บทที่ 2: หายไป
เทียร์เดินกลับบ้านตลอดทั้งคืน ระหว่างทางเขาครุ่นคิดถึงอดีตที่ห่างไกล
'ชีวิตฉันมันแย่มาตลอดเท่าที่จำได้ แต่... ฉันแทบจะจำอะไรไม่ได้เลยก่อนที่ปู่จะตาย แต่ฉันรู้ว่าช่วงเวลานั้นคือช่วงที่ดีที่สุด' เทียร์คิดขณะเดิน
ดวงตาของเขาจ้องมองท้องฟ้าที่ไร้ดวงดาวเพราะมลพิษที่หนาแน่นในเมือง
เขานึกถึงปู่ผู้ล่วงลับ: 'ต้องทิ้งฉันให้ดิ้นรนเองตอนอายุ 18 สินะ?' เขาพูดกับตัวเองพร้อมกับหัวเราะเล็กน้อย
ทันทีที่เขามาถึงอพาร์ตเมนต์เก่าๆ ที่ทรุดโทรม เขาถอดเสื้อผ้าส่วนใหญ่ อมแปรงสีฟันไว้ในปาก แล้วเริ่มค้นกล่องเก็บของเก่าๆ
เขาใช้เวลาไม่นานในการหากล่องไม้เก่าที่เต็มไปด้วยฝุ่นและมีลายเขียนสีน้ำเงินอยู่ทั่ว
‘นี่ไงล่ะ’ เขาคิดพร้อมกับจำได้ว่าเขาเคยทิ้งกล่องนี้ไปหลังจากที่ปู่ตาย และไม่เคยหันกลับมามองอีกเลย
เขาเป่าฝุ่นออกจนหมด ด้านบนของกล่องมีคำสลักไว้ว่า “จงจำไว้”
‘จะลืมได้ยังไงกัน’ เทียร์พูดกับตัวเองทันที ‘คำพูดสุดท้ายที่ท่านพูดกับฉันก่อนตาย…’ เขาหยุดคิดชั่วขณะ ก่อนเปิดกล่องนั้นออก
ภายในนั้นมีหนังสือปกอ่อนขนาดเท่าตำราเรียนอยู่ เขาเปิดมันตรงกลางเล่ม
แม้ว่าจะมีหลายร้อยหน้า “ทุกหน้ามันว่างเปล่า” เทียร์พูดขณะมองกระดาษเปล่าตรงหน้า
“ก็... ยกเว้นแค่ไม่กี่หน้าแรก” เขาพลิกไปที่จุดเริ่มต้นของหนังสืออย่างรวดเร็ว
สามหน้าแรกนั้นมีคำแนะนำเกี่ยวกับการร่าย ‘คาถา’ มายากลแบบสุ่มและง่ายๆ ตามที่หนังสือเขียนไว้และยังมีภาพวาดประกอบ
หนึ่งในนั้นคือคาถาที่เรียกว่า “เคลื่อนย้าย” (เขียนด้วยหมึกดำทั้งหมด)
[เป็นการทำให้วัตถุเล็กๆ ในมือข้างหนึ่งย้ายไปยังอีกข้าง]
นี่เป็นเทคนิคที่นักมายากลส่วนใหญ่รู้จัก มันคือเทคนิคการหลอกตาและค่อนข้างง่ายในการเรียนรู้
มีอีกเทคนิคหนึ่งในหน้าถัดไป แต่เทียร์ไม่สนใจและพลิกไปที่หน้าคาถาสุดท้าย
“หายไป” เขาพูดออกมาเสียงดัง ขณะมองคาถาอันที่สามและอันสุดท้ายในหนังสือ คาถานี้ต่างจากอีกสองอัน มันถูกเขียนด้วยดินสอ
“นี่คือสิ่งเดียวที่อาจทำให้ฉันชนะได้จริง ถ้ามันได้ผล... ฉันจะชนะและบางทีอาจจะได้ดิบได้ดีในสักวัน”
ขณะนั้นเอง ภาพของเทียร์ที่ขี่เฮลิคอปเตอร์ ขับรถสปอร์ตสุดหรู ว่ายน้ำท่ามกลางทองคำ และมีสาวสวยรายล้อมตะโกนเรียกชื่อเขาก็ผุดขึ้นมาในหัว
เขาแทบจะน้ำลายหกเมื่อคิดถึงเรื่องทั้งหมดนี้ แต่ก็สลัดความคิดนั้น เรียกสติกลับมาอย่างรวดเร็ว
“แต่... มันต้องทำงานได้จริงก่อนนะ” ขณะพูดนั้น นิ้วของเขาแตะที่ส่วนคำอธิบายบนหน้า
มัน... ถูกฉีกออกไปหมด ต่างจากหน้าทุกหน้าในหนังสือ
เทียร์ไม่รู้ว่าทำไม แต่เขารู้ว่า: “คาถานี้ไม่มีคำอธิบาย... และมันไม่ได้ถูกเขียนด้วยหมึกด้วยซ้ำ แต่ฉันมั่นใจว่าฉันพอจะเดาได้ว่ามันทำอะไรจากชื่อของมัน หายไป เหมือนคาถาหายตัวอื่นๆ ที่ทำให้ใครบางคนหายไปต่อหน้าต่อตา”
ความตื่นเต้นเล็กๆ ในใจของเขาเริ่มก่อตัวเพียงแค่คิดถึงความเป็นไปได้ที่คาถานี้จะได้ผล
หลังจากแปรงฟันและเตรียมตัวเข้านอน เทียร์ตัดสินใจฝึกคาถา “หายไป” ก่อน
เขานั่งลงบนพื้นโดยมีหนังสือเวทมนตร์อยู่ตรงหน้า ด้านข้างมีกล่องกระดาษเปล่าๆ วางอยู่เป็นตัวทดสอบ
เขาหายใจเข้าลึกๆ “มาเถอะ... ขอให้มันได้ผลทีเถอะ” เขาพึมพำเบาๆ ขณะจ้องมองตัวหนังสือดินสอบนหน้ากระดาษ
เทียร์ยกมือขึ้นเพื่อทำคาถา ทำให้ความทรงจำหลายอย่างไหลเข้ามาในหัว
เขาจำได้ว่าเขาเคยเล่นมายากล หรือพูดให้ถูกคือ ปู่ของเขาเคยเล่นมายากลให้เขาดู
ก่อนที่เขาจะรู้จักโลกสมัยใหม่ เทียร์เคยอาศัยอยู่กับปู่บนภูเขา
ปู่ของเขาแข็งแรงมากแม้จะอายุมากแล้ว ทำให้พวกเขาไม่ลำบากนัก
ชายชราได้สอนเทียร์อ่านเขียน และยังสอนบทเรียนเกี่ยวกับศีลธรรมและอื่นๆ ที่เทียร์ลืมไปแล้วอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่เทียร์จำได้มากที่สุดจากช่วงเวลานั้นคือกลเม็ดมายากลที่ปู่ชอบแสดงให้เขาดู
การหายตัว การทำให้สิ่งของลอยได้ และอื่นๆ
แม้ว่าเทียร์จะเติบโตมาพร้อมความเชื่อว่ามันเป็นเพียงกลลวง ไม่ใช่มายากลจริงๆ ปู่ของเขาไม่เคยเลิกยืนยันว่าเขากำลังร่ายคาถาจริง
เขาไม่เคยละทิ้งความเชื่อนี้ แม้กระทั่งในวันสุดท้าย...
ในวันเกิดปีที่ 18 ของเทียร์ ปู่ของเขาเสียชีวิต มีหลายสิ่งที่เทียร์อยากรู้และอยากพูด
แต่ว่ากาลเวลาไม่เคยหยุดทำให้เทียร์ต้องละทิ้งความกังวลเหล่านั้นและยอมรับความจริง
เขาถูกผลักเข้าสู่โลกความเป็นจริง—เทียร์ไม่ได้เรียนหนังสือแม้แต่ปีเดียว และไม่เคยติดต่อกับใครนอกจากปู่...
สิ่งที่เทียร์อยากรู้ที่สุดในวันนั้นคือ... พ่อแม่ของเขาเป็นยังไงบ้าง?
ด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถอธิบายได้ เทียร์ไม่สามารถจำอะไรได้ก่อนอายุ 6 ปี มันเหมือนกับเป็นอุปสรรคทางจิตใจที่ไม่เคยหายไป
เพราะเหตุนี้ เขาจึงจำพ่อแม่ไม่ได้เลย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเคยเห็นหน้าพวกเขาหรือเปล่า
สิ่งเดียวที่ปู่ของเขาเคยพูดเกี่ยวกับพ่อแม่คือ... “พวกเขาเป็นคนตลก เทียร์ ฉันรับรองว่านายจะได้พบพวกเขาในชีวิตนี้”
เมื่อคิดถึงเรื่องทั้งหมดนี้ รอยยิ้มบางๆ ก็ปรากฏบนริมฝีปากของเทียร์
สำหรับเขา ความทรงจำส่วนใหญ่เป็นความขมขื่น แต่ยังมีความหวานซ่อนอยู่เล็กน้อย
สุดท้ายเขาพูดว่า “หายไป” ขณะขยับมือไปรอบๆ กล่องกระดาษที่อยู่ข้างหนังสือ
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น…….
เขารออยู่ไม่กี่วินาที ดวงตาเต็มไปด้วยความหวัง
แต่... ก็ยังไม่มีอะไร
เขาลองอีกสองชั่วโมง มันเป็นสุดยอดของความน่าเบื่อ แต่สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้แทบจะไม่ส่งผลต่อเทียร์อีกแล้ว
ในที่สุด เขาก็หลับไปขณะฝึกฝน
วันรุ่งขึ้น
เทียร์ยืนอยู่หน้าตึกที่ใหญ่โตอลังการ ปากของเขาอ้าค้างเล็กน้อย ขณะที่ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง
ตึกใหญ่นั้นดูเหมือนพระราชวัง มีเสาหลายต้นและโครงสร้างเป็นหินอ่อน
หน้าต่างสูงที่ส่องแสงแม้ในเวลากลางวัน และพรมแดงที่ปูยาวหลายร้อยเมตรไปถึงถนน
เสียงอึกทึกครึกโครมของผู้คนนับพันรอบตัวเขาดึงเขากลับสู่ความเป็นจริง ขณะที่เขามองลงไปที่เสื้อผ้าของตัวเอง
นี่เป็นการแต่งตัวที่หรูหราที่สุดที่เขาเคยใส่—ทักซิโดสีขาวกับกางเกงสแล็กสีดำ โบว์ไทสีดำเล็กๆ และหนังสือเวทมนตร์สีน้ำเงินในมือ
‘ฉันติดหนี้ร้านเช่าชุดมากกว่าเงินที่มีในบัญชีธนาคาร... ฉันทำพลาดไม่ได้’ คำพูดนี้ดังขึ้นในหัวของเขา เทียร์สูดหายใจเข้าลึกสองครั้งและก้าวขาใหญ่ไปข้างหน้า...