บทที่ 47: ไร้คำพูด
"ราชาโจรสลัด?... หา?... ฮ่าๆๆ..." คุโระหัวเราะลั่นเมื่อได้ยินลูฟี่ประกาศความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ เขาหัวเราะเยาะเด็กไร้เดียงสาที่พึ่งปรากฏตัวขึ้น เขาอยู่ในทะเลมานาน แม้แต่ในอีสต์บลูเขาก็เคยเห็นเหล่าสัตว์ประหลาดที่สามารถเอาชนะเขาได้
แล้วยังมีกองทัพเรืออีก!
และแกรนด์ไลน์ก็น่ากลัวยิ่งกว่า เด็กคนนี้ชั่งหลงตัวเอง เมื่อเห็นคุโระหัวเราะ ลูฟี่ก็ทำประสานอินและใช้กระสุนน้ำจากปากยิงใส่หน้าของคุโระ ลูฟี่ระวังไม่ให้กระสุนแรงเกินไปเพราะคนคนนี้อาจตายได้
คุโระโดนยิงที่หน้าและต้องใช้มือป้องกันกระสุนที่เหลือ แต่มันก็ยังแสบที่หน้าและมือ
"แม้แต่เด็กอย่างนายก็กล้าถ่มน้ำลายใส่ฉัน..." ตอนนี้คุโระโกรธจัดขณะสวมถุงมือ เขาใช้ถุงมือพิเศษที่มีใบมีดยาวแหลมคมที่นิ้วแต่ละนิ้ว เขาพร้อมจะสั่งสอนไอ้หมอนี่ด้วยใบมีดและฆ่ามัน เขาโดนถ่มน้ำลายใส่!! แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมคนคนหนึ่งถึงมีพลังในน้ำลายมากขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่สน
หลังจากชักใบมีดออกมา เขาก็วิ่งพุ่งเข้าหาลูฟี่ที่กำลังมองคุโระด้วยรอยยิ้ม เมื่อคุโระก้าวไปได้ไม่กี่ก้าว เขารู้สึกว่ามีบางอย่างรั้งขาไว้ และก่อนที่จะหยุดตัวเองจากการพุ่งไปข้างหน้า เขารู้สึกถึงแรงกระชากจากเท้าทั้งสองข้างแล้วล้มคะมำหน้าฟาดพื้น
แรงกระชากที่เขารู้สึกคือเส้นลวดเหล็กที่ลูฟี่ถักทอไว้นานก่อนมาที่นี่ ลูฟี่จงใจปล่อยให้เขาวิ่งหนีเพราะกำลังวางกับดัก กับดักคือการใช้คุไนสร้างเส้นลวดเหล็กรอบๆ และเชื่อมต่อกัน
และคุโระก็ตกหลุมพรางนี้ ไม่เพียงแต่เท้าที่พันกัน คอของเขาก็ติดกับเส้นลวดที่ผูกติดกับคุไนที่ปักอยู่ตามต้นไม้ด้วย
เทคนิคของลูฟี่ไม่เก่งเท่าอิทาจิที่เป็นถึงระดับมาสเตอร์ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เขาก็สามารถจับคนอย่างคุโระได้ง่ายๆ ลูฟี่ไม่อยากให้อะไรเกิดขึ้นกับคายะจึงใช้สมองวางแผนอย่างรัดกุม ลูฟี่รอบคอบมากเวลาต่อสู้ และยิ่งรอบคอบขึ้นเพราะเขาเคยผ่านชีวิตของนินจามาแล้ว
คุโระมองด้วยความหวาดกลัวที่เห็นเท้าและคอของตนถูกมัดด้วยเส้นลวด เขาพยายามใช้มือปลดตัวเองให้เป็นอิสระแต่ทำไม่ได้ ยิ่งดิ้นและดึงเส้นลวดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเจ็บมากขึ้นเท่านั้น พึงระลึกไว้ว่าเส้นลวดเหล่านี้ทำจากเหล็กและคมมาก
"นี่มันอะไรกัน?" คุโระถามเบาๆ ขณะพยายามใช้ใบมีดตัดเส้นลวดแต่ไม่สำเร็จ
"ของขวัญจากพี่ชายฉัน อยู่ที่นี่แหละ ในระหว่างที่ฉันพาคุณคายะกลับบ้าน" ว่าแล้วลูฟี่ก็หายตัวไปขณะกำลังกลับคฤหาสน์ ทิ้งให้คุโระนอนอยู่กับพื้นไม่สามารถขยับตัวได้เพราะความเจ็บปวด นี่คือความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดที่คุโระเคยเผชิญในชีวิต แม้แต่กองทัพเรือที่ตามล่าเขาก็ยังทำไม่ได้อย่างที่เด็กคนนี้ทำ
ในขณะที่ลูฟี่กำลังมุ่งหน้ากลับคฤหาสน์เพื่อพาคายะกลับไปอย่างปลอดภัย โซโรก็สามารถไปถึงตัวจังโก้ได้ในที่สุด โซโรใช้ การเปิดประสาทสัมผส หลายครั้งและแก้ไขเส้นทางจนสามารถไปถึงจังโก้ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์
จังโก้เป็นคนแรกที่ออกมาจากเรือที่ชักธงโจรสลัดแมวดำ
"ฉันตามหานายมานานแล้ว" โซโรพูดขณะหอบแฮ่กๆ เขาวิ่งวนไปมานานมากกว่าจะหาเจอและได้หยุดพักหายใจ
"แกเป็นใคร?"
"ความพินาศของแก!!!" โซโรไม่รอช้าและพร้อมจะโค่นเขาลง โซโรย่อขาลงช้าๆ ขณะจับด้ามดาบสีแดงในมือและสูดอากาศเข้าปากเต็มที่
'ลมหายใจสายฟ้า ท่าที่สอง: ฟ้าแลบในคิมหันต์ฤดู'
จังโก้อยู่ในภาวะสับสนตอนที่โซโรโจมตี เขาปล่อยการฟันโค้ง 5 ครั้งใส่จังโก้พร้อมกับสายฟ้า ก่อนที่จังโก้จะทันชักจักรออกมาป้องกันตัว เขาก็ถูกพัดกระเด็นหรือพูดให้ถูกคือถูกช็อตด้วยการฟัน 5 ครั้งที่ฟาดลงบนร่างของเขา เขากระเด็นไปเหมือนก้อนหินไร้ชีวิตพร้อมกลิ่นไหม้ที่โชยออกมาจากร่างและกระแทกเข้ากับต้นไม้ใกล้ๆ
การโจมตีครั้งเดียวของโซโรทำให้จังโก้สลบและเกือบถึงประตูความตาย โซโรเริ่มใช้ลมหายใจสายฟ้าได้แล้ว ท่าที่เซนนิตสึไม่เคยทำ และมันยากกว่าสำหรับโซโร เซนนิตสึไม่เคยเรียนรู้มันและมีเพียงโซโรคนเดียวที่พยายามไขความลับของท่าลมหายใจสายฟ้าทั้งหมดที่เขาเคยเห็นอาจารย์ทำในการจำลอง และการไม่มีคุณสมบัติตรงนั้นเป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับโซโรจริงๆ
แต่โซโรไม่ยอมแพ้ ในที่สุดเขาก็สามารถใช้ท่าที่สองได้ มันยากแต่เขาก็ทำได้ เขาหายใจหนักหลังจากทำท่านั้น โซโรมองจังโก้สักครู่ก่อนเดินจากไป ตอนนี้ถึงเวลาที่จะจัดการกับพวกโจรสลัดที่ตั้งรกรากใหม่บนชายหาด
เช่นเคย เขาหลงทางอีกและต้องใช้ลมหายใจแบบสัตว์ร้ายแก้ไขเส้นทาง แต่หลังจากวิ่งวนไปมาหนึ่งชั่วโมง เขาก็มาถึงที่ที่เรือโจรสลัดทอดสมออยู่ โซโรเดินเข้าไปอย่างเปิดเผย ลูกเรือเห็นชายแปลกหน้าเดินเข้ามาจึงสั่งให้พี่น้องสองคนจัดการคนใหม่นี่