ตอนที่ 26 : ถูกมองว่าเย็นชาอีกแล้ว
“ดูเหมือนการฝึกทหารจะกินเวลาครึ่งเดือนเลย เตรียมครีมกันแดดไว้หรือยัง?”
“เรื่องแดดน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ชุดฝึกทหารแจกมาแค่ชุดเดียว ไม่มีชุดสำรองให้เปลี่ยนด้วย”
“นี่ยังไม่เท่าไหร่ ที่น่ากลัวจริงๆ น่ะคือการใส่เสื้อสองตัวในสภาพอากาศร้อนสามสิบหกองศาแบบนี้ต่างหาก”
“แนะนำว่าอย่าใส่ชุดชั้นใน”
“เนื้อผ้ามันหยาบเกินไป ถ้าไม่ใส่ชั้นในต้องรู้สึกเจ็บตรงที่เสียดสีแน่ๆ”
“ก็แปะพลาสเตอร์ยาสิ ฉันเพิ่งซื้อมากล่องหนึ่ง ใครจะเอาบ้าง?”
“ฉันเอาๆ ขอสักสองแผ่นก็พอ”
“ฉันขอสี่แผ่น ฉันจะติดเป็นรูปกากบาท”
ในอาคารหอพักนักศึกษาหมายเลข 7 ห้อง 503 หญิงสาวห้าคนจากพื้นที่ทั่วประเทศได้รวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการเอาตัวรอดจากการฝึกทหาร
แต่ทุกครั้งที่พูดคุยกันได้สองสามคำก็จะแอบเหลือบมองไปยังตำแหน่งเตียงหมายเลขสาม
ที่กำลังนั่งอยู่ตรงนั้นคือหญิงสาวที่ไม่ค่อยเข้ากับคนอื่นสักเท่าไหร่ ใบหน้าของเธองดงามและอ่อนโยน ขนตางอนหนายาวเป็นแพ ผิวหนังบอบบางจนดูเหมือนจะฉีกขาดได้ง่าย ความร้อนอบอ้าวในห้องทำให้ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ ทว่ามันกลับเสริมให้เธอดูมีเสน่ห์น่ารักยิ่งขึ้น
นอกจากนี้เธอยังสวมชุดเดรสสีดำตัวหนึ่ง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นคอลเลกชั่นล่าสุดของชาแนล
สิ่งที่สาวๆ ชอบทำมากที่สุดก็คือการเปรียบเทียบ แม่แต่เพื่อนที่ซี้กันสุดๆ ต่างคนก็ต่างอยากเอาชนะอีกฝ่าย ไม่อย่างนั้นคงไม่มีสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 9 ของโลกที่ผู้หญิง 6 คนมีกลุ่มแชทเพื่อนสาวถึง 42 กลุ่มเกิดขึ้นหรอก
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนี้ อีกห้าคนในหอพักต่างก็รู้สึกถึงแรงกดดันแบบเดียวกัน
ทำไมบนโลกถึงมีใบหน้าที่สวยงามขนาดนี้?
ประเด็นสำคัญคือคนๆ นี้ดูเหมือนจะเป็นลูกคุณหนูด้วย ไม่อย่างนั้นทำไมเธอถึงต้องพกบอดี้การ์ดติดตัวมา?
เมื่อพวกเธอคิดถึงเรื่องนี้ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่
ตอนนั้นบอดี้การ์ดสองคนในชุดดำผลักประตูเข้ามา คนหนึ่งถือกระเป๋าเดินทางส่วนอีกคนถือกระติกน้ำร้อนและกะละมังล้างหน้า พวกเขาเอาแต่ร้องตะโกนว่าคุณหนูระวังตัวด้วยนะครับ เหนื่อยหน่อยนะครับคุณหนู จากนั้นก็พากันรีบทำความสะอาดทั้งห้องพัก
ฟ่านซูหลิงเป็นคนแรกที่มาถึง พอมาถึงเธอก็พบว่าท่อในห้องน้ำอุดตัน ผลคือยังไม่ทันได้แจ้งป้าแม่บ้านบอดี้การ์ดสองคนนั้นก็จัดการล้างท่อให้แล้ว
พวกเขาถึงกับเอากระดาษชำระมาผูกเป็นโบว์ตรงท่อน้ำร้อน พิธีกรรมพวกนี้แทบจะคร่าชีวิตพวกเธอเลยทีเดียว
เพียงเพราะว่าการเปิดตัวที่โดดเด่นและสูงส่งของเฟิงหนานซูในครั้งนี้ มันจึงทำให้ห้อง 503 เล็กๆ แห่งนี้รู้สึกอึดอัดและกดดันขึ้นมาทันที
จนกระทั่งเวลา 16.30 น. คุณหนูท่านนี้ก็ลุกขึ้นและรีบออกจากห้องพักไป หญิงสาวทั้งห้าคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ความรู้สึกอึดอัดที่กดทับอยู่ในใจก็เบาบางลงไปมาก
“เธอชื่อเฟิงหนานซูใช่ไหม เธอเย็นชามากจริงๆ”
“ใช่ ดูเหมือนจะเข้าใกล้ได้ยาก...”
“จริงๆ แล้วฉันไม่อยากอยู่กับคุณหนูแบบนี้เลย ถ้าเป็นแบบนี้ไปตลอดสี่ปีในมหาวิทยาลัย ฉันคงไม่ต้องมานั่งเอาใจเธอทุกวันเลยเหรอ?”
“ซูหลิง เบาๆ หน่อยสิ บางทีเธออาจจะยังไปได้ไม่ไกล”
เฟิงหนานซูยืนอยู่ที่ประตูพร้อมกับฟังคำพูดเหล่านั้น เธอเม้มริมฝีปากเบาๆ ขนตาสั่นเล็กน้อย เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะหันหลังกลับแล้วลงไปชั้นล่าง
ในเวลานี้บริเวณหน้าหอพักหญิงมีกลุ่มชายหนุ่มรวมตัวกันอยู่ประมาณสิบกว่าคน บางคนกำลังเล่นโทรศัพท์มือถือ บางคนก็วาดวงกลมบนพื้นด้วยความเบื่อหน่าย เมื่อพวกเขาเห็นเฟิงหนานซูเดินลงมาชั้นล่าง พวกเขาก็พากันรุมทึ้งเหมือนฝูงสุนัขทันที
พวกรุ่นพี่หมาเยิ๊บแม่ก็มักเป็นแบบนี้แหละ ปกติหาแฟนไม่ได้ แต่พอถึงช่วงที่นักศึกษาใหม่เข้ามหาวิทยาลัยก็จะพากันไปอ่อยเด็ก ทำเหมือนกับว่าตัวเองยิ่งแก่ยิ่งมีออร่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเฟิงหนานซูผู้ที่เป็นคนประเภทที่ไม่สามารถลืมได้แม้จะมองแค่แวบเดียว ดังนั้นเธอจึงตกเป็นเป้าหมายของหลายๆ คนโดยไม่ต้องสงสัย
“รุ่นน้อง ฉันคือคนที่เพิ่งบอกทางเธอเมื่อกี้ จำฉันได้ไหม เราเพิ่ม QQ ไว้ติดต่อกันเป็นไง?”
“รุ่นน้อง ผมคือประธานหอพัก คุณช่วยทิ้งข้อมูลการติดต่อไว้หน่อยได้ไหม ต่อไปถ้ามีอะไรให้ช่วยก็ติดต่อผมได้เลยนะ!”
“ผมเป็นสมาชิกสภานักศึกษา รุ่นน้อง คุณอยากเข้าร่วมสภานักศึกษาไหม?”
“ตั้งแต่เข้ามาในมหาวิทยาลัยรุ่นน้องยังไม่ได้ไปเดินสำรวจที่ไหนเลยใช่ไหม? มหาวิทยาลัยของเรามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ให้ผมพาคุณเดินชมรอบๆ เป็นไง?”
เฟิงหนานซูถอยหลังหนึ่งก้าว ขมวดคิ้วพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างจับสายกระเป๋าสะพายข้างของเธอไว้แน่น แววตามีความตื่นตัวสูงมาก
ในขณะนี้เอง จู่ๆ เงาร่างหนึ่งก็เบียดตัวเข้ามาในฝูงชนและดึงเฟิงหนานซูไปไว้ด้านหลังอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติ
เสี่ยวฟู่โผยังคงสับสนและต้องการจะสลัดแขนออก แต่เธอก็ผ่อนคลายลงทันทีเมื่อเห็นใบหน้าของบุคคลนั้นชัดเจน
เมื่อเห็นเช่นนี้ชายหนุ่มรอบๆ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
ผู้ชายคนนี้เป็นใคร เขาเข้าใจกฎมาก่อนได้ก่อนไหม ฉันยังไม่ได้หมายเลข QQ ของเธอด้วยซ้ำ แต่ทำไมพวกนายถึงดูสนิทกันขนาดนี้?
“อยากเพิ่ม QQ? มาๆๆ มาเพิ่มกับฉันนี่!”
เจียงฉินหยิบโนเกียของเขาออกมา เอื้อมมือไปคว้าชายที่อยู่แถวหน้าสุดทันที: “เอาไปให้ครบทุกคนเลยนะ เพิ่มของฉันให้หมดเลย ให้ตายเถอะ เปิดเทอมไม่ทันไรก็มาคุกคามรุ่นน้องแล้ว วันนี้อย่าหวังว่าใครจะหนีพ้น!”
เมื่อชายหนุ่มที่อยู่รอบๆ ได้ยินสิ่งนี้สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที จากนั้นจู่ๆ พวกเขาก็พากันแยกย้ายออกไป
“พวกคุณเป็นรุ่นพี่ประสาอะไร ตอนปีหนึ่งหาแฟนไม่ได้แล้วคิดว่าตอนปีสองปีสามจะหาได้เหรอ? คิดว่าพวกรุ่นน้องตาบอดหรือไงถึงได้ไม่เห็นว่าพวกคุณหน้าตาน่าเกลียดขนาดไหน?”
บรรดารุ่นพี่ที่เดินจากไปอย่างร้อนรนรู้สึกเหมือนถูกแทงใจดำ แต่ละคนราวกับว่าศักดิ์ศรีของตนถูกเหยียบย่ำเป็นชิ้นๆ พวกเขาหันกลับมาถลึงตามองอย่างดุเดือดทันที แต่ทว่าในสายตาของเจียงฉิน พฤติกรรมแบบนี้เป็นแค่การแข็งนอกอ่อนในเท่านั้น
“มองอะไร? ยืนไม่เปลี่ยนชื่อ นั่งไม่เปลี่ยนแซ่ ฉันหลี่ต้าจ้วง นักศึกษาปีหนึ่งคณะการค้าระหว่างประเทศ ถ้าแน่จริงก็มาทุบตีฉันที่หอพักสิ!”
เจียงฉินสบถออกมาว่าพวกขี้ขลาดแล้วหันไปมองเฟิงหนานซู แต่กลับพบว่าเสี่ยวฟู่โผกำลังก้มหน้าต่ำ มองดูเหมือนจะไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่
“เธอเศร้าทำไม?”
เฟิงหนานซูเงยหน้าขึ้นอย่างเคร่งขรึม: “คนในหอพัก.. พวกเธอบอกว่าฉันเย็นชา”
เจียงฉินเข้าใจแต่ก็รู้สึกแปลก: “แล้วเธอไม่ได้ยิ้มเหรอ?”
เฟิงหนานซูขมวดคิ้วเล็กน้อยและคิดอย่างละเอียดอยู่สักพัก: “ฉันยิ้มนะ ยิ้มหวานๆ ด้วย แต่มันแปลกมาก ไม่รู้ว่าฉันทำพลาดตรงไหน”
“ไหนยิ้มให้ฉันดูหน่อยสิ”
“ฮิ~”
เฟิงหนานซูกระพริบตาเบาๆ ขนตางอนยาวของเธอสั่นไหว ดวงตาคู่งามสะท้อนแสงอาทิตย์สีส้มยามพลบค่ำ ใบหน้าที่บอบบางดูนุ่มนวลแต่เย็นชา เจียงฉินที่ได้เห็นฉากนี้เข้าไปรู้สึกมึนงงจนแทบจะละสายตาออกไม่ได้
เมื่อกลับมาได้สติอีกครั้ง เขาก็ตระหนักว่านี่คือการยิ้มมุมปากที่สมบูรณ์แบบและคลาสสิกที่สุด ซึ่งทำให้เขารู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
เธอเรียกเจ้าสิ่งนี้ว่ายิ้มหวานงั้นเหรอ?
ทว่าถึงแม้รอยยิ้มนี้จะดูไม่หวานชื่นเท่าไหร่ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เฟิงหนานซูรู้สึกว่าตนแปลกแยกอะไร เพราะความสามารถในการรับรู้บรรยากาศรอบตัวของเฟิงหนานซูค่อนข้างต่ำ หากเพื่อนร่วมห้องไม่ได้แสดงออกชัดเจนเกินไปเธอก็จะไม่รู้สึกผิดหวังมากนัก
“งั้นเอาแบบนี้ เธอเล่าให้ฉันฟังตั้งแต่ต้นเลย เริ่มตั้งแต่ตอนเธอเข้ามาในมหาวิทยาลัย”
ด้วยเหตุนี้เฟิงหนานซูจึงอธิบายฉากการลงทะเบียนนักศึกษาของเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หลังจากฟังคำอธิบายของเฟิงหนานซูแล้ว มุมปากของเจียงฉินก็อดไม่ได้ที่จะกระตุก คิดในใจว่าวิธีการเปิดตัวแบบนี้มันอวดดีเกินไป ให้บอดี้การ์ดเคลียร์ทางเข้าไปจนถึงขัดพื้นห้องน้ำ ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นในหอพักของเรา เจ้าเฉากวงอวี่คงอกแตกตายแน่นอน ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่คนอื่นจะคิดว่าเธอเย็นชา
ความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงนั้นซับซ้อนกว่าระหว่างผู้ชาย แม้แต่ความขัดแย้งขี้ปะติ๋วก็ยังถูกเก็บไว้ในใจจนขยายใหญ่ขึ้นกลายเป็นเรื่องใหญ่โตได้ เจียงฉินไม่ได้พูดอะไรมากจนกว่าเขาจะเข้าใจอย่างชัดเจน ดังนั้นเขาจึงวางแผนว่าจะหาสถานที่เหมาะๆ ซักถามอีกที
“ไปเถอะ เดี๋ยวเราไปกินข้าวกันก่อน”
“ไปกินอะไร?”
เจียงฉินเดินนำไปสองสามก้าวแล้วพูดว่า: “ทำไมจู่ๆ เธอถึงมีพลังเพิ่มขึ้นทันทีเวลาที่ฉันพูดถึงเรื่องกิน”
เฟิงหนานซูปฏิเสธที่จะตอบคำถามและเดินตามเจียงฉินไป: “ฉันเป็นเพื่อนกับพวกผู้ชายเมื่อกี้ได้ไหม?”
“ไม่!”
“ทำไมล่ะ?”
“เพราะว่าไม่มีผู้ชายคนไหนเป็นคนดี!”
“แต่นายก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน”
“ยกเว้นฉัน”
(จบตอน)