Chapter 326 : เผ่าสมุทรรุ่งโรจน์และดับสิ้น – โพชั่นชำระล้างขั้นสุดยอด (2)
ราวกับโลกทั้งใบเงียบสงัดลง
เมื่อเห็นเช่นนี้หัวใจหลินเซวียนจึงผ่อนคลายลง
เขาคว้าร่างของเทียนอวี้ไฉที่กำลังปิดตาขึ้นมาและพุ่งเข้าหาม่านพลังป้องกันเมืองในทันที
เมื่อมองกลับไปก็พบว่าม่านพลังตอนนี้กลับมาอาบไล้ไปด้วยแสงสว่างเจิดจ้าอันตรายยิ่งยวดที่เพียงแค่สัมผัสก็มากพอจะทำให้พวกเขาหายไปได้ทันทีอีกครั้งหนึ่งแล้ว
“ระยะเวลาสั้นๆแค่ห้าวินาทีเท่านั้นเอง ช่วงเวลานี้สั้นมากจริงๆถ้าเป็นนักสู้ทั่วๆไปที่ไม่ได้เข้าใจตัวหนังสือบนแผ่นหินคงจะไม่มีทางคาดเดาได้แน่” หลินเซวียนจดจำระยะเวลาได้ขึ้นใจ
แม้เขาจะไม่รู้ว่าในอนาคตมันจะเป็นประโยชน์หรือเปล่าแต่จดจำไว้ก็ไม่เสียหายอะไร
“นี่คือเมืองเขตราชวงค์!” หลินเซวียนมองไปรอบๆและสังเกตเห็นว่าสิ่งปลูกสร้างที่นี่นั้นสูงยิ่งกว่าเมืองเขตชั้นในมากนัก
เขาอดทอดถอนใจออกมาไม่ได้
ความเจ็บปวดที่ดวงตาของเทียนอวี้ไฉในตอนนี้ก็คล้ายว่าจะค่อยๆมลายหายไปแล้วและน้ำตาเองก็ไม่ได้ไหลออกมาแล้ว
เธอขยี้ตาเล็กน้อยก่อนที่ภาพเบื้องหน้าจะค่อยๆปรากฏ
เมื่อเห็นสิ่งปลูกสร้างที่เปลี่ยนไปอีกครั้งเธอก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา
“นายเข้ามาด้านในได้จริงๆหรอเนี่ย?!”
หลินเซวียนพยักหน้า “ฉันบอกไปแล้วไงว่าไม่เป็นอะไร ไม่เชื่อหรอ?”
เทียนอวี้ไฉหน้าแดงก่ำขึ้นมา
หลินเซวียนพูดถูก...ก่อนหน้านี้เธอไม่เชื่อจริงๆ
ตัวเธอนั้นเดิมทีมาจากทุ่งราบมหาสวรรค์
เหตุผลที่เธอสามารถหลบหนีมายังกองพลก่อสร้างพร้อมกับพิมพ์เขียวเครื่องกลจำนวนมากมายและกลายเป็นลูกศิษย์ของหว่านโหยวซีไปจนถึงกระทั่งได้เข้าร่วมกับกองพลก่อสร้างได้นั้น...แท้จริงแล้วต้องขอบคุณเรือที่ดาบพิษจัดแจงเอาไว้ให้
และดาบพิษผู้นั้นก็เป็นเพียงร่างแยกเท่านั้น
การกระทำทั้งหมดของดาบพิษอยู่ภายใต้การควบคุมของหลินเซวียนดังนั้นหากจะบอกว่าคนที่ช่วยเธอในเวลานั้นคือหลินเซวียนก็ไม่ผิดนัก
เทียนอวี้ไฉคราแรกยังไม่คุ้นเคยกับหลินเซวียนนักแต่ไม่นานก็ค่อยๆปรับตัวได้และความรู้สึกไม่คุ้นเคยก็สลายหายไปอย่างรวดเร็ว
“นี่มันเครื่องกลแปลกประหลาดอะไรกัน?!” เทียนอวี้ไฉมองไปรอบๆและพลันสังเกตเห็นเครื่องกลที่ดูคล้ายกับกล่องจดหมายซึ่งตั้งอยู่หน้าอาคารสองชั้น
หลินเซวียนอดหัวเราะออกมาไม่ได้
ยัยนี่ชอบเครื่องกลจริงๆแฮะ
“รูปแบบการส่งผ่านพลังงานแปลกประหลาดมาก...แต่ความสามารถในการส่งผ่านพลังงานกลับสูงมาก...แถมยังลดความสิ้นเปลืองระหว่างกระบวนการส่งผ่านอีกด้วย!”
“พระเจ้าช่วยช่างเป็นความคิดที่อัจฉริยะอะไรขนาดนี้!” เทียนอวี้ไฉจัดการคว่ำกล่องจดหมายจักรกลลงทันทีด้วยแววตาที่อัดแน่นไปด้วยความประหลาดใจ
“มันเอาไว้ทำอะไร?” หลินเซวียนถามอย่างขอไปที
เทียนอวี้ไฉคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยออกมา “ถ้าฉันเดาไม่ผิดมันน่าจะเป็นสิ่งที่คนยักษ์เหล่านี้ใช้ในการติดต่อสื่อสารกันเหมือนกับเครื่องมือสื่อสารของพวกเรา”
“ยังไงก็ตามทิ้งเครอื่งมือสื่อสารเอาไว้ที่ประตูแบบนี้มันค่อนข้างไม่สะดวกอยู่บ้าง ประสบการณ์ของผู้ใช้งานน่าจะตื้นเขินไปบ้างและจำเป็นต้องได้รับการพัฒนา” เธออดเอ่ยเพิ่มเติมขึ้นมาไม่ได้
หลินเซวียนยิ้มและเอ่ย “เมื่อพูดถึงเครื่องกลดูเหมือนจะพูดได้ทั้งวันเลยสินะ”
เทียนอวี้ไฉชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหน้าแดงขึ้นมาทันที “โทษทีนะ...ฉันไม่ได้ตั้งใจโอ้อวดหรืออะไรเพียงแต่ค่อนข้างรักเรื่องเครื่องกลเป็นพิเศษก็เท่านั้น...”
“ไม่เป็นไรๆ ฉันไม่คิดว่ามันมีอะไรไม่ดีอยู่แล้ว” หลินเซวียนส่งสัญญาณให้เธอพูดต่อ
“เครื่องกล หลอมสร้าง ปรุงยาและอื่นๆนั้นล้วนส่งผลต่อการต่อสู้ ตราบใดที่มันสามารถยกระดับความแข็งแกร่งได้มันก็ควรจะได้รับการพัฒนาและต่อยอด”
เทียนอวี้ไฉเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุข “อย่างที่คิดจริงๆล่ะนะ ความคิดของนักสู้สายสนับสนุนมันเข้ากันดีจริงๆ!”
หลินเซวียนลูบจมูก “จริงๆแล้วฉันไม่ใช่นักสู้สายสนับสนุนหรอกนะ...”
“แต่ฉันคิดว่าเธอกับเย่อู่ชิวเหมือนกันมากเลยนะ เธอคนนั้นเองก็นับว่าเป็นสายสนับสนุนเหมือนกัน”
“เย่อู่ชิว?”
เทียนอวี้ไฉเอียงคอ “ค่อนข้างน่าประทับใจอยู่นะ”
หลังจากเงียบไปช่วงสั้นๆเทียนอวี้ไฉก็จัดการแยกส่วนกล่องจดหมายจักรกลจนแล้วเสร็จ
“อาวล่ะฉันจดจำโครงสร้างของมันได้แล้ว มีประโยชน์มากเลยบางทีในอนาคตอาจจะได้ใช้ก็ได้”
“ไปกันต่อเถอะๆๆ! คนยักษ์พวกนี้น่าจะต้องมีเครื่องกลที่ยอดเยี่ยมอยู่อีกไม่น้อยแน่ ฉันอยากจะเห็นมากกว่านี้อีก!” เทียนอวี้ไฉแหกปากขึ้นมา
หลินเซวียนกระแอมเบาๆ “ก่อนเข้ามาที่เมืองราชวงค์นี่มีใครบางคนเขาพูดว่ายังไงนะ? ไอหย๋าก็แค่เมืองของพวกคนเถื่อนจะมีอะไรให้ดู...ไม่ใช่รึไง?”
เทียนอวี้ไฉอับอายยิ่งนัก “ฉันถอนคำพูดก็ได้ ฉันอวดดีเกินไป...ทักษะด้านเครื่องกลของคนยักษ์เหล่านี้มีประโยชน์มากจริงๆ”
หลินเซวียนสาวเท้าไปเบื้องหน้าและเอ่ยออกมาอย่างสบายๆ “พวกเขาเรียกว่าเผ่าสมุทร”
“เผ่าสมุทร? ฉันจะจำเอาไว้” เทียนอวี้ไฉตามไปติดๆ
อย่างไรก็ตามหลังจากเดินมาได้เพียงไม่กี่ก้าวคนทั้งสองก็ต้องหยุดเดิน
หลินเซวียนจนใจยิ่งนัก
เทียนอวี้ไฉมองไปที่เหล่าเครื่องกลราวกับเธอกำลังมองหนุ่มหล่อก็ไม่ปาน
ดวงตาของเธอเปล่งประกายระยิบระยับและกระโจนเข้าใส่พวกมันอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง
เขาต้องเข้าไปลากเธอออกมาหากแต่หลังจากฉุดดึงฉุดลากกันมาเรื่อยๆนั้นพวกเขาก็ค่อยๆเข้าสู่เขตราชวงค์ของเมืองเขตราชวงค์โดยไม่รู้ตัว
ส่วนอาคารก่อนหน้านี้นั้นหลินเซวียนเดาว่าน่าจะเป็นบ้านของเหล่าขุนนาง
ราชวังนั้นแน่นอนว่าย่อมเป็นที่อยู่อาศัยของราชันย์สมุทร
“ในราชวังต้องมีเครื่องกลที่ดีกว่านี้แน่ ไปเถอะ! เข้าไปดูข้างในกัน!” เทียนอวี้ไฉเอ่ยอย่างไม่อดทน
หลินเซวียนยิ้มและตามไปติดๆ
หากแต่ยิ่งเขาเข้ามาลึกมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความไม่เท่าเทียมระหว่างคนชั้นบนกับคนชั้นร่างของเผ่าสมุทรมากขึ้นเท่านั้น
เครื่องกลอันเป็นเทคโนโลยีระดับสูงนั้นมีเพียงตระกูลราชวงค์เท่านั้นที่มีคุณสมบัติได้ใช้งานภายในเผ่าสมุทร
หลินเซวียนไม่เห็นร่องรอยของเครื่องกลใดๆเลยที่เขตเมืองชั้นนอกและชั้นใน
หลังจากเข้ามาในเขตเมืองราชวงค์เขาพบว่ากระทั่งเครื่องมือสื่อสารที่นี่ยังหาพบได้ทั่วไป
คนระดับสูงและระดับต่ำแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ไม่แปลกใจเลยที่ผู้อำนวยการเขตที่6ของเมืองชั้นนอกเขียนจดหมายลาตายไว้ว่าความรุ่งโรจน์ของเผ่าสมุทรดำเนินมาถึงทางตันแล้ว
กระทั่งต่อให้น้ำทมิฬจากทะเลดำไม่ปรากฏไม่นานเผ่าสมุทรก็คงล่มสลายลงด้วยตัวมันเอง
คนทั้งสองเดินเข้าสู่โถงกว้าง
อย่างไรก็ตามที่แห่งนี้นั้นมีห้องหับอยู่มากมายและพวกเขาก็ไม่รู้เลยว่าควรจะเริ่มที่ตรงไหน
ส่วนเทียนอวี้ไฉนั้นเธอไม่เข้าใจภาษาของเผ่าสมุทรหรือรู้ว่าห้องไหนมีเครื่องกลมากกว่ากันอยู่แล้ว