ตอนที่ 15: ศึกครั้งแรก และตอนที่ 16: การเสียสละเพื่อชัยชนะ
ตอนที่ 15: ศึกครั้งแรก
บรรยากาศรอบหมู่บ้านเริ่มมืดมนมากขึ้นเรื่อยๆ พลังด้านมืดที่แผ่กระจายออกมาจากป่าใกล้ๆ ทำให้ทุกสิ่งดูเหมือนถูกครอบงำด้วยความหวาดกลัวและความไม่แน่นอน ดินแดนที่ครั้งหนึ่งเคยสงบสุขกลับรู้สึกถึงพลังที่ไม่สามารถควบคุมได้ อิธาน เอลิซ่า ลิเลียน่า และคาลิสรู้ดีว่านี่เป็นสัญญาณว่าการต่อสู้ครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้น
อิธาน ซึ่งเป็นคนที่ใช้วิทยาศาสตร์ในการต่อสู้กับพลังเวทย์มนต์ ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่เขาไม่เคยประสบมาก่อน การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การวัดความสามารถของเขา แต่ยังเป็นการทดสอบความเชื่อมั่นที่เขามีต่อเครื่องมือที่เขาพัฒนา
ขณะที่พวกเขาเดินลึกเข้าไปในป่าที่เต็มไปด้วยพลังด้านมืด อิธานรู้สึกถึงความหนาวเย็นที่แผ่เข้ามาในอากาศ บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยหมอกหนาและเงามืดที่เคลื่อนไหวอย่างแปลกประหลาด
"เจ้าพร้อมหรือยัง?" เอลิซ่าถามขณะที่เธอมองไปที่อิธาน เธอเองก็รู้สึกถึงพลังที่น่ากลัวของศัตรูที่อยู่ไม่ไกล
อิธานพยักหน้า "ข้าพร้อม ข้าทำทุกอย่างที่ข้าทำได้แล้ว แต่ข้าก็ไม่รู้ว่ามันจะเพียงพอหรือไม่"
คาลิสยืนอยู่ข้างพวกเขา มองไปยังเงามืดที่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นจากมุมมืดของป่า "พวกมันมาแล้ว พลังด้านมืดเริ่มขยับตัว พวกเจ้าต้องระวัง มันไม่เหมือนกับสิ่งที่เจ้าฝึกฝนมา"
เสียงกระซิบลึกลับดังขึ้นมาจากด้านหลังหมอก และเงาร่างสูงที่ดูน่ากลัวก็ก้าวออกมาจากเงามืด ร่างนั้นมีผ้าคลุมยาวสีดำที่ดูเหมือนจะเคลื่อนไหวไปตามลม และดวงตาสีแดงสดของมันจ้องมองมาที่พวกเขา มันคือหนึ่งใน "เงาแห่งมนตรา" ผู้เป็นศัตรูที่กำลังรวบรวมพลังด้านมืดเพื่อล้มล้างดินแดน
"ข้าได้ยินว่าพวกเจ้ากำลังพยายามต่อต้านเรา" เสียงของศัตรูนั้นดังขึ้นอย่างเยือกเย็นและเยาะเย้ย "แต่พวกเจ้าคิดจริงหรือว่าแค่พลังที่พวกเจ้ามีจะหยุดข้าได้?"
อิธานมองดูศัตรูตรงหน้า หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น แต่เขาก็รู้ว่านี่คือช่วงเวลาที่เขาจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายนี้โดยตรง เขาไม่สามารถถอยหลังได้อีกต่อไป
"ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อหยุดเจ้าแค่ด้วยพลังของข้า" อิธานตอบขณะที่เขาหยิบ เครื่องปล่อยคลื่นรบกวนพลังงานด้านมืด ออกมา "ข้ามาที่นี่เพื่อพิสูจน์ว่าเทคโนโลยีของข้าสามารถทำงานร่วมกับพลังเวทย์มนต์ได้ และข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าได้ทำตามแผนของเจ้า"
ศัตรูหัวเราะเบาๆ "มนุษย์อย่างเจ้าคิดว่าจะสามารถควบคุมพลังด้านมืดได้หรือ? ข้าจะให้เจ้าเห็นว่าพลังนี้มีอำนาจมากเพียงใด"
ทันใดนั้น ศัตรูเริ่มปล่อยพลังด้านมืดออกมาเป็นกลุ่มก้อนมหาศาล มันแผ่ขยายไปรอบตัวราวกับพายุเงามืด อิธานรู้สึกถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่พลังนั้นเริ่มหมุนเวียนรอบตัวเขาและพยายามกลืนกินพวกเขาทั้งหมด
“อิธาน ระวัง!” เอลิซ่าตะโกนพร้อมกับยกมือขึ้นปล่อยพลังมนตราเพื่อสร้างเกราะป้องกันรอบๆ ตัวพวกเขา แต่พลังด้านมืดนั้นรุนแรงเกินกว่าที่เธอจะรับมือได้เพียงลำพัง
อิธานตัดสินใจเปิดใช้งานเครื่องมือของเขา เขาปล่อยคลื่นพลังงานออกไปในอากาศเพื่อต้านทานพลังด้านมืดที่หมุนวนรอบตัว เมื่อคลื่นพลังงานสัมผัสกับพลังเวทย์มนต์ของศัตรู มันเริ่มสร้างคลื่นกระแทกที่ทำให้พลังด้านมืดชะงักลงเล็กน้อย แต่พลังนั้นยังคงทรงพลังและพยายามจะทะลุผ่านคลื่นรบกวนของอิธาน
"มันได้ผลหรือไม่?" เอลิซ่าถามอย่างกังวล
"ข้าไม่แน่ใจ...แต่ข้าจะไม่หยุด!" อิธานพูดขณะที่เขาปรับแต่งการตั้งค่าเครื่องมือเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของคลื่นพลังงาน เขาหลับตาลงและพยายามปรับคลื่นให้เข้ากับจังหวะการไหลของพลังด้านมืด เหมือนที่คาลิสเคยสอนเขา
ศัตรูจ้องมองไปที่อิธานด้วยความสนใจ “เจ้ากล้าดี ข้าจะดูว่าเจ้าจะทนได้นานแค่ไหน”
ทันใดนั้น พลังด้านมืดที่ปล่อยออกมาจากศัตรูก็เพิ่มความรุนแรงขึ้นอีก มันก่อตัวเป็นคลื่นยักษ์ที่พุ่งตรงเข้ามาหาพวกเขา พลังนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่เครื่องมือของอิธานจะต้านทานได้ทั้งหมด อิธานรู้สึกถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจนเกือบทำให้เขาล้มลง
แต่ก่อนที่พวกเขาจะถูกกลืนกินโดยพลังนั้น คาลิสก็เข้ามาแทรกแซง เขายกมือขึ้นและปล่อยพลังเวทย์มนต์ของเขาออกมา พลังเวทย์สีทองของคาลิสพุ่งออกไปตัดผ่านคลื่นพลังด้านมืด ทำให้พลังนั้นชะงักลงชั่วขณะ
“ข้าไม่สามารถปล่อยให้เจ้าสู้คนเดียวได้” คาลิสพูดพร้อมกับมองอิธาน “เจ้าทำได้ดีมาก แต่เจ้าต้องการความช่วยเหลือเพื่อหยุดยั้งศัตรูนี้”
อิธานพยักหน้า “ข้ารู้ว่าเครื่องมือของข้ายังไม่เพียงพอ แต่เรายังมีโอกาส เราต้องร่วมมือกัน”
ศัตรูจ้องมองพวกเขาด้วยความโกรธ “พวกเจ้าคิดว่าพลังร่วมกันของพวกเจ้าจะหยุดข้าได้หรือ? ข้าจะให้พวกเจ้าดูว่าพลังด้านมืดที่แท้จริงเป็นอย่างไร”
ศัตรูเริ่มรวบรวมพลังอีกครั้ง พลังเวทย์มนต์ด้านมืดที่แข็งแกร่งและน่ากลัวกว่าครั้งก่อนเริ่มหมุนวนรอบตัวเขา เงามืดนั้นเริ่มครอบงำทุกสิ่งรอบตัว ราวกับว่าพวกเขากำลังถูกกลืนกินเข้าสู่ความมืดอย่างสมบูรณ์
“มันกำลังเพิ่มพลังขึ้นอีกครั้ง!” เอลิซ่าพูดด้วยความตกใจ
อิธานรู้ดีว่าพลังที่เขามีอยู่ในมืออาจไม่เพียงพอในการต่อสู้ครั้งนี้ แต่เขารู้ว่าเขาไม่สามารถหยุดที่ตรงนี้ได้ เขาต้องหาวิธีทำให้เครื่องมือของเขาแข็งแกร่งขึ้น หรือไม่ก็หาทางผสานพลังกับพวกพ้องเพื่อเอาชนะศัตรูนี้
ตอนที่ 16: การเสียสละเพื่อชัยชนะ
หมอกดำหนาทึบปกคลุมไปทั่วป่ารอบตัวพวกเขา แสงสีแดงจากดวงตาของเงาแห่งมนตราส่องสว่างเป็นจุดเดียวที่มองเห็นได้ชัดเจน ทันใดนั้น คลื่นพลังงานด้านมืดก็พุ่งเข้าใส่พวกเขาอีกครั้ง อิธานพยายามปรับคลื่นพลังงานจากเครื่องปล่อยของเขาเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง แต่พลังนั้นกลับเริ่มบิดเบือนมากขึ้นเรื่อยๆ
“มันไม่ไหวแล้ว!” อิธานร้องอย่างร้อนรน เสียงเครื่องจักรเริ่มส่งสัญญาณเตือนถึงความร้อนเกินขนาด “ข้าต้องหยุดมันก่อนที่เครื่องจะระเบิด!”
คาลิสก้าวเข้ามาด้านหน้า ดวงตาสีทองของเขาเรืองแสงขึ้นพร้อมกับเสียงพึมพำของมนตราที่ลึกล้ำ เขาชูมือขึ้น แล้วพลังเวทย์มนต์ที่ลอยรอบตัวเขาก็เริ่มก่อตัวขึ้นเหมือนม่านบางๆ ที่ป้องกันพลังด้านมืดไว้ได้ชั่วขณะหนึ่ง
“เจ้าต้องเปิดใจให้กับพลังของมนตรา อิธาน” คาลิสพูดอย่างเคร่งขรึม “ถ้าเจ้าพยายามบังคับมัน มันจะต่อต้านเจ้าอย่างรุนแรง เจ้าต้องให้วิทยาศาสตร์และมนตราไหลเวียนไปพร้อมกัน”
อิธานหายใจเข้าอย่างหนักหน่วง เขาพยายามระงับความกังวลในใจ เอลิซ่ามองมาทางเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง “ข้ารู้ว่าเจ้าทำได้ อิธาน เชื่อใจในพลังนี้เถอะ”
เงาแห่งมนตราหัวเราะเยาะเสียงต่ำ “มนุษย์โง่เง่า พวกเจ้าจะสู้กับข้าไม่ได้หรอก”
เอลิซ่าหยุดครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปทางลิเลียน่า “เราต้องทำบางอย่าง เพื่อหยุดยั้งพลังของมัน ไม่อย่างนั้นดินแดนแห่งนี้จะพินาศ”
ลิเลียน่ามองเอลิซ่า เธอนิ่งไปชั่วขณะก่อนจะพยักหน้า “เรามีทางเลือกเดียว เอลิซ่า เจ้าเตรียมใจได้หรือยัง?”
เอลิซ่าขมวดคิ้วเล็กน้อย “ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องดินแดนของข้า”
“มันจะต้องแลกกับบางสิ่ง” ลิเลียน่าเตือนเบาๆ ขณะที่เธอเริ่มร่ายมนตราเก่าแก่ มนตราที่สืบทอดมาจากยุคสมัยที่พลังด้านมืดเคยครอบครองโลกนี้
แสงสว่างสีฟ้าเรืองรองเริ่มก่อตัวรอบตัวเอลิซ่า มันคือพลังแห่งการเสียสละที่จะช่วยสะกดพลังด้านมืดชั่วคราว แต่ในทางกลับกัน มันอาจจะดึงพลังเวทย์ของเอลิซ่าไปมากกว่าที่เธอเคยใช้ได้ในชีวิต
“ไม่!” อิธานตะโกนขึ้น “เราต้องหาทางอื่น!”
“ไม่มีเวลาแล้ว อิธาน!” เอลิซ่าตอบ “นี่เป็นทางเดียวที่เราจะหยุดพลังนี้ได้ ข้าจะไม่ปล่อยให้มันทำลายทุกสิ่ง”
คาลิสหันมามองอิธาน “เจ้าต้องเชื่อใจในเพื่อนของเจ้า และเจ้าต้องทำในสิ่งที่เจ้าทำได้ วิทยาศาสตร์ของเจ้าจะช่วยเสริมมนตราในครั้งนี้ได้”
เสียงหัวเราะของเงาแห่งมนตราดังขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่พลังด้านมืดเริ่มโหมกระหน่ำหนักขึ้น “เจ้าคิดจริงหรือว่าพลังเล็กน้อยนี้จะหยุดข้าได้?”
อิธานสูดลมหายใจลึกและจับเครื่องมือของเขาแน่น “ไม่ พวกเราจะทำได้!”
ทันใดนั้น เขาปรับเครื่องมือครั้งสุดท้าย โดยให้คลื่นพลังงานจากเครื่องจักรทำงานประสานกับพลังเวทย์ของเอลิซ่า มันเป็นการเดิมพันที่เสี่ยง แต่เขารู้ว่านี่เป็นทางเดียว
เสียงระเบิดของคลื่นพลังงานดังขึ้นพร้อมกับแสงสว่างวาบที่ทำให้เงาแห่งมนตราหยุดชะงัก ความมืดเริ่มกระจายออก ราวกับถูกกดทับลง เอลิซ่าที่ล้อมรอบไปด้วยแสงสีฟ้าส่องประกายสุดท้าย ยิ้มอย่างอ่อนล้า
“ข้าจะปกป้องดินแดนนี้...ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม”