บทที่ 52 สัตว์ประหลาดในน้ำ
บทที่ 52 สัตว์ประหลาดในน้ำ
“อืม... เจิ้งเถียนเอิน ฝ่ามือเหล็ก กับจูฟู่กวง ขาเด้ง ดูเหมือนทั้งคู่จะสนิทสนมกันดีทีเดียว”
ฟางจือสิงละสายตากลับมาใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปมองที่แม่น้ำอีกครั้ง
ขณะนั้น โจรน้ำจำนวนมากได้ปีนขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ และ เข้าปะทะกับลูกเรือของตระกูลอู่ เกิดการต่อสู้กันอย่างชุลมุน
ในเวลาเดียวกัน ไฟบนเรือสินค้าของตระกูลอู่ก็ลุกลามมากขึ้นเรื่อย ๆ ควันดำหนาทึบพวยพุ่งขึ้นบดบังทัศนวิสัย
“จริงสิ ตระกูลอู่ทำธุรกิจอะไรนะ?”
เฉียนเหล่าป่านพึมพำอยู่คนเดียว จู่ ๆ สีหน้าก็เปลี่ยนไป และ ร้องขึ้นว่า “ได้ดูของดีแน่ เรืออาจระเบิดแล้ว!”
ผู้คนรอบข้างต่างแปลกใจ และ ไม่เข้าใจ
เฉียนเหล่าป่านอธิบายอย่างใจเย็น “ตระกูลอู่ทำธุรกิจค้าขายน้ำมัน ถ้าข้าเดาไม่ผิด เรือบรรทุกถังน้ำมันไว้จำนวนมาก”
ไม่ทันขาดคำ บึ้มมมม~~~
เสียงระเบิดดังสนั่นแสบแก้วหู เรือสินค้าของตระกูลอู่ระเบิดแตกกระจายท่ามกลางเปลวไฟชั่วพริบตา ชิ้นส่วนเรือกระเด็นไปทั่วทุกทิศทาง เห็นควันดำลอยขึ้นจากน้ำเป็นรูปร่างคล้ายเห็ดขนาดใหญ่
เรือเล็กที่ล้อมรอบเรือสินค้าของตระกูลอู่ก็ถูกแรงระเบิดเหวี่ยงกระจัดกระจายไปหมด
ทันใดนั้น ผืนน้ำเกิดคลื่นสูงเกือบสิบเมตรซัดเข้าหาฝั่ง ซัดกระแทกขึ้นลงในลำน้ำทั้งด้านต้นน้ำและปลายน้ำ
โครมคราม~
น้ำขุ่นถาโถมเป็นระลอกซัดมาอย่างรวดเร็วกระแทกเข้ากับเรือลำใหญ่ของฟางจือสิง ทุกคนที่อยู่ด้านบนเตรียมพร้อมไว้จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
แต่ผู้คนที่อยู่ในห้องโดยสารกลับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เฮ้ย เรือมันสั่นทำไมเนี่ย?”
“หรือว่าโจรน้ำบุกมาถึงแล้ว?”
“โอ๊ย แม่เอ๊ย ข้าจะตายอยู่แล้ว!”
เสียงกรีดร้องอย่างตื่นตระหนกดังขึ้นทุกทิศทาง แต่ละคนพากันหวาดกลัวสุดขีด
น้ำที่ถาโถมซัดมาอย่างรุนแรงเพิ่งค่อย ๆ ลดระดับลงเมื่อเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง
ความวุ่นวายภายในห้องโดยสารจึงค่อย ๆ เงียบสงบลง
ทุกคนเพิ่งรู้ว่านี่เป็นเพียงแค่เหตุการณ์ชวนตกใจโดยไม่จำเป็น
“ไปต่อเถอะ!”
เฉียนเหล่าป่านออกคำสั่ง เรือเริ่มแล่นไปข้างหน้าอีกครั้ง
ไม่นานนัก เรือก็มาถึงบริเวณที่เกิดการระเบิด
เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็เห็นชิ้นส่วนเรือจำนวนมากลอยอยู่บนผืนน้ำ รวมถึงซากศพที่ถูกเผาไหม้ และ ชิ้นส่วนร่างกายที่กระจัดกระจาย
น้ำในบริเวณนี้ถูกย้อมเป็นสีแดงด้วยเลือด
ภาพนี้ช่างน่าหวาดหวั่นจนแทบไม่กล้าสบตาตรง ๆ
“โอย ภาพช่างอลังการเหลือเกิน!”
“คนของเรือสินค้าตระกูลอู่กับโจรน้ำ พากันตายเรียบเลย!”
“คราวนี้คงตายไปเยอะ ร้อยคนได้ไหม?”
“น่าจะมากกว่าร้อยนะ เรือของพวกโจรน้ำก็มีตั้งเจ็ดแปดลำ แต่ละลำบรรจุคนอย่างน้อยยี่สิบคน”
ทุกคนต่างพูดคุยกัน โผล่ศีรษะพ้นขอบเรือเพื่อมองรอบ ๆ
“ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย!”
ทันใดนั้น เสียงร้องขอความช่วยเหลือก็ดังขึ้น
ฟางจือสิงหันไปตามเสียง เห็นชายคนหนึ่งนอนพิงแผ่นไม้ลอยอยู่กลางน้ำโบกมือให้เรืออย่างเร่งด่วน
“ท่านผู้ใจบุญ ช่วยข้าด้วยเถิด!”
ชายคนนั้นร้องขออย่างตื่นเต้น “ข้าขาบาดเจ็บ ว่ายน้ำไม่ไหว ได้โปรดช่วยข้าด้วย”
ยังมีผู้รอดชีวิต!
ทุกคนหันไปมองเฉียนเหล่าป่านเป็นตาเดียว เพราะนี่เป็นเรือของเขา ดังนั้นเขาจึงเป็นผู้ตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม เฉียนเหล่าป่านทำเพียงนิ่งเฉย ไม่แม้แต่จะเหลือบมองชายคนนั้น
ทุกคนเห็นท่าทีนั้นก็เข้าใจในทันที พากันหุบปากเงียบ
ฟางจือสิงหันไปมองเจิ้งเถียนเอินอีกครั้ง
แต่ผลที่ได้ก็คือ เขาก็ไม่ได้ทำอะไร ไม่พูดอะไรสักคำ
นี่หรือความเป็นวีรบุรุษ?
ทันใดนั้น
ซ่า! ซ่า! ซ่า!
จู่ ๆ สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ก็โผล่พ้นน้ำขึ้นมาอ้าปากกว้างเผยให้เห็นฟันแหลมคมเรียงราย มันตะครุบชายที่ร้องขอความช่วยเหลือแล้วหายวับกลับลงไปในน้ำ ก่อให้เกิดน้ำกระเซ็นสูงหลายเมตร
ฟางจือสิงเบิกตาโพลง เขาเห็นว่าสิ่งนั้นมีร่างกายใหญ่โต ยาวไม่ต่ำกว่าสิบเมตร ตัวมันปกคลุมด้วยเกล็ดสีดำ และ มีลักษณะคล้ายจระเข้
“นั่นมันอะไรกัน?”
ทุกคนต่างตกใจสุดขีดเมื่อเห็นสัตว์ร้ายขนาดมหึมาโผล่มาโดยไม่ทันตั้งตัว
“สัตว์ประหลาดในน้ำหรือ?”
มีคนอุทานอย่างหวาดกลัว
เฉียนเหล่าป่านใจหายวาบ สีหน้าเปลี่ยนไป รีบตะโกนเสียงดัง
“เร็วเข้า ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”
เสียงสั่งการดังขึ้น ทำให้เหล่าคนแจวเรือรีบลุกลี้ลุกลนจัดการงานกันทันที
แต่เรือลำใหญ่ขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าจะเร่งความเร็วได้ในทันทีที่ต้องการ
ทันใดนั้น
ซ่า! ซ่า! ซ่า!
สัตว์ประหลาดในน้ำโผล่ขึ้นจากผิวน้ำ คาบซากศพที่ลอยน้ำอยู่ในปาก จากนั้นมันก็เหวี่ยงซากศพขึ้นไปในอากาศ
ซากศพลอยขึ้นแล้วตกลงมา
สัตว์ประหลาดยืดคอยาว อ้าปากกว้างดุจบ่อเลือด ซากศพตกลงไปในปากมันพอดี ทันทีที่ฟันปิดลง
ฉึก!
เนื้อแตกกระจาย!
ภาพนี้ทำให้ทุกคนขนลุกซู่ด้วยความสยดสยอง
แต่ฟางจือสิงก็เห็นรูปลักษณ์ของสัตว์ประหลาดนั้นได้อย่างชัดเจน มันมีหัวแบนคล้ายจระเข้ ส่วนลำตัวด้านล่างเหมือนงูยักษ์ มีลำตัวยาวใหญ่หนาแน่น ไม่มีขา และ ปกคลุมไปด้วยเกล็ดหนาสีดำ
“สัตว์ประหลาดแบบนี้น่าจะเป็นสัตว์อสูร มีใครรู้บ้างไหมว่ามันคือตัวอะไร?” มีคนอดถามขึ้นมาไม่ได้
น่าเสียดายที่ไม่มีใครตอบ
ทุกคนต่างหยุดหายใจอย่างประหม่า
เรือลำใหญ่ค่อย ๆ เร่งความเร็วและแล่นผ่านข้างสัตว์ประหลาดในระยะไม่ถึงสิบเมตร
ซ่า~ ซ่า~ ซ่า~
ทันใดนั้น สัตว์ประหลาดก็หายกลับลงไปใต้น้ำ หางของมันสะบัดเป็นระลอกคลื่นสูงใหญ่จนซัดกระเด็นขึ้นมาถึงดาดฟ้า ทำให้ทุกคนเปียกโชกไปทั้งตัว
ผู้คนต่างมองซ้ายมองขวาอย่างระมัดระวัง พยายามมองหาตัวสัตว์ประหลาด
แต่ครู่หนึ่งแล้วก็ยังไม่เห็นร่องรอยของมัน
“สัตว์ประหลาดอาจกินอิ่มแล้วไปแล้ว?” มีคนกระซิบเสียงเบา
“ขอให้เป็นเช่นนั้นเถิด”
เรือลำใหญ่ยังคงแล่นต่อไป ท่ามกลางความหวาดหวั่นของผู้โดยสาร
ตูม! ตูม!
ทันใดนั้น ผิวน้ำก็ปะทุขึ้น สัตว์ประหลาดพุ่งตัวขึ้นมาจากน้ำ ทะยานตรงเข้ามาชนข้างเรือฝั่งขวา
โครม!
สัตว์ประหลาดชนเรือจนเกิดเป็นรอยแยกขนาดใหญ่ ครึ่งตัวของมันทะลุเข้ามาในห้องใต้ท้องเรือ
การกระแทกทำให้เรือสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
สิ่งที่กลัวก็เกิดขึ้นจนได้!
ทุกคนบนดาดฟ้าแตกตื่นจนเสียการทรงตัว
ถัดจากนั้น สัตว์ประหลาดเริ่มขยับตัวมุดเข้าไปในเรือ
ใต้ดาดฟ้ามีสองชั้น โดยชั้นล่างสุดเป็นที่เก็บสินค้า ชั้นบนเป็นห้องพักผู้โดยสาร ซึ่งเป็นที่พักของฟางจือสิงและคนอื่น ๆ
จากตำแหน่งที่มันชน มันได้มุดเข้าไปในห้องเก็บสินค้า
“เร็วเข้า! ฆ่ามันให้เร็วที่สุด!”
ฆ่ามันให้เร็วที่สุด!”
เฉียนเหล่าป่านตัวสั่นด้วยความกลัว กระทืบเท้า และ ร้องตะโกน
“ถ้ามันทำลายพื้นเรือ เราจะจบกันทั้งหมด!”
“รีบฆ่ามัน!
ทุกคนตกใจสุดขีด จูฟู่กวง ขาเด้ง ตะโกนเสียงดัง “ตามข้ามา!”
เหล่าศิษย์สำนักเทียนซานเหมินรีบตามเขาไปทันที
เจิ้งเถียนเอินลังเลเล็กน้อยก่อนจะรีบตามไป
ซุนกงจ่างวิ่งกลับเข้าห้องพักอย่างรวดเร็ว
แต่เขายังช้ากว่าฟางจือสิงไปก้าวหนึ่ง
ทันทีที่สัตว์ประหลาดชนตัวเรือ ฟางจือสิงก็รีบวิ่งกลับเข้าห้องพักเหมือนสายลม และ ตรงเข้าห้องโดยสารของตนทันที
ทรัพย์สิน และ สัมภาระของเขายังอยู่ในห้องโดยสาร โดยมีเสี่ยวโก่วคอยเฝ้าอยู่
“เกิดอะไรขึ้นข้างนอก เสียงกระแทกเมื่อครู่คืออะไร?”
เสี่ยวโก่วส่งเสียงถามมา
ฟางจือสิงเก็บสัมภาระของตนอย่างรวดเร็ว และ ตอบสั้น ๆ
“สัตว์ประหลาดบุกเข้ามาในเรือแล้ว เราต้องหนีเอาชีวิตรอดเดี๋ยวนี้”
“สัตว์ประหลาด?!”
เสี่ยวโก่วถึงกับสะดุ้ง ก่อนหน้านี้มันเคยได้ยินถึงเรื่องสัตว์ประหลาดที่อาละวาดในแม่น้ำ และ ทำลายเรือมาก่อน ไม่คิดว่าจะได้เจอมันที่นี่.... “เร็วเข้า!
..........