ตอนที่แล้วบทที่ 4 วิชาอวนนภา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 6 กรมทหารรักษาการณ์!

บทที่ 5 เจียงหงเอ๋อ


ลู่เฉินมีกำลังมหาศาลถึงพันชั่ง ร่างกายเขาได้ทะลวงขีดจำกัดบางอย่างไปแล้ว ทำให้เขาก้าวข้ามสู่ขอบเขตขั้นหนึ่งอย่างมั่นคง ความสามารถรอบด้านของเขาจึงพัฒนาขึ้นอย่างมาก สายตาของเขาก็เช่นกัน เขาสังเกตเห็นว่าขณะที่หญิงสาวคนนั้นเดิน ฝ้าเท้าของเธอแทบไม่แตะพื้นเลย

"เดินอย่างไร้ฝุ่น"

"ปีศาจ? หรืออาจเป็นนักพรต? หรือบางที เป็นคนที่หลวงจีนหยวนเจินส่งมาทดสอบเรา?"

"กับดักสาวงาม?"

ในชั่วพริบตา ลู่เฉินคิดไปต่าง ๆ นานา

เห็นว่าผู้คนรอบข้างหลายคนถูกความงามของหญิงสาวนั้นดึงดูดจนไม่ได้สติ ลู่เฉินจึงรีบคว้าชายฉกรรจ์หนวดเฟิ้มคนหนึ่งมาถาม

"พี่ใหญ่ ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?"

"ไสหัวไป!"

ชายหนวดเฟิ้มมีท่าทีหงุดหงิด พยายามจะแกะฝ้ามือลู่เฉินออก แต่กลับพบว่าเด็กหนุ่มนักพรตตัวเล็กกว่าเขาครึ่งศีรษะนั้นไม่ขยับเลยสักนิด ทำให้เขารู้สึกตกใจ

"เจ้าจะถามอะไร?"

"หญิงสาวงามคนเมื่อครู่นี้เป็นใคร มาจากไหน?"

ชายหนวดเฟิ้มถอนหายใจด้วยความโล่งอก รีบตอบทันที

"นางมาจาก จากหอโคมแดง"

"หอโคมแดง? ที่ไหนน่ะ?"

ลู่เฉินขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

ในขณะนั้นเอง หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเดินผ่านมา พลางหัวเราะเบา ๆ

"เจ้านักพรตน้อยช่างใสซื่อเสียจริง แม้แต่หอโคมแดงยังไม่รู้จัก ที่นั่นเป็นอะไรน่ะหรือ ก็เป็นซ่องแห่งเดียวในเฝ้ามืองเฟิ่งเซียนของเราน่ะสิ เต็มไปด้วยหญิงสาวไร้ยางอาย"

"ซ่อง!!"

ลู่เฉินอ้าปากค้าง พึมพำว่า

"คุณโส..."

หญิงวัยกลางคนเดินผ่านไปแล้ว ส่วนชายหนวดเฟิ้มก็ตอบอย่างอึกอักว่า

"เถ้าแก่...เถ้าแก้เนี๊ย"

"เจ้าของหอนางโลม?!"

ลู่เฉินเบิกตากว้างอย่างตะลึงงัน

หลังจากสอบถามอยู่นาน ในที่สุดลู่เฉินก็ได้รู้ถึงตัวตนของหญิงคนนั้นอย่างแน่ชัด นางคือเถ้าแก่เนี๊ยของหอโคมแดง ชื่อเจียงหงเอ๋อ หญิงสาวผู้เป็นที่ครั่นคร้ามของบุรุษทั้งหลาย และเป็นที่อิจฉาของสตรีทั้งปวง

บุรุษต่างหวาดกลัว เพราะหากทำให้เธอขุ่นเคืองก็จะไม่สามารถเหยียบเข้าหอโคมแดงได้อีก ส่วนสตรีก็อิจฉาเพราะนางงดงามเหลือเกิน งามจนแม้แต่ผู้หญิงด้วยกันยังรู้สึกครั่งไคล้

ลู่เฉินยังเด็กเกินไป จึงไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของนางมาก่อน

"เจียงหงเอ๋อ หญิงสาวคนนี้คงไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแน่"

ลู่เฉินถอนหายใจออกมา แม้ว่าจะดูแปลก แต่ตราบใดที่นางไม่ใช่พวกของเจ้าอาวาสหยวนเจิน ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีแล้ว

ในเช้าวันนั้น

ลู่เฉินขายของทุกอย่างที่มี ได้เงินมาเป็นเงินหกเหรียญและเหรียญทองแดงอีกเจ็ดสิบสองเหรียญ ซึ่งก็พอที่จะใช้สำหรับอัปเกรดทักษะฝึกหมัด และลมปราณ เขาจึงแวะตลาดไปกินซุปเนื้อแกะกับแป้งแผ่น จากนั้นเดินเล่นต่ออีกสักพักก่อนกลับไปยังอารามฉางชุน

บ่าย

ลู่เฉินถอดป้ายที่ประตูออก ใช้ถ่านเขียนตัวอักษรคำว่า "ฉาง" ลงไป จากนั้นแขวนป้ายขึ้นใหม่อย่างพอใจ แล้วก็เริ่มฝึกวิชาฝ้ามือวัชระไปด้วย

พร้อมทั้งฝึกวิชาอมตะชั่วนิรันดร์แห่งฉางชุนควบคู่กันไปด้วย

วิชาอมตะชั่วนิรันดร์แห่งฉางชุนนี้ หลังจากได้รับการพัฒนาแล้ว แก่นสำคัญจริง ๆ คือชุดท่าบริหารร่างกายที่ต้องใช้การประสานระหว่างการหายใจ ท่าทาง และจิตใจให้ทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืน ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้

วิธีนี้จึงจะสามารถฝึกฝนร่างกายและเสริมความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อและกระดูกได้

โชคดีที่ลู่เฉินได้เริ่มฝึกเข้าสู่ประตูของวิชาแล้ว

ขั้นที่ยากที่สุดสำหรับเขานั้นกลับกลายเป็นเรื่องง่ายดาย

ยามอาทิตย์อัสดง*

ลู่เฉินกำลังตั้งใจฝึกวิชาฝ้ามือวัชระ ฝ้ามือที่เหวี่ยงออกไปนั้นเร็วเสียจนเกือบจะเห็นเงาซ้อนกัน ฝ้ามือวัชระนี้เป็นท่าฝ้ามือที่มีการโจมตีอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นความเร็วตอบโต้ด้วยความเร็ว

และสุดท้ายเหมือนกับใช้ฝ้ามือโจมตีออกไปพร้อมกันเป็นร้อย ๆ ครั้ง

เมื่อดวงอาทิตย์ตกดิน ลู่เฉินหยุดท่าฝ้ามือ ยิ้มด้วยความพอใจ

"อัปเกรดได้แล้ว!"

เงื่อนไขการอัปเกรดวิชาฝ้ามือวัชระ

【1】ฝึกฝ้ามือครึ่งวัน (บรรลุแล้ว!)

【2】สิบเหรียญเงิน (บรรลุแล้ว!)

......

【ชื่อ】: ลู่เฉิน

【วิชาฝ้ามือ】: ฝ้ามือวัชระยังไม่เข้าสู่ขั้นต้น (สามารถอัปเกรดได้!)

......

"อัปเกรด!"

เมื่อเทียบกับการพัฒนาวิชาอมตะชั่วนิรันดร์แห่งฉางชุนเมื่อคืน วิชาฝ้ามือวัชระดูเหมือนไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ถ้าในหัวเขาไม่มีความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นเกี่ยวกับวิชานี้ เขาสงสัยว่าเขาถูกหลวงจีนฮุยเหนิงหลอกให้ฝึกวิชาฝ้ามือวัชระปลอมอยู่ก็เป็นได้

"ดีกว่าไม่มีอะไรล่ะนะ"

ลู่เฉินถอนหายใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อฝึกฝ้ามือวัชระมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาเชื่อว่าในภายภาคหน้าก็จะมีประโยชน์ขึ้น

"เปิดดู!"

เขายื่นฝ้ามือไปแตะม่านแสง ข้อมูลไม่กี่บรรทัดก็ปรากฏขึ้นมา

【เงื่อนไขการอัปเกรดวิชาฝ้ามือวัชระ】

【1】ฝึกฝ้ามือหนึ่งวัน (ยังไม่บรรลุ!)

【2】หนึ่งดวงวิญญาณ (ยังไม่บรรลุ!)

【3】สิบเหรียญเงิน (ยังไม่บรรลุ!)

......

"ต้องใช้ดวงวิญญาณแล้วสิ"

ลู่เฉินพึมพำเบา ๆ พลางมองไปที่ลูกเจี๊ยบสองตัวในเล้า มุมปากยกยิ้มอบอุ่นแต่เต็มไปด้วยเจตนาร้าย ในฝ้ามือชักมีดสั้นออกมาเตรียมพร้อม

"ปัง ปัง ปัง!"

เสียงเคาะประตูดังขึ้นทันใด เสียงจากนอกประตูร้องว่า:

"ทหารรักษาการณ์  รีบเปิดประตู!"

"ทหารรักษาการณ์??"

ลู่เฉินชะงักไปเล็กน้อย ใบหน้าเผยแววลังเล

ทหารรักษาการณ์ถือเป็นหน่วยลาดตระเวนที่ใช้ความรุนแรง เป็นกองบังคับบัญชาหลักของคนกว่าห้าหมื่นคนในเมืองเฟิ่งเซียน ส่วนทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เพราะพวกเขามีอิทธิพล กุมอำนาจกองกำลังทหารประจำเมืองที่มีมากถึงสองพันห้าร้อยคน

พวกทหารเหล่านี้ไม่ได้อ่อนแอ พวกเขาฝึกฝนวิชา"จอมทัพเพชฌฆาต"ที่สะสม "พลเพชฌฆาต" จากการสู้รบเพื่อฝึกร่างกายให้แข็งแกร่ง ความสามารถจึงพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่ละคนบึกบึนไม่ต่างจากกระทิง

นิสัยของพวกเขาเถื่อนและแข็งกร้าว

แม้แต่สำนักกู่ฉานที่ดูแข็งแกร่ง ยังต้องยอมอ่อนน้อมต่อทหารรักษาการณ์เหมือนลูกแกะตัวน้อย

แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีข้อเสีย

ใครก็ตามที่ฝึกวิชาจอมทัพเพชฌฆาต จะต้องอายุสั้นลง เมื่อย่างเข้าวัยชรา ความสามารถจะลดลงมหาศาล อีกทั้งหลังฝึกวิชานี้ ร่างกายจะเต็มไปด้วยช่องโหว่เหมือนตะแกรง ทำให้ไม่สามารถฝึกวิชาจิตลมปราณเพื่อบำเพ็ญเซียนได้อีก

"ปัง ปัง ปัง!"

"ดูท่าทหารรักษาการณ์คงทราบว่าข้าอยู่ในนี้แล้ว หนีคงไม่พ้น สู้ไปเจอดูหน้ากันหน่อย"

ลู่เฉินคิดไปพลาง เห็นว่าคงต้องออกไปพบหน้ากันหน่อย อย่างไรเสียเขาไม่ได้ทำความผิดอะไร นอกจากทำให้ลูกเจี๊ยบตัวน้อยตกใจเล่น

"เอี๊ยด~~"

เขาวางมีดสั้นลง เปิดประตูออก เห็นยักษ์ร่างสูงเกือบสองเมตรสองคนยืนขนาบซ้ายขวาเหมือนเทพผู้พิทักษ์ประตู สวมเกราะสีดำเข้มพาดดาบยาว

หนึ่งในทหารขมวดคิ้วกล่าวเสียงเข้มว่า:

"เจ้าหนุ่มนักพรต ไปกับเราซะดี ๆ !"

เกิดเรื่องแล้ว?

ลู่เฉินสะดุ้งโหยง เกือบจะหันหลังหนี เขารีบถามว่า:

“เรื่องอะไรหรือ?”

“เกี่ยวกับอาจารย์ของเจ้า”

“อาจารย์ข้าหรือ? ท่านกำลังปิดด่านฝึกอยู่ ไม่รับแขกหรอก”

“ฮึม~”

ทหารรักษาการณ์พ่นลมหายใจเย็นเยียบออกมาครึ่งศอก ก่อนจะเอ่ยเสียงเหยียดว่า:

“คนตายไปแล้ว จะปิดด่านอะไรอีก?”

“… ตายแล้ว?? โอ้ จริงด้วย ดูเหมือนจะตายแล้วจริง ๆ …”

ทหารรักษาการณ์เป็นผู้กุมอำนาจในเมืองเฟิ่งเซียน เรื่องข้อมูลข่าวสารพวกเขาย่อมรู้มากกว่าใคร ลู่เฉินยังไม่ค่อยแน่ใจนัก จึงถามอย่างระมัดระวังว่า:

“พวกท่าน มีเรื่องอะไรหรือ? บอกใบ้ให้ข้าหน่อยได้ไหม?”

“เรื่องดี!”

“เรื่องดี? เรื่องอะไรหรือ?”

“เจ้าก็รู้ใช่ไหมว่าอาจารย์เจ้ามีตำแหน่งเป็นผู้รับรองของทหารรักษาการณ์?”

“พอทราบบ้าง”

ลู่เฉินพยักหน้า อาจารย์เขาคือชิงอวิ๋น ท่านเคยใช้ *คาถาจิตส่องแสง* เป็นประจำ และจะมาที่ทหารรักษาการณ์อยู่เนือง ๆ กระบี่เถาซู่ที่ใช้ในการทำพิธีต่าง ๆ ก็ได้รับการจัดหาโดยทหารนี้เอง

แต่เรื่องทั้งหมดนี้ อาจารย์ก็ไม่ได้เล่ารายละเอียดไว้

“ครั้งนี้อาจารย์เจ้าขัดขวางกลุ่มโจรหมอกเต๋าเหรินไว้ได้ ทางเบื้องบนเลยตัดสินใจให้เจ้าสืบทอดตำแหน่งผู้รับรองแทน”

“…”

ลู่เฉินเริ่มรู้สึกประหม่าเล็กน้อย

กลุ่มโจรนั้นบุกมาจากทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ พอมาถึงเขตอารามเล็ก ๆ อย่างฉางชุน อาจารย์ชิงอวิ๋นได้สละชีวิตเพื่อช่วยเขาเอาไว้ แต่ท้ายที่สุดก็พ่ายให้กลุ่มโจรหมอกเต๋าเหริน ถูกสังหารภายในสามกระบวนท่า

แบบนี้ยังถือว่ามีความชอบอีกหรือ?

ลู่เฉินเริ่มรู้สึกกังวลใจ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด