บทที่ 89 ต้นสายปลายเหตุ
เช้าวันถัดมา ขณะที่เกรอลท์เดินออกมาจากกระโจม เขาพบว่ามีสมาชิกใหม่เข้าร่วมทีมล่ามังกร ชายคนหนึ่งสวมหมวกสีม่วงแดงประดับหัวเข็มขัดเงินและขนนกกระสาขาวยาวที่บดบังดวงตา เกรอลท์จำได้ทันทีว่านี่เป็นเครื่องหมายเฉพาะของ *ดันเดอเลียน* กวีหนุ่มที่เป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งแคว้น
“ดันเดอเลียน นายมาทำอะไรที่นี่?” เกรอลท์ถามด้วยความแปลกใจ
“เกรอลท์! นี่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจจริง ๆ! นายมาที่นี่เพื่อล่ามังกรด้วยเหรอ?” ดันเดอเลียนเผยยิ้มจากใต้หมวก
เกรอลท์ไม่ได้ถามคำถามนั้น แต่ขมวดคิ้วและถามกลับว่า “ตอนแยกกันที่วิชิม่า นายบอกว่าจะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยออกเซนเฟิร์ตไม่ใช่หรือ นี่นายมาทำอะไรไกลถึงโฮโลบอร์?”
ดันเดอเลียนกำลังจะตอบ แต่พอเห็นเยนนิเฟอร์เดินออกจากกระโจมมา เขาก็เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง เขาโค้งศีรษะทักทายเธออย่างสุภาพ ก่อนจะหันมาทำหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องกับเกรอลท์พลางถามขึ้น
“พวกนายกลับมาคืนดีกันแล้วเหรอ เมื่อคืนได้นอนด้วยกันไหม? ท่านหญิงเยนนิเฟอร์ให้อภัยนายแล้วเหรอ?”
เยนนิเฟอร์มองดันเดอเลียนด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะยกนิ้วขึ้นเล็กน้อย ทำให้กวีหนุ่มสำลักไออย่างแรง จนเขาต้องล่าถอยไปอย่างหวาดหวั่น เยนนิเฟอร์ปรายตามองเกรอลท์อย่างไม่พอใจแล้วเดินจากไปอย่างสง่างามตรงไปยังกระโจมของกษัตริย์
ดันเดอเลียนหันกลับมาหาเกรอลท์พลางตบบ่าเขาด้วยท่าทางเห็นใจ “ท่านหญิงเยนนิเฟอร์นี่ช่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริง ๆ ผู้หญิงที่มีความแข็งแกร่งแบบนี้มีแต่พวกนายเท่านั้นที่รับไหว เหมือนกับเวย์นเพื่อนเรานั่นไง ว่าแต่ เขามาด้วยไหม?”
เกรอลท์ทำหน้าเอือมระอา พยายามเปลี่ยนเรื่องถามว่า “นายยังไม่ได้บอกเลยว่าทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่”
ดันเดอเลียนตอบด้วยท่าทีภาคภูมิ “ข้าน่ะเป็นกวีผู้ยิ่งใหญ่ ใช้เวลาแค่เดือนเดียวก็เรียนจบเทอมแรกแล้ว ข้าจึงออกเดินทางเขียนบทกวี และพอได้ยินข่าวมังกรจึงรีบมาโฮโลบอร์ทันที”
จากนั้น ดันเดอเลียนเล่าต่อด้วยความภาคภูมิว่า เขาตั้งใจจะร่วมเดินทางไปกับกษัตริย์เพื่อบันทึกการล่ามังกรครั้งนี้เป็นบทกวี แต่กลับถูกทหารตรงสะพานขวางไว้เพราะไม่มีใบผ่านทาง
“โชคดีที่ข้าไม่ต้องพลาดงานล่ามังกรครั้งนี้เพราะท่านผู้นั้นช่วยไว้!”
ดันเดอเลียนพูดอย่างลึกลับพร้อมยิ้ม “ใครล่ะ?” เกรอลท์ถามสงสัย
ดันเดอเลียนหัวเราะเบา ๆ “นั่นคือ ดอริกาเรย์ จอมเวทผู้ยิ่งใหญ่ที่ให้ข้าเข้ามาโดยไม่ต้องใช้ใบผ่านทางน่ะสิ”
(จบบท)###