บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 429 โลกที่ถูกดูดกลืนและหญิงสาวผู้ถูกผนึก

บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 429 โลกที่ถูกดูดกลืนและหญิงสาวผู้ถูกผนึก

“ถึงแล้ว”

หลังจากออกจากโลกแห่งดวงดาวหลายร้อยปี ในที่สุดโลกที่แตกสลายที่เทพจันทราได้กล่าวถึงก็มาถึง

บริเวณโดยรอบนี้ อยู่ไกลจากโลกเซียนมาก

ยิ่งกว่านั้น ค่ายกลเคลื่อนย้ายที่ใกล้ที่สุด ก็ยังคงอยู่ไกลมาก

อันตรายระหว่างทางมีไม่น้อย

อันตรายมากมายหลายแบบ

ความชั่วร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในฟ้านอกสวรรค์มีไม่น้อย

เซียนมาร...ก็นับว่าเป็นความชั่วร้ายแบบหนึ่ง

ในฟ้านอกสวรรค์ มีเซียนมารไม่น้อยที่ซ่อนตัวอยู่ คอยล่าเซียนที่เดินทางไกล

นอกจากนี้ ยังคงมีความชั่วร้ายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฟ้านอกสวรรค์

โดยทั่วไปแล้ว ต่ำกว่าเซียนทองจะไม่กล้าเข้าไปลึกในฟ้านอกสวรรค์

หลี่ซูกับเทพจันทราที่เข้าไปลึกหลายร้อยปี สำหรับเซียนทองแล้ว ก็ยังคงมีอันตรายไม่น้อย

หลายร้อยปีของหลี่ซูกับเทพจันทรา สำหรับเซียนทองแล้ว ก็คือหลายหมื่นปี

ค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกลพิเศษ ในสถานการณ์ปกติ เซียนทองก็ยังคงไม่ยอมใช้

ยิ่งกว่านั้น เซียนทองไปที่ไกลมาก ก็ไม่มีประโยชน์ กลับเป็นที่ที่ใกล้กับโลกเซียน สิ่งที่ผู้ที่แข็งแกร่งกว่ามองไม่เห็น พวกเขาสามารถนำกลับไปได้

ส่วนโลกที่แตกสลายที่เทพจันทราค้นพบในครั้งนี้ เซียนทองเข้าไป อันตรายอย่างยิ่ง

แน่นอน ก็ต้องขึ้นอยู่กับโชคชะตา

หากโชคชะตาดี เดินทางในฟ้านอกสวรรค์หลายปี หรือแม้แต่หลายร้อยหลายพันปี ก็ยังคงเป็นไปได้ที่จะไม่พบเจอความชั่วร้าย

.

เวลานี้ ด้านหน้าของหลี่ซูกับเทพจันทรา มีพายุที่น่ากลัวอย่างยิ่ง

พื้นที่ของพายุนี้กว้างใหญ่มาก เรียกได้ว่าไร้ขอบเขต

พายุแบบนี้ เซียนทองเข้าไป ก็ลำบากไม่น้อย

“นี่คือพายุโกลาหล โลกที่แตกสลายอยู่ข้างใน เจ้าตามข้ามา ข้าจะพาเจ้าเข้าไป”

เทพจันทราเอ่ย

หลี่ซูก็ยอมตามเทพจันทราไป ไม่ต้องออกแรงเอง

รูปร่างของเทพจันทราสูงโปร่ง มองจากด้านหลัง สามารถมองเห็นรูปร่างที่งดงามของนาง

รูปร่างและใบหน้าของนาง สวยงามอย่างยิ่ง

ถึงแม้หลี่ซูจะเคยมีความคิดที่อยากให้นางให้กำเนิดบุตรให้เขา แต่หลี่ซูก็ไม่ได้จ้องมองนาง

คนทั้งสองเดินทางไปด้วยกัน

ยิ่งเข้าไปลึก พายุยิ่งน่ากลัว

ยิ่งกว่านั้น พื้นที่ที่พายุอยู่นั้นกว้างใหญ่มาก การค้นหาโลกที่แตกสลายข้างในนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

เทพจันทรารู้ตำแหน่ง จึงง่ายกว่าเล็กน้อย

ไม่นานก็ถึงที่หมาย

“อยู่ที่นี่แล้ว”

มือนางขยับเบา ๆ ก็เปิดทางเข้า เปิดกำแพงผลึกโลก

“โลกในฟ้านอกสวรรค์ กำแพงผลึกโลกส่วนใหญ่จะปิดผนึกเอาไว้ นี่เป็นกลไกป้องกันแบบหนึ่ง โดยทั่วไปแล้วไม่ง่ายที่จะถูกค้นพบ พอดีพายุโกลาหลพัดมาถึงพื้นที่โดยรอบนี้ จึงถูกอาจารย์ของข้าค้นพบ นางได้มอบตำแหน่งนี้ให้กับข้า”

เทพจันทราเอ่ย

อาจารย์ของนาง?

เทพจันทรารุ่นก่อนกระมัง?

หลังจากพูดจบ เทพจันทราจึงก้าวเข้าไปข้างใน

หลี่ซูตามเข้าไป

โลกใบนี้ แตกสลายจริง ๆ ทั่วทั้งโลกไม่มีชีวิตชีวาแล้ว ต้นกำเนิดโลกเหือดแห้ง ทั่วทั้งโลกแตกสลาย

“โลกใบนี้ คงจะถูก ‘มหาความชั่วร้าย’ ดูดกลืนจนแห้งเหือดกระมัง”

หลี่ซูคิด

เป็นไปได้มาก

ถึงแม้ว่าจะไม่มีชีวิตชีวาแล้ว ของวิเศษในโลกใบนี้ก็ยังคงมีไม่น้อย

ถึงแม้ว่าจะถูก “มหาความชั่วร้าย” ดูดกลืนจนแห้งเหือด แต่ผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะกลายเป็น “มหาความชั่วร้าย” ได้ ล้วนเป็นผู้ที่อยู่ในยุคโบราณ เป็นผู้ที่แข็งแกร่งเทียบเท่าอริยะ หรือแม้แต่อริยะมหามรรค จักรพรรดิเซียน

ในโลกใบนี้ นอกจากต้นกำเนิดชีวิต ต้นกำเนิดโลกที่เป็น “ของบำรุงชั้นยอด” แล้ว ของทั่วไป “มหาความชั่วร้าย” มองไม่เห็น

พวกเขาในยุคสมัยของตนเอง ก็ได้ไปถึงจุดสูงสุดแล้ว ไม่จำเป็นต้องสร้างอิทธิพลของตนเอง

ถึงแม้โลกใบนี้จะถูกดูดกลืนจนแห้งเหือด แต่เปลือกก็ยังคงอยู่

ในเปลือกของโลกใบหนึ่ง ก็ยังคงมีของดีไม่น้อย

ของดีเหล่านี้ สำหรับกึ่งอริยะและเซียนที่ต่ำกว่ากึ่งอริยะแล้ว ก็ยังคงมีประโยชน์ไม่น้อย

เช่น วัสดุพิเศษบางอย่าง

หลี่ซูกับเทพจันทราจึงเริ่มค้นหา

ไม่นานก็ได้การเก็บเกี่ยวมาบ้าง

คนทั้งสองเก็บรวบรวมสิ่งของที่มีประโยชน์ไปเรื่อย ๆ

โลกที่แตกสลายแบบนี้ สิ่งของที่มีประโยชน์มีไม่น้อย

แบบนี้เอง หลายเดือนต่อมา คนทั้งสองจากพื้นที่โดยรอบ เดินทางมาถึงใจกลางโลก

“ที่นี่มีรูมืด”

เทพจันทราค้นพบแล้ว

หลี่ซูมองดู ก็เห็นว่าที่นั่นมีสิ่งที่คล้ายกับหลุมดำ

แรงดึงดูดมหาศาล แต่สำหรับหลี่ซูกับเทพจันทราแล้ว ไม่นับว่าเป็นอะไร

“ข้ามาเอง”

มือนางขยับ ยื่นเข้าไปในรูมืดนั้น

รูมืดนี้ แม้แต่แสงก็ยังไม่สามารถหลบหนีได้ แต่ขนาดไม่ใหญ่มาก เส้นผ่านศูนย์กลางเพียงไม่กี่สิบเมตร

เพียงแต่พื้นที่โดยรอบนั้นไม่มีแสง จึงดูเหมือนว่าจะใหญ่มาก

ไม่นาน หลี่ซูก็ค้นพบแล้ว เขาหยิบทรายจำนวนไม่น้อยออกมาจากรูมืด

ในนั้นมีทรายหนึ่งเม็ดที่ใหญ่มาก

“นี่คือทรายดวงดาว ทรายดวงดาวของดาวร้างมีประโยชน์ต่อต้าหลัว ทรายดวงดาวเม็ดนี้ดูเหมือนจะเป็นของดาวเซียน ดาวเซียนโดยทั่วไปแล้วไม่ง่ายที่จะถูกหลุมดำดูดกลืน ข้างในน่าจะมีมิติ”

เทพจันทราเอ่ย

มิติหรือ?

จิตสำนึกวิญญาณของหลี่ซูตรวจสอบ

ทรายเม็ดนี้มีขนาดเท่าเมล็ดถั่ว แต่ความจริงแล้ว มันเคยเป็นดาวเซียนมาก่อน

ถึงแม้ว่าจะเป็นดาวเซียนที่ราชันเซียนไท่อี่เป็นผู้ดูแล ขนาดก็ยังคงใหญ่มาก วางหลุมดำไว้ข้าง ๆ หลุมดำก็ยังดูดเข้าไปไม่ได้

หลี่ซูใช้เวลาไม่นานก็ค้นพบ

เขาค้นพบมิติหนึ่งอยู่ข้างใน

จากนั้น จิตสำนึกวิญญาณของหลี่ซูจึงเคลื่อนไหว บุกเข้าไปอย่างรุนแรง

มิติข้างในนี้ไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีพื้นที่หลายหมื่นลี้ ข้างในส่วนใหญ่ จะวางสิ่งของมากมายนับไม่ถ้วนเอาไว้เป็นชั้น ๆ

เพียงแต่ว่า ของเหล่านี้มีอาคมป้องกันเอาไว้ เป็นอาคมเซียนแบบไม่มีทางแก้

กล่าวคือ หากมีคนอยากจะเปิดอาคมป้องกันนี้ อาคมป้องกันก็จะเริ่มทำลายตนเอง ทำลายทุกอย่างข้างใน

อาคมป้องกันแบบนี้ ด้วยความสามารถของหลี่ซูในมรรคแห่งค่ายกลในตอนนี้ ก็สามารถแก้ไขได้

หากแก้ไขไม่ได้จริง ๆ เขาก็ยังคงสามารถจารึกอาคมป้องกันเอาไว้ ใช้ประสบการณ์แก้ไขได้อย่างรุนแรง

เพียงแต่ต้องใช้เวลาและพลังงานมากขึ้น

“พลังสูงสุดของโลกใบนี้ในอดีต อย่างน้อยก็ต้องถึงระดับกึ่งอริยะ”

หลี่ซูคิด

โลกที่มีกึ่งอริยะ หรือแม้แต่ อริยะเทียม นับว่าแข็งแกร่งมากแล้ว แต่กลับถูก “มหาความชั่วร้าย” ดูดกลืนจนแห้งเหือด

จากนั้น หลี่ซูก็ค้นพบ...โลงศพ! ที่ใจกลาง

พูดให้ถูก ก็ไม่ใช่โลงศพ แต่เป็นกล่องสี่เหลี่ยม กล่องทั้งหมดทำขึ้นมาจากวัสดุที่ไม่รู้จัก ข้างในผนึกหญิงสาวคนหนึ่งเอาไว้

หญิงสาวผู้นี้หน้าตางดงาม ราวกับกำลังหลับใหล

“น่าจะเป็นคนของโลกใบนี้ในตอนสุดท้ายที่ส่งนางเข้ามา”

หลี่ซูคิด

ในหัวของเขา ก็ปรากฏภาพแบบนี้ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

ในวันหนึ่งเมื่อไม่รู้ว่ากี่ปีผ่านไปแล้ว โลกใบนี้ได้เผชิญหน้ากับภัยพิบัติ “มหาความชั่วร้าย” มาจากทุกทิศทุกทาง ดูดกลืนต้นกำเนิดและชีวิตของโลกใบนี้จนหมดสิ้น

ถึงแม้จะเป็นกึ่งอริยะ ก็ไม่สามารถต้านทานได้

สุดท้าย โลกใบนี้เพื่อที่จะรักษาความหวังเอาไว้ จึงเลือกที่จะใช้หลุมดำผนึกดาวเซียนเอาไว้ แล้วยังคงรักษาหญิงสาวผู้นี้เอาไว้

“มหาความชั่วร้าย” ไม่สนใจความหวังเพียงเล็กน้อยนี้ ทรายดวงดาวเม็ดนี้ จึงได้คงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้

ต่อมา หลี่ซูก็ค้นพบแผ่นหินหนึ่งแผ่น หลังจากที่จิตสำนึกวิญญาณเข้าไปในแผ่นหิน หลี่ซูก็ได้ยืนยันการคาดเดาของตนเอง

แผ่นหินแผ่นนี้ เป็นของคนในโลกใบนี้ที่ทิ้งเอาไว้

ได้บันทึกทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ พวกเขาไม่รู้ว่า “มหาความชั่วร้าย” คืออะไร เพียงแต่รู้ว่า ในวันนั้น ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ในที่สุดก็ได้ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวที่สำคัญอย่างยิ่ง

ก้าวนี้ ในสายตาของหลี่ซู ก็คือการพิสูจน์มรรคกึ่งอริยะ

ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นอริยะเทียม

ต่อมา ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดผู้นี้รู้สึกว่าพลังของตนเองแข็งแกร่งมากแล้ว จึงได้เปิดกำแพงผลึกโลก อยากจะให้แสงสว่างของโลกใบนี้ส่องไปยังทุกหนแห่ง

สิ่งที่รอคอยพวกเขา มิใช่เกียรติยศอันสูงส่ง

แต่กลับเป็นวันโลกาวินาศ

ในวินาทีสุดท้าย พวกเขาได้จัดเตรียมที่นี่

คนของโลกใบนี้ยินดีที่จะใช้ทุกอย่างในมิติแห่งนี้แลกเปลี่ยน เพียงแค่ขอให้ผู้ที่ค้นพบที่นี่ พาหญิงสาวผู้นี้ไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย