ตอนที่ 50: มู่เหมียน คุณไม่รู้สึกเสียใจบ้างเลยหรือ?
ดวงตาของตู้ถิงถิงแดงก่ำพร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลรินลงมาอย่างต่อเนื่อง
“ฉันรู้สึกว่าถ้าเรามีลูกคนนี้ มันจะเป็นการทรยศต่อชิวเอ๋อร์” เธอคิดถึงชิวเอ๋อร์ที่ต้องทนทุกข์อยู่คนเดียวในโรงพยาบาล หัวใจของเธอจึงเจ็บปวดจนไม่อาจรู้สึกถึงความสุขใด ๆ
“ถ้าเรามีลูก ชิวเอ๋อร์จะรู้สึกเหมือนกับว่าเราทอดทิ้งเธอ ถ้าเธอรู้ว่าฉันท้อง เธอคงหมดกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป สามีคะ เราไม่อาจใจร้ายกับชิวเอ๋อร์ได้ขนาดนั้น”
มู่เหมียนเองก็รู้สึกเจ็บปวด เขาสวมกอดตู้ถิงถิงพร้อมกับกำหมัดแน่นและสาบาน “ไม่ต้องห่วง ชิวเอ๋อร์จะต้องรอด! และลูกในท้องของเธอก็จะต้องรอดเช่นกัน!”
เสียงสะอื้นของตู้ถิงถิงหยุดลงชั่วขณะ
มู่เหมียนคิดว่าเขาสามารถปลอบโยนเธอได้แล้ว แต่ในขณะที่เขากำลังถอนหายใจด้วยความโล่งใจ ตู้ถิงถิงกลับพูดขึ้นมา “วันนี้ฉันเห็นผลการตรวจการเข้ากันได้ของอวัยวะในตู้นิรภัยของคุณ”
มู่เหมียนตัวแข็งทื่อ
ตู้ถิงถิงผลักมู่เหมียนออกและมองเขาด้วยสายตาอันเต็มไปด้วยน้ำตา
เธอหายใจเข้าลึกก่อนจะรวบรวมความกล้าและถามเขาว่า “คุณแอบเอาตัวอย่างเลือดของซ่งเฟยไปเทียบกับของชิวเอ๋อร์ คุณ…” น้ำเสียงของตู้ถิงถิงสั่นเครือ “คุณตั้งใจจะฆ่าซ่งเฟยเพื่อจะเอาหัวใจของเธอมาให้ชิวเอ๋อร์ใช่ไหม!”
มู่เหมียนเบี่ยงสายตาหนีและเงียบไป แต่ใบหน้าของเขาซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
ตู้ถิงถิงพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด “นั่นคือพี่สาวแท้ ๆ ของซ่งซ่งนะ มู่เหมียน คุณจะฆ่าลูกสาวของคนอื่นเพื่อช่วยลูกของเราได้อย่างไร คุณช่างโหดเหี้ยมเหลือเกิน!”
มู่เหมียนพยายามจะแย้งว่า “แต่เธอเป็นเพียงแค่คนที่อยู่ในภาวะเจ้าหญิงนิทราเท่านั้น!”
ตู้ถิงถิงกุมอกตัวเองและส่ายหน้าอย่างขมขื่น “เจ้าหญิงนิทรา? แต่เธอตื่นขึ้นมาแล้ว! ถ้าไม่ใช่เพราะซ่งเฟยหายตัวไปอย่างกระทันหัน คุณก็จะเอาหัวใจของเธอไปให้ชิวเอ๋อร์อยู่ดีใช่ไหม!”
การนิ่งเงียบของมู่เหมียนทำให้ตู้ถิงถิงรับรู้คำตอบได้อย่างชัดเจน เธอมองเขาราวกับคนแปลกหน้า
“มู่เหมียน คุณไม่เสียใจบ้างเลยหรือ?”
หัวใจของมู่เหมียนแผดเผาขณะที่เขามองดูมู่ชิวที่ผอมแห้งลงทุกวันพร้อมกับความเศร้าหมอง ส่วนอีกใจหนึ่งก็รู้สึกผิดทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มของซ่งซี เมื่อกลับถึงบ้านและได้พบกับความอ่อนโยนและเอาใจใส่ของตู้ถิงถิง มู่เหมียนรู้สึกเหนื่อยล้าจนเพียงแค่อยากโอบกอดเธอและปล่อยน้ำตาให้ไหลริน
ในที่สุดตู้ถิงถิงก็ได้ค้นพบเจตนาชั่วร้ายของเขา
เขากลายเป็นเหมือนปรสิตที่น่ารังเกียจ
คืนนั้นพวกเขาร่ำไห้ในอ้อมกอดของกันและกัน
…
เช้าวันถัดมา เสียงนาฬิกาปลุกทำให้ซ่งซีตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอหาวออกมาและมองท้องฟ้าที่เริ่มสว่างขึ้น พลางสบถใส่หานซานเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
หลังจากหานซานออกกำลังกายเสร็จ เขาก็อาบน้ำและลงไปชั้นล่าง ก็พบว่าซ่งซีได้เตรียมอาหารเช้าให้เขาแล้ว เป็นก๋วยเตี๋ยวเปรี้ยวเผ็ดตามที่เขาขอไว้
ซ่งซีสวมผ้ากันเปื้อนสีดำและโบกมือเรียกเขาที่โต๊ะอาหาร “พี่หาน มาชิมฝีมือทำอาหารของฉันเร็ว ๆ”
หานซานเดินไปหาด้วยความคาดหวังไม่มากนัก เขานั่งลงและหยิบตะเกียบขึ้นมา ภายใต้สายตาที่คอยลุ้นของซ่งซี เขาชิมเส้นก๋วยเตี๋ยวเพียงคำเดียวก็ต้องวางตะเกียบลงแล้วมองซ่งซีด้วยความประหลาดใจ
“เป็นยังไงบ้าง?” ซ่งซีดูเหมือนเด็กน้อยที่รอคำชม
“ก๋วยเตี๋ยวอร่อยมาก” หานซานพูด เขาเคยเห็นซ่งซีทำอาหารเช้าความแคลอรีต่ำของเธอและข้าวผัดที่เธอทำแล้ว จึงไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่ปรากฏว่าก๋วยเตี๋ยวเธออร่อยเกินคาด
ซ่งซียิ้มอย่างภาคภูมิใจ “เมื่อวาน ฉันดูวิดีโอสอนทำอาหารหลายรอบ”
หัวใจของหานซานอุ่นขึ้นเมื่อคิดถึงซ่งซีที่ตั้งใจเรียนทำอาหารจากวิดีโอ
ซ่งซีถือโอกาสนี้จับมือซ้ายของหานซานและพูดอย่างอ่อนหวาน “พี่หาน ฉันทำอาหารไม่เป็น แต่ฉันยินดีที่จะเรียนรู้เพื่อคุณ ขอฉันได้สัมผัสความรู้สึกของการดูแลผู้ชายที่ฉันรักก่อนนะคะ” เธอยกมือของหานซานขึ้นและจุมพิตเบา ๆ
หานซานพยายามจะดึงมือกลับ แต่ซ่งซียังคงจับไว้แน่นไม่ยอมให้เขาถอย
แฟนสาวของเขาช่างโรแมนติกและหลงใหลเสียจนเขาเกือบจะรับมือไม่ไหว