ตอนที่แล้วบทที่ 12: ชีวิตประจำวัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 14: สัตว์ร้ายระดับสูงสุด

บทที่ 13: พิกซี่


กวางผสมยีราฟนั้นตัวใหญ่กว่าหมาป่าหน่อยหนึ่ง แต่ผู้ล่ายังคงล้มมันลงอย่างง่ายดาย ราวกับว่ามันเบาเหมือนขนนก

ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ร่างของมันถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย พละกำลังของมันไม่สามารถต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย

‘นั่นมัน... กิราเดียร์! มันเป็นสัตว์หายาก ฉันไม่คิดว่ามันควรอยู่ในป่านี้

เพราะทั้งกวางและยีราฟในโลกจริงต่างก็อยู่เป็นฝูง แต่ที่นี่ฉันเห็นแค่ตัวเดียวเท่านั้น’

ไทร์ครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ที่ระบบนิเวศของป่าอาจทำให้สัตว์ในสายพันธุ์ใกล้เคียงกันต้องปรับพฤติกรรมการอยู่ร่วมฝูงที่ต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง

‘ถึงอย่างนั้น เจ้าพวกนี้ก็ไม่อ่อนแอกว่าหมูป่าโบอาร์เลยถ้ามันต้องป้องกันตัว แต่หมาป่านั่นกำลังฉีกมันเหมือนกระดาษ มันแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ ฉันต้องออกจากที่นี่ก่อนที่มันจะเห็นฉัน—’

จู่ๆ สมองของไทร์ก็ว่างเปล่าเมื่อมีบางอย่างมาแตะไหล่ซ้ายของเขา

เขาหันหน้าช้าๆ ไปทางซ้าย ใบหน้าแสดงความตื่นตระหนกราวกับพร้อมจะร้องลั่นหรือกลัวจนแทบจะอุจจาระราดในเวลาเดียวกัน

แต่เขายังพอควบคุมตัวเองได้เมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วคล้ายมนุษย์ตัวน้อยเกาะอยู่บนไหล่ของเขา

สิ่งนั้นคือเด็กสาวตัวเล็กที่มีปีกนางฟ้าส่องแสงระยิบระยับใต้แสงอาทิตย์ เปล่งแสงสีทองนุ่มนวล

เธอสวมเสื้อผ้าจากใบไม้ และจ้องมองกลับไปยังไทร์ด้วยสีหน้าไร้เดียงสา

“อะ...อะไรกัน... นี่มันตัวบ้าอะไร?” ไทร์เอ่ยขึ้นด้วยความสับสน

พยายามสงบสติอารมณ์ลงเล็กน้อยเพราะสิ่งนี้ดูไม่น่าจะเป็นภัย แต่เขาก็ยังคงระวังตัว

หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดกับสไลม์แล้ว เขาไม่มีทางจะประมาทสิ่งใดได้อีกแล้ว

“หืม? ดูเหมือนว่ามนุษย์จะเห็นฉันสินะ” เด็กหญิงตัวจิ๋วพูดด้วยเสียงแหลมเล็กนุ่มนวล เหมือนพูดกับตัวเอง

“อะไรนะ? ฉันมองเห็นและได้ยินเธอชัดเจน แล้ว... ตอบคำถามของฉันได้หรือยัง?” ไทร์ตอบกลับทันทีด้วยน้ำเสียงฉุนเล็กน้อย

เด็กหญิงตัวน้อยหยุดนิ่ง กระพริบตาปริบๆ สองสามครั้ง

ไทร์เองก็นิ่งเงียบไปด้วยความงุนงง

“เธอเข้าใจภาษาของฉันจริงๆ เหรอ?” เด็กหญิงเอ่ยอย่างตกใจในที่สุด

“เอ่อ... ใช่ แล้วตอบคำถามมาเถอะ ก่อนที่ฉันจะฉีกเธอเป็นชิ้นๆ นะ ฉันต้องการค่าประสบการณ์ ตอนนี้พอดี…”

‘อะไรก็ตามแต่ เจ้านี่ไม่ใช่มนุษย์ ถ้ามันอ่อนแอ มันก็เป็นค่าประสบการณ์ฟรีๆ...’ เขาคิดในใจครู่หนึ่ง

เด็กหญิงดูเหมือนจะเข้าใจความตั้งใจของเขา จึงรีบตอบอย่างรวดเร็ว

“ฉันเข้าใจแล้ว... มนุษย์ที่เข้าใจภาษาของผู้ดูแลป่าอย่างเราเป็นสิ่งที่พบได้ยากมาก ปกติแล้วคนที่ทำได้มักจะเป็น—”

ไทร์จ้องมองเธอด้วยสายตาจริงจัง ทำให้เธอหยุดพูดกลางคันและตอบคำถามของเขาในที่สุด

“ฉันคือพิกซี่ พวกเรามีจำนวนน้อย แต่ก็มีสำคัญอย่างยิ่ง ฉันมีหน้าที่ดูแลส่วนหนึ่งของป่าแห่งนี้ เพื่อให้ระบบนิเวศดำรงอยู่ได้ และสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตกับความตาย ว่าแต่... เจ้าเองก็ได้สร้างผลกระทบต่อสมดุลเล็กๆ น้อยๆ ของป่านี้แล้วนะ แต่เรื่องนี้ค่อยคุยกันทีหลังจะดีกว่า”

“งั้นเหรอ... แปลว่าฉันฆ่าเธอไม่ได้สินะ” ไทร์พูดกับตัวเองเบาๆ อย่างผิดหวังเล็กน้อย

“รู้ไหม ฉันได้ยินนะ ฉันยืนอยู่ตรงปากนายเนี่ย!” พิกซี่จ้องมองเขาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจ มือทั้งสองข้างเท้าเอว

“เอาล่ะๆ... แล้วนั่นมันตัวบ้าอะไร? ฉันเดาว่านี่คือเหตุผลที่เธอมาที่นี่ใช่ไหม?”

ไทร์พูดพร้อมกับหันไปมองหมาป่ายักษ์ที่กำลังฉีกสัตว์ออกเป็นชิ้นๆ ในลานหญ้า

พิกซี่สูดลมหายใจลึกก่อนตอบ “ฉันจะไม่ถามหรอกนะว่านายไม่รู้อะไรพวกนี้ได้ยังไง…” เธอหยุดพูดเรื่องนี้

“ในป่าแห่งนี้ และอาจรวมถึงพื้นที่ธรรมชาติอื่นๆ ในซับเวิลด์ มีเขตแดนที่สัตว์ทรงพลังที่สุดครอบครองอยู่ ที่นั่นคืออาณาเขตของพวกมัน เป็นที่ล่าและที่ครองอำนาจ ซึ่งขอบเขตของพวกมันอาจกว้างถึง 10 ไมล์หรือมากกว่า 100 ไมล์ในบางครั้ง”

ไทร์เอ่ยขึ้น “เข้าใจละ... แปลว่าเจ้าตัวนั่นคือราชาอาณาเขตงั้นสิ?”

“ราชาอาณาเขตพวกมันถูกเรียกว่าโดเมนแอลฟา และเจ้าหมาป่านั่นไม่ใช่โดเมนแอลฟาหรอก”

“ว่าไงนะ!?” ไทร์อุทานพร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ “ถ้าเจ้านั่นไม่ใช่ แล้วเป็นอะไรล่ะ?”

“อันที่จริง เราอยู่ตรงที่เป็นโดเมนของไวท์คริมสัน หนึ่งในโดเมนแอลฟาที่แข็งแกร่งที่สุดในป่ากิทราน มีฉายาว่าขนขาวล้วนที่มักเปื้อนเลือดสีแดงสดจากการสังหารหมู่จำนวนมาก”

ไทร์กลืนน้ำลายเสียงดัง แค่ฟังคำบรรยายก็รู้สึกได้ถึงอำนาจของสัตว์ร้ายตัวนี้ เขามองกลับไปที่หมาป่า “แล้วเจ้านั่นเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้?”

พิกซี่ตอบ “เจ้านั่นคือสิ่งที่เรามักเรียกว่ากบฏ เป็นสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งและหนุ่มแน่นที่ไม่ต้องการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของโดเมนแอลฟาของมันอีกต่อไป ตอนนี้มันกำลังสร้างปัญหามากมายเพื่อท้าทายโดเมนแอลฟา กล่าวได้ว่ามันกำลังทำลายกฎของอาณาเขตนี้เพื่อเป็นการท้าทายและเรียกร้องความสนใจจากผู้นำ”

“กบฏงั้นเหรอ...” ไทร์ยังคงจ้องมองหมาป่าขณะที่เลือดกระเซ็นออกมาในอากาศตรงหน้าเจ้าสัตว์ร้าย

‘ฉันพนันได้เลยว่าฉันจะได้เลเวลเพียบถ้าฆ่าเจ้านี่ได้’

พิกซี่เห็นประกายตาคู่นั้นของไทร์ เธอจึงบินขึ้นไปและตบหน้าเขาเต็มแรง

“ไม่! อย่าคิดแม้แต่จะทำ!” เธออุทาน พลางคิดในใจว่า ‘เด็กคนนี้คงอยากกำจัดมันเพื่อรักษาสมดุลของป่าละมั้ง แต่เขาคงไม่รู้ตัวว่าตัวเองยังอ่อนแอเกินไป… แม้แต่พวกพิกซี่ก็ไม่คิดจะก่อปัญหากับพวกกบฏที่แข็งแกร่งขนาดนี้ อย่างน้อยพวกเราส่วนใหญ่ก็ไม่คิดทำ’

“นี่คือกฎแห่งธรรมชาติ อย่าพยายามเป็นฮีโร่โดยเข้าไปยุ่งกับวัฏจักรของธรรมชาติ!” พิกซี่กล่าวด้วยน้ำเสียงตำหนิ

ไทร์มีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย “นั่นคือสิ่งที่เธอคิดว่าฉันคิดอยู่เหรอ? ว่าฉันอยากกำจัดกบฏเพื่อรักษากฎระเบียบให้สมดุล?”

พิกซี่เองก็แปลกใจเช่นกัน “ไม่ใช่เหรอ?”

ไทร์แสยะยิ้มเล็กน้อย ราวกับจะเย้ยคำพูดของพิกซี่ “ไม่…ไม่ใกล้เคียงเลย ฉันอยากฆ่าเจ้านั่นเพื่อประโยชน์ของตัวเองต่างหาก” ดวงตาของเขาเบิกกว้างและเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นและมุ่งมั่น

พิกซี่นิ่งเงียบ พูดไม่ออก

ไทร์มองไปข้างหน้า ‘ไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหน ตราบใดที่ฉันไม่พลาดการใช้คาถา ฉันจะไม่มีวันแพ้’

รอยยิ้มกว้างยืดไปทั่วใบหน้าของเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด