ตอนที่แล้วบทที่ 62 พลังของเมเทโอฟอลล์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 64 ผิดเป้า

บทที่ 63 ซุนหยูนักธนูขั้นเทพ


บทที่ 63 ซุนหยูนักธนูขั้นเทพ

ด้วยการสังหารโทรลล์เป็นจำนวนมาก มันจึงทำให้เลเวลของซุนหยูเพิ่มขึ้นจากเลเวล 2 ขึ้นเป็นเลเวล 5 ในพริบตา

“โคตรเก่งเลย!” ซุนหยูเงยหน้ามองลู่หยางด้วยความเคารพ และทันใดนั้นเขาก็เพิ่งสังเกตเห็นชื่อสมาชิกร่วมปาร์ตี้เดียวกันกับเขา

“ลู่…หยาง…”

“ที่แท้พี่ชายก็คืออาจารย์ลู่หยาง ผู้เล่นอันดับ 1 ในกระดานจัดอันดับนี่เอง” ซุนหยูร้องขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

“ใช่ ฉันเอง” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“อาจารย์ ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยผมเก็บเลเวลที” ซุนหยูแสดงความเป็นเด็กน้อยออกมาในทันที ซึ่งถ้าหากว่าเขากอดขาลู่หยางเอาไว้ได้เขาก็คงจะคุกเข่าลงไปกอดแล้ว

“นายเป็นคนแรกเลยนะที่ขอให้ฉันช่วยเก็บเลเวลแบบนี้” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

ซุนหยูกลัวว่าลู่หยางจะไม่ยินยอม เขาจึงรีบพูดออกมาว่า

“อาจารย์ ผมมีประโยชน์มากเลยนะ! ผมสามารถไปลากมอนสเตอร์ทีละมาก ๆ ไม่ว่าอาจารย์จะต้องการมอนสเตอร์เท่าไหร่ผมก็จะไปหาพวกมันมาให้เท่านั้น”

ลู่หยางตั้งใจจะรับซุนหยูเป็นลูกน้องอยู่แล้ว เขาจึงตอบกลับไปว่า

“ก็ได้ เดี๋ยวฉันจะช่วยนายเก็บเลเวลเอง”

“เยี่ยม!” ซุนหยูตะโกนด้วยความตื่นเต้น เพราะสำหรับตัวเขาแล้วการพยายามเพิ่มเลเวลจากเลเวล 2 เป็นเลเวล 5 อาจจะต้องใช้เวลานานกว่า 5 วัน แต่หลังจากที่เขาได้เข้าร่วมปาร์ตี้กับลู่หยางเลเวลทั้งสามเลเวลนี้กลับเพิ่มขึ้นมาในเวลาไม่กี่นาที

“อาจารย์ คุณจะให้ผมไปล่อมอนสเตอร์ยังไงดี? เดี๋ยวผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย” ซุนหยูถาม

ลู่หยางมองสีหน้าเยาว์วัยของซุนหยูอย่างละเอียดอีกครั้ง และได้พบว่าเด็กหนุ่มคนนี้น่าจะมีอายุแค่ประมาณ 15 ปีเท่านั้นเอง

“ไม่ต้องรีบ พักฟื้นเอาแรงไปก่อนก็ได้”

“อาจารย์ คุณช่างเป็นคนที่ใจดีจริง ๆ” ซุนหยูกล่าวชื่นชม เพราะท้ายที่สุดเขาเพิ่งจะวิ่งหนีโทรลล์กว่า 80 ตัวมาเป็นเวลานาน แถมยังต้องคอยหลบหลีกหอกที่ถูกขว้างออกมาเป็นระยะ ๆ ดังนั้นสภาพของเขาจึงเหนื่อยล้าอยู่ไม่น้อย

“นายเก็บของที่ดรอปบนพื้นได้เลย หลังจากเอาไปขายแล้วพวกเราค่อยมาแบ่งเงินกัน” ลู่หยางกล่าว

ซุนหยูยังไม่ได้เก็บอุปกรณ์ระดับหินที่ดรอปลงมาบนพื้นเลยแม้แต่น้อย หลังจากลู่หยางพูดขึ้นมาเขาก็ส่ายหัวไปมาและกล่าวว่า

“อาจารย์ คุณเอาพวกมันไปเถอะ แค่คุณช่วยผมอัปเลเวลแค่นั้นก็มากพอแล้ว ผมไม่เอาของพวกนี้หรอก”

“ฉันบอกให้เก็บก็เก็บไปเถอะ” ลู่หยางกล่าวซ้ำ

ซุนหยูไม่คิดว่าลู่หยางจะใจดีขนาดนี้ เขาจึงเกาศีรษะอย่างเขินอายและพูดว่า

“ขอบคุณมากอาจารย์ ถ้าอย่างนั้นผมไม่เกรงใจแล้วนะ”

นักธนูถือได้ว่าเป็นอาชีพที่น่าหงุดหงิดมากที่สุด เพราะพวกเขาจำเป็นจะต้องหาเงินไปซื้อลูกธนูตลอดเวลา แล้วถึงแม้ว่าลูกธนูจะมีราคาไม่แพงมาก แต่ในช่วงต้นเกมแบบนี้การจะหาเงินได้แต่ละเหรียญก็ถือว่ายากลำบากเหลือทน

ซุนหยูได้รับหน้าที่เก็บรวบรวมอุปกรณ์และเงินที่ดรอปลงมา ส่วนลู่หยางคอยเก็บรวบรวมสร้อยกระดูก เมื่อทั้งคู่เก็บไอเท็มเสร็จเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มก็พาซุนหยูเดินทางเข้าไปภายในป่าโทรลล์

ระหว่างทางเด็กหนุ่มได้หยิบขนมปังแข็ง ๆ ขึ้นมากินเพื่อฟื้นฟูความเหนื่อยล้า เพราะตามกฎของเกมหากผู้เล่นวิ่งเป็นเวลานานความเหนื่อยล้าของพวกเขาก็จะลดลง และถ้าหากว่าค่าความเหนื่อยล้าลดลงต่ำกว่า 5% พวกเขาก็จะเดินได้อย่างเดียวโดยไม่สามารถที่จะวิ่งได้อีกต่อไป

ลู่หยางรู้สึกสงสารซุนหยูอยู่นิดหน่อย เพราะเขาจำได้ว่าขนมปังพวกนั้นไม่อร่อยเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นหากผู้เล่นเปิดโหมดอิสระ มันก็จะทำให้ประสาทสัมผัสทั้งห้าถูกใช้งานอย่างเต็มที่ และเมื่อคิดย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ เขาก็สามารถบอกได้เลยว่าเด็กหนุ่มกำลังเปิดโหมดอิสระอยู่แน่ ๆ

ชายหนุ่มหยิบเนื้อปลาไหลทอดกรอบออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับบอกว่า

“อย่าไปกินขนมปังแข็ง ๆ พวกนั้นเลย เอาของพวกนี้ไปกินแทนดีกว่า”

ซุนหยูรับเนื้อปลาไหลทอดกรอบมา ก่อนที่เขาจะถามด้วยความประหลาดใจ

“อาหารทำเองระดับทอง! อาจารย์คุณไปเอามันมาจากไหน?”

“อยากรู้เหรอ?” ลู่หยางถาม

“ผมต้องกินขนมปังแข็ง ๆ นี่ทุกวัน มันทำเอาผมแทบจะอ้วกแล้ว” ซุนหยูกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“รอพวกเราแยกย้ายกันก่อนเดี๋ยวฉันค่อยบอก สถานที่แห่งนั้นมันไม่ใช่ความลับอะไรหรอก ตอนนี้มันก็มีคนรู้อยู่เยอะแล้ว” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

แม้พวกเซี่ยหยู่เว่ยจะพยายามเก็บเรื่องวิธีการทำปลาไหลทอดกรอบเป็นความลับ แต่สุดท้ายพวกเธอก็ยังคงถูกผู้เล่นสะกดรอยตามไปอยู่ดี แล้วถึงแม้ในตอนนี้ข่าวจะยังไม่ได้แพร่กระจายออกไปในวงกว้าง แต่การทำปลาไหลทอดกรอบมันก็ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป

ลู่หยางให้เนื้อปลาไหลทอดกรอบกับซุนหยูอีกสองชุด ซึ่งหลังจากที่เด็กหนุ่มฟื้นฟูค่าความเหนื่อยล้ามาเป็นที่เรียบร้อยแล้วชายหนุ่มก็พูดว่า

“นายเข้าไปล่อมอนสเตอร์มาได้เลย แต่หลังจากนี้เอามาแค่ครั้งละ 20 ตัวก็พอ”

“อาจารย์ คุณใช้สกิลที่เรียกอุกกาบาตลงมาจากฟ้าอันนั้นอีกได้ไหม?” ซุนหยูถาม

“สกิลนั้นยังติดคูลดาวน์แต่ฉันก็ยังพอมีวิธีฆ่าพวกมอนสเตอร์อยู่ นายไปล่อพวกมันมาเถอะ อ๋อใช่! พวกเรามาเพิ่มเพื่อนกันก่อน ตอนที่นายวิ่งกลับมาให้เตือนฉันล่วงหน้าอย่างน้อย 1 นาที” ลู่หยางกล่าว

“ได้ครับ” ซุนหยูตอบรับคำขอเป็นเพื่อนจากลู่หยาง ก่อนที่เขาจะวิ่งเข้าไปภายในป่าโทรลล์ด้วยความกระตือรือร้น

ลู่หยางยืนรออยู่ประมาณ 3 นาที ก่อนที่ซุนหยูจะส่งข้อความมาหาว่า

“อาจารย์ ผมล่อมอนสเตอร์ 20 ตัวมาแล้วอีกประมาณ 1 นาทีจะไปถึงคุณ”

“โอเค” ลู่หยางตอบก่อนที่เขาจะยกไม้เท้าสร้างกำแพงไฟ 4 เส้นในระยะ 20 เมตร

หลังจากปูกำแพงไฟเรียบร้อยแล้ว ลู่หยางก็ไปยืนอยู่ปลายขอบกำแพงไฟ ซึ่งในเวลานั้นเขาก็สังเกตเห็นซุนหยูที่มีโทรลล์ป่า 20 ตัววิ่งตามหลังมา

“อาจารย์ ผมต้องทำยังไงต่อ?” ซุนหยูถาม

“ลากพวกมันมาทางนี้” ลู่หยางตอบก่อนที่เขาจะยกไม้เท้าและเริ่มท่องคาถาอีกครั้ง โดยคาถาที่เขากำลังใช้ในตอนนี้นั่นก็คือสกิลเบลซซิงไลท์ที่ได้มาจากการสังหารโทรลล์ชาแมนวอลกินนั่นเอง

เบลซซิงไลท์

ประเภท เวทมนตร์ธาตุไฟ

มานาที่ต้องใช้ 28

เวลาร่าย ทันที

รายละเอียด พ่นเปลวไฟออกไปเป็นระยะ 3 เมตร สร้างความเสียหายธาตุไฟ 64 หน่วยแก่ศัตรูที่อยู่ในแนวตรง

ในช่วงเวลานี้ผู้เล่นยังคงมองว่ามันคือสกิลขยะ แต่ในชาติก่อนได้มีนักเวทไฟทำการปรับแต่งเวทมนตร์นี้ทำให้มันสามารถชาร์จพลังก่อนเป็นเวลา 10 วินาทีแล้วค่อยทำการปลดปล่อยออกไปได้

หลังจากทำการชาร์จระยะการโจมตีจะเพิ่มขึ้นเป็น 15 เมตร ความกว้างจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 เมตรและความเสียหายของเปลวไฟที่ถูกยิงออกมาจะเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 4 เท่า

ยิ่งไปกว่านั้นสกิลธาตุไฟทุกเลเวลของลู่หยางจะเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกหนึ่งเลเวล หากเขาได้ทำการชาร์จเบลซซิงไลท์ 10 วินาที มันก็จะสามารถสร้างความเสียหายโดยรวมได้มากกว่า 887 หน่วย

ตลอดเส้นทางกว่า 20 เมตรเต็มไปด้วยกำแพงไฟจากสกิลไฟร์วอลล์ที่เขาสร้างขึ้นมา ซึ่งตามกฎของเกมหากศัตรูยืนอยู่ในกำแพงไฟ พวกมันก็จะโดนความเสียหายทุก ๆ 1 วินาที แต่ในกรณีที่เป้าหมายวิ่งออกจากกำแพงไฟแล้วกลับเข้าไปชนกับกำแพงไฟภายใน 1 วินาที ทางระบบก็จะทำการคิดความเสียหายกับเป้าหมายนั้นว่ามีการโดนกำแพงไฟไปทั้งสิ้นสองครั้ง

ด้วยความเร็วในการวิ่งของโทรลล์และกำแพงไฟ 20 เมตรที่ลู่หยางได้สร้างเอาไว้ โทรลล์ที่มีพลังชีวิต 2000 หน่วยย่อมตายก่อนวิ่งออกจากกำแพงไฟอย่างแน่นอน แต่ลู่หยางกังวลว่าค่าความเกลียดชังที่ซุนหยูสร้างขึ้นมาจะมีต่ำมากจนเกินไป เขาที่เป็นคนสร้างความเสียหายส่วนใหญ่จึงอาจจะทำให้พวกโทรลล์เปลี่ยนเป้าหมายมาหาเขาได้

ถึงแม้เขาจะสวมเสื้อคุมสปอร์ที่ทำให้โอกาสเกิดเหตุการณ์แบบนั้นมีน้อยมาก แต่มันก็ยังมีโอกาสที่ความเกลียดชังจะถูกโอนย้ายมาที่เขาได้อยู่ดี และถ้าหากว่าเขาถูกหอกของโทรลล์ 3 อันจู่โจมเข้าพร้อมกัน ในเวลานั้นเขาก็จะตายก่อนที่จะทันได้รู้ตัว

เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ลู่หยางจึงตัดสินใจใช้สกิลเบลซซิงไลท์เวอร์ชั่นปรับปรุง

เมื่อพวกโทรลล์วิ่งเข้ามาในกำแพงไฟ พวกมันก็ได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่อง แต่ในตอนที่พลังชีวิตของโทรลล์ใกล้จะหมด โทรลล์ 3 ตัวแรกที่อยู่ห่างจากลู่หยางเพียงแค่ 5 เมตรก็ได้เปลี่ยนเป้าหมายไปเล็งโจมตีเข้าใส่ชายหนุ่มแทน

โทรลล์ป่าร้องคำรามและทำท่าเหมือนจะขว้างหอกในมือ แต่ในจังหวะนั้นมันก็เป็นจังหวะที่ลู่หยางร่ายเวทจนจบพอดี มันจึงได้มีลำแสงเปลวเพลิงขนาดใหญ่พุ่งเข้าไปแผดเผาพวกโทรลล์จนกลายเป็นเถ้าถ่าน

เห้ออออ เกือบไปแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด