บทที่ 35:สังหารกึ่งเทพ
บทที่ 35:สังหารกึ่งเทพ
ไม่มีใครเป็นวีรบุรุษ
มีเพียงผู้ที่เติบโตจากความอ่อนแอ
กล้าหาญจากความหวาดกลัว
และมองเห็นความยิ่งใหญ่จากความธรรมดา
มนุษย์ย่อมมีการเติบโต…
ลู่หย่วนหมิงรู้ว่าเขาไม่ถนัดในการประจบประแจง ดังนั้นเขาจึงปฏิบัติต่อทุกคนที่พบเจอด้วยความจริงใจอย่างที่สุด
เขาต้องการมีชีวิตอยู่
ต้องการตื่นขึ้นจากร่างกายที่ไร้ชีวิต
จึงยิ่งหวงแหนชีวิตของตัวเองยิ่งขึ้น
เขาต้องการให้วัฒนธรรมมนุษย์ดำรงอยู่
เขาต้องการ…
ในช่วงเวลาเหล่านี้ ลู่หย่วนหมิงเหมือนฟองน้ำที่ดูดซับสิ่งดีงามต่าง ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง
เขากำลังเติบโต
และด้วยความเร็วที่คนอื่นไม่รู้
ลู่หย่วนหมิงรู้ว่าการที่เขาออกมาทำอะไรแบบนี้ เหมือนในตอนนี้ถือเป็นเรื่องโง่เขลามาก
สิ่งที่เขาควรทำคืออยู่กับคนอื่นในทีม รอจนคลื่นของสัตว์ประหลาดผ่านพ้นไป
แต่…เขาต้องการทำอะไรบางอย่าง
เหมือนตอนที่เขาเพิ่งมาถึงโลกแห่งสสารมืด
ถูกแทงข้างหลัง
ถูกมนุษย์หมาขังอยู่ในรูหนูและกัดกิน
ตอนนั้นเขาหวังเหลือเกินว่าจะมีใครสักคนช่วยเขา
จะมีใครสักคนนำความสว่างและความหวังมาให้เขา
ลู่หย่วนหมิงนึกถึงความสิ้นหวังที่เขาเคยเผชิญมา จึงเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความสิ้นหวังของผู้คนที่ถูกโยนเข้าสู่โลกแห่งความมืดมิด แล้วเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาด
ในความมืดมิดนี้ พวกเขาปรารถนาจะเห็นแสงสว่าง
และเขาเองก็ถือคบเพลิงอยู่
แล้วทำไม...เขาจะไม่กลายเป็นแสงสว่างของพวกเขาในเวลานี้ล่ะ!?
ลู่หย่วนหมิงสะบัดหอกในมือ ปัดป้องสัตว์ประหลาดที่พุ่งเข้าใส่ แต่ในเวลาเดียวกัน แรงมหาศาลก็พุ่งเข้าหา เขาจึงยกแขนอีกข้างขึ้นปัดป้อง เสียงดังสนั่น เกราะที่แขนของเขาแตกกระจาย แรงมหาศาลผลักเขาไปไกลกว่าสามสิบเมตร ชนเข้ากับเศษซากรถยนต์ที่พังยับเยิน พร้อมกับทำให้รถยนต์เหล่านั้นพังยับเยินหนักกว่าเก่า และเขาก็ลื่นไถลไปบนพื้นอีกสิบกว่าเมตร
ในจุดที่ลู่หย่วนหมิงยืนอยู่เมื่อครู่ มีสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวกำลังถือเสาไฟฟ้าทำท่าจะฟาดลงมา
สัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวนี้สูงประมาณสิบห้าเมตร ร่างกายหนาใหญ่ ผิวหนังสีเทาอมเขียว ไม่เหมือนเนื้อและเลือด แต่ดูคล้ายกับหินแกรนิตมากกว่า ขณะที่มันเดินไปมา พื้นดินก็สั่นสะเทือนไปหมด
นี่คือสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวที่ปรากฏตัวขึ้นจากความมืด หลังจากที่ลู่หย่วนหมิงสังหารสัตว์ประหลาดสามหัวที่อยู่ตรงนั้นไปแล้ว
เมื่อเห็นสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียว ลู่หย่วนหมิงก็รู้ทันทีว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้แตกต่างจากสัตว์ประหลาดสามหัว หรือแม้แต่สัตว์ประหลาดอื่น ๆ
มันมีสติปัญหาระดับสูง!
ในขณะที่ลู่หย่วนหมิงจัดการสัตว์ประหลาดยักษ์ใหญ่สองตัว ตัวที่เหลืออยู่ก็หมดกำลังใจกันไปแล้ว เมื่อเขาพุ่งเข้าใส่ สัตว์ประหลาดยักษ์ใหญ่ตัวสุดท้ายนั้นกลับใช้สัตว์ประหลาดตัวอื่น ๆ มาเป็นโล่ มันไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขาเองโดยตรง
แต่ที่แปลกคือ สัตว์ประหลาดยักษ์ใหญ่นั้นไม่หนีไม่ไหน จนกระทั่งเขาสังหารมันได้ในที่สุด สัตว์ประหลาดตัวนี้อาจจะมีความกลัวเป็นสัญชาตญาณ แต่ถึงแม้มันจะต้องตาย มันก็ไม่กล้าหนีไปไหนแม้แต่ก้าวเดียว
ต่อมาลู่หย่วนหมิงก็ได้รู้ว่า สัตว์ประหลาดยักษ์ใหญ่เหล่านี้ยังไม่ใช่ผู้นำสูงสุดของพวกสัตว์ประหลาด แต่เป็นสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวที่เดินออกมาจากความมืดต่างหาก!
ลู่หย่วนหมิงกัดฟันทนความเจ็บปวดร้าวในมือขวา เขารู้ว่ากระดูกมือขวาของเขาคงจะแตกละเอียดไปแล้ว
ปืนก็พังไปแล้ว แม้แต่เกราะเหล็กก็ไม่สามารถหยุดการโจมตีของยักษ์ตาเดียวได้
และมันยังมีอะไรที่พิเศษ... ไม่ใช่แค่พละกำลังและร่างกายที่แข็งแกร่ง แต่เป็นพลังเหนือธรรมชาติอย่างต่างหาก
เมื่อตาเดียวของสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนี้จ้องมองมา เขาก็รู้สึกหนักอึ้งไปทั้งตัว ราวกับมีแรงกดดันมหาศาลปรากฏขึ้นมา ทำให้เขาวิ่งหนีการโจมตีของมันไม่ทัน และในแง่ของพละกำลัง มันมีกำลังมากกว่าเขาอย่างน้อยหลายเท่า ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ธรรมดาจะเทียบได้
ลู่หย่วนหมิงนอนอยู่บนพื้นสองวินาที เขากำลังจะลุกขึ้น แต่ทันใดนั้นก็มีแรงมหาศาลปรากฏขึ้นอีก และแรงนี้ไม่ใช่ภาพหลอน เพราะก้อนหินเล็ก ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ ตัวเขาถูกบดขยี้ แม้แต่แท่งเหล็กที่เป็นเศษส่วนจากรถยนต์ก็ถูกกดราบลงบนพื้น
"นี่มัน...แรงโน้มถ่วงงั้นเหรอ!?"
ลู่หย่วนหมิงนึกถึงเรื่องราวในตำนานที่เคยอ่านมา สัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียว เป็นสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏในตำนานของทั่วโลก และที่โด่งดังที่สุดคงหนีไม่พ้น ไซคลอปส์ ยักษ์ตาเดียวในตำนานกรีก เล่าขานกันว่า ยักษ์ตาเดียวทุกตัวล้วนเป็นลูกหลานของไกอา เทพีแห่งแผ่นดิน พวกมันคือกึ่งเทพที่สืบสายเลือดมาจากไททัน หากลองย้อนกลับไปหาต้นกำเนิดของยักษ์ตาเดียวจากการสะสมของอารยธรรมมนุษย์ ยักษ์ตาเดียวน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับแรงโน้มถ่วงหรือแผ่นดิน
พลังมหาศาลที่ปรากฏขึ้นมาจากอากาศ กดทับลู่หย่วนหมิงจนเขาแทบจะลุกขึ้นไม่ได้ เขาค่อย ๆ ยกหัวและลำตัวขึ้นจากพื้น ในขณะเดียวกัน สัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวก็มองเขามาด้วยสายตาที่ดูเหมือนจะแฝงไปด้วยความขบขัน มันก้าวเดินทีละก้าวเข้าหาลู่หย่วนหมิง แต่ละก้าวราวกับแผ่นดินไหว
"ลุกขึ้น...ลุกขึ้นสิ..."
ลู่หย่วนหมิงพยายามดึงตัวเองขึ้นยืนด้วยแรงทั้งหมดที่มี เกราะเหล็กก็เริ่มแตกออกเป็นชิ้น ๆ ผิวหนังและกล้ามเนื้อของเขาถูกฉีกขาดตามไปด้วย
“ลุกขึ้น! ลุกขึ้นเร็ว!”
เสียงตะโกนดังขึ้นจากหลังคาอาคารทั้งสองฝั่ง สัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวหันไปมองตามเสียง แล้วทันใดนั้นสัตว์ประหลาดก็พุ่งเข้าหาจุดที่เสียงดังขึ้น
สัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวหันกลับมาสบตากับลู่หย่วนหมิงที่กำลังพยายามยืนขึ้นอีกครั้ง พลังมหาศาลที่มองไม่เห็นผลักร่างของลู่หย่วนหมิงจนเข่าทรุดลง
“ลุกขึ้น!”
“ฮีโร่! ลุกขึ้นเร็ว!”
“ลุกขึ้น! ลุกขึ้น!!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นจากทั้งสองฝั่งของถนน เมื่อสัตว์ประหลาดพุ่งไปยังจุดที่เสียงดังขึ้น มนุษย์ที่ซ่อนตัวอยู่หลังอาคารต่างเงียบกริบกันเพียงชั่วครู่ ก่อนจะลุกขึ้นตะโกนขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง เด็กหรือผู้ใหญ่ ท่ามกลางคลื่นของสัตว์ประหลาดที่กำลังถาโถมเข้ามา พวกเขายังคงตะโกนออกมา ราวกับว่ากำลังถูกพลังงานลึกลับบางอย่างกระตุ้นให้ลุกขึ้นต่อสู้ เผยตัวออกมาจากที่ซ่อนแม้จะเสี่ยงต่ออันตรายจากสัตว์ประหลาด พวกเขารวมใจกันตะโกนขึ้นเรื่อย ๆ เสียงที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ และมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในขณะนั้น ก็มีเสียงปืนดังขึ้น ชาร์ลี ปีเตอร์ ทหารในหน่วย และถังเจ๋ออัน ต่างชี้ปืนไปที่ถนนด้านล่าง ยิงใส่สัตว์ประหลาดทั้งหลายและสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียว พร้อมกับตะโกนให้ลู่หย่วนหมิงลุกขึ้น
ลู่หย่วนหมิงบีบอนุภาคแสงไร้สีไว้ในมือ ในขณะเดียวกัน สัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวก็เหลือบมองอาคารทั้งสองข้างถนน มันคำรามด้วยความโกรธอย่างเสียงดัง หวังจะกลบเสียงเรียกของผู้คนที่กำลังเรียกให้ลู่หย่วนหมิงลุกขึ้นยืน
ในชั่วพริบตาเดียว รัศมีแห่งแสงบนร่างของลู่หย่วนหมิงก็ระเบิดออกอย่างรุนแรง พุ่งขึ้นสูงกว่าสามช่วงแขน
ราวกับสายฟ้าฟาด หรือพายุหมุน ลู่หย่วนหมิงกระโดดขึ้นในทันที พุ่งออกไปกว่าสิบวา ในขณะที่สัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวหันกลับมามอง ลู่หย่วนหมิงก็ได้หวดหอกยาวออกไป หอกทั้งเล่มโค้งงอเป็นครึ่งวงกลม ก่อนจะฟาดลงไปที่กระดูกน่องของสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวอย่างแรง เสียงดังเปรี้ยง เสียงหอกแตกละเอียด ขาทั้งขาของสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวหักไปด้านหลัง ร่างกายอันมหึมาของมันล้มลงไปกับพื้น
ทุกสิ่งรอบตัวลู่หย่วนหมิงดูช้าลงอย่างมาก เขาเหวี่ยงตัวกระโดดขึ้น ขณะที่เสาไฟฟ้าในมือของสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวฟาดผ่าน ลู่หย่วนหมิงก็กระโดดข้ามเสาไฟฟ้าไปอย่างเฉียดฉิว แล้วลงมายังบนท้องของสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียว จากนั้นเขาก็พุ่งตรงไปยังศีรษะของสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียว
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงของผู้คนยังคงดังอยู่ ลู่หย่วนหมิงก็มาถึงหน้าสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวแล้ว อยู่ห่างเพียงไม่ถึงสองวา ในขณะเดียวกัน มืออีกข้างของสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวก็พุ่งตรงไปยังตาเดียวของมัน หวังจะใช้ฝ่ามือปัดป้องการโจมตีและการรุกคืบของลู่หย่วนหมิง ซึ่งพอมันมองมาที่เขา แรงกดก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วบนร่างกายของลู่หย่วนหมิง
แรงโน้มถ่วงอันมหาศาลของสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวกระหน่ำลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง รุนแรงกว่าที่ลู่หย่วนหมิงเคยสัมผัสมาก่อน มันไม่จำเป็นต้องใช้สายตาเลย ถึงตอนนี้ ลู่หย่วนหมิงจึงรู้ว่าสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวยังซ่อนไพ่ตายไว้อีกแน่ ขณะที่ฝ่ามือยักษ์กำลังจะปิดลงบนดวงตาเดียว ลู่หย่วนหมิงไม่หยุดยั้ง เขาทุ่มเทแรงทั้งหมดออกไป พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปยังดวงตาขนาดยักษ์นั้น
ทันทีที่ลู่หย่วนหมิงพุ่งชนดวงตาของมัน ฝ่ามือของสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวก็ลงมาอย่างแรง แรงกดทับมหาศาล ทะลุผ่านร่างกายของลู่หย่วนหมิง กระดูกทุกชิ้นในร่างกายของเขาส่งเสียงดัง เลือดพุ่งออกมาจากปาก จมูก และหู แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ใช้มือข้างเดียว แทงเข้าไปในดวงตาขนาดใหญ่ ทั้งฝ่ามือและแขน ครึ่งร่างกายของเขาฝังอยู่ในตาของมัน…
ทุกคนรอบข้างต่างจ้องมอง พวกเขาเห็นสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวใช้ฝ่ามือเดียวปิดหน้า และร่างของลู่หย่วนหมิงหายไป ต่อมาสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวก็ยกเสาโทรเลขขึ้นมาด้วยมืออีกข้าง ความสิ้นหวังแผ่ซ่านไปทั่วทุกหัวใจ เสาโทรเลขที่ถูกยกขึ้นค่อย ๆ เหวี่ยงช้าลง จนกระทั่งตกลงมาพร้อมกับเสียงดัง “โป้ง” สัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียวได้สิ้นใจลง
ไม่นานหลังจากนั้น ลู่หย่วนหมิงก็ลุกขึ้นอย่างช้า ๆ จากฝ่ามือของยักษ์ตาเดียว เขาใช้พลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ ยืนตัวตรง ขณะที่สัตว์ประหลาดรอบข้างต่างส่งเสียงร้องและวิ่งหนีไป แม้ว่าพวกมันจะมีอยู่หลายร้อยตัวก็ยังคงหนีไปอยู่ดี ในขณะเดียวกัน ผู้คนบนอาคารรอบ ๆ ก็เริ่มส่งเสียงเฮ ดีใจ ชาร์ลีและพวกคนอื่น ๆ ได้วิ่งลงมาจากอาคาร พร้อมกับยิงปืนอย่างไม่หยุดยั้ง
ลู่หย่วนหมิงมองเห็นร่างไร้ชีวิตของสัตว์ประหลาดยักษ์ตาเดียว เกิดการระเบิดของอนุภาคแสงสีขาวจำนวนมหาศาล อีกทั้งยังมีกลุ่มแสงสีดำสนิทปรากฏขึ้น ทั้งปริมาณและความมืดมิดของแสงสีดำนั้น ล้วนเหนือกว่าเกราะเหล็กกล้าของเขา
เมื่ออนุภาคแสงสีขาวพุ่งเข้าสู่ร่างกาย ลู่หย่วนหมิงรู้สึกเหมือนร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ อีกครั้ง แถมครั้งนี้รุนแรงกว่าเดิมมากจนเขาไม่ทันได้พูดอะไรกับถังเจ๋ออัน ปรากฏการณ์กลับคืนร่างเดิมก็ได้เริ่มขึ้น
คราวนี้ร่างเดิมของเขาน่าจะฟื้นแล้ว…
ลู่หย่วนหมิงคิดได้ดังนั้น เขาจึงส่งยิ้มไปยังทุกคนที่อยู่ในความมืดมิด
แล้วเขาก็ปรากฏตัวขึ้นในร่างเดิมที่นอนอยู่ในความมืดมิดเหมือนผักอีกครั้ง