ตอนที่ 3: การทดสอบแรก และ ตอนที่ 4: พลังแห่งความกล้าและการผสานของวิทยาศาสตร์
ตอนที่ 3: การทดสอบแรก
อิธานยังคงยืนอยู่กลางลานกว้างในหมู่บ้านมนตรา สายตาของผู้คนรอบข้างที่มองเขาด้วยความสงสัยยังคงติดตามการเคลื่อนไหวของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้เต็มไปด้วยความลึกลับและไม่คุ้นเคย เขายังไม่สามารถทำความเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ แต่ในที่สุด เขาก็ได้สัมผัสถึงบางสิ่งที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน พลังที่หมุนเวียนรอบตัวเขา ราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของทุกสิ่งในที่แห่งนี้
"ข้าไม่เคยรู้สึกอะไรเช่นนี้มาก่อน" อิธานพึมพำ
"นั่นคือก้าวแรก" เอลิซ่าพูดด้วยรอยยิ้ม "แต่การจะใช้มนตราได้นั้น เจ้าต้องทำมากกว่าสัมผัสมัน เจ้าต้องเชื่อมโยงกับมันให้ลึกซึ้ง"
คำพูดของเอลิซ่าทำให้อิธานยิ่งสับสน เขาไม่เคยเข้าใจว่าการเชื่อมโยงกับพลังที่มองไม่เห็นนั้นหมายถึงอะไร สิ่งที่เขาเคยเรียนรู้ทั้งหมดในโลกเดิมของเขาขัดแย้งกับสิ่งที่เขากำลังพยายามทำอยู่
"ข้าจะสอนเจ้า" เอลิซ่าพูดพร้อมกับยกมือขึ้น วงแหวนเล็กๆ ของแสงสว่างเริ่มก่อตัวรอบๆ ตัวเธอ ราวกับว่าแสงนั้นตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของเธอ เธอค่อยๆ ส่งแสงนั้นไปยังอิธาน ราวกับจะถ่ายทอดพลังบางอย่างให้เขา
"หลับตาและหายใจลึกๆ" เธอสั่ง
อิธานทำตามคำบอก เขาหลับตาลงและหายใจเข้าลึกๆ พยายามสงบจิตใจ ลมหายใจของเขาค่อยๆ ช้าลง ขณะที่เขาพยายามรับรู้พลังงานรอบตัว มันเหมือนกระแสน้ำที่ไหลเวียนอยู่รอบๆ ตัวเขา แต่มันยังคงคลุมเครืออยู่ในความรู้สึกของเขา
"เจ้ารู้สึกถึงมันไหม?" เอลิซ่าถามเสียงเบา
"ข้า... ข้ารู้สึกได้ แต่ยังไม่ชัดเจน" อิธานตอบ
"นั่นเป็นเพราะเจ้ากำลังพยายามควบคุมมันเหมือนกับที่เจ้าควบคุมเครื่องจักร" เอลิซ่าอธิบาย "มนตราไม่สามารถถูกควบคุมแบบนั้น มันคือการประสานและปล่อยให้มันไหลเวียนไปตามธรรมชาติ เจ้าไม่สามารถบังคับมันได้"
อิธานพยักหน้า เขาพยายามปล่อยตัวเองให้เป็นไปตามคำแนะนำของเอลิซ่า ไม่พยายามควบคุมพลังงาน แต่ปล่อยให้มันไหลเวียนและเชื่อมโยงกับเขาเอง เขาหายใจเข้าและออกอย่างช้าๆ จนกระทั่งเขาเริ่มรู้สึกว่าร่างกายของเขาเบาลง
ทันใดนั้น ความรู้สึกที่อิธานเคยสัมผัสอยู่แต่คลุมเครือก็เริ่มชัดเจนขึ้น เขารู้สึกถึงการไหลของพลังงานที่นุ่มนวลรอบๆ ตัว มันไม่ใช่แค่พลังงานที่มองไม่เห็น แต่มันเป็นพลังที่มีชีวิตจิตใจ
"นั่นแหละ" เอลิซ่าพูด "เจ้าทำได้แล้ว"
อิธานลืมตาขึ้น เขามองไปที่มือของตัวเอง และเห็นแสงบางๆ ลอยรอบๆ มือของเขา มันเป็นแสงเล็กๆ แต่ก็มีพลังบางอย่างที่เขารู้สึกได้
"ข้าทำได้จริงๆ!" อิธานพูดอย่างตกใจ
"ใช่ เจ้าเริ่มเข้าใจแล้ว" เอลิซ่ายิ้ม "แต่เจ้าต้องฝึกฝนมากกว่านี้ มนตราไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะเชี่ยวชาญได้ในเวลาอันสั้น มันต้องใช้เวลาและการฝึกฝน"
ทันใดนั้น เสียงกึกก้องจากที่ไกลก็ดังขึ้น ทำให้ทั้งสองคนหันไปมองในทิศทางเดียวกัน
"เกิดอะไรขึ้น?" อิธานถามอย่างกังวล
เอลิซ่าขมวดคิ้ว "มันเป็นเสียงของป่า... มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น"
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ชัดเจนและใกล้ขึ้น อิธานมองไปทางต้นกำเนิดของเสียง และเห็นแสงสีแดงสว่างวาบในป่าที่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน แสงนั้นดูไม่เป็นธรรมชาติ และส่งความรู้สึกอันตรายออกมา
"เราไปกันเถอะ!" เอลิซ่าพูดพลางเร่งให้เขาเดินตาม
พวกเขารีบออกจากหมู่บ้านและมุ่งหน้าไปยังต้นกำเนิดของแสงแดงนั้น ขณะที่พวกเขาเข้าไปใกล้ อิธานเริ่มสังเกตเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติ ต้นไม้และพืชพรรณที่เคยมีแสงเรืองรองอย่างนุ่มนวลกลับมืดหม่นลง เหมือนว่าพลังงานชีวิตของมันถูกดูดกลืนไป
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น?" อิธานถามอย่างกังวล
เอลิซ่าหยุดยืนและมองไปข้างหน้า สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล "นั่นคือพลังงานด้านมืดของมนตรา... เราต้องรีบหยุดมันก่อนที่มันจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง"
อิธานมองไปข้างหน้าและเห็นกลุ่มคนในชุดคลุมดำกำลังยืนล้อมรอบวงกลมพลังงานสีแดงที่หมุนวนอย่างรวดเร็ว พลังงานนั้นเต็มไปด้วยความรุนแรงและโกลาหล แตกต่างจากมนตราที่เขาเพิ่งได้สัมผัส
"พวกเขากำลังทำอะไร?" อิธานถามเสียงเบา
"พวกเขากำลังเรียกสิ่งที่ไม่ควรเรียกมา" เอลิซ่าตอบด้วยเสียงเคร่งเครียด
ก่อนที่อิธานจะได้ถามอะไรเพิ่มเติม กลุ่มคนชุดคลุมดำหันมาและมองตรงมาที่พวกเขา แสงสีแดงจากพลังงานนั้นสะท้อนในดวงตาของพวกเขา พวกมันไม่มีความเป็นมิตรเลยแม้แต่น้อย
"เจ้ามาทำอะไรที่นี่?" หนึ่งในกลุ่มนั้นถามเสียงเย็นชา
"พวกเจ้าไม่ควรทำสิ่งนี้" เอลิซ่าตอบกลับไปอย่างเด็ดขาด "พลังด้านมืดจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงตัวพวกเจ้าด้วย"
"พวกเรามีอิสระในการเลือกทางของเรา" ชายคนนั้นพูด "และเจ้าจะไม่มีวันเข้าใจพลังที่แท้จริงของมัน"
เอลิซ่าขมวดคิ้ว เธอรู้ดีว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้จะไม่จบลงด้วยคำพูด แต่เธอก็ไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาทำลายล้างป่าและทุกสิ่งในดินแดนนี้ได้
"อิธาน เจ้าต้องใช้พลังที่เจ้าเพิ่งเรียนรู้ เพื่อช่วยข้า" เอลิซ่ากระซิบ
อิธานเบิกตากว้าง "ข้าเพิ่งเริ่มเข้าใจมัน ข้าจะทำได้อย่างไร?"
"เจ้าต้องเชื่อในตัวเอง" เอลิซ่าตอบ "มนตราเป็นเรื่องของการเชื่อมโยงและความตั้งใจ ถ้าเจ้ามีความตั้งใจที่แน่วแน่ เจ้าก็จะสามารถใช้มันได้"
อิธานหายใจลึก เขารู้สึกกดดันอย่างมาก แต่เขาก็รู้ว่าตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่น เขาต้องพยายามอย่างเต็มที่ เขาหลับตาลง พยายามเชื่อมโยงกับพลังงานที่เขาเพิ่งเรียนรู้ที่จะสัมผัสเมื่อไม่นานมานี้ เขาพยายามนึกถึงความสงบและการไหลเวียนของพลังงานรอบตัว
"ทำตามข้า" เอลิซ่าพูดเบาๆ พร้อมกับยกมือขึ้น แสงสีฟ้าอ่อนเริ่มส่องสว่างรอบตัวเธอ
อิธานยกมือขึ้นตาม พยายามสัมผัสพลังงานที่ไหลเวียนอยู่รอบตัวเขา เขารู้สึกถึงมันเล็กน้อย มันยังคงไม่ชัดเจน แต่เขาก็พยายามที่จะเชื่อมโยงกับมัน
ทันใดนั้น แสงสีแดงจากวงกลมพลังงานของกลุ่มคนชุดคลุมดำก็เริ่มรุนแรงขึ้น พวกมันกำลังเตรียมการโจมตี
"เตรียมตัวให้พร้อม" เอลิซ่ากระซิบ "อย่าลืมว่าเจ้ามีพลังอยู่ในตัวเอง เจ้าแค่ต้องเชื่อในมัน"
ตอนที่ 4: พลังแห่งความกล้าและการผสานของวิทยาศาสตร์
เสียงหวีดหวิวของพลังงานสีแดงที่หมุนวนรอบวงกลมก้องไปทั่วป่า อากาศรอบตัวอิธานเต็มไปด้วยความตึงเครียด หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เขายืนอยู่ข้างเอลิซ่า กลุ่มคนชุดคลุมดำยังคงเตรียมที่จะปล่อยพลังโจมตี
"เจ้าพร้อมหรือยัง?" เอลิซ่าถามเสียงเบาขณะพลังมนตราสีฟ้าเรืองแสงรอบตัวเธอเริ่มเข้มแข็งขึ้น
อิธานมองเธออย่างลังเล แม้ว่าเขาจะเพิ่งเริ่มสัมผัสพลังมนตราได้ แต่ความมั่นใจของเขายังไม่เต็มร้อย สิ่งที่เขาเชี่ยวชาญคือการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เขาจึงเริ่มคิดว่า หากเขาสามารถผสานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เข้ากับพลังมนตราได้ มันอาจจะเป็นจุดแข็งที่ไม่เหมือนใคร
"ข้าต้องพึ่งพาเทคโนโลยีด้วย!" อิธานพูดพร้อมคว้าอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ติดอยู่กับเข็มขัด เขาเปิดใช้งานอุปกรณ์นั้น แสงสีฟ้าอ่อนจากพลังงานของอุปกรณ์ส่องประกายขึ้น ขณะที่หน้าจอเล็กๆ แสดงข้อมูลของพลังงานที่ไหลเวียนรอบตัวเขา
"นั่นคืออะไร?" เอลิซ่าถามอย่างสงสัย
"นี่คือเครื่องวิเคราะห์พลังงาน" อิธานอธิบาย "มันถูกออกแบบมาเพื่อจับคลื่นพลังงานที่ไม่สามารถมองเห็นได้ ข้าใช้มันเพื่อศึกษาและทำความเข้าใจมนตรา...ถ้ามันได้ผลตามที่ข้าคาดหวัง ข้าจะสามารถใช้วิทยาศาสตร์เพื่อเสริมพลังมนตราของเจ้าได้"
เอลิซ่าขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้า "ลองดู ข้าพร้อมจะทำงานร่วมกับเจ้า"
อิธานเริ่มปรับแต่งเครื่องวิเคราะห์เพื่อจับคลื่นพลังงานที่มาจากมนตราของเอลิซ่า เขามองหน้าจออย่างตั้งใจ ขณะที่ข้อมูลเกี่ยวกับคลื่นพลังงานมนตราปรากฏขึ้น “ข้าคิดว่าเราสามารถรวมพลังของเราเข้าด้วยกันได้”
เขายกอุปกรณ์ขึ้นสูงและปล่อยให้เครื่องแปลงสัญญาณพลังงานจากมนตราเข้าสู่ระบบ ตัวอุปกรณ์เริ่มทำงาน เชื่อมต่อกับพลังงานมนตราของเอลิซ่า ทำให้เกิดวงแหวนพลังงานใหม่รอบตัวทั้งสองคน
"ได้ผลแล้ว!" อิธานพูดอย่างตื่นเต้น วงแหวนพลังงานรอบตัวเขาไม่ใช่เพียงพลังของมนตรา แต่มันได้รับการเสริมด้วยเทคโนโลยี ทำให้พลังนั้นมั่นคงและแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก
ในขณะเดียวกัน กลุ่มคนชุดคลุมดำเริ่มปล่อยพลังด้านมืดออกมา แสงสีแดงพุ่งตรงเข้ามาที่พวกเขาอย่างรุนแรง
"อย่าปล่อยให้มันทำลายเจ้า!" เอลิซ่าตะโกน ก่อนจะยกมือขึ้น วงแหวนพลังมนตราสีฟ้าจากเอลิซ่าและอิธานขยายตัวออกเป็นเกราะป้องกัน พลังงานมนตราผสานกับคลื่นพลังงานจากเครื่องวิเคราะห์ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เกราะป้องกันนั้นมากขึ้น
“พลังของเราเสริมกันได้จริงๆ!” อิธานกล่าวพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ
กลุ่มคนชุดคลุมดำเห็นว่าพลังของพวกเขาไม่สามารถทะลุผ่านเกราะของอิธานและเอลิซ่าได้ พวกเขายิ่งโกรธเกรี้ยว และพยายามโจมตีอีกครั้ง พลังด้านมืดสีแดงหมุนวนเป็นวงกว้างขึ้น แสงสีแดงแสบตาพุ่งเข้ามาหาเกราะของพวกเขา
"พวกมันไม่ยอมแพ้ง่ายๆ" เอลิซ่ากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
อิธานคิดอย่างรวดเร็ว "ข้าต้องหาทางทำให้พวกมันหยุด ข้าไม่สามารถพึ่งมนตราเพียงอย่างเดียวได้" เขาพยายามนึกถึงวิธีที่เทคโนโลยีของเขาสามารถช่วยจัดการสถานการณ์นี้
เขาตัดสินใจดึงอุปกรณ์อีกชิ้นหนึ่งจากเข็มขัด นั่นคือ เครื่องปล่อยคลื่นรบกวน ที่เขาพัฒนาในโลกเดิมเพื่อจัดการกับพลังงานที่ไม่เสถียร
“นี่อาจจะเป็นหนทางที่ดี!” เขาเปิดเครื่องปล่อยคลื่นรบกวนและกำหนดให้คลื่นจากเครื่องนี้สามารถเข้ากับพลังงานด้านมืดของกลุ่มคนชุดคลุมดำได้ เป้าหมายคือทำให้พลังงานของพวกเขาไม่เสถียรและหยุดการโจมตี
เมื่อเขากดปุ่มปล่อย คลื่นพลังงานสีฟ้าจากเครื่องพุ่งตรงไปที่วงกลมพลังงานด้านมืดของศัตรู คลื่นรบกวนที่แผ่ออกมาทำให้พลังงานของพวกเขาเริ่มสั่นไหวและสูญเสียความเสถียร
"มันได้ผล!" เอลิซ่าพูดด้วยความแปลกใจ
กลุ่มคนชุดคลุมดำต่างรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง พวกเขาเริ่มถอยหนีขณะที่พลังด้านมืดของพวกเขาอ่อนแอลงเรื่อยๆ
"เป็นไปไม่ได้!" หนึ่งในคนชุดคลุมดำพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว
อิธานเห็นว่าการโจมตีของเขาสำเร็จ เขาหายใจลึกและเดินหน้าต่อเพื่อใช้เครื่องรบกวนนี้ปิดกั้นพลังด้านมืดอย่างสมบูรณ์ เมื่อกลุ่มคนชุดคลุมดำเห็นว่าพลังของพวกเขาไม่สามารถต่อกรได้ พวกเขาจึงล่าถอย หายลับเข้าไปในป่าลึก
"เจ้าทำได้ดีมาก" เอลิซ่าพูดพร้อมกับยิ้มให้เขา
"แต่ข้ายังรู้สึกว่าข้าต้องเรียนรู้อีกมาก" อิธานตอบ ขณะที่เขาปิดเครื่องปล่อยคลื่นรบกวน "พลังของมนตราและเทคโนโลยีอาจทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์ แต่ข้าต้องหาวิธีผสานมันให้ลงตัวกว่านี้"
เอลิซ่าพยักหน้า "มันเป็นหนทางใหม่สำหรับทั้งเรา และเจ้าก็ได้เริ่มก้าวเดินไปในทางที่ถูกต้องแล้ว"
อิธานมองอุปกรณ์ในมือและพลังมนตราที่หมุนรอบตัว เขาเข้าใจดีว่าการผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์และมนตราอาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยปกป้องโลกทั้งสองนี้ แต่เส้นทางนี้ยังยาวไกล เขาต้องเรียนรู้มากขึ้น และต้องฝึกฝนทั้งพลังวิทยาศาสตร์และมนตราให้สมดุล