ตอนที่ 40: สนุกให้เต็มที่
โดยไม่รู้ตัว ซ่งซีก็ซ่อนกระเป๋าไว้ด้านหลัง และในใจบอกตัวเองว่า ต่อไปนี้เธอจะไม่หรูหราหรือไล่ตามของแบรนด์อีกโดยไม่จำเป็น
ซ่งซีรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย จึงอยากหาเรื่องคุยอื่นมาทำลายความเงียบนั้น เธอยิ้มขี้เล่นให้หานซานก่อนจะถามว่า “คุณตาของพี่สอนอะไรให้พี่เยอะเลยเหรอคะ? ท่านเคยบอกอะไรพี่อีกบ้าง?”
หานซานตอบว่า “ทุกครั้งที่คุณยายทะเลาะกับคุณตา เธอจะไม่ยอมทำอาหาร คุณตาเลยต้องทำอาหารเองโดยไม่บ่นซักคำ แถมยังทอดไข่ดาวเป็นรูปหัวใจเพื่อทำให้คุณยายหายโกรธด้วย ตอนนั้นฉันรู้สึกว่าคุณตาดูไม่มีความเด็ดขาดเลย ท่านเลยบอกว่า ‘ภรรยาก็ต้องทะนุถนอมสิ’”
มีประโยคหนึ่งที่หานซานไม่ได้เล่าให้ซ่งซีฟัง ประโยคนั้นคือ—
“ภรรยาน่ะต้องทะนุถนอม ถ้าไม่ดูแลดี ๆ ก็สมควรโดนตีน่ะแหละ”
ซ่งซีคิดว่าคุณตาของหานซานเท่จริง ๆ
เธอจึงส่งยิ้มหวานให้เขาอีกครั้งแล้วเอ่ยว่า “แล้วเมื่อไหร่ฉันจะได้เป็นภรรยาพี่คะ?” ซ่งซีทำทีเป็นเขินอายแล้วกระพริบตาปริบ ๆ ให้หานซาน “ฉันอยากให้พี่เอาใจฉันเหมือนกัน”
หานซานเหลือบมองเธอก่อนจะก้มดูนาฬิกาข้อมือ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาพูดว่า “วันนี้วันอังคาร ตอนนี้เวลาแปดโมงสี่สิบนาที ถ้าขับไปสำนักงานทะเบียนเลยก็น่าจะพอดีเวลา”
ซ่งซีถึงกับไปไม่เป็น “…”
“วันนี้ยังไม่ได้ค่ะ” ซ่งซีทำหน้าตาเสียดาย
หานซานเลิกคิ้วขึ้น “อืม?”
ซ่งซีชี้ไปที่เฝือกที่คอของตัวเอง “ฉันไม่อยากถ่ายรูปติดบัตรพร้อมเฝือกคอนี่ค่ะ ลองคิดดูสิคะ ถ้าฉันกลายเป็นสาวงามอันดับหนึ่งที่ถ่ายรูปติดบัตรพร้อมเฝือกแบบนี้ คนเขาจะเอาไปพูดกันขนาดไหน?”
หานซานยิ้มมุมปาก “น่าเสียดายจริง ๆ”
...
ระหว่างทางไปบ้านตระกูลมู่ ซ่งซีเตือนหานซานว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่พี่มาในฐานะแฟนฉัน พี่จะมาแบบมือเปล่าไม่ได้เด็ดขาดนะคะ พี่เตรียมของขวัญไว้หรือยัง? ไม่งั้นเราแวะซูเปอร์มาร์เก็ตก่อนก็ได้นะ”
หานซานตอบว่า “เตรียมไว้แล้ว”
ซ่งซีถามว่า “เตรียมอะไรไว้คะ?”
“เข็มกลัดชาแนลกับปากกาหมึกซึมยี่ห้อฮีโร่ รุ่นปี 1949” ตู้ถิงถิงเป็นแฟนตัวยงของชาแนล ส่วนมู่เหมียนชอบสะสมปากกาหมึกซึม หานซานเลยเลือกของขวัญที่ไม่จำเป็นต้องแพงมากแต่มีความหมายเหมาะสม
ไม่มีอะไรจะเหมาะสมไปกว่านี้อีกแล้ว
ซ่งซีจึงตบไหล่หานซานเบา ๆ “พี่ทำได้เยี่ยมมากค่ะ”
หานซานแสร้งทำเสียงขี้เล่น “แล้วมีรางวัลให้ไหมครับ?”
พูดเสร็จตัวหานซานเองยังอึ้งไปนิด เพราะตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขาเริ่มเล่นแบบนี้
ซ่งซีเองก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เธอหันมามองหานซานด้วยหางตาแล้วพูดหยอกล้อ “ฉันก็จูบพี่ไปแล้วไง เอาอะไรอีกล่ะ?”
ซ่งซีดึงปกเสื้อเชิ้ตของตัวเองลงเล็กน้อย เผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าสุดเย้ายวนแล้วพูด “ถ้ายังไม่พอ งั้นฉันก็มีแต่ตัวฉันให้แล้วละ”
คำพูดนั้นเรียกสติหานซานกลับมา แต่เขายังรักษาท่าทีสงบนิ่งแล้วตอบ “รออีกหน่อย ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา”
ซ่งซีแกล้งว่า “งั้นก็คงต้องรอวันแต่งงานจริง ๆ สินะ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่เป็นคนอนุรักษ์นิยม”
“ไม่ใช่หรอก” หานซานส่ายหัว
ซ่งซีสงสัย “แล้ว?”
มือขวาของหานซานที่สวมถุงมืออยู่เคาะเบา ๆ บนเฝือกคอของซ่งซีก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้ม “รอให้ถอดเฝือกนี้ออกก่อน แล้วเราจะได้สนุกกันเต็มที่”
คำว่า “สนุก” ที่หานซานพูดออกมานั้นฟังดูมีนัยบางอย่าง
ซ่งซีมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า หัวใจเริ่มเต้นแรงจนแทบจะเก็บไว้ไม่อยู่ พี่หานทั้งสูงทั้งรูปร่างดีจนเห็นลาง ๆ ของกล้ามท้องผ่านเสื้อบาง ๆ แค่นี้เธอก็ปลื้มแล้ว ส่วนที่ยังไม่ได้เห็นนั้น…ก็น่าจะน่าประทับใจไม่แพ้กัน!
เมื่อนึกไปไกลถึงตรงนั้น ซ่งซีก็รู้สึกอาย หน้าแดงขึ้นมา
หานซานเหลือบมองเห็นเธอหน้าแดงแล้วก็อดยิ้มไม่ได้
ทุกวันนี้เด็กสาวถึงได้คิดอะไรไปไกลขนาดนี้เชียวเหรอ?
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน รถก็ขับมาถึงหน้าวิลล่าในหมู่บ้านอเมทิสต์ ซ่งซีจึงลดกระจกลงแล้วบอกกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่า “ช่วยเปิดทางให้หน่อยค่ะ!”
“อ้าว คุณซ่ง!” ยามเห็นว่าเป็นใครก็เปิดทางให้โดยไม่ถามไถ่อะไรเพิ่มเติม ทำให้ซ่งซีผ่านเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
นี่เป็นครั้งที่สองที่หานซานได้มาที่หมู่บ้านอเมทิสต์ แต่ความรู้สึกในครั้งนี้ต่างไปจากตอนที่เขามาส่งซ่งซีกลับบ้านคราวก่อนมาก
“ถึงแล้ว”
ซ่งซีลดกระจกรถลง โบกมือให้ตู้ถิงถิงที่ยืนอยู่หน้าบ้าน ตู้ถิงถิงรีบเปิดประตูเข้าบ้านเพื่อให้หานซานขับรถเข้าไป
หานซานขับรถเข้ามาในลานบ้าน แต่รถวอลโว่ของเขาก็ดูไม่เข้ากับรถหรูของตระกูลมู่เท่าไหร่นัก หานซานลงจากรถไปหยิบของขวัญจากท้ายรถ
ซ่งซีจับแขนหานซานพาเดินไปหาแม่ของเธอ พร้อมแนะนำเขาให้รู้จัก “แม่คะ นี่หานซานค่ะ”
“หานซาน นี่แม่ของฉันค่ะ”
ตู้ถิงถิงเงยหน้ามองหานซานตั้งแต่หัวจรดเท้า หานซานก้มศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อให้เธอเห็นได้ชัดขึ้น
หลังจากสำรวจเขาเสร็จ ตู้ถิงถิงยิ้มและพูดว่า “ซ่งซ่ง ลูกหาแฟนที่ตัวสูงมากจริง ๆ” เธอสูงแค่ 1.6 เมตรเท่านั้น ต้องเงยหน้าขึ้นถึงจะมองหานซานได้ตรง ๆ “คุณหาน ขอบคุณมากที่มาส่งซ่งซ่ง และขอบคุณที่พาเธอไปโรงพยาบาลทันทีในวันนั้น”
หานซานเหลือบมองซ่งซีและยิ้มอย่างอ่อนโยน “ต้องขอบคุณคุณน้าที่เลี้ยงลูกสาวดี ๆ ไว้ให้ผมต่างหากครับ”
หัวใจของซ่งซีเต้นแรงขึ้น
ตู้ถิงถิงเองก็รู้สึกว่าหานซานพูดได้ดี — และจะมีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ชอบผู้ชายที่พูดจาหวาน ๆ และหน้าตาหล่อเหลา?
“แดดแรงเกินไปแล้ว รีบเข้าบ้านกันเถอะ” รอยยิ้มของตู้ถิงถิงอบอุ่นขึ้น เธอเดินนำเข้าไปโดยมีซ่งซีและหานซานเดินจับมือกันตามหลัง
ขณะเดินอยู่ ตู้ถิงถิงกล่าวว่า “อามู่กำลังทำงานอยู่ แต่เขาจะรีบกลับมาทานข้าวเที่ยงนะ” เมื่อเข้ามาในห้องนั่งเล่นแล้ว เธอก็ผายมือให้หานซานนั่งลง “เชิญนั่ง ทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้านตัวเองนะ”
“ขอบคุณครับ” หลังจากนั่งลงแล้ว หานซานสังเกตเห็นว่าเมื่อเข้ามาในห้องนั่งเล่น รอยยิ้มบนใบหน้าของซ่งซีก็แข็งทื่อไป เขาคาดว่าเธอคงจะนึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ดีขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงเอนตัวเข้าไปกระซิบถามซ่งซี “คุณพาผมไปห้องของคุณหน่อยได้ไหม?”
ซ่งซีถอนหายใจโล่งอก “ได้สิคะ”
ตู้ถิงถิงยังคงยุ่งอยู่ ซ่งซีจึงพาหานซานไปที่ห้องของเธอ
ห้องของซ่งซีค่อนข้างใหญ่ มีห้องน้ำแยกและห้องเสื้อผ้าเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าสวย ๆ แถมยังดูหรูหราทั้งนั้น
นึกถึงว่าหานซานเป็นคนประหยัด ซ่งซีก็รู้สึกอายที่จะให้เขาเห็นว่าเธอมีเสื้อผ้าหรู ๆ มากมาย จึงรีบปิดประตูห้องเสื้อผ้าทันทีที่เข้ามาในห้อง
หานซานสังเกตเห็นท่าทีของซ่งซี แม้ว่าเขาจะสงสัยในสิ่งที่เธอปิดบังอยู่ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม
เขานั่งบนเตียงของซ่งซีอย่างเรียบร้อยและเริ่มมองไปรอบ ๆ ห้อง
ผนังด้านหลังเตียงของหญิงสาวถูกตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์สีเขียวเข้ม โต๊ะเครื่องแป้งมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวราคาแพงเรียงรายเต็มไปหมด บนโต๊ะอ่านหนังสือเล็ก ๆ มีแล็ปท็อปประดับด้วยสติกเกอร์ตัวละครที่หานซานไม่รู้จัก และหนังสือที่วางอยู่เต็มชั้น
หนังสือบนชั้นนั้นแบ่งออกเป็นสามประเภทหลัก — หนังสือเกี่ยวกับการบิน, อัลบั้มเพลง และหนังสือเกี่ยวกับศัลยกรรมแพทย์
หนังสือศัลยกรรมแพทย์?
หานซานมองไปที่ซ่งซีด้วยความสงสัย ซ่งซีพิงประตูห้องเสื้อผ้าในท่าทางเย้ายวน เมื่อเห็นว่าหานซานหันมามอง เธอก็ส่งสายตายั่วยวนให้เขาอย่างจงใจ
หานซานได้แต่นิ่งงัน
ผู้หญิงยั่วสวาท!
ด้วยท่าทางสุดเย้ายวนเช่นนี้ เขานึกว่าจะเจอหนังสือวรรณกรรมรัก ๆ ใคร่ ๆ บนชั้นของเธอมากกว่าหนังสือแพทย์