บทที่ 576 ถกแผนการ
บทที่ 576 ถกแผนการ
วงแหวนงูคาบหางเคยถูกโจมตีโดยกองทัพพันธมิตร หากไม่มีการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเรย์ลิน วงแหวนงูคาบหางคงถูกทำลายลงจนไม่มีอะไรเหลือ
แต่ถึงแม้เรย์ลินจะแสดงพลังอันน่ากลัว และ พรสวรรค์ที่หาตัวจับยาก พร้อมกับใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ จนสามารถผลักดันกองทัพศัตรูให้ถอยไปได้ แต่อาณาเขต และ แหล่งทรัพยากรจำนวนมากที่ถูกยึดไปก็ยังไม่สามารถทวงคืนกลับมาได้ทั้งหมด
ในเวลานั้น เรย์ลินเพิ่งก้าวขึ้นเป็นพ่อมดระดับดวงดาวรุ่งอรุณใหม่ ๆ จะไปเรียกร้องขอบเขตอาณาเขตเท่าเดิมเหมือนพ่อมดระดับดวงดาวรุ่งอรุณสามคนที่เคยคุมพื้นที่กว้างใหญ่ได้อย่างไร? ต่อให้ตีคืนมาได้ เขาก็คงไม่สามารถปกครองอาณาเขตนั้นได้เพียงลำพัง
เรย์ลินรู้ตัวดีว่าเขามีพลังแค่ไหน และ ควรได้รับอะไรตามที่เหมาะสม
แต่ตอนนี้ เมื่อดยุคทั้งสองได้กลับมาพร้อมกับการที่พลังของเขาเองเพิ่มขึ้นจนมีความมั่นใจพอ เรย์ลินจึงคิดว่าถึงเวลาที่จะทวงสิทธิ์ของตนกลับคืนแล้ว
จะไปกลัวลัทธิสายฟ้าแห่งจูปิเตอร์ทำไม? ก่อนหน้านี้เรย์ลินก็ได้สร้างความขัดแย้งมามากพอแล้ว ในเมื่อเป็นศัตรูกันอยู่แล้วจะกังวลไปเพื่ออะไร?
“ใช่แล้ว! เขตแม่น้ำดำเป็นดินแดนของวงแหวนงูคาบหางมาแต่เดิม การที่มันถูกยึดไปถือเป็นการดูหมิ่นเหล่าพ่อมดสายเลือดของพวกเรา!” ฟิลลิปยืนขึ้นแสดงความโกรธเคือง “ข้าจะยื่นคำร้องต่อพันธมิตรแน่นอน!”
พอล และ พ่อมดอีกคนที่อยู่ด้วยลอบกลอกตาให้กับท่าทีของฟิลลิป แต่ก็ไม่ได้กล่าวคัดค้าน แถมยังแสดงการสนับสนุนอย่างเต็มที่
ท้ายที่สุดแล้ว ดินแดนเหล่านั้นเคยเป็นของวงแหวนงูคาบหาง เพียงแค่จะทวงคืนสิ่งที่เป็นของตน
พวกเขาสนับสนุนแค่เพียงคำพูดเท่านั้น และ คงไม่ลงมือช่วยเหลือจริง เว้นแต่จะมีการแบ่งผลประโยชน์ให้มากขึ้น
แต่เรย์ลินก็เพียงต้องการให้พวกเขามาเป็นพยานในฐานะผู้เห็นเหตุการณ์เท่านั้น เขาไม่ได้คาดหวังให้พวกเขาลงมือช่วยรบ
ด้วยพลังของเขาในตอนนี้ ต่อให้เพียงแค่กิลเบิร์ต และ เอม่าร่วมมือกันก็เพียงพอแล้วที่จะทำภารกิจนี้สำเร็จ
และเมื่อพ่อมดคนอื่น ๆ ได้ยินว่าเรย์ลินตั้งใจจะทวงดินแดนคืน พวกพ่อมดระดับผลึกที่อยู่ในที่ประชุม แม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่ต่างก็มีสีหน้าตื่นเต้นเต็มเปี่ยม
กองทัพพันธมิตรของศัตรูก่อนหน้านี้ยังคงครอบครองดินแดน และ ประชากรที่เป็นของวงแหวนงูคาบหาง ซึ่งถือเป็นความอัปยศอย่างยิ่ง!
โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่กองทัพพันธมิตรของศัตรูบุกมาจนถึงสำนักงานใหญ่ เกือบจะทำลายพวกเขาจนสิ้นซาก ภาพเหตุการณ์นั้นได้สลักอยู่ในใจของเหล่าพ่อมดอย่างลึกซึ้ง เป็นรากเหง้าแห่งความแค้นที่รอวันสะสาง เมื่อได้ยินว่าเรย์ลินกำลังจะนำพวกเขากลับไปล้างแค้น ทุกคนต่างแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เรย์ลินมองเห็นภาพนี้แล้วก็พยักหน้าในใจ
การที่เขาทำเช่นนี้ก็เพื่อขยายทรัพยากร และ กระจายความขัดแย้งออกไป เพราะในตอนนี้มีพ่อมดระดับดวงดาวรุ่งอรุณสามคน หากยังคงมีทรัพยากรเท่าเดิม แน่นอนว่าย่อมไม่เพียงพอ โดยเฉพาะกับกลุ่มคนระดับล่างที่แวดล้อมอยู่อีกมากมาย
นอกจากนี้ การที่เขานำพวกพ้องเข้าสู่การล้างแค้นนี้ จะช่วยเพิ่มชื่อเสียงของเรย์ลินให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เป็นการเพิ่มความน่าเกรงขามที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เขาควบคุมองค์กรทั้งหมดได้ง่ายขึ้น
นี่เป็นแผนการที่เปิดเผย แม้แต่กิลเบิร์ต และ เอม่าก็เข้าใจแต่ไม่สามารถพูดอะไรได้มาก
หลังจากกำหนดวันเวลาเสร็จสิ้น ฟิลลิป และ คนอื่น ๆ ก็ขอตัวออกไป แม้กระทั่งฟูเรย์ และ พ่อมดระดับสูงก็ลุกขึ้นเดินออกไปโดยไม่ต้องให้ใครสั่ง ปล่อยให้เรย์ลิน เอม่า และกิลเบิร์ตอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง
“เราจะเปิดศึกกับสายฟ้าแห่งจูปิเตอร์ในตอนนี้เลยหรือ? เมื่อก่อนเจ้าเคยบอกว่าเราจะยังรักษาสถานะเดิมไว้ไม่ใช่หรือ?” เอม่าถามอย่างกังวล
“ที่ข้าหมายถึงการรักษาสถานะเดิม หมายถึงสถานะก่อนสงครามเท่านั้น!”
เรย์ลินยิ้มเย็น พลังอันทรงอำนาจแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา “และ ตอนนี้ สายฟ้าแห่งจูปิเตอร์ คงจะยุ่งจนหัวหมุน…”
“โอ้? หมายความว่ายังไง?” กิลเบิร์ตมีท่าทีสนใจ การที่จะทำให้สายฟ้าแห่งจูปิเตอร์อ่อนแอลงได้ไม่ว่าจะวิธีใด เขาก็ยินดีอยู่เสมอ ในมุมมองของเรย์ลินนั้น กิลเบิร์ตได้ฝังรากลึกแห่งความแค้นไว้กับศัตรูนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
“ตอนที่ข้าเดินทางไปยังโลกแห่งลาวานั้น ข้าได้ขอร้องให้พ่อมดระดับห้าผู้เป็น ‘สิงโตทอง’ ท่านเวด ช่วยยับยั้งเจสซ่า แม้ว่าภายหลังเจสซ่าจะส่งร่างแบ่งของตนมาจนถึงที่นั่นได้ แต่ตัวจริงของเขาก็ไม่สามารถเดินทางมาได้ ดังนั้นข้าตัดสินใจทำตามข้อตกลงนั้น”
“ข้อตกลงอะไร?”
กิลเบิร์ตกับเอม่าสบตากัน ตั้งแต่รู้จักเรย์ลินมา พวกเขายังไม่เคยเห็นว่าเรย์ลินจะยอมเสียเปรียบในเรื่องใด ดังนั้นการกระทำครั้งนี้ย่อมต้องมีแผนการแฝงอยู่แน่นอน
“ท่านเวดช่วยยับยั้งเจสซ่าให้ข้า และ เพื่อเป็นการตอบแทน ข้าจะส่งพิกัดของโลกแห่งลาวาให้แก่ท่าน” เรย์ลินยิ้ม “และ เมื่อสักครู่ ท่านเวดก็ได้รับข้อความของข้าแล้ว…”
“อะไรนะ?” กิลเบิร์ต และ เอม่าพลันลุกขึ้นยืน “นั่นมันโลกทั้งใบ! เจ้าเข้าใจไหมว่าทำอะไรลงไป?”
โลกต่างมิติขนาดมหึมานั้นหมายถึงผลประโยชน์อันมหาศาล แค่ความรู้ด้านพลัง และ แนวทางการพัฒนาก็ทำให้พ่อมดได้รับประโยชน์มากมายจนก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
ลองดูเหล่าพ่อมดระดับบัลลังก์แห่งรุ่งอรุณสิ พวกเขาต่างก็ได้พลัง และ สถานะนี้มาหลังจากการยึดครองโลกใหญ่ ๆ และ แม้แต่เรย์ลินเองก็ได้รับประโยชน์มหาศาลจากการสำรวจโลกดังกล่าว
ดังนั้น สำหรับพิกัดโลกแบบนี้ องค์กรใดก็ต้องเก็บเป็นความลับสุดยอดเสมอ หากเจสซ่าไม่ได้มั่นใจเต็มที่ แถมยังถูกชักนำโดยบางคน เขาก็คงไม่ยอมใช้พิกัดนี้มาเป็นเหยื่อล่อเพื่อจัดการมาร์ควิสทั้งสามคนของ
โคโมอิน
โลกที่ยังไม่ได้รับการสำรวจเป็นสิ่งดึงดูดมหาศาล มาร์ควิสทั้งสามของโคโมอินเคยรู้สึกสงสัยแต่ก็ยังหลงกล เพราะผลประโยชน์นั้นมากมายจนทำให้เสียสติได้! ท้ายที่สุด เจสซ่าก็ต้องเสียทุกสิ่ง ไม่มีสิ่งใดเป็นของเขาและ ยังเสียหายย่อยยับจนเกือบหมดตัว
และ ตอนนี้ เรย์ลินกลับจะยอมมอบความลับนี้ให้คนอื่น?
เอม่า และ กิลเบิร์ตไม่อาจเข้าใจได้เลย
ในมุมมองของพวกเขา คนที่รู้พิกัดโลกแห่งลาวามีเพียงพวกเขา กับ สายฟ้าแห่งจูปิเตอร์เท่านั้น ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือปกป้องความลับนี้ไว้อย่างเข้มงวด รอโอกาสที่จะกวาดล้างสายฟ้าแห่งจูปิเตอร์แล้วควบคุมโลกแห่งลาวาไว้ได้อย่างมั่นคง
"พวกเจ้าก็เถอะ..." เรย์ลินส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ "โลกต่างมิติไม่ใช่สิ่งที่ควบคุมได้ง่าย ๆ ยิ่งโลกนั้นมีพ่อมดระดับห้าอยู่หลายคน และ ยังมีลัทธิสายฟ้าแห่งจูปิเตอร์จ้องอยู่ใกล้ ๆ อีกด้วย!"
"สิ่งที่เราต้องการมากที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่โลกต่างมิติ แต่คือเวลาสำหรับฟื้นฟู และ พัฒนาพลังของเรา!"
“เวดก็เป็นคนในพันธมิตรพ่อมดของเรา หากดึงเขาเข้ามา ลัทธิสายฟ้าแห่งจูปิเตอร์ก็จะต้องต่อสู้กับเขาในโลกแห่งลาวา ทำให้เราได้เวลาในการเติบโตอย่างเต็มที่!”
เรย์ลินกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ และ แววตาเปี่ยมไปด้วยประกายแห่งอำนาจอันยิ่งใหญ่
"ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีพ่อมดระดับห้า โลกแห่งลาวาย่อมไม่ใช่สถานที่ที่ถูกยึดครองได้ง่าย ในช่วงเวลานั้นเราก็สามารถฉวยโอกาสท่ามกลางความโกลาหลเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ได้!"
“นอกจากนี้ เมื่อพวกเราแข็งแกร่งขึ้น ก็ไม่แน่ว่าเราจะสามารถแย่งโลกแห่งลาวากลับคืนมาได้”
เรย์ลินพูดทิ้งท้ายอย่างหนักแน่น และ วาดภาพอนาคตที่ยิ่งใหญ่ให้กับเอม่า และ กิลเบิร์ต
"ในเมื่อเจ้าว่ามาเช่นนี้แล้ว..." เอม่า และ กิลเบิร์ตสบตากันอย่างปลง ๆ
เรย์ลินเห็นท่าทีของทั้งสองแล้วแอบยิ้มในใจ
เขาไม่ค่อยสนใจโลกแห่งลาวานัก เพราะเขาได้สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดมาแล้ว ไม่เพียงแต่วิชาอัคนีปักษาที่กลายพันธุ์ซึ่งทำให้พลังของเขาพัฒนาถึงขีดสุด แต่ยังได้รับแก่นแท้ของไข่นกฟีนิกซ์มาอีกถึงหนึ่งในสาม!
สิ่งเหล่านี้ถือเป็นสมบัติที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งลาวา และ เรย์ลินก็พึงพอใจกับสิ่งที่เขาได้มาแล้ว
นอกจากนี้ หลังจากเหตุการณ์วันเฉลิมฉลอง เขาก็ได้เป็นศัตรูที่ขัดแย้งอย่างใหญ่หลวงกับหัวหน้าสองฝ่ายที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกแห่งลาวา ได้แก่ อาคิโท และ อาคิแบร์ด ไม่มีทางที่จะหวนกลับคืนดีได้
เพียงแค่ข่าวเรื่องที่เขาได้ส่วนหนึ่งของไข่นกฟีนิกซ์ ก็เพียงพอจะดึงดูดความสนใจจากผู้แข็งแกร่งจำนวนมากในโลกแห่งลาวา
เหตุผลที่เรย์ลินยอมมอบพิกัดโลกแห่งลาวาให้คนอื่นก็เพราะคำนึงถึงปัจจัยนี้ อย่างไรเสีย เวดก็อยู่ที่นั่นแล้ว สมบัติที่เขาได้มาในครอบครองก็จะยังคงปลอดภัย อีกทั้งเมื่อตนได้มอบพิกัดไปแล้ว หากเวดหรือใครก็ตามต้องการสิ่งเหล่านั้น ก็ให้ไปแย่งชิงกันเองที่โลกแห่งลาวานั่นแหละ!
“พอข้าส่งพิกัดนี้ออกไป คงได้เห็นเจสซ่าที่ลัทธิสายฟ้าแห่งจูปิเตอร์ถึงกับโกรธจนแทบกระอักเลือดสินะ?” เรย์ลินลูบคางพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
...
หลังจากจบการประชุม และ ส่งดยุคทั้งสองกลับไป รวมถึงได้สนทนากับฟูเรย์เล็กน้อยในระหว่างมื้อเย็น เรย์ลินก็กลับมายังหอคอยพ่อมดระดับดวงดาวรุ่งอรุณของเขา
“นายท่าน!” หอคอยพ่อมดยังคงตั้งตระหง่าน และ สง่างามเช่นเคย เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความเก่าแก่และ ขลัง เมื่อเรย์ลินเข้ามาภายในร่างของหอคอย จิตวิญญานหอคอยที่ชาญฉลาดก็ปรากฏตัวขึ้นทันที
“อืม! แสดงบันทึกทั้งหมดในช่วงที่ข้าไม่อยู่ให้ดูหน่อย รวมถึงสถานะการทำงานของหอคอยตอนนี้ด้วย”
เรย์ลินสั่ง
“ในช่วงที่นายท่านไม่อยู่ ประตูมิติสตาร์รีลม์ถูกเปิดใช้ในระดับพลังงานต่ำสุด คลังหินสตาร์รีลม์ทั้งหมดถูกใช้จนหมด หอคอยพ่อมดทำงานเกินพิกัดจนเกิดความเสียหายขึ้น 3.78% วัสดุอุปกรณ์…”
จิตวิญญานหอคอยรายงานอย่างเป็นระเบียบ และ ละเอียดประหนึ่งผู้ดูแลที่เข้มงวดที่สุด
“อืม… ครั้งนี้เรียกได้ว่าใช้หินสตาร์รีลม์ที่สะสมไว้อย่างหมดสิ้น พลังงานของหอคอยก็ถูกใช้จนเกลี้ยงเช่นกัน” เรย์ลินถอนหายใจอย่างเสียดาย
“แต่หากเทียบกับสิ่งที่ข้าได้รับมาแล้ว การเสียสละครั้งนี้ก็คุ้มค่าอย่างยิ่ง แม้แต่กำไรที่ได้ยังมากมายเกินคาดด้วยซ้ำ แน่นอนว่านี่อาจเป็นเพราะข้ามีชิปอัจฉริยะที่สามารถค้นหา และ ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของโลกต่างมิติได้อย่างสูงสุด…”
เมื่อกลับมายังห้องทำงานของตน เปลวไฟอมตะก็เปล่งแสงร้อนแรง เรย์ลินนั่งลงที่โต๊ะทำงาน และ เริ่มพิจารณาผลประโยชน์ที่ได้จากการเดินทางครั้งนี้
“เป้าหมายครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปอย่างสมบูรณ์ ได้รับดยุคทั้งสองแห่งโคโมอินกลับมา ทำให้พลังของวงแหวนงูคาบหางเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เพียงแค่จุดนี้ก็ถือว่าคุ้มทุนแล้ว!”
เรย์ลินเริ่มเขียนลงในสมุดบันทึกสีดำบนโต๊ะขณะที่คิดคำนวณ
“ในด้านของทรัพยากรนั้น แก่นของไข่นกฟีนิกซ์ถือเป็นสมบัติในระดับโลก ไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาวิชาอัคนีปักษา แต่ยังมีผลล้ำค่าอย่างยิ่งต่อจิตวิญญาณ และ พลังของพ่อมด… นอกจากนี้ ทรัพยากรต่างมิติที่ข้ารวบรวมมาจากเผ่าอัคนีปักษาก็เรียกได้ว่าเก็บเกี่ยวมาได้มากมายทีเดียว”
..........