดแชท

มู่ชิว: พี่คะ เห็นคนในฟอรั่มพูดถึงพี่กับพี่เขยเต็มไปหมดเลย ต้องการให้ลบโพสต์นั้นไหมคะ ฉันจะลองติดต่อเพื่อน ๆ ช่วยหาวิธีลบให้ได้

ซาบซึ้งจริงๆ นะ

แต่ซ่งซีไม่ได้ทำตามบท

ซ่งซี: ไม่ต้องหรอก ฉันกำลังจะแต่งงาน ไม่ได้แอบคบใคร ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบัง

มู่ชิว: …

มู่ชิวพิมพ์ข้อความอยู่นานก่อนจะส่งมาในที่สุด

มู่ชิว: ฉันอยากออกจากโรงพยาบาล ไม่อยากเสียเวลาทั้งชีวิตอยู่แต่ในโรงพยาบาล ฉันยังมีสิ่งที่อยากทำอีกมาก ฉันทำรายการสิ่งที่อยากทำแล้ว ฉันจะทำทุกอย่างให้ได้ก่อนที่ฉันจะจากไป จะได้ไม่มีอะไรต้องเสียใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด