ตอนที่แล้วตอนที่ 11: ฝันร้ายกลายเป็นจริง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13 เหยียนเจียงและซ่งเฟย

ตอนที่ 12: เธอคือคนเดียวที่ฉันพึ่งพาได้


ซ่งซีวิเคราะห์สถานการณ์อย่างเงียบ ๆ เธอเห็นได้ชัดว่าตอนนี้เธอและซ่งเฟยกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเพียงใด

ซ่งซีอดหัวเราะเยาะตัวเองไม่ได้

เธอช่างโง่เขลาเหลือเกินในชีวิตที่แล้ว!

ในชีวิตก่อน ซ่งซีก็เป็นแบบนี้ เธอได้แต่นั่งฟังมู่เหมียนปลอบใจมู่ชิวด้วยสีหน้าเลื่อนลอย หลังจากได้ยินคำพูดของมู่เหมียน เธอก็ปลอบมู่ชิวอย่างโง่เขลาว่าพ่อของพวกเธอจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยชีวิตมู่ชิว

เธอพูดถูกแล้ว มู่เหมียนจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตมู่ชิว แต่ราคาที่ต้องจ่ายคือการใช้ชีวิตของพี่สาวเธอ

เพื่อช่วยมู่ชิว แพทย์จึงติดตามข่าวสารจากศูนย์บริจาคอวัยวะอย่างใกล้ชิด ในขณะที่มู่เหมียนยังคงทำงานไปพร้อมกับกังวลเรื่องอาการของลูกสาว เขายิ้มน้อยลงเรื่อย ๆ และท่าทางของเขาก็ดูหม่นหมองขึ้นทุกวัน

ซ่งซีรู้ดีว่ามู่ชิวอาการแย่ลงทุกวัน มันก็แค่เรื่องของเวลาก่อนที่มู่เหมียนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะเอื้อมมือมืดของเขาไปหาซ่งเฟย เธอต้องช่วยซ่งเฟยออกจากโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

แต่การย้ายซ่งเฟยออกจากโรงพยาบาลโดยไม่ให้มู่เหมียนสงสัยนั้นเป็นเรื่องยาก

ซ่งซีครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อยู่ครึ่งค่อนคืนก่อนที่จะตัดสินใจอย่างกล้าหาญและเสี่ยง!

...

ตีหนึ่ง

เหยียนเจียงกำลังเล่นวิดีโอเกมอยู่ในห้องเล่นเกมของเขาพร้อมกับมาส์กหน้าไว้ เหมือนกับซ่งซีที่เป็นคนนอนดึก ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา เขาจะทำอะไรก็ได้ตามใจ แม้กระทั่งการอยู่ดึก ๆ

ติ๊งต่อง! ติ๊งต่อง!

เสียงกริ่งประตูดังขึ้นทำให้เหยียนเจียงตื่นตัว

หรือจะเป็นแฟนคลับคลั่งอีกคน?

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วเปิดแอปกล้องวงจรปิด เห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่ฮู้ดสีดำยืนอยู่หน้าประตู

เห็นภาพนั้น เหยียนเจียงสรุปทันทีว่าเธอคงเป็นแฟนคลับคลั่ง และคิดจะโทรแจ้งตำรวจ

ซ่งซีรู้ว่าเหยียนเจียงยังไม่นอนและเขาคงกำลังดูเธอผ่านกล้องวงจรปิดอยู่ เธอจึงดึงฮู้ดลงแล้วเงยหน้าขึ้นมองกล้องอย่างเงียบ ๆ เพื่อให้เหยียนเจียงเห็นว่าเป็นเธอ

"ซ่งซ่ง?"

เหยียนเจียงขมวดคิ้วเมื่อเห็นสาวในกล้องวงจรปิด หลังจากเห็นเธอ เขาก็เปลี่ยนใจไม่แจ้งตำรวจ

เขาถอดมาส์กหน้าออกแล้วโยนจอยเกมไว้ข้าง ๆ ก่อนจะไปเปิดประตู

เมื่อเปิดประตู เหยียนเจียงพิงกรอบประตูพลางกอดอกมองซ่งซี แต่เธอกลับเงยหน้าขึ้นและเข้าเรื่องทันที "ฉันต้องการให้นายช่วย"

เหยียนเจียงตอบอย่างรวดเร็ว "ฉันจะไม่ฆ่าใคร ไม่วางเพลิง ไม่ปล้นชิง หรือข่มขืน"

ซ่งซีถาม "หากเป็นการช่วยชีวิตล่ะ?"

เหยียนเจียงยิ้มมุมปาก

เขาจ้องมองซ่งซีอย่างลึกซึ้งก่อนจะก้าวถอยหลัง "เข้ามาสิ"

ซ่งซีเดินตามเหยียนเจียงเข้ามาในบ้าน

เหยียนเจียงรินน้ำอุ่นให้เธอ

ซ่งซีนั่งขัดสมาธิบนโซฟาของเขา เธอรับแก้วน้ำมาจิบ

เหยียนเจียงนั่งลงบนพรมแล้วไขว้ขาที่ยาว ๆ ของเขาไว้ เขาไม่กดดันซ่งซี แต่รออย่างใจเย็นให้เธออธิบาย

สักพักหนึ่ง ซ่งซีเปลี่ยนท่านั่ง เธอเลื่อนตัวลงจากโซฟาแล้วนั่งขัดสมาธิอยู่บนพรมเช่นเดียวกันโดยเท้าเปล่า ซ่งซีโน้มตัวเข้าไปใกล้เหยียนเจียงและจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเขา "ฉันเชื่อใจนายได้ไหม?"

เหยียนเจียงหรี่ตามองเธอด้วยความสงสัย

"ชิ" เหยียนเจียงเอนตัวพิงโซฟาอย่างเกียจคร้าน เขาสวมเพียงเสื้อคลุมที่เผยให้เห็นแผงอกกำยำ ทำให้เขาดูอันตรายและเย้ายวน

แต่ซ่งซีคุ้นเคยกับเหยียนเจียงมากจนไม่ว่าเขาจะหล่อและน่าดึงดูดแค่ไหน เธอก็ไม่รู้สึกหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย

เหยียนเจียงใช้เวลาอยู่นานกว่าจะพูดต่อ "เธอเชื่อใจฉันได้"

ซ่งซีถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เธอยกมือขึ้นปิดหน้าและถูใบหน้าแรง ๆ ก่อนจะพูดต่อ "เมื่อสัปดาห์ก่อน ฉันฝันแปลก ๆ"

คำเปิดประโยคนั้นทำให้เหยียนเจียงเลิกคิ้วขึ้นอย่างสนใจ เขามองเธอด้วยท่าทีสงสัยแต่ไม่เร่งรัดให้เธอเล่าต่อ และตั้งใจฟังเธออย่างใจเย็น

ซ่งซีพูดต่อ “ฉันฝันว่ามู่ชิวหมดสติในงานวันเกิดของเพื่อนเพราะโรคหัวใจ เธอถูกส่งเข้าโรงพยาบาล แต่หลังจากนั้นเธอก็หมดหวังเพราะหาใจที่เหมาะสมไม่ได้ ในที่สุดเธอก็พยายามกรีดข้อมือตัวเอง แต่แพทย์ช่วยชีวิตเธอทันเวลา”

เหยียนเจียงมีสีหน้าสับสน

นี่ซ่งซ่งมีความฝันที่มองเห็นอนาคตงั้นเหรอ?

ซ่งซีเล่าต่อไป “ฉันยังฝันอีกว่า ในวันที่ 12 เดือนหน้านี้ จะเกิดไฟไหม้ในโรงพยาบาลที่พี่สาวฉันพักอยู่ และเธอถูกไฟคลอกทั้งเป็น วันเดียวกันนั้นเอง มู่ชิวได้รับการปลูกถ่ายหัวใจ”

ริมฝีปากของเหยียนเจียงสั่นเล็กน้อยด้วยความตกใจ ดวงตาของเขาแสดงออกถึงความไม่เชื่อและตกตะลึง เหมือนว่าเขาไม่แน่ใจว่าตกใจกับส่วนไหนของเรื่องที่ซ่งซีเล่า

ซ่งซียังคงเล่าต่อ “ฉันยังฝันอีกว่าอีกสองปีต่อมา ฉันทำตามคำขอของมู่เหมียนและแต่งงานกับเฉิงเจียง ทายาทคนที่สองของตระกูลชวนตงกรุ๊ป เพียงหนึ่งเดือนหลังแต่งงาน เขาทำร้ายฉัน หลังจากนั้นเราก็ใช้ชีวิตคู่ที่แสนเจ็บปวดนานถึงหกปี จนกระทั่งฉันแทงเขาที่ท้องแล้วเราถึงได้หย่ากัน”

“ฉันฝันว่าตอนฉันอายุ 20 มู่เหมียนหลอกให้ฉันเซ็นเอกสารบริจาคอวัยวะ และเมื่อฉันอายุ 32 หัวใจของมู่ชิวเสื่อมสภาพอีกครั้ง เธอต้องการการปลูกถ่ายหัวใจใหม่อีกครั้ง เพื่อช่วยชีวิตมู่ชิว มู่เหมียนวางยาฉัน แล้วเอาฉันใส่รถก่อนจะผลักรถลงแม่น้ำหลงใหญ่ แม้ว่าจะมีคนเจอฉันและพาฉันส่งโรงพยาบาล แต่ฉันไม่รอดชีวิต”

“หลังจากฉันตาย พวกเขาก็นำหัวใจของฉันให้มู่ชิว”

ดวงตาของซ่งซีเริ่มแดงก่ำในตอนนี้

เหยียนเจียงขมวดคิ้วแน่น สายตาที่เขามองซ่งซีเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด

ซ่งซีสูดหายใจลึก กลืนความโกรธแค้นและความกลัวของเธอเข้าไป เธอพูดต่อ “ฉันคิดว่ามันเป็นแค่ฝันร้าย จนกระทั่งมู่ชิวหมดสติจากอาการหัวใจวายเมื่อคืนก่อน และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าเธอต้องได้รับการปลูกถ่ายหัวใจโดยเร็วที่สุด ตอนนี้ฉันถึงได้เชื่อว่ามันไม่ใช่แค่ฝัน”

ซ่งซีไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป เธอคว้าแขนของเหยียนเจียงราวกับคนที่กำลังจะจมน้ำได้พบกิ่งไม้ใหญ่ เธอบีบแขนของเขาเต็มแรง

เหยียนเจียงกัดฟันทนความเจ็บแต่ไม่ได้ผลักเธอออก

“อาเจียง มู่ชิวมีกรุ๊ปเลือดที่หาได้ยาก หมอบอกว่าเธอมีเวลาอีกแค่สามถึงสี่เดือน พี่สาวฉันและฉันก็มีกรุ๊ปเลือดหายากเหมือนกัน มู่เหมียนกำลังตามหาหัวใจที่เหมาะสมสำหรับลูกสาวเขาทั่วโลก ถ้าเขาหาไม่ได้ เขาจะเอาหัวใจของซ่งเฟย!”

“เพื่อปกปิดการขโมยหัวใจของซ่งเฟย มู่เหมียนจะวางเพลิงเผาวิลล่าของเธอในโรงพยาบาล!”

“ฉันทนดูพี่สาวของฉันถูกฆาตกรรมไม่ได้! ฉันไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว อาเจียง…” ใบหน้าของซ่งซีซีดเผือดขณะที่เธอร้องไห้อย่างหมดหวัง “นายเป็นคนเดียวที่ฉันพึ่งได้”

ในตอนแรก เหยียนเจียงคิดว่าซ่งซีคงมีฝันร้ายและปล่อยให้จินตนาการเล่นงานเธอเพราะความเครียด แต่เมื่อเห็นดวงตาของซ่งซีที่เต็มไปด้วยความหวังและความเศร้าสร้อย เหยียนเจียงก็เริ่มใจอ่อน

เขาหยิบแก้วน้ำที่ซ่งซีดื่มค้างไว้มายกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด “มันช่างไม่น่าเชื่อเลย…”

รอยยิ้มขมขื่นปรากฏบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของซ่งซีเมื่อเห็นว่าเหยียนเจียงไม่เชื่อเธอ “นายไม่เชื่อฉันใช่ไหม?”

“มันฟังดูเกินจริงไป” เหยียนเจียงตอบ “เธอต้องโน้มน้าวใจฉันให้มากกว่านี้”

เขาพร้อมจะร่วมมือกับเธอในแผนการนี้ แต่เธอต้องให้เหตุผลที่น่าเชื่อให้เขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด