บทที่ 67 ระเบิดเหล็ก
บทที่ 67 ระเบิดเหล็ก
การสร้างระเบิดเหล็ก 1 ลูกจำเป็นจะต้องใช้ดินปืนคุณภาพสูง 3 ส่วน, แท่งเหล็ก 2 ชิ้นและผ้าไหม 2 ผืน ซึ่งลู่หยางต้องใช้ความพยายามมากกว่า 30 ครั้งก่อนที่เขาจะทำระเบิดเหล็กออกมาได้สำเร็จ 5 ลูก
ระเบิดเหล็ก
ประเภท ขว้างปา
ระยะ 30 เมตร
ระยะเวลาใช้งาน 2 นาที
รายละเอียด ขว้างระเบิดใส่เป้าหมายจะสร้างความเสียหายธาตุไฟ 131 หน่วยในรัศมี 5 เมตร และทำให้เป้าหมายเป็นอัมพาต 5 วินาที ความเสียหายใด ๆ จะขัดจังหวะระเบิดนี้ ใช้ได้ผลไม่ดีกับเป้าหมายที่สูงกว่าเลเวล 30
ลู่หยางกำหมัดแน่นอย่างยินดี เพราะเมื่อมีระเบิดเหล็กอยู่ในมือมันก็จะช่วยให้เขา PK กับผู้เล่นได้อย่างง่ายดายมากขึ้นกว่าเดิม
ชายหนุ่มเก็บระเบิดทั้งห้าลูกเข้าใส่กระเป๋า ก่อนที่เขาจะหยิบท่อทองแดง, แท่งทองแดงและขนสัตว์ขึ้นมาเริ่มทำโมบายดัมมี่
โมบายดัมมี่เป็นหุ่นสีทองแดงมีความสูงประมาณครึ่งเมตร ซึ่งหลังจากลู่หยางทำตามคำอธิบายในพิมพ์เขียวและล้มเหลวไปสองครั้ง ในที่สุดเขาก็สามารถสร้างโมบายดัมมี่ได้สำเร็จในครั้งที่ 3
โมบายดัมมี่
ประเภท ป้องกัน
ระยะ ระยะประชิด
พลังชีวิต 300
ระยะเวลาใช้งาน 2 นาที
รายละเอียด วางโมบายดัมมี่เอาไว้บนพื้นแล้วตัวหุ่นจะทำการปล่อยสกิลยั่วยุออกมาเพื่อดึงดูดมอนสเตอร์โดยรอบอัตโนมัติ
ถึงแม้พลังชีวิตของหุ่นจะไม่สามารถทนการโจมตีของบอสได้แม้แต่ครั้งเดียว แต่ในเวลาที่ผู้เล่นถูกมอนสเตอร์รุมโจมตี การวางโมบายดัมมี่เอาไว้มันก็จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถหลบหนีออกมาได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ลู่หยางทำการตรวจเช็ควัตถุดิบที่เหลืออยู่ก่อนที่เขาจะทำหุ่นโมบายดัมมี่เพิ่มขึ้นมาอีกห้าตัว ซึ่งในระหว่างนั้นเสี่ยวเหลียงก็ทำการติดต่อเขาเข้ามา
“ว่าไง?” ลู่หยางถามหลังจากรับสาย
“ลูกพี่ ผมออกไปพักแล้วนะ” เสี่ยวเหลียงกล่าว
“โอเค เดี๋ยวฉันก็จะพักแล้วเหมือนกัน” ลู่หยางกล่าว เพราะหลังจากดูเวลามันก็ดูเหมือนกับว่าเขาจะเล่นเกมเพลินไปหน่อย
หลังจากวางสายชายหนุ่มก็ทำการเลือกเมนูเกม ก่อนที่จะทำการออฟไลน์ออกไปพัก
—
ในอีกด้านหนึ่งพวกเซี่ยหยู่เว่ยกำลังจัดการกับวัวป่าบนจุดบัคที่ลู่หยางมอบมาให้ ซึ่งภายในเวลา 1 วันที่ผ่านมาสมาชิกทุกคนภายในทีมต่างก็มีเลเวลเพิ่มขึ้นมาจนถึงเลเวล 5 กันหมดแล้ว
เซี่ยหยู่เว่ยดูเวลาก่อนที่เธอจะมองไปทางจางจื่อโป๋
“พวกเราออกไปพักกันเถอะ” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว
“ไปสิ ฉันก็ง่วงแล้วเหมือนกัน” หลานอวี่ตอบ
“โอเค วันนี้พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะติดต่อไปหลังจากเข้าเกม” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว
“โอเค ถ้าอย่างนั้นพวกผมก็จะออกไปพักด้วย” ปานชีเฉินกวงและคนอื่น ๆ บอก
เซี่ยหยู่เว่ยพยักหน้าก่อนที่เธอจะออกจากเกมเป็นคนแรกของทีม
หลานอวี่จัดการของในกระเป๋าให้เรียบร้อยก่อนเธอจะออกจากเกมไปเหมือนกัน แต่ทันทีที่เธอออกมาจากแคปซูลเกม มันก็มีสาวสวยคนหนึ่งกำลังมองมาที่เธอด้วยแววตาอันโกรธเคือง
“หยู่เว่ยทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?” หลานอวี่กล่าวอย่างรู้สึกผิด
ในชีวิตจริงเซี่ยหยู่เว่ยคือนักศึกษาปี 2 หน้าตาสะสวยและมีทรวดทรงองค์เอวราวกับนางแบบ
“ยังจะถามอีกเหรอว่าทำไม? เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องไหนล่ะ” เซี่ยหยู่เว่ยกอดอกพูดอย่างไม่พอใจ
ทันใดนั้นหลานอวี่ก็ตระหนักขึ้นได้ในทันทีว่าเซี่ยหยู่เว่ยคงจะกำลังว่าเธอเรื่องที่เธอไม่ยอมบอกคนอื่นว่าแท้ที่จริงลู่หยางคือผู้เชี่ยวชาญที่พวกเธอเคยเจอที่ข้างกำแพงเมืองนั่นเอง
“เอ่อ… ก็ฉันไม่รู้นี่นา” หลานอวี่พยายามแกล้งทำตัวซื่อบื้อ
“นี่เธอยังไม่ยอมสารภาพอีกเหรอ! ถ้าไม่ยอมพูดความจริงฉันจะจั๊กจี้ให้ขำจนตายไปเลย” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วเรียวยาวไปที่เอวของหลานอวี่
“ฉันไม่รู้จริง ๆ…” หลานอวี่กล่าวพร้อมกับตัวสั่น เพราะทุกครั้งที่เซี่ยหยู่เว่ยมีแววตาแบบนี้เธอก็มักที่จะซวยทุกครั้ง
“ในเมื่อเธอไม่ยอมพูดก็อย่าหาว่าฉันใจร้าย” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวก่อนที่จะกระโจนเข้าไปจั๊กจี้เอวของหลานอวี่
“เจ้าเด็กบ้า! เธอรู้ตัวตนของลู่หยางอยู่แล้วแล้วทำไมถึงไม่รีบบอก เธอรู้ไหมว่าเมื่อวานฉันขายหน้าไปมากแค่ไหน”
“ว้ายยย ช่วยด้วย!” หลานอวี่พยายามวิ่งหนีไปทั่วทั้งห้อง แต่น่าเสียดายที่พื้นที่ในห้องมีอยู่อย่างจำกัด ขณะที่สาวสวยอีกคนก็ล็อคประตูห้องเอาไว้เรียบร้อยแล้ว โดยสาวสวยร่วมห้องคนนี้ก็คือวอลอคภายในทีมนั่นเอง
เมื่อหลานอวี่โดนรุมจากเพื่อนทั้งสองคน เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องเล่าเรื่องลู่หยางออกมา
“ฉันรู้แค่นี้จริง ๆ ไว้ชีวิตฉันเถอะ” หลานอวี่กล่าวด้วยแววตาเว้าวอน
“แค่นี้เหรอ?”
“มีแค่นี้จริง ๆ ฉันไม่รู้หรอกว่าชีวิตจริงเขาคือใคร” หลานอวี่กล่าว
“แค่นี้ก็แค่นี้ แต่เธอจะต้องระวังเขาเอาไว้ให้ดี ๆ ฉันรู้สึกว่าเขากำลังสนใจเธอมาก” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว
“บ้าน่าไม่ใช่หรอก” หลานอวี่ส่ายหน้าอันแดงก่ำ เพราะในความเป็นจริงเธอก็รู้สึกชอบลู่หยางอยู่นิดหน่อยเหมือนกัน น่าเสียดายที่เซี่ยหยู่เว่ยกับวอลอคสาวกำลังคิดถึงเรื่องของลู่หยาง พวกเธอจึงไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าของสหาย
—
ในอีกฟากหนึ่งลู่หยางกำลังออกกำลังกาย แต่ในทันใดนั้นเขาก็จามออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
“เป็นหวัดเหรอ?”
หลังออกกำลังกายเสร็จชายหนุ่มก็เข้าพักผ่อนรอจนกระทั่งถึงช่วงบ่ายโมงของอีกวันเขาจึงกลับเข้าสู่เกมอีกครั้ง
ลู่หยางทำการตรวจเช็คค่าสถานะของตัวเองในปัจจุบัน ซึ่งหลังจากอัปเกรดอุปกรณ์มาอย่างต่อเนื่อง มันก็ทำให้ค่าสถานะของเขาเพิ่มขึ้นจากเดิมไปไกล
ลู่หยาง
เลเวล 10
ความอดทน 23
ความแข็งแกร่ง 21
สติปัญญา 153
ความคล่องแคล่ว 23
พลังกาย 37
พลังชีวิต 592
มานา 1,836
ความเสียหายทางกายภาพ 26-30
ความเสียหายทางเวทมนตร์ 242
พลังป้องกัน 33-39
อัตราคริติคอลทางกายภาพ 0%
อัตราคริติคอลทางเวทมนตร์ 28.3%
ความเร็วในการฟื้นฟูมานา 5 หน่วย/ 5 วินาที
การมีค่าสถานะที่สูงมากขนาดนี้ทำให้เขาสามารถท้าทายผู้เล่นทั่วทั้งเซิร์ฟเวอร์ได้สบาย ๆ และต่อให้แบล็คบลัดจะส่งคนมารุมโจมตีเขา แต่เขาเพียงคนเดียวก็สามารถที่จะถล่มกิลด์ของแบล็คบลัดได้โดยลำพัง
“รอก่อนเถอะแบล็คบลัด อีกไม่นาน นจะเป็นคนทำร้ายกิลด์ของแกเป็นที่แรก” ลู่หยางคิดในใจ
แม้ตอนนี้เขาจะสามารถไปล้างแค้นได้เลย แต่เขาก็ยังมีเวลาไม่มากพอ เพราะเมื่อผู้เล่นเก็บเลเวลไปจนถึงเลเวล 10 แล้ว มันก็มีกิจกรรมภายในเกมให้ต้องทำเพิ่มขึ้นอีกอย่างมากมาย ยกตัวอย่างเช่น มินิเกม ที่ถ้าหากผู้เล่นสามารถผ่านมินิเกมเหล่านั้นได้ พวกเขาก็จะได้รับไอเท็มพิเศษมาเป็นการตอบแทน
บริเวณใกล้ ๆ ตลาดทางทิศตะวันออกของเมืองมีคณะละครสัตว์ลูน่าตั้งอยู่ ทุก ๆ ช่วงกลางเดือนพวกเขาจะมาทำการจัดแสดงภายในเมืองแห่งนี้ ซึ่งช่วงแรกผู้เล่นออกไปเก็บเลเวลนอกเมืองกันหมดจนไม่มีใครสนใจมาดูการแสดงของคณะละครสัตว์ แต่ในชาติก่อนหลังจากที่เกมเปิดให้บริการมานานกว่าสองเดือน ผู้เล่นสายชิวคนหนึ่งก็เดินทางเข้าไปในคณะละครสัตว์โดยบังเอิญ ก่อนที่เขาจะไปกระตุ้นภารกิจลับขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ