บทที่ 1040: บุคคลที่ไม่คาดคิด ข้อตกลงก่อนจากลา
[แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ\]
[Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย]
[หลังแปลจบ คิดว่าจะมีการเกลาคำเบื้องต้น แก้คำผิด ปรับสำนวนให้สละสลวย เทียบคำต่อคำ ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนกันเสมอมานะครับ]
บทที่ 1040: บุคคลที่ไม่คาดคิด ข้อตกลงก่อนจากลา
ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นลูกสาวของร้อยอสูร ยามาโตะคงไม่ถูกหมายหัวจับหรอก ตอนนี้ได้ล้างมลทินแล้ว เธอก็คงไม่อยากถูกตามล่าอีกครั้งแน่
ตอนนี้เธอกลายเป็นเหมือนคุณป้าไปแล้ว “ไคโด” จำกัด “ยามาโตะ” ทำให้เธอขาดความรู้เกี่ยวกับโลกภายนอก ไม่มีความรู้เรื่องการเดินเรือ เธอกำลังสอนเรื่องพื้นฐานบางอย่างให้กับอีกฝ่าย
ผ่านการสอนสั่งเป็นเวลาหลายวัน ทำให้โรคโอเด้งของ “ยามาโตะ” ทุเลาลงบ้างแล้ว
ตอนนี้พวกเธอเหมือนกับเป็นพี่น้องที่ออกเดินทางท่องเที่ยวด้วยกันมากกว่า
“นี่ไง นี่คือล็อกโพส ล็อกโพสของโลกใหม่จะมีลูกแก้วสามลูก ลูกแก้วที่เข็มสั่นน้อยที่สุดก็คือเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุด เธอใช้สิ่งนี้ตัดสินเส้นทางได้เลย”
"การต่อสู้ก็ยังจำเป็นอยู่ เพราะการต่อสู้ทำให้แข็งแกร่งขึ้น แต่ถ้ารู้สึกว่าท่าไม่ดี รีบหนีทันทีก็แล้วกัน ไม่งั้นฝันของเธอคงเป็นจริงไม่ได้หรอกนะ"
"อ้อจริงสิ ถ้าเธอเห็นคนใส่หมวกฟองอากาศ ก็อย่าไปยุ่งกับพวกนั้นนะ พวกสารเลวนั่นมันน่าต่อยจริง ๆ แต่เธอคงรับมือผลที่ตามมาไม่ไหวหรอก"
ยามาโตะนึกขึ้นได้ว่าโลกนี้ก็มีพวกมังกรฟ้าที่น่ารังเกียจอยู่ ถ้าไม่เตือนกันไว้ก่อน เธอคงไม่สบายใจแน่
“โอเค ฉันจำได้แล้ว”
ด้วยอิทธิพลของยามาโตะ “ยามาโตะ” เริ่มเขียนบันทึกประจำวันของตัวเอง แต่เธอก็ยังคงพกบันทึกของโอเด้งติดตัวไว้ ยังไม่ยอมทิ้งมันไป
ตัวเธอเองไม่ใช่พวกหัวรุนแรงอะไร แต่เธอมีเป้าหมายสูงสุดคือการโค่น “ไคโด” เธอคงไม่อยากล้มเหลวกลางคันหรอก
“ไอ้พวกสารเลว! พวกแกสองคนโผล่มาจากไหนวะ! ฝันของฉันพังทลายหมดแล้ว!”
รอบ ๆ ตัวของยามาโตะทั้งสอง มีกลุ่มโจรสลัดนอนเกลื่อนกลาด ตอนนี้พวกเธอเป็นนักล่าค่าหัว การจับโจรสลัดเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
เพียงแต่ยามาโตะเพิ่งจะหยุดต่อสู้ ก็ไปหยิบล็อกโพสของต้นหนเรือฝ่ายตรงข้ามมาสอนสั่ง ซึ่งทำให้พวกโจรสลัดรู้สึกเหมือนโดนดูถูก
“ลืมบอกไป ไอ้พวกขยะแบบนี้มีเกลื่อนทะเล พวกมันออกทะเลก็สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น งั้นก็กำจัดมันซะ”
"ถ้าความฝันของใครต้องสร้างบนความทุกข์ของคนอื่น งั้นความฝันนั้นก็ควรพังพินาศไปซะ”
พูดจบก็ฟาดกระบองใส่โจรสลัดคนนั้น ทำให้ทะเลแห่งนี้ไร้ซึ่งกลุ่มโจรสลัดอันตรายไปอีกหนึ่งกลุ่ม
ในวันต่อ ๆ มา ยามาโตะกับ “ยามาโตะ” ก็เดินทางท่องทะเลไปด้วยกันดุจพี่น้อง ใช้ชีวิตนักล่าค่าหัวอย่างมีความสุข
ไม่นาน พวกเธอก็สร้างชื่อเสียงในฐานะสองพี่น้อง
และเมื่อพวกเธอมาพักผ่อนที่เกาะแห่งหนึ่ง ก็ได้พบกับบุคคลที่ยามาโตะคาดไม่ถึง
“พลเรือเอกคุซัน”
“อาระอาระ นี่ไม่ใช่สองพี่น้องฝาแฝดที่กำลังโด่งดังหรอกเหรอ? ข่าวสารของพวกเธอมันล้าสมัยไปแล้วนะ ตอนนี้ฉันไม่ใช่พลเรือเอกแล้ว”
"จะบอกว่าพวกเธอเป็นนักล่าค่าหัว หรือเป็นโจรสลัดก็ไม่เกี่ยวกับฉัน ทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนั้นล่ะ? ”
“ไม่เป็นพลเรือเอกแล้วเหรอ?”
ยามาโตะยังไม่ลดความระมัดระวัง เธอไม่กลัวคุซันหรอก แต่ “ยามาโตะ” อีกคนไม่เหมือนกัน เธอก็ไม่รู้ว่าจะรู้สึกยังไงกับตัวเองที่ดูทึ่ม ๆ คนนี้ดี
บางทีอาจจะไม่เต็มใจ บางทีอาจจะสงสาร สรุปก็คืออยากจะดูแลเธอสักพัก
“ใช่แล้ว ในหนังสือพิมพ์ไม่ได้บอกเหรอ? ถ้าพวกเธอสนใจ ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะคุยด้วยหรอก”
ตอนนี้เป็นปี 1521 สงครามมารีนฟอร์ดจบลงไปแล้วหนึ่งปี การตายของหนวดขาวและเอสทำให้กองทัพเรือได้รับชัยชนะ แต่ก็สูญเสียไปไม่น้อยเช่นกัน
เมื่อไม่นานมานี้ คุซันกับซาคาสึกิต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งจอมพลเรือ สุดท้ายคุซันก็พ่ายแพ้
ด้วยความสัมพันธ์ฉันเพื่อนร่วมงานมายาวนาน ซาคาสึกิจึงไม่ฆ่าเขา แต่คุซันก็ลาออกจากกองทัพเรือ เริ่มต้นการเดินทางอย่างไร้จุดหมายของตัวเอง
ตอนนี้เขาทำตามใจตัวเองล้วน ๆ ถ้าสนใจอะไรก็จะคุย
ยามาโตะทั้งสองก็ถือว่ากำลังปราบปรามโจรสลัดอยู่ คุซันก็เลยรู้สึกประทับใจพวกเธอตั้งแต่แรกพบ
“หมอนี่คือพลเรือเอก หรือว่าอดีตพลเรือเอกก็เถอะ เป็นยอดฝีมือระดับสัตวประหลาดเลยล่ะ ในเมื่อเขาลาออกแล้ว การสร้างสัมพันธ์กับเขาก็เป็นเรื่องดีนะ”
ยามาโตะกระซิบข้างหู “ยามาโตะ” บอกเล่าสิ่งที่ตัวเองรู้ให้เธอฟัง
คุซันก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้ฟัง
“หมอนั่นมันพูดว่า เพื่อนร่วมรุ่นต้องมาฆ่ากันเองนี่มันเร่าร้อนดีจริง ๆ มันไม่คิดบ้างเหรอวะ ว่าตัวเองเป็นลาวา มันจะไม่เร่าร้อนได้ไงวะ?”
"อาคาอินุ นั่นคือทหารเรือที่ฆ่าเอสใช่ไหม?"
"ถ้าเธอจะพูดแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอก หมัดอัคคีปกป้องน้องชายด้วยการเอาตัวรับหมัดของซาคาสึกิเอง ว่าไง พวกเธอสนิทกับสองพี่น้องคู่นั้นมากหรือ?"
ยามาโตะ: "ไม่ค่อยสนิท แค่เคยได้ยินชื่อเสียงเท่านั้น"
ในตอนนี้เองที่เธอค้นพบว่า หากสงครามมารีนฟอร์ดไม่มีกลุ่มร้อยอสูร ผลลัพธ์ดูเหมือนจะแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง หนวดดำคนนั้นได้กลายเป็นจักรพรรดิไปแล้ว
"อย่างนี้นี่เอง ก็แหงล่ะ หมวกฟางก็เป็นคนที่ไม่ธรรมดา มีน้อยคนนักที่จะทำแบบนั้นได้"
คุซันพูดคุยเรื่องสัพเพเหระอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่นานหัวข้อสนทนาก็ถูกยามาโตะดึงกลับมา
"แล้วไงต่อ ผลการต่อสู้ของพวกนายเป็นยังไง?"
"เรื่องนั้น อย่างที่เธอเห็น หมอนั่นจัดขาฉันไปข้างหนึ่ง ตอนนี้ฉันทำได้แค่ใช้พลังสร้างขาเทียมขึ้นมา ใช้งานลำบากชะมัด"
"ดูเท่ดีนะ"
"ฮ่าฮ่าฮ่า เธอนี่ช่างน่าสนใจจริง ๆ เธอเป็นคนแรกเลยนะที่พูดแบบนี้"
คำชมของ "ยามาโตะ" ทำให้คุซันพูดไม่ออก การขาขาดไม่ใช่เรื่องน่าภูมิใจอะไร แต่โชคดีที่ยังมียามาโตะอีกคนที่ฉลาดทางอารมณ์มากกว่า
"แล้วหลังจากนั้นล่ะ"
"หลังจากนั้นเหรอ ก็แบบนี้แหละ เขาขึ้นเป็นจอมพล ฉันออกจากกองทัพเรือ แต่ในการต่อสู้ครั้งนั้น เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเหมือนกันนะ สาวน้อย เธอยังไม่รู้จักเก็บซ่อนความรู้สึกตัวเอง ฝึกฝนจากพี่สาวเธอเยอะ ๆ ล่ะ"
จากนั้นคุซันก็คุยกับยามาโตะทั้งสองคนเรื่องต่าง ๆ นานา จนกระทั่งฟ้ามืด พวกเขาจึงแยกทางกัน
ยามาโตะกับ "ยามาโตะ" กลับไปยังที่พักชั่วคราวตามปกติ ทว่ายามาโตะกลับหยุดเดินกะทันหัน
" "ยามาโตะ" ฉันจะไปแล้วนะ"
"ไปไหนเหรอ? ไม่พาฉันไปด้วยหรือ?"
"ครั้งนี้ฉันต้องกลับโลกของฉันแล้ว ท่านพ่อบุญธรรมส่งข้อความมาหาฉันแล้ว"
"อย่างนี้นี่เอง"
น้ำเสียงของ "ยามาโตะ" ฟังดูเศร้าเล็กน้อย บนเกาะโอนิงะชิมะ เธอไม่มีเพื่อน ไม่มีญาติที่ใจดี แม้จะอยู่กับยามาโตะแค่ครึ่งเดือน แต่ครึ่งเดือนนี้เธอมีความสุขมาก
วิธีคิดของทั้งสองคนค่อนข้างคล้ายกัน ยามาโตะยังสอนความรู้เกี่ยวกับโลกภายนอกให้เธอมากมาย เมื่อได้ยินว่ายามาโตะจะไป เธอรู้สึกใจหายอย่างมาก
แต่ก็ไม่ได้คิดจะรั้งไว้ ถูกกักขังมา 19 ปี เธอเข้าใจดีว่าอิสรภาพมีค่าแค่ไหน
"อย่าลืมฉันนะ เธอเคยใช้ชีวิตร่วมกับตัวเองอีกคนหนึ่ง
ฉันคงทำให้เธอเดือดร้อนมาก ขอบคุณที่ดูแลฉันมาตลอดนะ"
"ฉันไม่มีวันลืมหรอก พวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ มาสัญญากันเถอะ ฉันจะกลับมาอีกครั้ง เธอต้องพยายามเข้มแข็งขึ้นนะ แล้วใช้ตัวตนของตัวเอง ในฐานะ" ยามาโตะ "ไม่ใช่ชื่อโอเด้งนั่น ไปบรรลุเป้าหมายของเธอให้ได้!"
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_