ตอนที่ 11: การทดสอบครั้งสำคัญ และตอนที่ 12: เงามืดที่เข้มแข็งขึ้น
ตอนที่ 11: การทดสอบครั้งสำคัญ
อิธานและลิเลียน่ายืนอยู่กลางป่าลึกซึ่งยังคงถูกปกคลุมด้วยพลังเวทย์มนต์ด้านมืด บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยความอึดอัด ราวกับความมืดนั้นกำลังพยายามกลืนกินทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวพวกเขา
อิธานมองไปที่ เครื่องปล่อยคลื่นรบกวนพลังงานด้านมืด อุปกรณ์ใหม่ที่เขาใช้เวลาหลายวันพัฒนา มันถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับพลังที่เขาไม่สามารถควบคุมได้ด้วยวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียว เครื่องมือนี้ผสานพลังของวิทยาศาสตร์เข้ากับพลังเวทย์มนต์ที่เขาเรียนรู้จากคริสตัลสีดำ ซึ่งทำให้อุปกรณ์สามารถลดความไม่เสถียรของพลังเวทย์มนต์ด้านมืดและควบคุมมันได้
"เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าพร้อม?" ลิเลียน่าถามขณะที่เธอมองดูพลังด้านมืดที่เคลื่อนไหวอยู่รอบๆ ตัวพวกเขา "พลังด้านมืดในป่านี้ไม่ใช่สิ่งที่คาดเดาได้ง่ายๆ"
"ข้าไม่มีทางเลือกอื่น" อิธานตอบ เขาจับอุปกรณ์ในมือแน่น "ข้าต้องทดสอบสิ่งนี้ หากมันทำงานได้ เราก็จะมีเครื่องมือที่สามารถต่อกรกับพลังด้านมืดได้"
ลิเลียน่าพยักหน้าและยืนห่างออกมาเล็กน้อยเพื่อเฝ้าดู ขณะที่อิธานเปิดเครื่องมือของเขา เสียงเครื่องยนต์เบาๆ ดังขึ้น ขณะที่แสงสีฟ้าจางๆ เริ่มส่องออกมาจากอุปกรณ์ มันเป็นแสงที่ควบคุมพลังงานด้านมืดที่ไหลเวียนรอบตัวพวกเขา อิธานปล่อยคลื่นพลังงานออกจากอุปกรณ์เพื่อจับพลังด้านมืดที่แผ่กระจายอยู่ในอากาศ
แต่แทบจะในทันทีที่คลื่นพลังงานสัมผัสกับพลังด้านมืด พลังนั้นก็เริ่มต่อต้าน ราวกับว่ามันมีชีวิตและไม่ต้องการถูกควบคุม ความมืดเริ่มก่อตัวเป็นวงกลมรอบๆ อิธานและลิเลียน่า สภาพแวดล้อมรอบตัวเริ่มเปลี่ยนไป อากาศรอบๆ หนาวเย็นขึ้น ความมืดค่อยๆ หนาขึ้น ราวกับมันกำลังจะดูดกลืนทุกอย่าง
“อิธาน ระวัง!” ลิเลียน่าตะโกนเมื่อเห็นพลังด้านมืดเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง
อิธานพยายามปรับคลื่นพลังงานจากเครื่องมือของเขา เขาหมุนปุ่มเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของคลื่น แต่พลังด้านมืดยังคงต่อต้าน มันพุ่งเข้าหาเขาเหมือนคลื่นพายุที่รุนแรง ทุกสิ่งรอบๆ ตัวดูเหมือนจะถูกครอบงำด้วยพลังที่ไม่มีใครควบคุมได้
"มันรุนแรงกว่าที่ข้าคิดไว้" อิธานพูดพลางพยายามควบคุมอุปกรณ์ของเขา แต่คลื่นพลังงานที่ปล่อยออกมาจากเครื่องมือดูเหมือนจะไม่สามารถต้านทานพลังด้านมืดนี้ได้ทั้งหมด
ทันใดนั้น ร่างเงาลึกลับที่เคยปรากฏตัวก่อนหน้านี้ก็กลับมาอีกครั้ง มันลอยอยู่กลางอากาศ ดวงตาสีแดงสดจ้องมองอิธานอย่างเย็นชา "เจ้ายังคิดว่ามนุษย์อย่างเจ้าจะสามารถควบคุมพลังของข้าได้หรือ?" เสียงของมันดังแหบแห้ง ราวกับว่ามันกำลังเย้ยหยันอิธาน
ลิเลียน่าขยับตัวเข้ามาใกล้พร้อมกับยกมือขึ้น เตรียมใช้พลังเวทย์มนต์เพื่อปกป้อง แต่เธอหยุดก่อนที่จะทำอะไร “อิธาน เจ้าต้องใช้พลังที่เจ้ามีอยู่ในการต้านทานพลังนี้ เจ้าต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่เจ้าสร้างขึ้นมา”
อิธานรู้สึกถึงความกดดันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาก็รู้ว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุด เขาไม่สามารถพึ่งพาวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียวได้แล้ว เขาต้องทำให้วิทยาศาสตร์และมนตราผสานกันอย่างแท้จริง เขาหลับตาลงและพยายามสัมผัสถึงพลังงานที่หมุนเวียนอยู่รอบๆ ทั้งพลังของคริสตัลที่เขาใส่ในเครื่องมือ และพลังด้านมืดที่เขากำลังพยายามควบคุม
“ข้าต้องไม่บังคับมัน ข้าต้องให้มันทำงานร่วมกับพลังที่ข้ามีอยู่” เขาพึมพำกับตัวเอง เขาปรับการตั้งค่าของเครื่องมือใหม่ ให้คลื่นพลังงานที่ปล่อยออกมามีความสอดคล้องกับจังหวะการไหลของพลังด้านมืด ไม่ใช่พยายามบังคับหรือสู้กับมัน แต่ให้มันไหลไปตามธรรมชาติ
ทันใดนั้น คลื่นพลังงานจากเครื่องมือก็เริ่มเสถียรมากขึ้น แสงสีฟ้าที่ออกมาจากอุปกรณ์ค่อยๆ ส่องสว่างขึ้นเรื่อยๆ พลังด้านมืดที่เคยก่อตัวรอบๆ เริ่มชะลอตัวลง มันเหมือนกับว่าพลังทั้งสองเริ่มเชื่อมต่อกันได้
ร่างเงาลึกลับที่ลอยอยู่กลางอากาศจ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ มันไม่พูดอะไร แต่ดวงตาสีแดงสดของมันสว่างขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่มันจะค่อยๆ สลายหายไปในความมืด
“มันได้ผลแล้ว!” อิธานพูดด้วยความตกใจ เขาสามารถใช้เครื่องมือของเขาควบคุมพลังด้านมืดได้โดยไม่ต้องบังคับมัน “ข้าสามารถปรับคลื่นพลังงานให้ทำงานร่วมกับพลังด้านมืดได้ ข้าไม่ต้องต่อสู้กับมัน แต่ให้มันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ”
ลิเลียน่ามองอิธานด้วยความพอใจ “เจ้าค้นพบกุญแจสำคัญแล้ว การควบคุมพลังด้านมืดไม่ได้หมายถึงการบังคับมัน แต่มันหมายถึงการเข้าใจและทำงานร่วมกับมัน”
อิธานหายใจลึกด้วยความโล่งใจ แม้ว่าเขาจะยังคงรู้สึกถึงพลังอันน่ากลัวที่แฝงอยู่ในพลังเวทย์มนต์ด้านมืด แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขาสามารถทำให้มันทำงานร่วมกับเทคโนโลยีของเขาได้โดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับมันอย่างตรงๆ
หลังจากการทดสอบผ่านพ้นไป อิธานและลิเลียน่ากลับมาที่หมู่บ้านเพื่อเตรียมตัวสำหรับการเผชิญหน้าครั้งต่อไป พลังด้านมืดยังคงแผ่กระจายอยู่ทั่วดินแดนนี้ และพวกเขารู้ว่าความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่ายังรออยู่
"ข้าเชื่อว่าเจ้าจะสามารถพัฒนาเครื่องมือนี้ให้ดีขึ้นอีก" ลิเลียน่าพูดขณะที่เธอเฝ้าดูอิธานตรวจสอบอุปกรณ์ของเขา "แต่เจ้าต้องจำไว้ว่าพลังด้านมืดยังมีอีกหลายอย่างที่เราไม่เข้าใจ"
"ข้าจะไม่หยุดพัฒนา" อิธานตอบ "แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่า ข้าต้องเปิดใจให้กับพลังที่ข้าเคยกลัว หากข้าต้องการปกป้องทุกสิ่ง ข้าต้องเรียนรู้ที่จะใช้พลังนี้อย่างสมดุล"
ลิเลียน่ายิ้มอย่างพอใจ "เจ้ากำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง แต่หนทางยังยาวไกล เจ้าต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับศึกที่ยิ่งใหญ่กว่านี้"
อิธานพยักหน้า เขารู้ดีว่าการต่อสู้กับพลังเวทย์มนต์ด้านมืดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขามั่นใจว่าด้วยความร่วมมือของทั้งวิทยาศาสตร์และมนตรา เขาจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้
ได้เลยค่ะ! ใน ตอนที่ 12 พี่หมีจะต่อเนื่องจากการที่อิธานสามารถทดสอบอุปกรณ์ใหม่ได้สำเร็จ ในตอนนี้เราจะพัฒนาเรื่องราวให้เห็นถึงความท้าทายใหม่ๆ ที่ทั้งอิธานและเอลิซ่าต้องเผชิญเมื่อพวกเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับพลังด้านมืดที่รุนแรงขึ้น มาติดตามกันเลยนะคะ!
ตอนที่ 12: เงามืดที่เข้มแข็งขึ้น
หลังจากการทดสอบอุปกรณ์ของอิธานในป่าลึก พวกเขากลับมาที่หมู่บ้านเพื่อวางแผนสำหรับการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง อิธานและเอลิซ่ารู้ดีว่าพลังเวทย์มนต์ด้านมืดกำลังสะสมความแข็งแกร่งขึ้น และเงาแห่งมนตราก็ไม่ได้หายไป แต่กลับดูเหมือนว่ากำลังวางแผนบางอย่างที่อันตรายมากยิ่งกว่าเดิม
เมื่ออิธานกลับมาที่หมู่บ้าน เขาได้พบกับเอลิซ่าที่เพิ่งเสร็จสิ้นการฝึกฝนควบคุมพลังด้านมืดของเธอ เอลิซ่าดูสงบนิ่งกว่าที่เคย แต่ในแววตาของเธอยังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความหวาดระแวงในสิ่งที่กำลังจะมาถึง
"เจ้าพร้อมหรือยัง?" อิธานถามขณะที่เขาเดินเข้าไปหาเธอ
เอลิซ่าพยักหน้า "ข้าได้เรียนรู้ที่จะควบคุมพลังด้านมืดของข้ามากขึ้น แต่ข้ารู้ว่ามันยังคงมีอะไรที่ข้ายังไม่เข้าใจ"
"ข้าเองก็เช่นกัน" อิธานตอบ "ข้าพัฒนาเครื่องมือของข้าให้ทำงานร่วมกับพลังด้านมืดได้ แต่มันยังไม่สมบูรณ์ และข้ากลัวว่ามันอาจไม่เพียงพอเมื่อพวกเราต้องเผชิญกับศัตรูที่แท้จริง"
ทั้งสองคนเงียบไปครู่หนึ่ง ขณะที่พวกเขามองไปที่ท้องฟ้ายามเย็นที่เริ่มมืดลง เมฆดำหนาทึบลอยมาปกคลุมเหนือหมู่บ้าน สัญญาณของพายุที่กำลังจะมาถึง
“ลิเลียน่าบอกว่าเรายังต้องเรียนรู้อีกมาก” เอลิซ่าพูดขึ้นเบาๆ “และข้ารู้สึกว่าศัตรูของเราแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน ข้าสัมผัสถึงพลังด้านมืดที่ค่อยๆ ขยายตัวออกมา มันเหมือนกับว่า...พวกมันกำลังเตรียมบางอย่าง”
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าหนักๆ ก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง พวกเขาหันไปและเห็น ลิเลียน่า เดินเข้ามาพร้อมกับสีหน้าที่เคร่งขรึม เธอหยุดยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาและมองดูท้องฟ้าที่มืดมนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล
"เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม" ลิเลียน่าพูดเสียงเรียบ แต่แฝงไปด้วยความเร่งด่วน "ข้าได้รับข่าวมาว่า 'เงาแห่งมนตรา' ได้เริ่มเคลื่อนไหว พวกมันกำลังรวบรวมพลังและเตรียมที่จะโจมตีเรา พวกเรามีเวลาไม่มากแล้ว"
อิธานขมวดคิ้ว "เรารู้แล้วว่าพวกมันจะโจมตีเมื่อไหร่?"
"ยังไม่แน่นอน" ลิเลียน่าตอบ "แต่ข้าเชื่อว่ามันจะเป็นเร็วๆ นี้ ข้าได้ยินข่าวมาจากหมู่บ้านใกล้เคียงว่าเงาแห่งมนตราได้เริ่มรวบรวมผู้ติดตามมากขึ้น พวกมันกำลังรวบรวมพลังเพื่อทำบางสิ่งที่ร้ายแรง ข้ากลัวว่าพวกมันอาจจะปลุกสิ่งที่ถูกปิดผนึกไว้ใต้ดินมานานหลายศตวรรษ"
เอลิซ่ามองลิเลียน่าด้วยความตกใจ "เจ้าหมายความว่าพวกมันกำลังพยายามปลุกพลังที่ถูกปิดผนึกงั้นหรือ?"
"ใช่" ลิเลียน่าตอบ "และถ้าพวกมันทำสำเร็จ เราจะไม่มีทางหยุดมันได้ นั่นคือเหตุผลที่เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม ข้าไม่ต้องการให้สิ่งนี้เกิดขึ้น"
อิธานรู้สึกถึงความกดดันที่เพิ่มขึ้น เขาหันไปมองเอลิซ่า ทั้งสองคนรู้ดีว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ที่ยากที่สุดในชีวิตของพวกเขา
"ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหยุดพวกมัน" เอลิซ่าพูดด้วยเสียงมั่นคง "ข้าไม่ยอมให้พวกมันปลุกพลังด้านมืดขึ้นมาได้"
ลิเลียน่าพยักหน้า "ข้ารู้ว่าเจ้าทั้งสองพร้อมจะต่อสู้ แต่ข้ายังมีบางอย่างที่อยากให้พวกเจ้าเห็นก่อนที่จะเข้าสู่สนามรบจริง"
ลิเลียน่านำอิธานและเอลิซ่าไปยังห้องลับในป่าที่ถูกซ่อนไว้หลังหมู่บ้าน ห้องนี้เป็นห้องทดลองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยวัตถุโบราณและเครื่องมือมนตราที่ซับซ้อน มันเป็นสถานที่ที่ลิเลียน่าใช้ในการศึกษามนตราและพลังเวทย์มนต์ที่ถูกลืมเลือนมานาน
เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้อง ลิเลียน่าหยิบกล่องไม้โบราณออกมาจากชั้นหนังสือ เธอเปิดกล่องและหยิบสิ่งของชิ้นหนึ่งออกมา มันเป็นคริสตัลสีดำที่เปล่งแสงจางๆ แต่ต่างจากคริสตัลที่อิธานเคยใช้ในการทดลอง คริสตัลนี้มีพลังที่เข้มข้นและน่ากลัวกว่า
"นี่คือคริสตัลที่ข้าเก็บไว้สำหรับยามที่จำเป็นที่สุด" ลิเลียน่ากล่าวขณะที่เธอส่งคริสตัลให้เอลิซ่าดู "มันเป็นคริสตัลมนตราที่สามารถช่วยเสริมพลังให้เจ้าควบคุมพลังด้านมืดได้ดีขึ้น แต่มันก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ถ้าเจ้าควบคุมมันไม่ได้ มันอาจจะทำให้เจ้าถูกกลืนกิน"
เอลิซ่ารับคริสตัลนั้นด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย เธอรู้สึกถึงพลังที่แฝงอยู่ในคริสตัลนี้ มันเต็มไปด้วยพลังด้านมืดที่ไม่เสถียรและน่ากลัว แต่เธอก็รู้ว่านี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวที่เธอจะสามารถเอาชนะเงาแห่งมนตราได้
"ข้าจะใช้มัน" เอลิซ่าพูดด้วยความมุ่งมั่น "ข้าจะไม่ปล่อยให้พลังด้านมืดควบคุมข้า ข้าจะใช้มันเพื่อหยุดพวกมัน"
ลิเลียน่าพยักหน้า "ข้าหวังว่าเจ้าจะทำสำเร็จ"
หลังจากที่เอลิซ่าได้รับคริสตัลมนตรา พวกเขาทั้งสามคนก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่จะมาถึง อิธานกลับไปยังห้องทดลองของเขาเพื่อปรับแต่งอุปกรณ์ใหม่ที่เขาได้พัฒนามาจากการทดสอบในป่า เขาต้องการให้เครื่องมือของเขาทำงานร่วมกับคริสตัลของเอลิซ่า เพื่อเสริมพลังให้กันและกัน และใช้มันในการต่อสู้กับเงาแห่งมนตรา
ขณะที่อิธานกำลังปรับแต่งอุปกรณ์ เขารู้สึกได้ถึงความกดดันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้มันเข้ามาทำให้เขาหวาดกลัว เขาต้องการทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อให้พวกเขาพร้อมที่สุดสำหรับการต่อสู้ครั้งใหญ่
"ข้าไม่สามารถทำพลาดได้" อิธานพึมพำกับตัวเองขณะที่เขาปรับแต่งเครื่องมือของเขา "นี่เป็นโอกาสเดียวที่เราจะหยุดพวกมันได้"
ค่ำคืนก่อนการต่อสู้มาถึง หมู่บ้านเงียบสงบเป็นพิเศษ ราวกับทุกคนรู้ว่ามีบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น อิธานและเอลิซ่าเตรียมตัวเสร็จแล้ว พวกเขาทั้งสองนั่งอยู่ด้วยกันใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว รอคอยช่วงเวลาที่จะต้องเผชิญหน้ากับพลังที่อันตรายที่สุดในชีวิตของพวกเขา
"เจ้าพร้อมไหม?" เอลิซ่าถามขณะที่เธอมองหน้าอิธาน
อิธานพยักหน้า "ข้าพร้อม...และเจ้าล่ะ?"
"ข้าก็พร้อม" เอลิซ่าตอบ "แต่ข้าก็รู้ว่าเรากำลังจะเผชิญหน้ากับสิ่งที่เกินกว่าที่เราคิดไว้"
อิธานยิ้มบางๆ "ไม่ว่าเราจะเจออะไร ข้าจะอยู่ข้างเจ้าเสมอ"
เอลิซ่ายิ้มกลับ "ข้าก็เช่นกัน"