บทที่ 61 การอัปเกรดหัวใจแห่งเทพอสูร
บทที่ 61 การอัปเกรดหัวใจแห่งเทพอสูร
“ขอให้เทพอสูรจงคุ้มครอง ในเมื่อนายท่านยังไม่อยากให้ข้ารู้นั่นก็หมายความว่านายท่านมีแผนการอะไรบางอย่างภายในใจ ว่าแต่นายท่านมีอะไรจะให้ข้ารับใช้หรือเปล่า?” คาห์นกล่าวด้วยน้ำเสียงอันเทิดทูน
“ผมต้องการจะฟื้นฟูพลังให้กับเทพอสูร” ลู่หยางกล่าว
สีหน้าของคาห์นเริ่มเปลี่ยนเป็นความโกรธ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาว่า
“ในตอนที่นายท่านได้รับความพ่ายแพ้ ไอ้สารเลวแองโกโล่ได้พาไอ้พวกนอกรีตเข้ามาสังหารสาวกในวิหารจนหมดสิ้น ถึงแม้ว่าข้าจะเอาตัวรอดมาได้แต่ตัวข้าก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่มีแรงจะทำเรื่องพวกนี้ได้แล้ว”
“แต่ไอ้แองโกโล่มันก็ไม่มีทางใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย เพราะมันได้ทรยศต่อนายท่าน มันจะต้องถูกคำสาปจากนายท่านเข้าไปได้แน่ ๆ หากเจ้าต้องการจะกู้คืนพลังของหัวใจแห่งเทพอสูร ก่อนอื่นเจ้าก็ต้องทำการสังหารแองโกโล่ก่อน”
ลู่หยางรู้อยู่แล้วว่าคาห์นจะต้องพูดแบบนี้ เขาจึงหยิบศีรษะของแองโกโล่ออกมาจากกระเป๋าและวางศีรษะนั้นเอาไว้ตรงหน้าคาห์น
“นี่ใช่ไหมคือแองโกโล่ที่คุณพูดถึง”
คาห์นมองสีหน้าอันตื่นตระหนกบนศีรษะของแองโกโล่ ก่อนที่เขาจะหัวเราะขึ้นมาเสียงดัง
“ฮ่า ๆ ๆ เจ้าสมควรแล้วที่เป็นผู้ถูกเลือกจากนายท่านของข้า ตามข้ามาข้าจะพาเจ้าไปยังวิหารเทพอสูร”
คาห์นเริ่มท่องคาถาขึ้นมาเบา ๆ ก่อนที่ร่างของทั้งสองจะหายตัวไปจากห้องโถง
ลู่หยางรู้สึกมึนหัวไปชั่วขณะ แต่พอสายตาของเขากลับมามองเห็นได้อีกครั้งทั้งคู่ก็มาอยู่ในวิหารสีดำขนาดใหญ่
วิหารแห่งนี้มีขนาดใหญ่โตราวกับพระราชวัง บริเวณทั้งสองฝั่งเต็มไปด้วยเสาหินเรียงรายอยู่เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน
“นี่คือวิหารเทพอสูร หลังจากที่พวกเราพ่ายแพ้ในสงคราม ข้าก็ได้ใช้เวทมนตร์ลับของนายท่านเคลื่อนย้ายวิหารเทพอสูรไปยังมิติอื่นเพื่อทำการรักษาสถานที่แห่งนี้เอาไว้”
“ตอนนี้ข้าขอมอบวิหารของนายท่านให้กับเจ้าเป็นคนดูแลต่อไป เนื่องมาจากเจ้าคือนักรบที่นายท่านเป็นผู้เลือกด้วยตัวเอง” คาห์นกล่าว
“ไม่ต้องห่วง ผมจะช่วยให้เทพอสูรกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้งอย่างแน่นอน” ลู่หยางกล่าว
ในชาติที่แล้วชายหนุ่มก็เคยมายังวิหารแห่งนี้ด้วยเช่นกัน และมันก็เป็นสถานที่ที่เขาจะไม่มีวันถูกโจมตี ขอแค่เขามีเวลาร่ายเวท 5 วินาที เขาก็สามารถเทเลพอร์ตกลับมายังวิหารได้แล้ว
หากเขาต้องการจะออกไปด้านนอก เขาก็แค่ต้องทำการเทเลพอร์ตออกไปยังจุดเดิม หรือถ้าหากว่าเขาต้องการจะไปยังเมืองเซนต์กอลล์ เขาก็สามารถเดินออกผ่านบ้านของคาห์นได้
“หากเจ้าต้องการอัปเกรดหัวใจแห่งเทพอสูรก็จงใช้แท่นบูชานี้” คาห์นกล่าว
ด้านหลังของวิหารมีแท่นบูชาทรงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร
“นำหัวของแอนโกโร่, ชิ้นส่วนพลังเทพอสูรและตราประทับเทพอสูร พร้อมกับหัวใจแห่งเทพอสูร ไปวางไว้ในแท่นบูชานี้ แล้วข้าจะทำหน้าที่อัปเกรดหัวใจแห่งเทพอสูรให้กับเจ้าเอง”
ลู่หยางหยิบตราประทับเทพอสูรที่ได้จากวอลกินและตราประทับเทพอสูรที่ได้จากหมู่บ้านสปอร์ออกมาจากกระเป๋าขึ้นมาวางไว้บนแท่นบูชาพร้อมกับพูดว่า
“ของทุกอย่างพร้อมแล้ว”
“วิเศษมาก! ข้าจะช่วยเจ้ารวมของทุกสิ่งเข้าด้วยกันทันที กรุณารอสักครู่” คาห์นกล่าวด้วยความตื่นเต้น
คาห์นเริ่มทำการท่องคาถาและของทั้งสามชิ้นบนแท่นบูชาก็ดูเหมือนจะถูกดึงดูดเข้าหากัน ศีรษะของแองโกโล่ระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก่อนที่มันจะมีอัญมณีสีแดงกระเด็นออกมาจากทางด้านใน
ชิ้นส่วนพลังเทพอสูรและตราประทับเทพอสูรเปล่งประกายแสงสีแดงเจิดจ้า หลังจากนั้นแสงสีแดงจากวัตถุดิบทั้งสามก็ถูกรวบรวมเข้าไปยังด้านในของหัวใจแห่งเทพอสูร
ระบบ: อัปเกรดหัวใจแห่งเทพอสูรสำเร็จ ระดับของหัวใจแห่งเทพอสูรเพิ่มเป็นเลเวล 1
ลู่หยางหยิบหัวใจแห่งเทพอสูรขึ้นมาเพื่อทำการตรวจดูค่าสถานะ
หัวใจแห่งเทพอสูร (ระดับ 1)
ความอดทน +10
ความแข็งแกร่ง +10
ความคล่องแคล่ว +10
สติปัญญา +50
พลังกาย +10
อัตราคริติคอลทางเวทมนตร์ +5%
ความเร็วในการร่ายเวทมนตร์ +5%
อัตราความแม่นยำทางเวทมนตร์ +5%
เลเวลสกิลเวทมนตร์ธาตุไฟ +1
สกิลพิเศษ เมเทโอฟอลล์
ลู่หยางกำหมัดด้วยความตื่นเต้น เพราะหลังจากที่หัวใจแห่งเทพอสูรได้รับการอัปเกรดแล้ว นอกเหนือจากค่าสติปัญญาที่เพิ่มขึ้นมาจากเดิมอย่างมหาศาล ค่าสถานะอื่น ๆ ที่รวมกันมันก็ยังช่วยเพิ่มค่าสถานะของเขาได้ถึง 90 หน่วย ซึ่งมันเทียบเท่าได้กับค่าสถานะที่ผู้เล่นจะได้รับตอนที่มีเลเวล 16 เลยทีเดียว
สิ่งนี้หมายความว่าถึงแม้ปัจจุบันเขาจะมีเลเวลเพียงแค่ 8 แต่ค่าสถานะของเขาเทียบเท่าได้กับผู้เล่นเลเวล 24 ที่สำคัญปัจจุบันอัตราคริติคอลของเขาอยู่ที่ 20% เมื่อมันได้รวมกับ 5% ของหัวใจแห่งเทพอสูร มันก็ทำให้อัตราคริติคอลของเขาเพิ่มขึ้นมาเป็น 25%
ที่สำคัญคือสกิลพิเศษเมเทโอฟอลล์ซึ่งเป็นการเรียกอุกกาบาตยักษ์ให้ตกลงมากระแทกกับพื้น สกิลนี้สามารถสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างได้ถึง 10x10 เมตร พลังโจมตีเวทพื้นฐาน 600 หน่วย ทำให้ศัตรูมึนงง 10 วินาที คูลดาวน์ 1 วันในเกม ซึ่งเท่ากับ 6 ชั่วโมงในชีวิตจริง
แม้สกิลนี้จะยังไม่ถึงขั้นเป็นสกิลต้องห้าม แต่ผลของมันช่วงเวลาปัจจุบันก็ทำให้มันมีพลังทำลายไม่ต่างไปจากสกิลต้องห้ามเลย หากแบล็คบลัดส่งคนมารุมโจมตี การใช้เมเทโอฟอลล์เพียงแค่ครั้งเดียวก็มากพอที่จะจบการต่อสู้ได้แล้ว
อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ก็ไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดหลังจากการอัปเกรดหัวใจแห่งเทพอสูรคือผลของการเพิ่มเลเวลสกิลธาตุไฟทุกสกิลขึ้นอีกหนึ่งเลเวลต่างหาก
ด้วยคุณสมบัตินี้มันก็เท่ากับว่าสกิลธาตุไฟทุกสกิลที่เขามีไม่ว่าจะเป็น ไฟร์บอล,เบลซซิงเบิร์ส, คอมบัสชัน, ไฟร์วอลล์, รีซิสท์ไฟร์ริง,สกิลสคอร์ชิ่งสปีดและเมเทโอฟอลล์ต่างก็จะถูกยกระดับขึ้นมาจากเดิมอีกหนึ่งระดับ
การอัปเลเวลสกิลในเซคคัลเวิลด์เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก เพราะการเพิ่มเลเวลสกิลขึ้นมาหนึ่งระดับ มันก็จะหมายความว่าความเสียหายของสกิลจะเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างมหาศาล
ยกตัวอย่าง เบลซซิงเบิร์สที่เลเวล 1 จะสร้างความเสียหายได้ 36-42 หน่วย แต่พออัปเป็นเลเวล 2 ความเสียหายก็จะเพิ่มขึ้นมาเป็น 106-144 หน่วย
ด้วยความเสียหายพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นมาเกือบสามเท่าบวกกับพลังเวทที่เขาได้มีอยู่ ต่อไปเมื่อลู่หยางได้ใช้เบลซซิงเบิร์ส มันจะสามารถสร้างความเสียหายได้สูงถึงลูกละประมาณ 390 หน่วย
หากเขาเพิ่มเลเวลไปจนถึงเลเวล 10 นอกเหนือจากพาลาดินที่อัปสถานะทั้งหมดลงไปยังค่าพลังป้องกัน มันก็จะไม่มีผู้เล่นอาชีพไหนสามารถทนรับความเสียหายจากเบลซซิงเบิร์สของลู่หยางได้
ในบรรดาสกิลธาตุไฟทั้งหมดเมเทโอฟอลล์คือสกิลที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด เพราะที่เลเวล 2 เมเทโอฟอลล์สามารถสร้างความเสียหายได้ถึง 1,300 หน่วย เมื่อรวมกับพลังโจมตีเวทมันก็สามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่า 1,600 หน่วยได้อย่างสบาย ๆ และมันก็เป็นความเสียหายมากพอที่จะสังหารโอเกอร์เลเวล 15 ได้อย่างไม่มีปัญหา
อย่างไรก็ตามการครอบครองอุปกรณ์ที่แข็งแกร่งมันก็มีข้อเสียอยู่บ้าง นั่นก็เพราะถ้าหากลู่หยางเสียชีวิต หัวใจแห่งเทพอสูรก็จะดรอปลงจากตัวเขาในทันที แล้วถึงแม้ผู้เล่นคนอื่นจะเก็บไอเท็มชิ้นนี้ไปได้ ระดับของหัวใจแห่งเทพอสูรก็จะไม่ลดลง
นี่เท่ากับว่ามันเป็นการอัปเกรดอุปกรณ์ให้คนอื่น!
ชายหนุ่มรู้ตัวดีว่าหลังจากนี้เขาจะต้องระมัดระวังตัวเองมากเป็นพิเศษ ซึ่งหลังจากที่เขาติดตั้งหัวใจแห่งเทพอสูรลงในช่องสวมใส่ เขาก็บอกลาคาห์นและกลับไปยังเมืองเซนต์กอลล์
—
“เป็นไง รอนานไหม?” ลู่หยางถามเสี่ยวเหลียง
เสี่ยวเหลียงส่ายหัวเป็นคำตอบพร้อมกับพูดว่า
“เมื่อกี้ผมไปเดินดูตลาดมา ดูเหมือนว่าเกมนี้จะมีชีวิตชีวาสุด ๆ เลย”
ลู่หยางเผยรอยยิ้มขึ้นมาอย่างลับ ๆ เพราะในอนาคตสถิติสูงสุดของเกมนี้จะมีผู้เล่นออนไลน์พร้อมกันมากถึง 3,000 ล้านคน ซึ่งในตอนนั้นจำนวนของผู้เล่นก็จะสูงกว่าในปัจจุบันอย่างเทียบไม่ติด
“ไปกันเถอะ” ลู่หยางกล่าว
“ครับ”
ทั้งคู่สังหารมอนสเตอร์ไปตามเส้นทางจนกระทั่งเข้าไปในค่ายฮาล์ฟออร์ค ลู่หยางจึงพาเสี่ยวเหลียงเข้าไปส่งยังจุดบัค
ตอนนี้เขาได้มีสกิลเมเทโอฟอลล์แล้ว ซึ่งมันก็หมายความว่าเขาสามารถฟาร์มมอนสเตอร์ภายในป่าโทรลล์ได้อย่างไม่มีปัญหา ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสามารถฟาร์มสร้อยคอโทรลล์เพื่อนำไปแลกเงินกับบีเซลได้อีกด้วย
นี่ไง! ลืมเสี่ยวเหลียงนี่เอง 555555