บทที่ 1
ในสถานที่และเวลาที่ไม่ปรากฏ ในฐานลับแห่งหนึ่ง ลีออนยืนอยู่ในห้องเล็กชื้นๆขนาดไม่ถึงสิบห้าตารางเมตร เขาสวมชุดบางๆสีขาวพิงกำแพงอิฐเย็นเยียบ ดวงตาหลับพริ้มเขาไม่มีความหวังใดๆในใจ
เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วที่ไม่มีใครสังเกตว่าหนุ่มน้อยคนนี้ได้เปลี่ยนไป—วิญญาณของเขาไม่ใช่ของโลกนี้อีกต่อไป ลีออนถือว่าเป็นทั้งโชคร้ายและโชคดี เขาไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ถึงได้ข้ามเวลามาในความฝันและเข้ามาอยู่ในร่างของเด็กชายนี้ ทุก ๆสองสามวัน เขาต้องทนกับการทดลองที่แทบจะทนไม่ไหว
ลีออนคาดการณ์ว่าเด็กชายคนนี้ได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อเดือนก่อนเพราะไม่อาจทนการทรมานได้ ทำให้เขาเข้ามาควบคุมร่างได้ ตลอดเดือนที่ผ่านมา ลีออนเข้าใจถึงความเจ็บปวดอันแสนทรมานจากการทดลองเหล่านี้ จิตใจของคนที่เติบโตแล้วแทบจะทนได้อย่างยากลำบากนับประสาอะไรกับเด็กคนหนึ่ง
แต่เขายังยึดมั่นในความหวังที่จะหนีออกไป เขากดข่มความคาดหวังของตนไว้เงียบๆและนับเวลาผ่านไป ในที่สุด เสียงโลหะดังก้องทำลายความเงียบ
[ติ๊ง!! คุณต้องการเริ่มต้นการลงชื่อไหม?]
ลมหายใจของลีออนเริ่มเร็วขึ้น "ลงชื่อ" เขาพึมพำเบา ๆ
[ติ๊ง, รางวัลการลงชื่อ: ผลปีศาจแสงสว่าง (Pika Pika no Mi)]
เมื่อเสียงหายไป ผลไม้ลูกหนึ่งก็ปรากฏในมือของเขา เมื่อสัมผัสกับผิวขรุขระของมัน หัวใจของลีออนเต็มไปด้วยความยินดี ผลปีศาจแสงสว่าง—หนึ่งในผลปีศาจสุดยอดจาก One Piece
ในฐานะมนุษย์แสง เขาสามารถเปลี่ยนร่างเป็นแสง เคลื่อนที่ด้วยความเร็วของแสงและใช้คุณสมบัติของแสงเป็นอาวุธ แม้ว่าแสงจะเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงแต่ด้วยเทคนิค 'กระจกยาตะ' เขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ข้อจำกัดเดียวของเขาคือฮาคิ อาวุธหินไคโรและพลังของผลความมืด
ในโลกนี้ปัจจัยหินไคโรไม่มีอยู่จริง คำสาปว่ายน้ำไม่ได้ก็ไม่เป็นปัญหา ลีออนตระหนักว่าในที่นี้เขาในฐานะมนุษย์แสงไม่มีข้อจำกัด
ลีออนกดข่มความตื่นเต้นแอบมองกล้องวงจรปิดในมุมห้องอย่างระวัง เขาขยับร่างกายเล็กน้อยไปในจุดอับกล้องเพื่อบังการมองเห็นจากประตูกรงด้านนอก
เขาโน้มตัวลงศีรษะต่ำและยกแขนขึ้นเล็กน้อยจากนั้นกัดลงไปที่ผลปีศาจ รสชาติของมันช่างเปรี้ยวและน่าขยะแขยงอย่างบรรยายไม่ได้แต่เขาฝืนกินมันจนหมดไม่อยากทิ้งหลักฐานใดๆไว้
หลังจากนั้น ลีออนนั่งตัวตรงและหลับตา มุ่งสมาธิไปที่การเปลี่ยนแปลงในร่างกาย พลังลึกลับค่อยๆเริ่มเข้าสู่ร่างกายเขารู้ว่าในคืนนี้เขาจะถูกเปลี่ยนแปลง
รุ่งเช้า เสียงดังขึ้นอย่างกระแทกกระทั้น
"เฮ้ ไอหนู อาหารเช้าของแก"
เสียงทุ้มต่ำดังมาจากนอกประตูกรง ลีออนที่เอนตัวพิงกำแพงมาตลอดทั้งคืนลืมตาขึ้นและมองจานอาหารโลหะที่ถูกโยนลงพื้น เขามองไปยังชายที่กำลังแจกจ่ายอาหารให้กับผู้ทดสอบคนอื่นในคุกใกล้เคียง
ลีออนลุกขึ้นจากเตียง ก้มตัวลงหยิบจานอาหาร ในจานมีแต่กล่องสารอาหาร สำหรับหกเดือนที่ผ่านมา สารละลายรสชาตินี้เป็นสิ่งเดียวที่เขากิน แม้ไม่อร่อยแต่ก็มีสารอาหารครบถ้วน ผู้ทดสอบไม่ได้แสดงความเมตตาใดๆแค่ต้องการให้ผู้ถูกทดลองมีชีวิตอยู่พอสำหรับการทดลองเท่านั้น
เขาฉีกกล่องออกแล้วดื่มมันจนหมดซึ่งเป็นแหล่งสารอาหารหลักที่คอยเสริมความแข็งแรงของร่างกาย ลีออนไม่คิดจะทิ้งมัน
หลังจากเสร็จแล้วเขาวางกล่องที่ว่างเปล่าลงบนจานอาหารและวางไว้ที่พื้นเพื่อให้เก็บจากนั้นเขากลับไปที่เตียง หลับตาลงและเริ่มวางแผนการต่อไป
ช่วงระหว่างการทดลองคือห้าวัน นับตั้งแต่เมื่อวานผ่านมาแล้วก็แสดงว่าเขายังมีเวลาอีกห้าวันรวมวันนี้ วันที่หกจะเป็นวันที่การเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขาจะเห็นได้ชัดต่อผู้ทดลอง
หากเขาล้มเหลว ชะตากรรมของเขาจะเลวร้ายกว่าเดิม ลีออนรู้ว่าเขาต้องใช้เวลาอีกห้าวันนี้ให้คุ้มค่า
ระบบลงชื่อของเขาทรงพลัง แต่ก็ไม่แน่นอน เขาสามารถลงชื่อทุกวัน แต่รางวัลส่วนใหญ่มักไม่ค่อยน่าพอใจ สามวันก่อน เขาลงชื่อด้วยความหวัง แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย จนกระทั่งโชคดีได้รับผลปีศาจแสง
เขาวางแผนจะลงชื่ออีกครั้งในวันที่ห้า ในระหว่างนี้ เขาต้องฝึกฝนอย่างหนัก
คิดได้ดังนั้น ลีออนลุกขึ้นและเริ่มวิดพื้น เมื่อคนที่มาเก็บจานอาหารเดินมา เขาไม่แปลกใจ ลีออนฝึกออกกำลังกายในเวลาว่างมาตลอดเดือนที่ผ่านมา ในพื้นที่จำกัดนี้เขาไม่มีอะไรจะทำมากไปกว่าการออกกำลังกายและเหม่อมองไกล ๆ
ชายคนนั้นจากไป ลีออนยังคงวิดพื้นต่อไปและเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย เดิมทีร่างกายเด็กอายุสิบสามที่อ่อนแอของเขาแทบทำวิดพื้นได้แค่สามสิบครั้ง ตอนนี้เขาทำได้สี่สิบครั้งโดยไม่เหนื่อย ผลปีศาจแสงกำลังแปลงร่างเขาอย่างช้า ๆ
"เหลืออีกห้าวัน..." ลีออนคิดอย่างแน่วแน่
เขามีความทรงจำของเด็กชายที่ถูกทรมานตลอดหกเดือนและได้ทนทุกข์ด้วยตัวเองเช่นกัน หากไม่มีระบบลงชื่อ เขาคงพบจุดจบเช่นเดียวกับเด็กคนนั้นแต่ตอนนี้ ลีออนมุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตรอดและล้างแค้นให้กับคนเหล่านี้ที่ไร้มนุษย์ธรรม
ด้วยความตั้งใจแน่วแน่ เขาเริ่มฝึกฝนอย่างเข้มงวดห้าวัน
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตลอดห้าวันนั้น ลีออนฝึกฝนอย่างไม่หยุดยั้ง เขาจำกัดการฝึกให้อยู่ในขอบเขตปกติ แต่ลดเวลาพักลง ในเวลาต่อมา เขาฝึกวิดพื้นด้วยนิ้วเดียวใต้จุดบอดของกล้องวงจรปิดอย่างลับ ๆ
แต่เขาไม่กล้าใช้ผลปีศาจแสงโดยตรงเพราะไม่แน่ใจว่ามันจะดึงดูดความสนใจของผู้ทดลองหรือไม่และเขาไม่ต้องการเสี่ยง
สารอาหารในกล่องช่วยให้เขามีพลังงานเพียงพอและด้วยพลังของผลปีศาจแสง ความแข็งแรงทางกายของลีออนก็เพิ่มขึ้นทุกวัน อายุสิบสามปีแต่ความแข็งแกร่งของเขาล้ำหน้าผู้ใหญ่หลายคน
พลังของผลปีศาจเริ่มกลายเป็นสัญชาตญาณทันทีที่เขากินเข้าไป แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้พลังนั้นอย่างตั้งใจ แต่เขาก็สามารถเข้าถึงพลังขั้นต้นบางอย่างได้เช่นการแปลงร่างเป็นแสง
"เวลาได้มาถึงแล้ว
ในคืนที่ห้า ลีออนที่ดูเหมือนกำลังหลับตาก็พลันเปิดดวงตาขึ้น แสงสีทองอ่อนๆ แวบผ่านดวงตาของเขา เขานั่งขึ้นช้าๆ สวมรองเท้าแล้วเดินไปยังประตูกรงด้วยความเยือกเย็น
เสียงดังหึ่ง!
แสงสีทองสว่างเจิดจ้าแผ่กระจายจากร่างกายของเขา เปลี่ยนร่างให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตแห่งแสง เขาเคลื่อนตัวผ่านลูกกรงอย่างง่ายดาย ก้าวออกจากห้องขังของเขา
ทันทีที่เขาออกมา เสียงสัญญาณเตือนดังกึกก้องไปทั่วฐานทางเดินทั้งหมดด้านหน้าเขาเต็มไปด้วยแสงสีแดงกระพริบ
ปิ๊บ! ปิ๊บ! ปิ๊บ
เสียงเตือนปลุกให้เด็กๆ ที่ถูกทดลองในห้องข้างเคียงตื่นขึ้น พวกเขาตื่นตระหนกและรีบกรูไปยังประตูกรงพยายามมองดูว่าเกิดอะไรขึ้น
สิ่งที่พวกเขาเห็นคือเรื่องที่แทบไม่น่าเชื่อ ยามในฐานปฏิบัติการตอบสนองอย่างรวดเร็ว เสียงฝีเท้าหนักดังสะท้อนตามทางเดิน ชายในเครื่องแบบสิบกว่าคนพุ่งเข้ามาทางประตูเหล็กที่ปลายทางเดินพร้อมอาวุธครบมือ
พวกเขาพบเห็นลีออนทันทีและใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความมืดมน
"เฮ้ ไอหนู ใครบอกให้แกออกมา?" หัวหน้ากลุ่มตะคอก
ขณะที่เขายื่นมือไปจับลีออน หนุ่มน้อยก็จับข้อมือของเขาไว้ทันที ใบหน้าของชายแข็งแรงบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ "เจ้าเด็กน้อย แกต้องการโดนสั่งสอนหรือไง?"
เขาพยายามใช้กำลังเอาชนะลีออน แต่เขากลับต้องตกใจเพราะมือเล็กๆของเด็กชายสามารถตรึงเขาไว้ได้อย่างแน่นหนา ซึ่งไม่ใช่กำลังของเด็กอายุสิบสองหรือสิบสามเลย
ชายแข็งแรงนั้นเต็มไปด้วยความไม่เชื่อขณะที่เขากำลังจะพูด ลีออนก็เงยหน้าเล็กน้อยและเสียงของเขาก็สะท้อนก้องในทางเดินท่ามกลางเสียงสัญญาณเตือนที่ดังกึกก้อง
"งั้นเริ่มจากแก"
บึ้ม!
รองเท้าสีขาวของลีออน ส่องแสงสีทองอ่อนๆ พุ่งขึ้นและกระแทกเข้าที่ท้องของชายคนนั้นด้วยแรงมหาศาลจนเกินกำลังของผู้ใหญ่ใดๆการปะทะทำให้ชายคนนั้นลอยกระเด็นไปด้านหลัง เลือดออกจากปากเมื่อเขาชนเข้ากับประตูเหล็กที่ปลายทางเดิน ทำให้คนอื่นๆ ล้มตามไปด้วย
ยามที่เหลือซึ่งได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพตอบโต้ทันที พวกเขาชักปืนออกมาเตรียมพร้อมแต่พวกเขาไม่มีทางสู้ลีออนที่กลายเป็นมนุษย์แห่งแสงได้
เพียงแสงสีทองพริบตา ลีออนเคลื่อนตัวได้เร็วจนสายตาของพวกเขาตามไม่ทัน ความเจ็บปวดแหลมคมแล่นเข้ามาในร่างกายของพวกเขาและก่อนที่พวกเขาจะรู้สึกตัว ภาพที่เห็นก็กลายเป็นความมืดสนิทเมื่อพวกเขาสูญเสียสติ
เพียงการโจมตีไม่กี่ครั้ง ชายเหล่านั้นสิบกว่าคนนอนแน่นิ่งบนพื้นคอของพวกเขาบิดผิดรูป
ลีออนที่เพิ่งสังหารคนไปกว่าสิบคนไม่รู้สึกเสียใจ มีเพียงความโล่งใจแต่นั่นยังไม่พอ ความเจ็บปวดและทรมานที่เขาเคยทนมาทำให้เขารู้สึกโกรธแค้นที่ลุกโชน
เขามองไปที่เด็กๆที่มองจากหลังลูกกรง ใบหน้าพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจและความตื่นเต้น ความรู้สึกที่แตกต่างจากความเฉยเมยก่อนหน้านี้
ไม่มีใครพูดอะไรแต่ลีออนเห็นความหวังในดวงตาของพวกเขา
"ฉันจะกลับมา" เขาพูดเบาๆคำพูดของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นแล้วเขาก็หันหลังและวิ่งลงไปตามทางเดินทิ้งเด็กๆ ไว้เบื้องหลังที่มองตามเขาไปด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวัง
บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!
ความวุ่นวายปะทุขึ้นทั่วฐานพร้อมกับเสียงคำรามและกรีดร้องดังสะท้อนกันไปมา
ในห้องควบคุมหลักด้านบน ชายในเครื่องแบบรีบเข้ามาในห้องที่เต็มไปด้วยเสียงและความเร่งรีบ
"เร็วเข้า! ผู้ทดลองบุกเข้าชั้นสองแล้ว ทีมสามเข้าให้ความช่วยเหลือทันที! ปิดผนึกทุกเส้นทางและเปิดระบบป้องกัน!"
"ทีมหนึ่งและทีมสองขาดการติดต่อแล้ว ส่วนทีมสามกำลังต่อสู้อยู่!"
"พวกเขาเสียชีวิตหรือบาดเจ็บไปกว่าครึ่งและพวกเขากำลังร้องขอความช่วยเหลือ!"
"เกิดอะไรขึ้น?"
ชายคนนั้นที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดจากความวุ่นวายรอบตัวจับชายในเสื้อคลุมขาวที่พยายามจะออกไปแล้วถามด้วยความโกรธ
"ท่านครับ ผู้ทดลองกำลังหลบหนีออกจากฐาน กองกำลังของเรากำลังพยายามหยุดเขาแต่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก" ผู้ใต้บังคับบัญชาตอบด้วยสีหน้าตื่นตระหนกและเหงื่อไหล
"มันเป็นไปได้ยังไง?" ชายคนนั้นตะคอกและผลักผู้ใต้บังคับบัญชาออกไป แล้วเดินไปที่โต๊ะข้อมูล เขามองขึ้นไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยจอมอนิเตอร์ LCD สิบสามจอใหญ่ ภาพที่เขาเห็นทำให้เขาตกตะลึง
บนหน้าจอ เด็กชายตัวเล็กในชุดขาวกำลังต่อสู้กับทหารนับสิบในทางเดินของฐาน การต่อสู้ที่แทบจะเป็นการสังหารฝ่ายเดียว ทหารที่ติดอาวุธหนักยิงปืนใส่เด็กชายแต่กระสุนไม่โดนตัวเขาเลย เขาเหมือนมีพลังเหนือมนุษย์ เปลี่ยนร่างเป็นแสงสีทองและเคลื่อนตัวอย่างง่ายดายในความวุ่นวาย ทุกหมัดและทุกเท้าที่เขาโจมตีมีพลังมหาศาล
ในเวลาไม่ถึงครึ่งนาที ทหารก็เกือบจะล้มตายเกลื่อน ทางเดินเต็มไปด้วยเลือดและศพ เหลือเพียงเด็กชายที่ยืนอยู่กลางกองซากเหล่านั้น ราวกับรู้ตัวว่ากำลังถูกจับตา เด็กชายหันหลังให้กล้องแล้วมองขึ้นไปที่จอมอนิเตอร์ ดวงตาที่เย็นชาและไร้ความปราณีของเขาปรากฏบนจอ
ห้องที่เคยเต็มไปด้วยความวุ่นวายกลับเงียบสงบ ทุกคนจ้องมองดวงตาคู่นั้นด้วยหัวใจที่เต้นระรัว ข้อความในสายตานั้นชัดเจน: 'ฉันจะฆ่าพวกเเกให้หมด!'
ความตั้งใจสังหารที่แผ่จากเด็กชายช่างทรงพลัง มันทะลุทะลวงผ่านหน้าจอ ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนกำลังเผชิญกับสัตว์ประหลาดที่แฝงตัวอยู่ในร่างของเด็กไม่ถึงสิบสามปี
เสียงหึ่ง!
เด็กชายเปลี่ยนร่างเป็นแสงสีทองอีกครั้งและหายไปจากหน้าจอ ชายคนนั้นระเบิดความโกรธออกมา "บ้าจริง!"
"ระดมกองกำลังทั้งหมดเพื่อจับตัวเด็กนั่นทันที" เขาสั่ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและความตื่นเต้น แม้วิกฤตจะอยู่ตรงหน้าแต่เขาเห็นว่าเป็นโอกาส พลังของเด็กชายที่เพิ่งค้นพบหมายความว่าการทดลองของพวกเขาสำเร็จแล้วและพวกเขาต้องจับตัวเด็กคนนั้นเพื่อสร้างกองทัพผู้มีพลังพิเศษในอนาคต
"ครับ ท่าน" ชายคนหนึ่งตอบแต่เสียงของเขาสั่นเล็กน้อยขณะกล่าวเสริม "ท่านครับ ทหารของเราส่วนใหญ่เสียชีวิตหมดแล้ว"
"อะไรนะ? พวกเขาตายหมดเลยหรอ?" ชายคนนั้นจ้องมองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความไม่เชื่อ
" ใช่ครับท่าน เด็กชายคนนั้นเร็วเกินไป เขาทำตัวเหมือนเครื่องจักรสังหารที่สมบูรณ์แบบ คนของเราถูกสังหารแทบจะทันที"
"เรายังเหลือกำลังติดอาวุธเท่าไหร่?"
"เหลือเพียงทีมต่อสู้ทีมเดียวครับที่ฐานทดลองนี้เราไม่มีกำลังมากนัก"
ใบหน้าของชายคนนั้นมืดหม่นลงเมื่อเขาเริ่มตระหนักถึงสถานการณ์ที่เลวร้าย "แล้วอุปกรณ์ของเราล่ะ?"
"ถูกทำลายหมดแล้วครับ ลำแสงเลเซอร์ของเด็กคนนั้นทำลายระบบป้องกันของเรา"
"นี่เราจะบอกว่าฐานของเราถูกเด็กอายุต่ำกว่าสิบสามปีทำลายลงแล้วงั้นหรือ?"
"น่าเสียดาย เเต่ใช่ครับท่าน"
"บ้าจริง!" ชายคนนั้นสบถและออกคำสั่งว่า " อัปโหลดข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเด็กคนนั้นโดยเร็ว ทำลายข้อมูลและข้อมูลอื่นๆในฐานให้หมดแล้วอพยพออกจากที่นี่เดี๋ยวนี้"
ผู้ใต้บังคับบัญชาถามถึงการเปิดใช้งานอุปกรณ์ระเบิดอัตโนมัติเพื่อทำลายผู้ทดลองทั้งหมด ชายคนนั้นสวนกลับว่า "ไอ้งั่ง! ถ้าเราระเบิดเด็กคนนั้น ความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า ฉันจะรายงานเรื่องนี้ต่อบารอนและมั่นใจว่าเด็กคนนั้นจะถูกจับตัวได้"
หลังจากสบถเสร็จ เขาก็หันหลังและจากไป
ตามคำสั่งของเขา เจ้าหน้าที่ที่เหลือรีบอพยพออกจากฐานหลังจากอัปโหลดข้อมูลทั้งหมด ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีในการทำทุกอย่างให้เสร็จ
ห้านาทีต่อมา ลีออนเดินเข้ามาในศูนย์ข้อมูล เขามองเห็นความอ่อนล้าในตัวเองหลังจากใช้พลังไปกว่าครึ่งของกำลังทั้งหมดหากเขาไม่ได้จำได้จากประสบการณ์ก่อนหน้าว่ามีการ์ดอยู่เพียงไม่กี่คน เขาอาจจะเลือกที่จะหนีมากกว่าสู้ฝ่าทางออกมา
การใช้พลังธาตุแสงของเขานั้นแข็งแกร่งแต่ก็สูบพลังงานไปอย่างรวดเร็ว
ห้องว่างเปล่าและกล้องวงจรปิดทั้งหมดดับลง ลีออนเดินไปยังโต๊ะข้อมูล แต่เขาไม่สามารถเข้าใจระบบได้ เขารู้ว่าฐานนี้ร้างแล้วและทุกคนได้หลบหนีไปหมดแล้ว
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาหันหลังและมุ่งหน้าไปยังระดับล่างของฐานเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ
ในขณะนั้นเป็นเที่ยงคืน เด็กๆ ที่ตื่นกลัวกับความวุ่นวายเริ่มหลับไปแล้ว พวกเขาเกาะลูกกรงอย่างแน่นฟังเสียงรอบๆตัว