บทที่ 3 เพิ่มสถานะและเสริมทักษะพิเศษ
บทที่ 3 เพิ่มสถานะและเสริมทักษะพิเศษ
“ห๊ะ? ทำไมจู่ๆ ถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นล่ะ?”
เขากระพริบตาแล้วลุกขึ้นนั่งทันที เครื่องหมายการเคลื่อนย้ายก็กลับเป็นสีม่วงอีกครั้ง
เขารีบปิดตาลงอีกครั้ง มุ่งความสนใจและเรียกสติไปที่อวตาร
แน่นอนว่าเครื่องหมายการเคลื่อนย้ายเริ่มเปล่งแสงสีน้ำเงินออกมา
เขายิ้มออกมา จากนั้นก็หันศีรษะของอวาตารไปเพื่อดูเวลา แล้วก็ตระหนักได้ว่าเหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งนาที
'...เช่นนี้ก็แปลว่า..?'
เมื่อพิจารณาดูสถานการณ์อย่างรอบคอบแล้ว เขาก็ตระหนักถึงสิ่งหนึ่ง
รูปร่างทางกายภาพของ “อวตาร” นั้นเหมือนกับร่างกายของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ
มันไม่ใช่ภาพลวงตาหรือสิ่งที่แยกจากเขา มันเหมือนเป็นเขาอีกร่างหนึ่ง
นอกจากนี้ร่างอวตารนี้ต้องได้รับการบำรุงรักษาเหมือนร่างกายของคนปกติ นั่นคือรับประทานอาหารเพื่อให้มีพลังงานเพียงพอต่อการทำงานของร่างกาย
ข้อเสียเพียงข้อเดียวคือค่าใช้จ่ายสำหรับอาหารจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
'ฉันสามารถทำให้เครื่องหมายการเคลื่อนย้ายจดจำอวตารเป็นร่างกายจริงของฉันได้!'
ดอกไม้ไฟดูเหมือนจะระเบิดขึ้นในหัวของเขา ร่างกายของเขาสั่นเทิ้มด้วยความยินดี
ขณะที่เขายิ้มอย่างพึงพอใจ เพราะเชื่อว่าปัญหาทั้งหมดได้รับการแก้ไขแล้ว ก็มีเสียงเบาๆ ดังขึ้น
วงเวทย์ที่เปล่งแสงสีฟ้าเริ่มเรืองแสงอย่างสว่างไสวและส่งเสียงดังอื้ออึง
และ…
[การเคลื่อนย้ายมิติกำลังจะเริ่มต้น]
และอวตารของเขาก็ถูกส่งไปยังอีกโลกหนึ่ง
….
[การการเคลื่อนย้ายไปยังโลกอูเทริก้าเสร็จสมบูรณ์แล้ว]
[ผ่านทางตัวเลือก 'กลับ' ที่ร้านค้ากรรมา คุณสามารถกลับสู่โลกของคุณได้]
[ปัจจุบันค่าการ์มาของคุณคือ: 0 คุณสามารถตรวจสอบได้ภายหลังที่ร้านค้ากรรมา]
ก่อนที่เขาจะทำความเข้าใจข้อความที่ปรากฏขึ้นในระหว่างการเคลื่อนย้าย สภาพแวดล้อมก็สว่างขึ้น สิ่งแรกที่เขามองเห็นคือป่าไม้ ต้นไม้สูงใหญ่ หญ้าและดอกไม้ เขาไม่ได้เห็นทิวทัศน์ธรรมชาติเช่นนี้มาเป็นเวลานานแล้ว เนื่องจากถูกจำกัดให้อยู่แต่ในบ้านเป็นเวลาสองปี และไม่ได้ชอบเดินป่าเป็นพิเศษแม้กระทั่งก่อนหน้านั้น เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้
เมื่อเขารู้ตัวอีกที เหงื่อเย็นก็ผุดขึ้นมาและลมหายใจของเขาก็ถี่ขึ้น เขาพยายามปลอบใจตัวเองว่าเขาไม่ได้อยู่ในโลกของตัวเอง เขาปลุกพลังของตัวเองขึ้นมาและถูกการเคลื่อนย้ายมายังโลกอีกใบ ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องกลัวมันก็ได้ เพราะในตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในร่างจริงด้วยซ้ำ แต่กำลังใช้ "อวตาร" อยู่
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะทำการปลอบใจตัวเอง เขาก็หลับตาลงและย้ายสติไปจดจ่ออยู่ที่ร่างกายของตัวเองที่อยู่บนโลก เมื่อเขาลืมตาขึ้นภาพห้องที่คุ้นเคยก็ปรากฏให้เห็น ทำให้เขาถอนหายใจด้วยความโล่งใจ ห้องที่ให้ความรู้สึกกดดันและคุ้นเคยมาหลายปีกลับทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นอย่างประหลาด
แม้จะเพิกเฉยต่อความรู้สึกที่อวตารรู้สึกได้ชั่วคราว แต่ไม่นานความรู้สึกแปลกแยกก็เข้ามาแทนที่
ความรู้สึกไม่สบายตัวเริ่มเพิ่มขึ้นเมื่อเขารับรู้ถึงความแตกต่างระหว่างการจดจ่อกับอวตารและการจดจ่อกับร่างกายที่แท้จริงของตัวเอง สายลมพัดผ่านหูของเขา กลิ่นของป่า ความอบอุ่นของแสงแดดบนผิวหนัง กระบวนการสูดหายใจเข้าและหายใจออก การย่อยอาหารที่บริโภคเข้าไปให้เป็นพลังงาน และการใช้พลังงานนั้น ทั้งหมดล้วนรู้สึกแปลก ๆ
“อ่าาา…” เขาครางออกมา ความรู้สึกคลื่นไส้รุนแรงเริ่มเข้ามาครอบงำเขาไม่นานนักเขาก็เข้าใจสาเหตุ
'ฉันลืมเรื่องความแตกต่างของการไหลของเวลาได้อย่างไร!'
เมื่อพิจารณาถึงการมีอยู่ของโลกอื่นแล้ว เขาสันนิษฐานว่าการไหลของเวลาในแต่ละโลกนั้นมีความต่างเท่ากับ 1:10 นั้นไม่ถูกต้องนัก เพราะด้วยประสบการณ์ของผู้กลับมานั้นย่อมต้องมีข้อผิดพลาดในระดับหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่อย่างน้อยๆคือความแตกต่างของเวลาต้องไม่น้อยว่า 10 เท่าอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะจดจ่อกับร่างกายจริงของเขา แต่ความรู้สึกคลื่นไส้ก็ยังไม่ลดลง
ขณะที่ร่างกายจริงของเขาหายใจเข้าหนึ่งครั้ง อวตารก็หายใจเข้ามากกว่าสิบครั้ง แม้จะยืนนิ่งโดยหลับตา แต่การเผาผลาญของอวตารก็เร็วกว่าร่างกายของเขาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่อย่างเห็นได้ชัด ทำให้เห็นความแตกต่างนี้ชัดเจนอย่างมาก
'เวียนหัวจัง...รู้สึกอยากจะอาเจียนอย่างมาก'
เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว
“อ้วกกก”
อ่า...รู้สึกดีกว่าจริงๆ
หลังจากนอนลงสักพัก อาการคลื่นไส้ก็บรรเทาลง เมื่อรู้สึกสงบขึ้นความคิดต่างๆ ก็เริ่มผุดขึ้นมาในหัวของเขา
เขารู้สึกประสบความสำเร็จที่สามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้อย่างปลอดภัย แต่ก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางประการ เขารู้สึกโล่งใจที่ไม่ต้องเดินทางข้ามโลกอีกแล้ว แต่เขาก็นึกถึงข้อความที่ส่งถึงเพื่อนขึ้นมาทันใด และรีบตรวจสอบโทรศัพท์ทันที
'โอ้...โชคดีที่เขาไม่ได้เห็นมันเลย'
เขาลบข้อความที่ส่งไปแล้วและส่งข้อความใหม่เพื่อสอบถามเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของเขา อีกอย่างหนึ่งโชคดีที่เขาไม่ได้รายงานเรื่องนี้ให้สำนักการจัดการความสามารถพิเศษได้ทราบ
เดิมทีเขาตั้งใจจะรายงานเรื่องนี้ทันทีเมื่อกลับมา แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป ความรู้สึกของเขาจึงเปลี่ยนไปเช่นกัน
'ฉันไม่มีความตั้งใจที่จะก่ออาชญากรรม ฉันแค่กลัวว่าจะมีความยุ่งยากมากขึ้นเท่านั้น'
แต่เมื่อเขาพิจารณาอย่างใกล้ชิดแล้ว พบว่าเป็นความสามารถพิเศษของเขานี้เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการอาชญากรรม หากปกปิดใบหน้าและทำการก่ออาชญากรรมแล้วหายตัวไปทันที มันเป็นการก่ออาชญากรรมที่สมบูรณ์แบบ แม้ว่าจะมีความสงสัยในช่วงเวลา ร่างกายที่แท้จริงก็สามารถใช้เป็นข้อแก้ตัวได้
แม้ว่าสิ่งที่ปล้นมาจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง อย่างไรก็ตามจะต้องมีวิธีที่จะได้รับมันเหมือนกัน เช่นการเอาสิ่งของไปซ่อนไว้แล้วค่อยสลายร่างอวตารก็ได้
'แน่นอนว่านี่เป็นแค่ความคิดเท่านั้น'
เพราะยังมีโรคอีกอย่างหนึ่งที่เขายังไม่สามารถแก้ไขได้ นั่นคือเขาไม่สามารถออกไปข้างนอกอย่างปกติได้แม้แต่ในร่างอวตารก็ตาม
'เอาล่ะ ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้'
วิกฤตการณ์ได้ผ่านพ้นไปแล้วและจะไม่มีปัญหาอีกต่อไป ตอนนี้เขาต้องทำการฝึกฝนทักษะเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เพื่อที่จะสามารถเล่นแบบสองยูสเซอร์โดยผู้เล่นคนเดียวได้ ซึ่งน่าจะสำคัญที่สุดสำหรับเขา
และโดยไม่ต้องคิดมาก เขาก็เรียกร่างอวตารออกมาอีกครั้ง
[ปลดล็อคความสำเร็จ! กลับสู่โลกด้วยพลังของตัวเองโดยไม่ต้องใช้ร้านกรรมา]
[เพื่อเป็นรางวัลสำหรับการก้าวข้ามมิติ คุณจะได้รับความสามารถพิเศษ 'หินเคลื่อนย้ายมิติ' คุณสามารถเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ต่างๆ ที่คุณเคยผ่านการเคลื่อนย้ายมิติได้วันละครั้ง]
[คุณสร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อโลกผ่านความสำเร็จของคุณ กรรมาของคุณเพิ่มขึ้นอย่างมาก]
"···ฮะ?"
เขายากที่จะทำความเข้าใจข้อความที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขาเลย
….
กรรมาและร้านกรรมา
เป็นวิธีการที่ผู้อเวคสามารถกลับมายังโลกนี้จากมิติอื่นได้ กรรมาสามารถสะสมจากหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการทำดีหรือชั่ว การทำประโยชน์เพื่อสังคมหรือการทำงาน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้อื่นและโลกต่างๆ
อย่างไรก็ตาม…
"ลองแวะไปที่ร้านกรรมาดูก่อนก็แล้วกัน"
[ร้านกรรมา]
[กลับ (1,000,000) (ไม่พร้อมใช้งาน)]
[เพิ่มทักษะพิเศษ (300,000)]
[การปรับปรุงสถานะ - ดูรายละเอียด]
[กรรมาที่มีอยู่ - 1,910,213]
เมื่อคิดดูดีๆ ก็มีข้อความเช่นนี้เหมือนกัน ในตอนนี้ที่เขาเพิ่งดำเนินการเคลื่อนย้ายมิติในตอนแรก ก็มีข้อความเกี่ยวกับร้านกรรมาปรากฏขึ้น ข้อความนั้นระบุว่าสามารถสะสมกรรมและกลับสู่โลกได้ผ่านตัวเลือก "กลับ"
“โดยปกติแล้ว ผู้คนจะค่อยๆ สะสมกรรมเพื่อที่จะสามารถกลับคืนสู่โลกเดิม แต่ตอนนี้ฉันกลับมาก่อนโดยไม่ต้องใช้ร้านค้ากรรมาด้วยซ้ำ”
‘แต่ฉันไม่เคยคิดว่าสิ่งต่างๆ จะคลี่คลายออกมาในลักษณะเช่นนี้ …’
ดูเหมือนว่าระบบได้กำหนดไว้ว่าอวตารที่ถูกส่งมายังโลกนี้ผ่านการเคลื่อนย้ายมิติได้ข้ามมิติกลับมายังโลกนี้แล้ว
‘นี่มันจะเป็นบักค์รึเปล่านะ? ถึงมันจะเป็นบักก็ไม่เป็นปัญหาอะไรใช่ไหม?’
การหลอกลวงระบบโดยการส่งอวตารมาแทนร่างกายจริงเขายังทำได้ ดังนั้นปัญหานี้จึงไม่นับว่าเป็นอะไร
“แต่ระบบที่ยิ่งใหญ่ครอบคลุมมิติต่างๆ คงไม่ลงโทษฉันเพราะเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้หรอกใช่ไหม เพราะยังไงฉันก็ไม่มีเจตนาที่จะทำเช่นนี้”
เพราะมันมีข้อบกพร่องตั้งแต่แรกแล้วล่ะ เหมือนกับข้อผิดพลาดในโปรแกรมเป็นความผิดของผู้พัฒนาไม่ใช่เหรอ เขาไม่สามารถทำอะไรในเรื่องนี้ได้!
เมื่อทำการแก้ตัวให้กับตัวเองแล้ว เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นอย่างมาก
“ใช่แล้ว! ฉันไม่ผิด! ฉันทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว!”
เมื่อรู้สึกปล่อยวางแล้วเขาจึงมองไปในอากาศและร้านค้ากรรมาอย่างมั่นใจ เหมือนกับว่าเขากำลังช้อปปิ้งอย่างหนักในขณะที่บัญชีธนาคารของเขาพึ่งมีเงินเพิ่มขึ้นมา
'เนื่องจากฉันอยู่ที่โลกนี้แล้ว การ'กลับ' จึงไม่มีความหมายสำหรับฉัน และทักษะพิเศษนี้คงหมายถึง 'อวตาร'..'
จากนั้นเขาก็กดดูรายละเอียดของการเพิ่มสถานะ สิ่งของต่างๆ มากมายก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาจนทำให้เขารู้สึกเวียนหัว
ภายใต้หมวดหมู่ 'กายภาพ' มีหมวดหมู่ย่อยต่างๆ เช่น 'ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ' พร้อมด้วยรายการโดยละเอียดของกล้ามเนื้อส่วนบนและส่วนล่างของร่างกาย รวมถึงส่วนต่างๆ ที่เฉพาะเจาะจง เช่น กล้ามเนื้อข้อต่อและกล้ามเนื้อต้นขา เป็นต้น
แม้แต่ "ความคล่องตัว" ยังมีหมวดหมู่ย่อย เช่น การตอบสนองทันที การมองเห็นแบบรอบทิศทาง และรายการรายละเอียดอื่นๆ ซึ่งใช้กับหมวดหมู่นั้นๆ
'...พวกเขาใส่ข้อมูลมากมายลงในหน้าร้าน แต่พวกเขากลับไม่แสดงค่าสถานะที่จะได้รับ!'
ขณะที่กำลังดูของในร้านค้ากรรมา เขาก็รู้สึกท้อแท้เล็กน้อย แต่ก็มีรายการหนึ่งที่สะดุดตาเขา
[กายภาพ - ความอดทน - ฟื้นฟูพละกำลัง (10,000)]
เขาจ้องมองมันอย่างลังเล เหมือนกับถูกอะไรบางอย่างเข้าสิง เขาจึงเลือกมันโดยไม่ลังเล
แต่ก็ไม่มีผลลัพธ์ที่เห็นชัดเจอะไร เป็นเพียงการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่สังเกตเห็นได้ในทันที เขาเลือกจุดบริเวณเขาที่ได้รับบาดเจ็บนั้น
[เสริมกำลังฟื้นฟู (20,000)]
เขาจึงเลือกมันอีกครั้งหนึ่ง
เขารู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่ขา รู้สึกเหมือนว่าอาการบาดเจ็บกำลังหายดี
หากเขาสามารถเพิ่มระดับมันมากกว่านี้ก็คงจะดี
[เสริมกำลังฟื้นฟู (40,000)]
เขาเลือกมันอีกครั้งแล้ว
ขาของเขาเริ่มรู้สึกเสียวซ่า จากนั้นไม่นานก็หายสนิท
ในการเลือกแต่ละครั้ง ปริมาณกรรมาที่ใช้ไปจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แต่เมื่อเทียบกับปริมาณทั้งหมดที่เขามี มันนับว่าไม่เป็นอะไรเลย
[เสริมกำลังฟื้นฟู (80,000)]
เขาเลือกมันอีกครั้งแล้ว
อาการบาดเจ็บที่ขาของเขาไม่ได้แค่ทำให้รู้สึกไม่สบายเท่านั้น แต่ยังมีความเจ็บปวดอยู่ มันเป็นบาดแผลที่ทำให้ครอบครัวของเขาหายไป และผลที่ตามมาที่ทำให้เขาต้องอยู่แต่ในห้องเช่นนี้
มันเป็นสัญลักษณ์ของอารมณ์ด้านลบทั้งหมดที่สะสมมาเป็นเวลานาน รวมถึงความเศร้า ความสิ้นหวัง ความเจ็บปวด ความขาดแคลน การยอมแพ้ และความทุกข์ทรมาน
[เสริมกำลังฟื้นฟู (160,000)]
เขาก็เลือกมันอีกครั้งหนึ่ง
ความเจ็บปวดแล่นผ่านขาทั้งสองข้างของเขา ขณะที่เขาพับขากางเกงขึ้น ผิวหนังที่เรียบเนียนซึ่งเคยเป็นแผลเป็นจากการผ่าตัดก็ได้หายไปแล้ว
แล้วเขาก็ตระหนักได้ว่า..
[การฟื้นตัวเกินมาตรฐานแล้ว ได้รับทักษะ: 'การฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว']
ขาที่เคยเดินกะเผลกเพราะได้รับบาดเจ็บได้ฟื้นตัวเต็มที่แล้ว และแข็งแรงกว่าเดิมด้วยซ้ำ
….
เขาจมอยู่กับอารมณ์ที่ไม่คุ้นเคยนี้ชั่วขณะ ชื่นชมยินดีกับความจริงที่ว่าเขาได้ละทิ้งพันธนาการที่ผูกมัดเขาไว้เป็นเวลานานบางส่วนได้แล้ว
เขาใช้เวลาสักครู่เพื่อตั้งสติ แน่นอนว่าปัญหาทั้งหมดยังไม่ได้รับการแก้ไข เขายังคงออกไปข้างนอกไม่ได้ แต่ตอนนี้มีความหวังและความเชื่อผุดขึ้นมาว่าเขาสามารถเอาชนะสิ่งนี้ได้
เมื่อตรวจสอบทักษะ "การฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว" แล้ว เขาก็พบว่ามันเป็นทักษะที่ช่วยเพิ่มการฟื้นตัวได้จริง แม้ว่าอาจไม่สามารถฟื้นฟูส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ขาดได้ แต่ดูเหมือนว่าจะสามารถรักษาบาดแผลส่วนใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เขาสงบใจแล้ว เขาก็ไปที่ร้านค้ากรรมาอีกครั้ง
[ร้านค้ากรรมา]
[กลับ (1,000,000) (ไม่พร้อมใช้งาน)]
[การเพิ่มทักษะพิเศษ (300,000)]
[การปรับปรุงสถานะ – ดูรายละเอียด]
[กรรมาที่มีอยู่ - 1,600,213]
'คะแนนกรรมาที่มากขนาดนี้ฉันจะใช้อัพเกรดอะไรดี?'
มันไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบมัน แต่มันแค่ทำให้เขารู้สึกมึนงงเล็กน้อยเท่านั้น
สายตาของเขาไปหยุดอยู่ที่ตัวเลือก "การเสริมทักษะเฉพาะ" การอเวคความสามารถพิเศษ "อวตาร" ของเขา เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด ถ้าเขาอัพเกรดความสามารถนี้ มันจะทำอะไรได้อีก? บางทีมันอาจช่วยให้เขาเติบโตต่อไปได้
การเพิ่มทักษะพิเศษนั้นถูกปรับแต่งให้เข้ากับความสามารถพิเศษของผู้อเวค ปกติแล้วการพัฒนาทักษะสามารถทำได้โดยฝึกฝนความสามารถและใช้ทักษะนั้นโดยไม่ต้องใช้กรรม แต่หากใช้ร้านค้ากรรมาจะทำให้กระบวนการนี้เร็วขึ้นอย่างมาก
ตอนนี้เขามีหนทางที่จะเดินทางไปยังอีกโลกหนึ่งได้โดยไม่ต้องเสี่ยงอันตรายใดๆ แล้ว อย่างไรก็ตามในสถานะปัจจุบันของเขา ความสามารถพิเศษของเขาค่อนข้างไร้ประโยชน์ในการต่อสู้
ถ้าเขาพัฒนาทักษะพิเศษนี้แล้ว เขาหวังว่ามันจะช่วยเขาได้ในสถานการณ์นี้
เขาจึงทำการพัฒนาทักษะพิเศษนี้ทันที
หลังจากอาการปวดหัวหายไปชั่วขณะ ในตอนแรกเขาไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น เป็นเพราะข้อความ 'ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่' ที่ปรากฏขึ้นด้านหลังแถบทักษะร่างอวตารทำให้รู้ว่าเขาได้ทำการอัพเกรดมันไปแล้ว
เขาจึงทำการเรียกร่างอวตารออกมา
จากนั้นในไม่ช้าเขาก็มองเห็นว่าอะไรเปลี่ยนไป สมองของเขาถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ไม่สิ..มันเป็นสองส่วนมาตั้งแต่แรก สิ่งที่แตกต่างออกไปคือจิตสำนึกหนึ่งยังคงสลับไปมาระหว่างสองร่างกาย แต่เขาสามารถแบ่งความคิดของเขาออกเป็นสองส่วนและเคลื่อนไหวแยกกันได้อย่างชำนาญ
เขายืนหันหน้าเข้าหาอวตารของตัวเอง เขาสามารถยอมรับมุมมองทั้งสองแบบได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่รู้สึกอึดอัดใดๆ
"เอาล่ะ คุณยังคงดูหล่อเหมือนเคย"
“แล้วคุณก็เหมือนกัน ค่อนข้างมีกล้ามนะ..ดูเหมือนคุณจะออกกำลังกายมาบ้าง”
“แน่นอน มันเป็นผลลัพธ์จากความพยายามอย่างต่อเนื่อง”
ตอนนี้เราก็สามารถสนทนากันได้อย่างราบรื่นแล้ว... แม้ว่าในความเป็นจริงมันจะเหมือนกำลังพูดคุยกับตัวเองก็ตาม
เขาเริ่มทดลองทำสิ่งต่างๆ เพื่อดูว่าเขาจะไปได้ไกลแค่ไหน ร่างทั้งสองสามารถเผชิญหน้ากันและทำภารกิจต่างๆ พร้อมกัน เขาสามารถวิดพื้นและซิทอัพไปพร้อมๆ กันได้ เขาสามารถทำความสะอาดขณะท่องอินเทอร์เน็ตและเล่นเกมด้วยได้
หลังจากทำไปหลายอย่างเขาก็เผลอหลับไปชั่วขณะ
'โอ้ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะทำเช่นนี้'
ถึงเวลาต้องโฟกัสใหม่แล้ว เขาจึงเคลียร์สิ่งต่างๆและจัดระเบียบความคิดเกี่ยวกับทักษะพิเศษที่ได้รับการปรับปรุง
ไม่เพียงแต่การทำงานหลายอย่างพร้อมกันจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่ตอนนี้เขายังใช้สมองสองส่วนแยกกัน ทำให้สามารถคิดได้ทีละส่วน ดูเหมือนว่าสถานะทางจิตและจิตวิญญาณของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน
'และยังมีอีกสิ่งหนึ่ง'
เขาใช้ร่างอวตารหยิบเก้าอี้ที่อยู่ในห้องขึ้นมา
แล้วเมื่อปล่อยเรียกกลับมา…
ร่างอวตารก็หายไปพร้อมกับเก้าอี้ ตอนนี้นอกจากจะสามารถแยกทำสิ่งต่างได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว ยังสามารถเรียกและพกพาสิ่งของที่เขาจับต้องได้อีกด้วย! แต่มันจำกัดอยู่ที่น้ำหนักที่เขาสามารถแบกได้ แต่ก็เหมือนกับการสร้างพื้นที่มิติพิเศษขึ้นมา
ความสามารถนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในอนาคตอย่างแน่นอน และเขาก็พยักหน้าด้วยความพอใจและความคาดหวัง
จากนั้นจึงตรวจสอบร้านค้ากรรมาอีกครั้ง
[เพิ่มทักษะพิเศษ (400,000)]
ต้นทุนการเพิ่มขึ้นได้กลายเป็นสองเท่าทุกครั้ง อย่างไรก็ตามเขาสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับมันได้อีกเล็กน้อย โดยไม่ลังเลเขาเลือก 'การเสริมทักษะพิเศษ' อีกครั้ง และด้วยความปวดหัวข้อความก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา
[ทักษะพิเศษของคุณได้รับการพัฒนาและปลดล็อคศักยภาพของมัน คุณได้รับทักษะพิเศษ 'แยกจิต']....
………………