บทที่ 27: เอซจากไป
หกปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ยกเว้นการพัฒนาตัวละครของเคนที่ในที่สุดก็ถึง 85% และเขาก็สามารถเข้าถึงสตอร์มเบรกเกอร์ได้ แม้ว่าเขาจะใช้สตอร์มเบรกเกอร์ได้ แต่เขาก็ยังไม่สามารถใช้พลังเต็มรูปแบบได้
พลังเต็มรูปแบบที่ว่าคือการเปิดไบฟรอสต์!!
มันจะเปิดได้ก็ต่อเมื่อเขาพัฒนาถึง 100%
นี่เป็นเรื่องปวดหัวเล็กน้อยสำหรับเคน แต่เขาก็ยอมรับมันเพราะเขาสามารถใช้สตอร์มเบรกเกอร์สำหรับการใช้งานปกติอื่นๆ ได้ และตอนนี้มันก็ไม่ได้สำคัญสำหรับเขามากนัก
วันนี้เป็นวันที่เอซจะออกเดินทาง และทุกคนมารวมตัวกันที่หมู่บ้านฟูชา เพื่อส่งเอซ เอซจริงๆ แล้วหวังว่าเคนจะเข้าร่วมกลุ่มของเขา แต่เขาปฏิเสธโดยให้ข้ออ้างว่ายังไม่แก่พอ
"นายอายุเป็นพันปีแล้ว แล้วยังคิดว่าตัวเองเป็นเด็กอยู่อีกเหรอ?"
เอซบ่น เขารู้ว่าเคนดูเหมือนจะตัดสินใจแล้วที่จะเข้าร่วมกับลูฟี่ ซึ่งแปลกนิดหน่อยสำหรับเอซ เพราะเคนแข็งแกร่งมากและมีผลปีศาจที่สามารถสร้างกองทัพและล้มล้างโลกได้อย่างง่ายดาย
แต่ดูเหมือนเคนจะมีความสุขกับการที่ลูฟี่จะเป็นกัปตันในอนาคต แม้จะสงสัยแต่เขาก็ไม่ได้ถาม ในช่วงหลายปีนี้ พี่น้องทั้งสามได้ขโมยเงินมามากมาย และก่อนที่เอซจะจากไป เคนก็แน่ใจว่าเอซมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการแล่นเรือ เพราะเขาจะให้เรือที่ใหญ่กว่าเดิมกับเอซ
พวกเขาใช้เงินเกือบ 50 ล้านเบลลี่ไปกับเรือของเอซ ด้วยเรือลำนี้อย่างน้อยการไปถึงล็อกทาวน์ก็จะง่าย จะดีกว่าถ้าเขาหาเรือที่ดีกว่าได้ แต่หมู่บ้านฟูชาไม่ได้มีชื่อเสียงด้านการต่อเรือ เอซยังเอาเงินเพิ่มอีก 100 ล้านไปเพื่อซื้อเรือที่ดีกว่าในภายหลัง
ครั้งนี้ลูฟี่ไม่ได้ร้องไห้ตอนที่เอซจากไป แต่กลับรู้สึกตื่นเต้น เวลาของเขากำลังจะมาถึง ทั้งเอซและลูฟี่พัฒนาขึ้นอย่างมาก เอซอยู่ที่ 80% และลูฟี่อยู่ที่ 70% เอซสามารถเทียบชั้นกับพลังของเนจิหลังข้ามเวลาตอนที่พวกเขาไปช่วยกาอาระ เหลืออีกนิดเดียวที่เอซจะไปถึงระดับของเนจิในช่วงสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4
เอซภูมิใจในพละกำลังและพลังดวงตาของเขา เขามองเห็นได้ไกลขึ้นและใช้จุตสึได้มากกว่าเดิม จริงๆ แล้วเขายังพัฒนาในมวยอ่อนแปดทิศได้ดีด้วย เขาแทบรอไม่ไหวที่จะออกสำรวจโลก
"เอซ เจอกันในทะเลเร็วๆ นี้ แล้วคราวหน้าฉันจะต้องเอาชนะนายให้ได้" ลูฟี่ยกมือขึ้นพูด ส่วนเคนกอดเอซและพูดว่า
"อย่าให้สัญญาที่นายรักษาไม่ได้กับคนอื่น "
"ฉันรักษาสัญญาเสมอนะ!!" เอซโต้กลับ
จริงเหรอ!! จริงเหรอ?
ยามาโตะ ลูฟี่ ทามะ หนวดขาว.... ต้องให้พูดต่ออีกไหม? การที่นายไม่ยอมถอยทำให้หลายคนปวดหัวและทำให้คนอื่นทุกข์ทรมาน
"นายไม่ได้ทำแบบนั้น และฉันหวังว่านายจะไม่เจอปัญหา คิดก่อนจะทำอะไร พวกเราไม่ได้อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารที่นี่ และแกรนด์ไลน์ไม่ได้ง่าย" เคนเตือนเอซอีกครั้ง เขาเปลี่ยนแปลงเรื่องราวไปมากแล้ว เขาจึงต้องให้เอซระมัดระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับโลกใบนี้
และด้วยการอำลาครั้งสุดท้าย เอซก็จากไป ตอนนี้เหลือแค่ลูฟี่และเคน หลังจากเอซจากไป เคนก็เปิดเผยความจริงว่าเขาจะเข้าร่วมกลุ่มของลูฟี่
"โยโฮ!! สุดยอด... ฮ่าๆๆ... พี่น้องเราสองคนจะออกผจญภัยสนุกสนานและกินเนื้อด้วยกัน" ลูฟี่กระโดดด้วยความดีใจขณะที่พวกเขากลับบ้านดาดัน เขาไม่คาดคิดว่าพี่ชายของเขาเองจะตัดสินใจเข้าร่วม และยังยอมให้เขาเป็นกัปตันอีก
"แต่กัปตันในอนาคต ฉันจะบอกนายนะ ถ้านายทำตัวหลงทาง ฉันจะต่อยนายให้หลาบจำ" เคนเตือน ลูฟี่มักจะโง่ในทุกเรื่องยกเว้นเรื่องเนื้อและการต่อสู้ ไอคิวทั้งหมดของเขาจะไปอยู่ที่การต่อสู้ ซึ่งเขาจะใช้สมองเต็มที่และเอาชนะศัตรู
ลูฟี่ไม่สนใจคำดูถูกและแค่มีความสุขและหัวเราะ เคนส่ายหัวขณะที่พวกเขาออกไปหาอาหาร เขาค่อนข้างแน่ใจว่าดาดันเศร้าเล็กน้อยที่เห็นเอซจากไป เขาจึงต้องหาอาหารให้คนพวกนี้อิ่มท้อง
เขาหยิบสตอร์มเบรกเกอร์และบินออกไปหาเนื้อ เนื้อจากป่าไม่ทำให้เขาพอใจอีกต่อไป และเขาจะออกไปทะเลเพื่อล่าเจ้าทะเล ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มันเป็นความทรมานเล็กน้อยสำหรับเคน เขาพัฒนา ฮาคิ สัตเกตุ ได้อย่างมาก แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใน ฮาคิ เกราะ เลย
มันเหมือนคูน้ำที่เขาไม่มีทางข้ามไปได้ และด้วยเหตุนี้เขาจึงออกไปทะเลเพื่อล่า เจ้าทะเล พวกมันให้เนื้อมากกว่าและยังช่วยให้เขาได้ฝึกฮาคิทั้งสองแบบ การมี ฮาคิสังเกตุ ระดับสูงช่วยให้เขาหาเจ้าทะเลได้ง่าย และเขายังได้ฝึกพลังร่างกาย
แม้จะไม่ค่อยได้ผลก็ตาม
แต่สุดท้ายมันก็ยังเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าเนื้อจากป่า บริเวณรอบๆ หมู่บ้านฟูชาตอนนี้สงบสุขมากขึ้น และความจริงแล้วนี่ช่วยให้การค้าในหมู่บ้านดีขึ้น เพราะเจ้าทะเล ในบริเวณนั้นตายไปแล้วหรือไม่ก็ซ่อนตัวด้วยความกลัว
ดาดันตกใจมากตอนที่เห็นเจ้าทะเลตัวใหญ่ที่เคนเพิ่งนำมา และตั้งแต่นั้นมา พวกโจรก็แทบจะลืมออกไปทำงาน พวกเขาอยู่กับอาหารที่เคน เอซ และลูฟี่นำมา
ในที่สุดหลังจากผ่านไปอีก 4 ปี ก็ถึงเวลาที่เคนและลูฟี่จะออกเดินทางสู่การผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่ามีเซอร์ไพรส์รออยู่ !!!