ตอนที่ 48: การประกาศความสัมพันธ์ของพี่หาน
หลี่ลี่ขับรถมาที่ทำงาน เจอหานซานในลานจอดรถใต้ดินของบริษัท “อรุณสวัสดิ์ครับ คุณหาน”
“อรุณสวัสดิ์”
หานซานถือกระเป๋าเอกสารและเข้าไปในลิฟต์ก่อน
หลี่ลี่ถืออาหารเช้าไว้ในมือซ้าย และกระเป๋าเอกสารในมือขวา เขารีบเดินเข้าลิฟต์ตามไป พอประตูลิฟต์ปิด หลี่ลี่ก็ยื่นอาหารเช้าให้หานซาน “เช้านี้เรามีซาลาเปาซุปครับ แม่ผมทำเองเลยนะ”
หลี่ลี่อาศัยอยู่กับแม่วัย 60 ปี และเขาก็รับหน้าที่จัดหาอาหารเช้าให้หานซานทุกเช้า
แต่วันนี้ หานซานมองซาลาเปาในมือหลี่ลี่แล้วโบกมือ “ไม่เป็นไร ฉันกินแล้ว”
หานซานไม่ค่อยกินอาหารเช้าจากข้างนอก เขาจะทำเองหรือให้หลี่ลี่เอามาให้ นั่นทำให้หลี่ลี่สงสัยขึ้นมา “คุณทำอาหารเช้าเองหรือครับ?”
ไม่ใช่วันพิเศษอะไรเลย ทำไมคุณหานถึงทำอาหารเช้าเองได้ล่ะ?
หานซานส่ายหน้า “ฉันไม่ได้ทำเอง”
หลี่ลี่จ้องหานซานอย่างสงสัย “แล้วใครทำให้ครับ?”
หานซานตอบว่า “ซ่งซีทำให้”
หลี่ลี่อึ้งไป “คุณหนูซ่งทำอาหารเช้าให้คุณแต่เช้าขนาดนี้... คุณหนูซ่งค้างที่บ้านคุณเมื่อคืนเหรอ?”
ไม่เพียงแค่นั้น พวกเขายังนอนเตียงเดียวกันด้วย
“เราอยู่ด้วยกันแล้ว” หานซานยอมรับไป ไม่จำเป็นต้องปิดบัง เพราะสักวันก็คงมีคนรู้ว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันอยู่ดี
หลี่ลี่อึ้งไปทันทีที่ได้ยิน
หานซานมองไปที่หลี่ลี่ “จากนี้ไม่ต้องเตรียมอาหารเช้าให้ฉันแล้ว” จากนั้นเขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่เหมือนยิ่งทำร้ายจิตใจหลี่ลี่เข้าไปอีก “แฟนฉันจะทำให้เอง”
“อ่า…ครับ” หลี่ลี่ยังช็อกและยังทำอะไรไม่ถูก
เมื่อมาถึงที่ทำงาน หานซานส่งข้อความถึงซ่งซี เมื่อเธอไม่ได้ตอบหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาวางโทรศัพท์ลงและเปิดแล็ปท็อปเพื่อลุยงานต่อ
ที่บ้าน ซ่งซีเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งหน้า เธอเลือกกระเป๋าถือมาและใส่ของลงไปเต็มไปหมด ทั้งครีมกันแดด ร่ม ลิปสติก แป้งพัฟ...
หลังจากเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ซ่งซีก็หยิบโทรศัพท์ของเธอที่อยู่บนโซฟาขึ้นมาและปลดล็อกหน้าจอ ขณะเดินไปที่ประตู
ซ่งซีเปิดข้อความจากหานซาน [พรุ่งนี้เช้าอยากกินซวนล่าเฝิ่น]
จะว่าอะไรได้ เธอก็ตอบไปว่า ‘ได้ค่ะ” แค่นั้น
โทรศัพท์ของเขาสั่น หานซานอ่านข้อความจากซ่งซีที่ตอบกลับมาคำเดียวว่า ‘ได้ค่ะ” หลังจากอ่านข้อความ เขาก็ปิดโทรศัพท์และตั้งใจทำงานต่อ
ซ่งซีได้รับเบอร์โทรศัพท์ของพี่หลงจากหานซานในเช้าวันนั้น เธอโทรหาพี่หลงก่อนออกไปข้างนอก
ซ่งซีลงมาที่ลานจอดรถใต้ดินและเห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้ารถของหานซาน
ซ่งซีมองสำรวจชายคนนั้น เขาผอมมากและสูงประมาณ 170 ซม. ใส่ชุดกีฬาสีเขียวและถือกุญแจรถไว้ในมือ เขาดูเหมือนคนที่รอมานานแล้ว
ดูไปแล้ว เขาเหมือนลิงผอมแห้งมากกว่าจะเป็นบอดี้การ์ดอดีตทหารที่หานซานจ้าง
พี่หลงเป็นคนที่ระมัดระวังมาก เขาสัมผัสได้ถึงสายตาของซ่งซีและหันมามองเธอ
พอเห็นซ่งซี เขาก็ยิ้มแสดงความเคารพให้เห็นทันที “คุณซ่งใช่ไหมครับ?”
ซ่งซีเดินเข้ามาหาเขาและยิ้ม “พี่หลงใช่ไหมคะ?”
ซ่งซีใส่รองเท้าส้นสูงจึงรู้สึกว่าตัวเองสูงกว่าเขานิดหน่อย ซ่งซีรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจขึ้นมา พี่หลงตัวผอมแห้งขนาดนี้จะปกป้องเธอได้จริงหรือ?
“สวัสดีครับ คุณซ่ง ผมหลงอวี่”
“ขอบคุณที่มาวันนี้นะคะ ฉันจะไปที่สภากาชาดค่ะ”
“ไม่ลำบากเลยครับ เชิญขึ้นรถครับ”
ซ่งซีนั่งในเบาะหลัง ขณะที่พี่หลงขับรถ
ทักษะการขับรถของหลงอวี่ราบรื่นและมั่นคง ทำให้ซ่งซีรู้สึกสบายใจขึ้น เธอเอนหลังกับเบาะรถและเล่นโทรศัพท์ ดาวน์โหลดไฟล์สูตรอาหาร และเริ่มเรียนรู้วิธีทำข้าวเปรี้ยวเผ็ด
ในรถไม่มีเพลงเปิดเล่น หลงอวี่จึงได้ยินซ่งซีพึมพำ “หั่นขิง” “หั่นผักดอง” “ใส่ทั้งพริกไทยและพริกแห้ง…”
รถมาจอดที่ด้านหน้าสภากาชาด หลงอวี่หันไปบอก “คุณซ่ง ถึงแล้วครับ”
ระหว่างทางมาซ่งซีก็จำวิธีทำก๋วยเตี๋ยวเปรี้ยวเผ็ดได้หมดแล้ว พอมาถึง เธอจึงปิดโทรศัพท์แล้วกล่าวขอบคุณหลงอวี่ จากนั้นก็สวมหมวกสีดำปิดบังใบหน้าไปครึ่งหนึ่ง ก่อนเดินไปยังตึกสำนักงานของสภากาชาด
เมื่อหาคนที่รับผิดชอบได้แล้ว ซ่งซีพูดขึ้นว่า “ฉันชื่อซ่งซีค่ะ ก่อนหน้านี้ฉันได้กรอกใบสมัครเป็นผู้บริจาคอวัยวะไว้ ฉันต้องการสอบถามบางอย่างค่ะ”
“สวัสดีครับ คุณซ่ง”
เจ้าหน้าที่ไม่รู้จักซ่งซีและไม่รู้ว่าเธอคือนางงามเดบูต็องที่ดังที่สุดในเมืองหหวังตง จึงยิ้มอย่างเป็นมิตรและถามเธอว่า “คุณซ่งต้องการสอบถามเรื่องอะไรครับ”
ซ่งซีตอบว่า “ผู้ดูแลที่ฉันระบุในใบสมัครคือพ่อบุญธรรมของฉันค่ะ แต่ตอนนี้ฉันกำลังจะแต่งงาน และด้วยความเคารพและรักในคู่หมั้นของฉัน ฉันต้องการให้สามีเป็นผู้ดูแลในการบริจาคอวัยวะเมื่อฉันเสียชีวิต สามารถเปลี่ยนแปลงได้ไหมคะ?”
เจ้าหน้าที่พยักหน้าและยิ้ม “ได้ครับ คุณสามารถเปลี่ยนได้ ผู้ดูแลไม่จำเป็นต้องเป็นพ่อหรือสามีของคุณ สามารถเป็นใครก็ได้ที่คุณไว้วางใจ”
“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอเปลี่ยนตอนนี้ได้ไหมคะ”
“ได้ครับ คุณต้องกรอกแบบฟอร์มเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยครับ”
ซ่งซีกรอกแบบฟอร์มไม่กี่ใบและเปลี่ยนผู้ดูแลเป็นหานซานสำเร็จ
หลังจากออกจากสภากาชาด ซ่งซีก็กลับไปยังบ้านตระกูลมู่ เนื่องจากตู้ถิงถิงรู้สึกไม่ค่อยสบายในช่วงนี้ ทำให้เธอเหนื่อยล้าตลอดเวลาและไม่ได้ไปทำงาน วันนี้เธอพักผ่อนอยู่บ้านคนเดียว แต่ได้ยินเสียงรถจอดอยู่ข้างนอก
ตู้ถิงถิงลุกจากเตียงและมองลงไปจากหน้าต่างห้องนอน เธอเห็นซ่งซีลงมาจากรถสีดำ ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย เธอจึงเรียกซ่งซี “ซ่งซ่ง กลับมาทำไมเหรอ?”
ซ่งซีเงยหน้าขึ้นไปและยิ้มให้ “สวัสดีค่ะแม่ หนูกลับมาจัดการอะไรบางอย่างค่ะ”
“เดี๋ยวแม่จะลงไปนะ”
ซ่งซีขมวดคิ้วเมื่อเห็นตู้ถิงถิง “แม่ ไม่สบายหรือเปล่าคะ?”
ใบหน้าตู้ถิงถิงดูซีดเซียวและอิดโรยเหมือนเป็นไข้หวัด เธอกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อาจจะเพราะแม่ใช้แรงมากไปหน่อย ช่วงนี้นอนไม่ค่อยหลับ แต่รู้สึกง่วงตลอดเวลา”
จากนั้นเธอก็ดึงซ่งซีให้นั่งลงบนโซฟาด้วยกัน “กลับมาเอาของเหรอ?”
ซ่งซีส่ายหน้าและหยิบแคตตาล็อกบ้านออกมา เธอชี้ไปที่บ้านหลังหนึ่งแล้วพูดว่า “แม่คะ หนูอยากซื้อบ้านหลังนี้ สามห้องนอน หนึ่งห้องนั่งเล่น และหนึ่งห้องรับประทานอาหาร พื้นที่ทั้งหมด 160 ตารางเมตรค่ะ”
“ทำไมจู่ ๆ ถึงอยากจะซื้อบ้านล่ะ?” ตู้ถิงถิงคิดถึงหานซาน ใบหน้าก็พลันมืดลง “คุณหานพูดอะไรกับลูกหรือเปล่า เขากังวลเรื่องทรัพย์สินหลังแต่งงานเหรอ?”
เสียงของตู้ถิงถิงเริ่มแสดงความไม่พอใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
ซ่งซีจะต้องไม่แต่งงานกับหานซาน หากเขาเป็นคนตระหนี่และเห็นแก่เงินขนาดนั้นจริง ๆ!