บทที่ 5 ความเร็วในการพัฒนาที่น่ากลัว!
หลังจากผ่านความรู้สึกหมุนวนชวนเวียนหัวอยู่พักหนึ่ง หลี่เหยาหลุดมาอยู่กลางป่าแห่งหนึ่ง
รอบตัวเขามีแต่ต้นไม้ใหญ่สูงลิ่วเป็นสิบเมตร ปกคลุมจนแสงอาทิตย์แทบจะลอดผ่านไม่ได้
มีเหล่าอสูรรูปร่างเล็กจำนวนมากซ่อนตัวอยู่ในเงาไม้
แถวนี้จำนวนสัตว์อสูรไม่หนาแน่นมากนัก จึงถือว่าค่อนข้างปลอดภัย
แต่ก็เป็นเหตุให้เสียเวลาหาตัวสัตว์อสูรมากกว่าตอนต่อสู้กับมันเสียอีก
หลี่เหยาสั่งให้ตั๊กแตนในเงามืดที่ซ่อนตัวอยู่ข้างๆ เขาออกค้นหาศัตรู
"ไปหาเป้าหมายแล้วจัดการซะ"
ทันทีที่เขาคิดเช่นนั้น
ตั๊กแตนพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
"ความเร็วช่างน่าทึ่งจริงๆ!"
หลี่เหยาร้องชม ด้วยค่าความคล่องแคล่วสูงถึง 43 จุด ทำให้ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าของเขามีความเร็วในการเคลื่อนที่ที่เหลือเชื่อ
ในพริบตา มันก็ไปไกลออกไปหลายสิบเมตรแล้ว
ไม่ถึงสองวินาที ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าก็ปรากฏในระยะสายตาอีกครั้ง
ท่ากรงเล็บคู่ยกขึ้นสูงฟาดลงบนร่างศัตรู
【-164】
【สังหารงูเขียว ได้รับค่าประสบการณ์ +1%】
【ฝึกฝนในสนามจริง ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าเพิ่มพลัง +1】
จัดการได้ในพริบตา!
หลี่เหยามองดูค่าประสบการณ์ของตน
แต่ละตัวให้ค่าประสบการณ์ 1% แปลว่าฆ่าเพียง 100 ตัวก็จะอัพเลเวลได้แล้ว
"ต่อไปเลย!"
【สังหารงูเขียว ได้รับค่าประสบการณ์ +1%】
【ฝึกฝนในสนามจริง ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าเพิ่มพลัง +1】
【สังหารงูเขียว ได้รับค่าประสบการณ์ +1%】
【ฝึกฝนในสนามจริง ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าเพิ่มพลัง +1】
【......】
ผ่านไปเพียง 10 นาที ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าก็สังหารงูเขียวไปนับสิบตัว
ความเร็วนี้มันช่างเกินคาด
แม้ว่าเวลาส่วนใหญ่จะหมดไปกับการหาศัตรู
หลี่เหยาตั้งใจว่า เขาจะเก็บเลเวลจนถึงระดับ 10 ก่อนจะออกจากดันเจี้ยนสำหรับมือใหม่นี้
เพราะสัตว์อสูรในป่าภายนอกนั้นแข็งแกร่งกว่าอย่างมาก
แม้อยากจะเพิ่มเลเวล แต่เขาก็ไม่คิดจะเสี่ยงชีวิต
ทว่าด้วยตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าระดับสองดาว ตอนนี้เจอศัตรูเลเวลเดียวกันมันก็จัดการได้ในทันที
แถมพลังยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผ่านการฝึกฝนในสนามจริง
ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงเลเวล 10 เลย ถึงออกไปก็น่าจะจัดการสัตว์อสูรในป่าได้สบายๆ
"ไปให้ถึงเลเวล 5 ก่อน แล้วรับทองจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์ จากนั้นให้ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าอัพเป็นสามดาว แล้วออกไปลุยป่า"
ไม่ถึง 20 นาที หลี่เหยาก็เลื่อนระดับได้สำเร็จ
【ชื่อ: หลี่เหยา】
【อาชีพ: ผู้ควบคุมหมากแห่งยอดเมฆา (ซ่อนเร้น ระดับพิเศษ)】
【ระดับ: 2 (0.5%)】
【พลังชีวิต: 500/500】
【พลัง: 10】
【จิต: 10】
【ความคล่องแคล่ว: 10】
【ความทนทาน: 10】
【แต้มคุณสมบัติเสรี: 10】
【พื้นที่หมาก: 1/1】
【อุปกรณ์: ไม่มี (0/8)】
【ทักษะ: เรียกตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่า (s), กองทุนเฮดจ์ฟันด์ (ไม่ทราบ), ฝึกฝนในสนามจริง (ไม่ทราบ)】
【พรสวรรค์: เฮ็กซ์, สายสัมพันธ์, ติดอาวุธ, ผู้ควบคุมหมาก, เลื่อนระดับดาว】
หลี่เหยาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตัดสินใจใส่แต้มทั้งหมดไปที่ค่าความคล่องแคล่ว
โดยปกติแล้ว ผู้อัญเชิญทั่วไปมักจะเน้นแต้มที่จิต
เพราะค่าจิตส่งผลต่อคุณสมบัติหลักของซัมมอน
แต่ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่ามีคุณสมบัติหลักเป็นพลัง
และเขายังมีทักษะฝึกฝนในสนามจริงที่เพิ่มพลังได้อย่างไร้ขีดจำกัด
การเพิ่มค่าจิตจึงแทบจะไม่มีประโยชน์
ในทางกลับกัน ความคล่องแคล่วจะส่งผลต่อความเร็วของซัมมอน
ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่ามีความคล่องแคล่วพื้นฐานสูงอยู่แล้ว ซึ่งไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาต่อไป
ในยามสู้กับสัตว์อสูร พลังเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ
แม้จะดูเหมือนจัดการกับสัตว์อสูรเล็กๆ ได้สบาย แต่หากเจออสูรระดับสูงหรือ
สัตว์อสูรที่มีความคล่องแคล่วสูง
พลังเยอะแค่ไหนก็ไร้ความหมายหากโจมตีโดนไม่ถูก
หลี่เหยาจึงเพิ่มแต้มไปที่ความคล่องแคล่ว
คุณสมบัติของตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าจึงเปลี่ยนตาม
【หมากตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่า】
【ระดับ: 2】
【ระดับคุณภาพ: s】
【สายสัมพันธ์: นักลอบสังหาร · สิ่งมีชีวิตแห่งความว่างเปล่า】
【ระดับดาว: 2 ดาว】
【พลังชีวิต: 1400/1400】
【พลัง: 137/31+5 (เพิ่มตามการอัพเกรดหมาก)+101 (เพิ่มจากการฝึกในสนามจริง)】
【จิต: 17/12+5】
【ความคล่องแคล่ว: 56/43+5 (เพิ่มจากการอัพเกรดหมาก)+8 (ความคล่องแคล่วของผู้ควบคุมหมาก 40%)】
【ความทนทาน: 28/23+5】
【ทักษะ: การจู่โจมจากเงามืด, การลิ้มรสความกลัว】
หลี่เหยาอดที่จะตกใจไม่ได้
คุณสมบัติพวกนี้มันน่ากลัวเกินไป
ด้วยพลังถึง 137 แม้แต่ผู้เล่นระดับ 10 ที่อัพทุกแต้มไปที่พลังยังไม่อาจเทียบได้!
แน่นอนว่าเขารู้ดี
ซัมมอนระดับ s จะไม่ทรงพลังเกินไปขนาดนั้น แต่ทักษะฝึกฝนในสนามจริงของเขานั้นแกร่งอย่างเหลือเชื่อ
ถ้าไม่มีพรสวรรค์ฝึกฝนในสนามจริงแล้ว ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าระดับ 2 ของหลี่เหยาจะมีพลังเพียงแค่ 36 เท่านั้น
แม้จะไม่น้อย แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้
สิ่งที่ทำให้มันทรงพลังสุดขีดก็คือพรสวรรค์นี้เอง
การฝึกฝนในสนามจริงส่งผลให้เหล่าซัมมอนที่เน้นการโจมตีทางกายภาพแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก
แต่ข้อจำกัดก็คือ เขาเลือกได้เพียงหมากตัวเดียวเท่านั้นที่จะเพิ่มพลังได้
อีกทั้งตอนนี้งูเขียวระดับ 1 ก็เริ่มไม่ช่วยเพิ่มพลังให้กับตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าแล้ว
ดังนั้นหลี่เหยาจึงตัดสินใจเดินลึกเข้าไปในป่า
【สังหารงู ได้รับค่าประสบการณ์ +0.8%】
【ฝึกฝนในสนามจริง ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าเพิ่มพลัง +1】
【สังหารหมีแดง ได้รับค่าประสบการณ์ +1.1%】
【ฝึกฝนในสนามจริง ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าเพิ่มพลัง +1】
【สังหารงูเขียว ได้รับค่าประสบการณ์ +0.5%】
【……】
การจัดการแต่ละครั้งราบรื่นหมดจด ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าของหลี่เหยากำจัดศัตรูได้ในพริบตาอย่างไร้ข้อกังขา
ด้วยค่าพลัง 137 แม้ไม่ต้องใช้ท่าทำลายการพรางตัว ก็ยังสร้างความเสียหายได้ถึง 150
ศัตรูระดับ 3 อย่างหมีแดงที่มีความทนทานสูงต้องใช้ท่า “ลิ้มรสความกลัว” เพียงครั้งเดียวก็จบ
ส่วนตัวอื่นๆ ไม่มีอะไรนอกจากการฆ่าทันทีในคราวเดียว
หลี่เหยาเดินตามเส้นทางที่ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่ากวาดล้างไปเรื่อยๆ
และในไม่ช้า เขาก็พบว่า
เมื่อใดที่ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าอยู่ห่างจากเขาเกิน 500 เมตร เขาจะไม่สามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของมันได้อีก
ช่างน่าเสียดาย
ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เมื่อมีหมากเพียงพอ
หลี่เหยาก็จะสามารถวางหมากตัวหนึ่งไว้ในที่ปลอดภัย
ซึ่งด้วยพรสวรรค์ของผู้ควบคุมหมาก เขาก็จะอยู่ในสถานะที่ "ไม่สามารถตาย" ได้ตลอดเวลา!
แต่นั่นก็เป็นความคิดที่เพ้อฝันเกินไป
ความสามารถที่น่าทึ่งแบบนี้ก็ย่อมต้องมีข้อจำกัดบ้างเป็นธรรมดา
ในขณะนั้นเอง
หลี่เหยาเห็นสัตว์อสูรตัวหนึ่งที่ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่ายังไม่ได้จัดการ
เป็นงู ระดับ 2
มันหลบอยู่ในพงหญ้าใกล้ๆ และตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าเห็นว่ามันเสียเวลาเลยข้ามมันไป
“ถือว่าโชคดีจริงๆ”
หลี่เหยาคิดในใจ ก่อนจะง้างหมัดแล้วซัดลงไป
【-9】
??
หลี่เหยามองไปที่ความเสียหายที่ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าสร้างขึ้นกับสัตว์อสูร
【-802】
ในหัวของเขามีเครื่องหมายคำถามผุดขึ้นมาทันที
สู้เปรียบกับคนอื่นมันชวนให้หงุดหงิดจริงๆ!
หลี่เหยาจึงระบายความอัดอั้นนี้ด้วยการทุบงู อย่างเต็มแรง
แม้มันจะขัดขืน แต่หลี่เหยาก็จัดการมันได้ง่ายดาย
【สังหารงู ได้รับค่าประสบการณ์ +0.8%】
แสงสีทองพุ่งวาบขึ้นบนตัวเขา
เลเวลอัพแล้ว
“ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็ขึ้นเลเวล 3 แล้ว”
หากคำนวณเช่นนี้ อีกไม่เกิน 3 ชั่วโมงเขาก็จะถึงเลเวล 5
จากที่หลี่เหยารู้มา
ผู้เล่นเลเวล 5 คนแรกในดันเจี้ยนสำหรับมือใหม่ของปีก่อนๆ ปรากฏตัวช่วงสิ้นวันแรก
ซึ่งความเร็วแบบนี้นับว่าเกินมาตรฐานอย่างมาก!
แต่หลี่เหยาก็ยังไม่พอใจ
เขาควบคุมให้ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่ามุ่งหน้าลึกเข้าไปในป่าต่อไป
ขณะเดียวกัน
โลกภายนอก
เหล่าผู้อำนวยการมากมายกำลังล้อมวงจิบชา
“ไม่รู้ว่าเด็กๆ รุ่นนี้ จะมีใครเลเวลสูงแค่ไหนในวันแรก?”
คำว่า "วันแรก" ของพวกเขาหมายถึง 8 ชั่วโมงแรกของดันเจี้ยน
“เด็กๆ ที่มีอาชีพระดับ A คงไปถึงเลเวล 5 ได้ไม่ยาก”
“อืม ไม่น่ามีปัญหา”
“มีใครจำได้บ้างว่า สถิติสูงสุดในวันแรกของเขตเจียงโจวคือเท่าไหร่?”
“ฉันจำได้ว่าเลเวล 7 เมื่อสามปีก่อน เด็กคนนั้นมีอาชีพระดับ s เพียงคนเดียวในเจียงโจว”
“ใช่ๆ จำได้เหมือนกัน วันแรกเลเวล 7 วันที่สองไปถึง 11 ตอนสอบนั้นไปถึงเลเวล 22”
“การดูเลเวลในวันแรก ก็นับว่าใช้ประเมินความเร็วในการเลเวลอัพในวันต่อๆ ไปได้อยู่”
“ถ้าภายในวันแรกยังไปไม่ถึงเลเวล 5 อาจจะยากสำหรับการเข้าสี่สถาบันใหญ่นะ”
จางอี้ที่นั่งฟังอยู่ ก็แอบคิดในใจว่า
ทีมของเจียงหนิงอวี่ที่มีนักเรียนระดับ B ทั้งหมด คงไปถึงเลเวล 5 ได้ไม่ยาก
แต่หลี่เหยาคนนั้นจะไปได้ถึงเลเวลไหน?
คิดถึงตรงนี้ จางอี้ก็อดหัวเราะตัวเองไม่ได้ ช่างคิดเพ้อไปไกลจริงๆ
ผู้อัญเชิญที่ไม่มีทีม ใครจะรู้ได้ว่าจะฆ่าสัตว์อสูรได้หรือไม่ อย่าว่าแต่จะอัพเลเวลเลย
ส่วนใหญ่ก็คงไม่ต่างจากผู้อัญเชิญคนอื่นๆ ที่ต้องออกจากดันเจี้ยนแล้วไปจ้างคนอื่นช่วยเวลในป่า
ทันใดนั้น
พลังงานมหาศาลพลันแผ่กระจายมาถึง
ใบหน้าของจางอี้พลันเปลี่ยนสี
ใครกันที่มาถึงที่นี่?
……