บทที่ 11: การปรากฏตัวอย่างวีรบุรุษ
"ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้!" เสียงตะโกนก้องกังวานดังขึ้น เมื่อเอซและซาโบ้บุกเข้ามาในรังของพอร์เชอมี่และลูกสมุน เอซผู้มีนิสัยเลือดร้อนพุ่งเข้าโจมตีพอร์เชอมี่ทันที แต่กลับถูกจับตัวได้อย่างง่ายดาย ซาโบ้เห็นดังนั้นจึงต้องแอบโจมตีจากด้านหลังเพื่อช่วยเพื่อนที่ถูกจับ
ลูฟี่ดีใจที่เห็นเอซมาช่วย แต่ก็เป็นห่วงชีวิตของทั้งเอซและซาโบ้
"ซาโบ้ ไปช่วยลูฟี่ ฉันจะจัดการไอ้ยักษ์นี่เอง" เอซสั่งการ และซาโบ้ก็วิ่งตรงไปที่ลูฟี่ทันที แน่นอนว่าลูกสมุนพยายามขัดขวาง แต่ด้วยความที่ซาโบ้ตัวเล็ก ว่องไว และยืดหยุ่น เขาจึงหลบหลีกพวกนั้นได้อย่างคล่องแคล่ว พร้อมกับฉวยมีดเล่มเล็กมาได้หนึ่งเล่ม
เพียงแค่ฟันเชือกครั้งเดียว เขาก็สามารถอุ้มลูฟี่ที่แทบจะหมดสติจากการถูกทุบตีและเสียเลือดขึ้นบ่า
"เอซ ไปกันเถอะ ไม่จำเป็นต้องสู้หรอก หนีดีกว่า"
ซาโบ้เกือบจะออกจากที่ซ่อนได้แล้ว เมื่อสังเกตว่าเอซไม่ได้วิ่งตามมา พอหันกลับไปมอง เขาก็เห็นเอซยืนเผชิญหน้ากับพอร์เชอมี่ ดูท่าว่าจะต้องการสู้ซึ่งๆ หน้า!!!
"ไอ้เด็กน้อย แกคิดว่าพวกเราเป็นแค่พวกอันธพาลป่าเถื่อนงั้นเหรอ พวกเราเป็นโจรสลัดนะ แกคิดว่าจะเอาชนะพวกเราได้? แกควรจะวิ่งหนีไปซะ" เส้นเลือดที่ขมับของพอร์เชอมี่ปูดโปนขึ้นมา เขาทนไม่ได้ที่เห็นเด็กอายุแค่ 10 ขวบมายืนท้าสู้!!!
ในตอนนั้นเอง เสียงฟ้าร้องก็ดังกึกก้องนอกอาคาร ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว สายฟ้าแลบแปลบปลาบระหว่างก้อนเมฆ ส่องแสงให้เกรย์เทอร์มินัลสว่างวาบเป็นช่วงๆ เอซพร้อมเผชิญหน้ากับพอร์เชอมี่ ในขณะที่ซาโบ้รู้สึกหวาดกลัวที่เห็นเอซหยุดยืน จู่ๆ ก็มีเสียงดังสนั่นบนหลังคาที่พังครึ่งหนึ่งของที่ซ่อน
ก่อนที่พวกเขาจะทันเงยหน้าขึ้นมองว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กชายที่ดูอายุราวๆ 8-9 ขวบก็กระโดดลงมาจากด้านบน เขาดูสง่างามในชุดที่ดูคล้ายกับที่ชาวโรมันหรือกรีกโบราณเคยสวมใส่บนโลก
กระแสไฟฟ้าสีฟ้าวิ่งวูบวาบรอบร่างของเขา ในมือถือค้อนที่มีประกายไฟฟ้าสีฟ้าเด่นชัด ค้อนนั้นดูประณีตงดงาม
ลูฟี่ หนวดขาว จินเบ, ทามะ... ทุกคนต้องเจ็บปวดรวดร้าวเมื่อเห็นเอซเสียชีวิตในสงคราม นี่มันเห็นแก่ตัว เขาไม่ได้อยู่ในโลกนี้คนเดียว เขามีเพื่อน มีครอบครัว แต่เขาไม่เคยนึกถึงผู้คนเหล่านั้นเลยเวลาที่เผชิญหน้ากับศัตรูมากมาย
"นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? แล้วสายฟ้านั่นคืออะไร?" เอซมองเห็นประกายไฟฟ้าที่ยังคงวิ่งวูบวาบอยู่บนชุด 'ประหลาด' ของเคน และเคนตอบคำถามของเอซด้วยหมัดที่ฟาดลงบนหัว หนักพอที่จะทำให้ผิวบวมแดง
"บ้าเอ้ย! ทำไมต้องตีฉันด้วย?" น้ำตาคลอเบ้าเมื่อเอซเห็นความรุนแรงที่ไม่คาดคิดของเคน เขางุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว แถมยังโดนต่อยอีก ไม่เคยเห็นเคนใช้ความรุนแรงมาก่อน เคนมักจะเป็นคนใจเย็นที่คอยดูแลทุกคน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต่อยใคร
"ฉันต่อยนายเพราะนายเป็นแค่ไอ้คนเห็นแก่ตัว!!!"
"นายว่าไงนะ? พูดอีกทีสิ ?"
"ไอ้คนเห็นแก่ตัวที่คิดถึงแต่ตัวเอง นั่นแหละที่ฉันพูด จะทำไมล่ะ?" ใบหน้าของเคนเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมที่จะต่อยเอซอีกครั้ง ซาโบ้และคนอื่นๆ มองคู่นี้ด้วยความงุนงง เด็กคนนี้มาจากไหน? ทำไมมีประกายไฟฟ้ารอบตัว? พวกเขามีคำถามมากมายที่ไม่มีคำตอบ แต่พอร์เชอมี่ไม่สนใจเรื่องพวกนั้น เขารู้สึกได้ว่าเด็กคนใหม่ที่เพิ่งมาถึงไม่ใช่คนธรรมดา และเขาต้องจัดการคนนี้ก่อนที่จะไปจบงานกับเอซและซาโบ้
ไม่รอช้า เขาฟันดาบใส่คอของเคนที่กำลังทะเลาะกับเอซ ดวงตาของเอซและลูฟี่เบิกกว้างเมื่อเห็นภาพนั้น
"เคน หลบเร็ว!!!"
"อึก...!!"
ก่อนที่เคนจะทันทำอะไร ดาบก็เข้ามาใกล้แค่นิ้วเดียว และคมดาบใหญ่ก็ฟันเป้าหมายอย่างแม่นยำ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา กลับไม่เป็นอย่างที่ทุกคนคิด บางคนที่หลับตาปี๋เพราะคิดว่าเด็กประหลาดที่มีไฟฟ้านี่จะต้องตายใต้คมดาบของพอร์เชอมี่ แทบจะช็อกตายอีกรอบเมื่อเห็นภาพต่อมา
ดาบของพอร์เชอมี่แทบจะไม่สามารถเจาะผิวหนังของเคนได้ ไม่มีแม้แต่เลือดไหลออกมาจากจุดที่คมดาบสัมผัส พอร์เชอมี่อ้าปากค้างเมื่อเห็นภาพนั้น และคนอื่นๆ ก็เช่นกัน พวกเขาไม่คาดคิดว่าดาบใหญ่ขนาดนั้นจะไม่สามารถแทงทะลุร่างของเด็กตัวเล็กๆ คนนี้ได้ มันพลิกโลกทัศน์ของพวกเขาไปโดยสิ้นเชิง!!!
"อะไรกันวะเนี่ย!!"
"นานิ๊ !!!"
เคนค่อยๆ หันหน้ามามองตอนที่พอร์เชอมี่ดึงดาบออกจากคอของเขา เขาไม่อยากเชื่อว่าแม้แต่รอยขีดข่วนบนผิวของเด็กคนนี้ก็ยังทำไม่ได้ และเพื่อให้แน่ใจว่าทำถูกต้อง เขาก็เตรียมฟันอีกครั้ง
"แกเป็นใครกันแน่?" พอร์เชอมี่คำรามพลางยกมือขึ้นสูงเพื่อสร้างแรงเหวี่ยงฟันเคน เคนไม่ตอบ เพียงแต่ค่อยๆ ยกค้อนในมือซ้ายขึ้น และก่อนที่พอร์เชอมี่จะทันฟันสุดแรง เคนก็ขว้างค้อนใส่ข้อมือของศัตรูไปแล้ว