บทที่ 43
หลังจากความตึงเครียดระหว่างพวกเธอคลายลง เยเลน่าก็ละทิ้งความคิดที่จะเผชิญหน้ากับนาตาชาชั่วคราว เธอรู้สึกทึ่งกับการเปลี่ยนแปลงของพี่สาวอย่างมาก นาตาชาดูเหมือนจะกลายเป็นคนละคนในเวลาเพียงไม่กี่ปี
นาตาชาเคยเป็นสายลับที่โหดเหี้ยม เชี่ยวชาญในการหลอกลวง มือเธอเปื้อนเลือดมากมาย แต่ตอนนี้ สำหรับเยเลน่า เธอกลับดูเหมือนดอกทานตะวันที่เบ่งบาน อบอุ่นขึ้น มีความเมตตาและมีความอ่อนโยนในดวงตาที่ทำให้เยเลน่ารู้สึกไม่สบายใจ
เยเลน่าไม่อาจเข้าใจได้เลยว่านาตาชาผ่านอะไรมาถึงเปลี่ยนแปลงได้อย่างน่าประหลาดใจ ทั้งในด้านพลังและท่าทีของเธอ
“เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดกับเดรย์คอฟหรือเปล่า นาตาชา?” เยเลน่าถามตรง ๆ
เมื่อกว่าหนึ่งปีที่แล้ว เดรย์คอฟได้ยุบ Red Room อย่างไม่คาดคิด และใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อช่วยเหลือให้เหล่า Black Widows ที่ฝึกมาได้กลับบ้าน เยเลน่าก็เป็นหนึ่งในนั้น
แต่เยเลน่ารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ การทรยศของนาตาชาและพฤติกรรมที่ยิ่งแปลกประหลาดขึ้นของเดรย์คอฟ ทำให้เธอเชื่อว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการสมรู้ร่วมคิดบางอย่าง
เธอไม่สามารถเชื่อใจในสถานการณ์นั้นได้ เยเลน่าจึงหลบหนีและตั้งถิ่นฐานชั่วคราวขณะสืบสวนการกระทำแปลกประหลาดของเดรย์คอฟ
ไม่นานนัก เดรย์คอฟก็เสียชีวิตในเหตุระเบิดที่เป็นปริศนา สถานการณ์นั้นช่างประหลาดจนเยเลน่าไม่อาจเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ แต่ตอนนี้ ด้วยการปรากฏตัวของนาตาชาและความสามารถทางกายภาพที่พัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน เยเลน่าผู้เฉียบแหลมก็เชื่อมโยงเหตุการณ์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน
นาตาชาไม่ได้ปฏิเสธ “อืม” เธอฮึมเบา ๆ ก่อนจะพูดเสริม “แต่การตายของเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉันเลย น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ตายด้วยมือฉัน”
เยเลน่าขมวดคิ้ว สายตาของเธอจ้องมองอย่างคมกริบ “ดูเหมือนชีวิตของเธอดีกว่าที่ฉันคิดไว้มาก”
“ก็จริง” นาตาชาตอบรับพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ
“แต่เธอก็ยังไม่มาหาฉันจนกระทั่งตอนนี้?” น้ำเสียงของเยเลน่าเต็มไปด้วยความไม่พอใจและเจ็บปวด
นาตาชาถอนหายใจอย่างเห็นได้ชัดว่าเป็นกังวล “เยเลน่า เธอก็รู้ว่า…”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ นาตาชาก็หันไปทางระเบียงอย่างรวดเร็ว สัญชาตญาณของเธอเตือนให้ระวัง ทันใดนั้นเธอก็คว้าเยเลน่าพลางดึงตัวออกไป
ในวินาทีถัดมา ลูกศรสีดำพุ่งผ่านอากาศ แหวกผ่านพวกเธอไปอย่างเฉียดฉิวและปักเข้ากับกำแพงฝั่งตรงข้าม
บี๊บ! บี๊บ! บี๊บ!
เสียงบี๊บดังก้องออกมาจากช่องเล็กๆ ระหว่างชิ้นส่วนโลหะรูปดาวของลูกศร ส่งสัญญาณเตือนว่ากำลังจะระเบิด นาตาชาและเยเลน่ารู้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามาทันที
ในจังหวะเดียวกัน เยเลน่าและนาตาชาวิ่งตรงไปยังระเบียง กระโดดออกไปพอดีที่ระเบิดทำลายล้างห้องนั่งเล่นด้านหลังพวกเธอ
บูม!
แรงระเบิดส่งคลื่นกระแทกมหาศาลผ่านอาคาร เปลวไฟลุกพรึบพร้อมเสียงระเบิดก้องไปทั่วทั้งย่าน ส่งให้ผู้คนที่เดินอยู่เบื้องล่างกรีดร้องด้วยความตกใจ
ขณะที่พวกเธอตกลงมาจากความสูงสี่ถึงห้าชั้น เยเลน่าดึงปืนตะขอออกมาอย่างรวดเร็ว เล็งไปที่กำแพงด้านบนแล้วเหนี่ยวไก ตะขอสีดำยึดติดกับผนังชั้นสาม ชะลอการตกของเธออย่างปลอดภัย ด้วยสัญชาตญาณ เธอเหลือบมองนาตาชา คิดว่าเธอจะทำแบบเดียวกันแต่กลับเห็นนาตาชากำลังร่วงลงอย่างอิสระสู่พื้น
ดวงตาของเยเลน่าเบิกกว้างด้วยความตกใจ มือเธอยื่นออกไป แต่ก็ไม่อาจคว้าไว้ได้แล้ว น่าประหลาดใจที่นาตาชาทำการพลิกตัวกลางอากาศอย่างสง่างาม แล้วลงสู่พื้นอย่างมั่นคง ดูดซับแรงกระแทกโดยแทบไม่ย่อเข่าเลย และไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน
เยเลน่าค่อย ๆ ลงมาด้วยปืนตะขอ เมื่อเท้าแตะพื้นข้างนาตาชา เธอถอนหายใจพลางแซว “แอบเป็นซูเปอร์วูแมนในชุดสีน้ำเงินเหรอ?
วางแผนจะโชว์ตัว ‘S’ บนอกให้ฉันดูเมื่อไหร่ล่ะ?”
นาตาชาส่งสายตาขี้เล่นกลับไป พลางมองข้ามถนนไปอย่างใจเย็น ไม่สนใจความวุ่นวายที่เพิ่งหนีมา
ทันใดนั้น นาตาชาก็เปิดใช้ ฮาคิสังเกตุ โลกทั้งใบรอบตัวเธอดูเหมือนจะช้าลงทันตา เธอสัมผัสถึงความมุ่งร้ายอันทรงพลังที่อยู่ไกลออกไปสองถนน เป็นการปรากฏตัวที่แข็งแกร่งกว่าคนส่วนใหญ่ แม้กระทั่งเยเลน่าก็เทียบไม่ได้
“เฮ้ เราต้องไปแล้ว” เยเลน่าพูดพลางดึงแขนนาตาชา แต่เธอส่ายหน้า มองไปที่กลุ่มคนที่เริ่มมุงรอบ ๆ พวกเธอ เธอกระซิบ “มีแค่คนเดียว เธอตามฉันมา”
นาตาชาพูดจบก็กระโจนเข้าไปในซอยแคบ ๆ ทันที เยเลน่าแม้จะลังเล แต่ก็เชื่อใจและกัดฟันวิ่งตามไปติด ๆ
แม้ว่าเยเลน่าจะผ่านการฝึกฝนอย่างหนักและมีความเร็วที่น่าประทับใจจนเทียบได้กับนักวิ่งโอลิมปิก แต่เธอกลับต้องพยายามอย่างหนักเพื่อวิ่งตามนาตาชา ทั้งสองวิ่งลัดเลาะผ่านซอย ข้ามถนน หลบหลีกผู้คนที่เดินอยู่รอบ ๆ และแหวกผ่านฝูงชนไป นาตาชาจดจ่ออยู่กับการติดตาม เป้าหมายของเธออยู่ไม่ไกล
ยิ่งเยเลน่าวิ่งไปก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน นาตาชากลับดูเหมือนจะอยู่ไกลเกินเอื้อมเสมอ ก้าวนำไปหนึ่งก้าวตลอดเวลา “ผู้หญิงคนนี้กลายพันธุ์หรือไง?”
เยเลน่าพึมพำอย่างขุ่นเคือง รู้สึกอับอายที่นาตาชาสามารถทิ้งเธอไว้ได้ง่ายดายขนาดนี้
การไล่ล่าด้วยความเร็วสูงผ่านย่านที่แออัดดึงดูดความสนใจจากคนเดินถนนหลายคนที่มองด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นผู้หญิงทั้งสองคนวิ่งฝ่าถนนไปอย่างรวดเร็ว พวกเธอสร้างความตื่นตกใจให้ผู้คนรอบข้าง โดยเฉพาะชายที่พวกเธอกำลังไล่ตาม
แต่ชายคนนี้ไม่ใช่เป้าหมายธรรมดา เขาสวมชุดยุทธวิธีพร้อมกระบอกเก็บลูกธนูพาดบนหลังและธนูคอมโพสิตสีดำในมือ เคลื่อนตัวบนหลังคาด้วยความคล่องแคล่วราวกับนักพาร์คัวร์
เขาใช้เส้นทางหนีที่วางแผนไว้อย่างรอบคอบ กระโดดจากอาคารหนึ่งไปยังอีกอาคารหนึ่ง หลังจากวิ่งได้ไม่กี่นาที เขาพุ่งข้ามขอบตึกสี่ชั้น จับท่อบันไดหนีไฟที่ติดอยู่กับผนัง แล้วปีนลงมาอย่างรวดเร็วสู่ตรอกข้างล่าง
มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งที่เตรียมพร้อมไว้จอดรออยู่ เขารีบวิ่งไปสตาร์ทเครื่อง แต่ทันทีที่เขากำลังจะเร่งเครื่องออกไป เขาก็รู้สึกถึงแรงลมกรรโชกด้านหลัง สัญชาตญาณของเขาทำงาน เขาก้มตัวลงทันที จากนั้นกลิ้งตัวออกจากมอเตอร์ไซค์ ในจังหวะเดียวกัน เขาชักลูกศรออกจากกระบอกแล้วเล็งอย่างแม่นยำและอันตราย
แต่เขาช้าเกินไป
ก่อนที่เขาจะปล่อยลูกศรออกมา เขาก็ถูกกระแทกเข้าที่อกอย่างแรงราวกับโดนรถไฟพุ่งชน แรงปะทะส่งร่างของเขาลอยไป เลือดพุ่งออกจากปากขณะที่ร่างกระแทกเข้ากับกำแพง ก่อนจะกระเด็นออกมาและล้มลงกับพื้น หอบหายใจอย่างยากลำบาก