ตอนที่แล้วบทที่ 53 เสื้อคลุมเวทมนตร์ระดับเงิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 55 บอสลับ

บทที่ 54 เคลียร์ดันเจียน


บทที่ 54 เคลียร์ดันเจียน

2 นาทีต่อมาพลังชีวิตของฮันก้าก็ลดลงมาเหลือ 80%

“เพื่อเกียรติของจักรวรรดิฟาลส์” ฮันก้าส่งเสียงร้องคำรามพร้อมกับมีดสั้นภายในมือที่เริ่มส่องแสงประกาย

“ทุกคนถอย! ส่วนเฮ่ยเจียใช้ชิลด์วอลล์” ลู่หยางตะโกน

เสี่ยวเหลียงเปิดใช้งานสกิลชิลด์วอลล์ในทันที โดยสกิลนี้จะสามารถลดความเสียหายที่ได้รับลงถึง 40% ส่วนทางด้านเซี่ยหยู่เว่ยและนักสู้ในระยะประชิดก็กระโดดถอยหลังมาห่างจากบอสในระยะ 10 เมตร

“รีเวิร์สเบลด!” ฮันก้าเริ่มทำการฟาดมีดสั้นก่อให้เกิดลำแสงรูปกางเขนออกไปรอบด้าน

เนื่องมาจากพวกเซี่ยหยู่เว่ยเคลื่อนไหวตามคำสั่งของลู่หยางอย่างเคร่งครัด ผู้ที่ถูกจู่โจมจึงมีเพียงแค่เสี่ยวเหลียงคนเดียว

-374

ก่อนหน้านี้พลังชีวิตของเสี่ยวเหลียงก็เหลืออยู่ต่ำกว่า 400 หน่วยอยู่แล้ว เมื่อเขาถูกจู่โจมในครั้งนี้ มันก็ทำให้พลังชีวิตของเขาลดลงไปจนเกือบหมดหลอด

“นักบวชรีบฮีลเร็วเข้า!”

+57, +49, +49, +49, +49

เหล่าบรรดานักบวชต้องใช้สกิลฮีลออกมาถึงห้าครั้งติดต่อกันจึงจะสามารถฟื้นฟูพลังของเสี่ยวเหลียงให้กลับมาเต็มอีกครั้งหนึ่ง

“อันตรายมาก” เซี่ยหยู่เว่ยถอนหายใจพร้อมเหงื่อเม็ดใหญ่ที่กำลังไหลลงมาตามหน้าผาก

“ขนาดมีสกิลชิลด์วอลล์ยังโดนความเสียหายเข้าไปตั้งขนาดนั้น หากพวกเราโดนเข้าไปตัวเลขความเสียหายคงจะเกินกว่า 600 หน่วยแน่ ๆ” ชิงเฟิงกล่าว

“ชิลด์วอลล์ของเฮ่ยเจียมีคูลดาวน์ 2 นาที แล้วแบบนี้ครั้งต่อไปพวกเราจะรับมือกับสกิลนั้นยังไง?” จางจื่อโป๋ถาม

“พวกเราจะเอายังไงกันต่อ?” เซี่ยหยู่เว่ยหันไปถามลู่หยางด้วยเช่นกัน

“ทุกคนใช้สกิลออกมาได้เต็มที่ เฟสต่อไปฮันก้าจะเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ฉัน ทุกคนให้คอยฟังคำสั่งจากฉันเอาไว้ให้ดี” ลู่หยางสั่งการ

“คุณจะรับมันเอาไว้งั้นเหรอ?” ชิงเฟิงถาม

“เฟสต่อไปเฮ่ยเจียรับสกิลของบอสเอาไว้ไม่ไหวแล้ว และคนเดียวที่พอจะหลบสกิลของมันได้ก็มีแค่ฉัน” ลู่หยางตอบ

“นี่คุณหลบได้แม้แต่รีเวิร์สเบลดเลยงั้นเหรอ!?” ชิงเฟิงถามด้วยความตกใจ

การโจมตีของสกิลรีเวิร์สเบลดเร็วมากกว่าสกิลไฟร์บอล ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นการโจมตีในระยะประชิดจนทำให้แทบไม่เหลือพื้นที่สำหรับการหลบหลีกเลยด้วยซ้ำ

“ลูกพี่! ผมตายได้ คุณไม่จำเป็นจะต้องมารับสกิลแทนผมหรอก” เสี่ยวเหลียงกล่าวอย่างหนักแน่น

“ลู่หยาง ถ้าจะต้องมีคนตายก็ขอให้จางจื่อโป๋รับหน้าที่นั้นไปเถอะ นี่คือสิ่งที่พวกเราควรจะทำด้วยเหมือนกัน” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวแทรก

“ใช่อาจารย์ เดี๋ยวผมจะเป็นคนรับสกิลของบอสเอาไว้เอง” จางจื่อโป๋กล่าวเสริม

ลู่หยางเผยรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกไปว่า

“ทำไมทุกคนถึงคิดว่ามันจะต้องมีคนตายด้วยล่ะ ทุกคนฟังเอาไว้ให้ดี ๆ นะการหลบสกิลเมื่อกี้สำหรับฉันมันเป็นแค่เรื่องง่าย ๆ และมันก็ไม่จำเป็นจะต้องมีใครมาตายที่นี่ด้วย”

การใช้สกิลแฟลชหลบรีเวิร์สเบลดก็เหมือนกับการใช้แฟลชหลบสกิลชาร์จของนักรบ ตราบใดก็ตามที่เขาสามารถกะจังหวะได้อย่างแม่นยำ เขาก็จะสามารถหลบหนีการโจมตีออกมาได้อย่างไม่มีปัญหา

หลานอวี่ไม่เข้าใจท่าทีอันมั่นใจของลู่หยางเลยแม้แต่น้อย และถึงแม้เธอต้องการจะกล่าวแย้งอะไรขึ้นมาแต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะต้องพูดว่าอะไรดี

ในไม่ช้าพลังชีวิตของบอสก็ลดลงไปใกล้จะถึง 60%

“นักสู้ระยะประชิดหลบไปให้หมด เฮ่ยเจียไม่ต้องใช้สกิลยั่วยุแล้วเดี๋ยวฉันจะเป็นคนดึงดูดความโกรธของบอสมาที่ฉันเอง” ลู่หยางตะโกน

พวกเซี่ยหยู่เว่ยรีบวิ่งหลบออกไปทางด้านข้าง ส่วนทางด้านลู่หยางได้ทำการปล่อยลูกไฟเข้าใส่ศีรษะของบอส 3 ครั้งติดต่อกัน

-490 (คริติคอล)

-490 (คริติคอล)

-490 (คริติคอล)

แต่เดิมค่าความโกรธของบอสต่อลู่หยางก็สูงมากอยู่แล้ว เมื่อเขาโจมตีติดคริติคอล 3 ครั้งติดต่อกัน มันจึงทำให้ความสนใจของบอสถูกเปลี่ยนไปยังชายหนุ่มในทันที

“เพื่อเกียรติของจักรวรรดิฟาลส์!”

เมื่อค่าพลังชีวิตของฮันก้าลดลงมาต่ำกว่า 60% มีดภายในมือของบอสก็เริ่มส่องแสงสว่างอีกครั้ง ก่อนที่มันจะกระโจนเข้าใส่ลู่หยาง

ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายไม่กว้างมากนัก ฮันก้ากระโจนเพียงแค่สองก้าว เขาก็กระโดดขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับปล่อยลำแสงรูปไม้กางเขนสีขาวออกไปจากมีด

รีเวิร์สเบลด!

ลู่หยางจ้องไปที่ใบมีดอย่างใกล้ชิดและในจังหวะที่มีดกำลังจะกระทบเข้าที่ตัวเขา…

แฟลช!

แสงสีขาวสว่างวาบพร้อมกับลู่หยางที่ปรากฏตัวขึ้นด้านข้างเสี่ยวเหลียง ส่วนทางด้านการโจมตีของบอสก็พลาดเป้าไป

“สวย!” ทุกคนต่างก็ตะโกนเชียร์ขึ้นมาเสียงดัง เมื่อได้เห็นว่าลู่หยางสามารถหลบสกิลของบอสออกมาได้สำเร็จ

“มันมีวิธีแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย!” ชิงเฟิงอุทานอย่างตกใจและการมาลงดันเจียนกับลู่หยางในวันนี้ มันก็ทำให้มุมมองที่เขามีต่อเกมพลิกกลับตาลปัตรไปจากเดิมทั้งหมด

เซี่ยหยู่เว่ยตกตะลึงจนตาค้าง เพราะเธอไม่คิดว่าลู่หยางจะมีวิธีหลบหลีกสกิลของบอสแบบนี้ด้วย

“ที่แท้มันก็มีวิธีการหลบแบบนี้อยู่ด้วยนี่เอง” จางจื่อโป๋กล่าว

“เฮ่ยเจียยั่วยุบอสเอาไว้ ส่วนทุกคนกลับเข้าประจำตำแหน่งเดิม อย่าพึ่งยืนงง” ลู่หยางตะโกนเตือนสติทุกคนอีกครั้ง

แม้เสี่ยวเหลียงจะเคยเห็นลู่หยางต่อสู้ 1 ต่อ 5 กับลูกน้องของแบล็คบลัด แต่การได้เห็นอีกฝ่ายใช้สกิลแฟลชเพื่อหลบหนีการโจมตีของบอส มันก็ยังคงทำให้เขารู้สึกตกตะลึงเหมือนกับคนอื่น ๆ อยู่ดี

อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินเสียงเตือนของลู่หยาง เด็กหนุ่มก็รีบพุ่งเข้าหาฮันก้าเพื่อใช้สกิลยั่วยุและถอยกลับไปยังมุมกำแพงตามเดิม ส่วนทางด้านพวกเซี่ยหยู่เว่ยก็กลับมาทำการโจมตีเข้าใส่บอสอีกครั้ง

“อาจารย์คุณเก่งมาก”

“คุณทำแบบนั้นได้ยังไง?”

“คุณพอจะสอนพวกเราบ้างได้ไหม? เราอยากจะเก่งแบบคุณบ้าง”

ในช่วงเวลาพักจากการโจมตี นักเวท 3 คนภายในทีมก็อดที่จะเอ่ยปากถามขึ้นมาไม่ได้ เพราะเทคนิคนี้ย่อมกลายเป็นเทคนิคสำคัญของนักเวทอย่างแน่นอน

ชิงเฟิง, จางจื่อโป๋และคนอื่น ๆ ต่างก็มองไปทางลู่หยางเป็นตาเดียวเพื่อดูว่าชายหนุ่มจะตอบสนองต่อสถานการณ์นี้ยังไง

“มันไม่ได้มีความลับอะไรหรอก ตราบใดก็ตามที่พวกคุณมีปฏิกิริยาการตอบสนองที่รวดเร็วพอ พวกคุณก็สามารถลอกเลียนแบบการเคลื่อนไหวเมื่อกี้นี้ได้ง่าย ๆ หลังจากนี้ทุกคนก็แค่ต้องฝึกเพิ่มความเร็วของปฏิกิริยาการตอบสนองให้มาก ๆ” ลู่หยางกล่าว

ในชาติที่แล้วการที่นักเวทใช้สกิลแฟลชหลบหนีจากการโจมตีถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นได้โดยทั่วไป และถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะพูดออกมาเหมือนมันเป็นเทคนิคง่าย ๆ แต่ในความเป็นจริงมันก็จำเป็นจะต้องใช้การฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลานานนับเดือน

ท้ายที่สุดการเคลื่อนไหวนี้ก็ไม่เหมือนโจรที่เพิ่มค่าสถานะความว่องไวเพื่อเพิ่มค่าการหลบหลีก แต่มันจำเป็นจะต้องอาศัยปฏิกิริยาการตอบสนองของผู้เล่นในการหลบหนีการโจมตีที่กำลังพุ่งเข้ามา

ช่วงเวลาเสี้ยววินาทีที่สกิลของศัตรูกำลังทำงาน นั่นคือช่วงเวลาเดียวกันกับที่นักเวทจะต้องใช้สกิลแฟลชเพื่อทำการหลบหนี

หากพวกเขาใช้สกิลออกมาช้าแม้แต่เพียงนิดเดียวพวกเขาก็จะตายคาที่ แต่หากพวกเขาใช้สกิลเร็วเกินไปบอสก็จะหยุดใช้งานสกิลอย่างกะทันหัน ก่อนที่จะหันกลับมาใช้สกิลเข้าใส่พวกเขาอีกครั้งหนึ่ง

“อาจารย์ พวกเราไม่เข้าใจเลย” เหล่านักเวทกล่าวพร้อมกับกลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่ ซึ่งในระหว่างนี้พลังชีวิตของบอสก็ลดลงมาจนถึง 40%

“มีโอกาสอีกสองครั้ง จับตาดูเอาไว้ให้ดี ๆ ฉันจะสาธิตให้ดูอีกรอบ” ลู่หยางกล่าวก่อนที่เขาจะยิงลูกไฟเข้าใส่ศีรษะของบอส

เมื่อเกิดการโจมตีติดคริติคอล 3 ครั้งติดต่อกัน ค่าความเกลียดชังของฮันก้าก็เปลี่ยนมาที่ลู่หยางในทันที

รีเวิร์สเบลด!

ลู่หยางยืนอยู่กับที่รอจนกระทั่งมีดได้พุ่งเข้ามา ก่อนที่ร่างของเขาจะกลายเป็นแสงสว่างและหายไป

แฟลช!

ชายหนุ่มกระโดดหลบออกไปทางด้านข้างได้อีกครั้ง ก่อนที่เสี่ยวเหลียงจะใช้สกิลยั่วยุเพื่อลากบอสกลับไปยังมุมกำแพง

“เข้าใจแล้วใช่ไหม?” ลู่หยางถาม

นักเวททั้งสี่คนมองหน้ากันก่อนที่พวกเขาจะส่ายหัวไปมา เพราะถึงแม้จะมองซ้ำอีกครั้งหนึ่งแต่ทุกคนก็ยังไม่เข้าใจว่าลู่หยางใช้สกิลแฟลชออกมาในจังหวะไหนเลย

เมื่อบอสมีพลังชีวิตลดลงไปถึง 20% ลู่หยางก็สาธิตวิธีการหลบสกิลออกมาอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่มันยังไม่มีใครเข้าใจการเคลื่อนไหวของเขาอยู่ดี

อย่างไรก็ตามหากนักเวทต้องการจะเรียนรู้เทคนิคนี้ พวกเขาก็จำเป็นจะต้องกลับไปฝึกเพื่อเพิ่มพูนความเข้าใจของตัวเอง ท้ายที่สุดจังหวะการใช้สกิลแฟลชในการเผชิญหน้ากับศัตรูแต่ละประเภทก็มีจังหวะที่แตกต่างกันออกไป และมันก็เป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องใช้ประสบการณ์เพื่อเพิ่มพูนความเชี่ยวชาญของแต่ละคน

ในไม่ช้าเลือดของฮันก้าก็ลดลงมาเหลือต่ำกว่า 10%

“ทุกคนโจมตีเต็มกำลัง อีกไม่นานพวกเราก็จะได้รับอุปกรณ์กันแล้ว!” ลู่หยางตะโกน

เสียงนี้สร้างความกระตือรือร้นให้กับทุกคนในทันที ยิ่งไปกว่านั้นฮันก้ายังเป็นบอสตัวสุดท้ายของดันเจียน ทุกคนจึงคาดหวังว่าอุปกรณ์ที่ดรอปลงมาจะต้องเป็นอุปกรณ์ระดับเงินแน่ ๆ

ชาโดว์สไตรก์!

เมจิกแอรโรว์!

ชาโดว์แอรโรว์!

ไฟร์บอล!

ฮีโรอิคสไตรก์!

สกิลเป็นจำนวนมากถูกกระหน่ำเข้าใส่บอสอย่างต่อเนื่องจนทำให้พลังชีวิตของฮันก้าใกล้ที่จะหมดลงไปเต็มที

“หรือว่าจักรวรรดิฟาลส์จะไม่มีอนาคตอีกต่อไปแล้ว?” ฮันก้ากุมหน้าอกพร้อมกับทิ้งน้ำหนักคุกเข่าลงไปกับพื้น

ช่องแชทโลก: ผู้เล่นลู่หยาง, เซี่ยหยูเว่ย, เลี่ยจิ่วชิงเฟิงและสมาชิกในทีมเคลียร์ดันเจียนเดทเคฟระดับอีปิคได้สำเร็จ ค่าเกียรติยศเพิ่มขึ้น 100 หน่วย

“สำเร็จแล้ว!”

“พวกเราเคลียร์ดันเจียนระดับอีปิคได้จริง ๆ ด้วย!”

ทุกคนต่างก็หันไปมองลู่หยางด้วยความตื่นเต้น เพราะการเคลียร์ดันเจียนระดับอีปิคได้สำเร็จมันไม่ต่างไปจากปาฏิหาริย์

ยิ่งพวกเขามองดูข้อความที่ประกาศในช่องแชทโลก มันยิ่งทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับตกอยู่ในความฝัน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันให้ความรู้สึกราวกับว่ามันไม่ได้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง

เซี่ยหยู่เว่ยมองไปทางลู่หยางด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเคารพ เพราะท้ายที่สุดชายหนุ่มคนนี้ก็ได้ใช้ความสามารถของตัวเองในการนำทางทีมจนเคลียร์ดันเจียนได้สำเร็จ

บอสตัวแรกที่มีพลังทำลายล้างอย่างบ้าคลั่ง!

บอสตัวที่ 2 ที่มีสกิลหลบหลีกอันเหนือชั้น!

บอสตัวที่ 3 ที่ต้องใช้แฟลชหลบสกิลโจมตีถึงตาย!

เซี่ยหยู่เว่ยเดินไปข้างหน้าลู่หยาง ก่อนที่เธอจะกล่าวขึ้นมาด้วยความนอบน้อม

“ขอบคุณมาก ถ้าไม่ได้คุณ พวกเราไม่มีทางผ่านดันเจียนมาได้แน่ ๆ ครั้งนี้พวกเราเป็นหนี้บุญคุณคุณครั้งหนึ่งแล้ว”

ลู่หยางมองไปยังใบหน้าของเซี่ยหยู่เว่ยและได้พบว่าในตอนนี้สีหน้าของเธอไม่มีร่องรอยของความหยิ่งผยองอยู่เลยแม้แต่น้อย

“อาจารย์ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณมากจริง ๆ” หลานอวี่เดินเข้ามาพร้อมกับขอบคุณอย่างร่าเริง

ลู่หยางยิ้มให้กับทั้งสองคน ท้ายที่สุดการนำทีมของเซี่ยหยู่เว่ยมาลงดันเจียนในครั้งนี้มันก็เป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ เพราะท้ายที่สุดในตอนแรกเขาต้องการจะขอความช่วยเหลือไปที่ฉือมู่ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่ได้ให้ความสนใจดันเจียนแห่งนี้เลยแม้แต่น้อย สิ่งที่เขาให้ความสนใจคือบอสลับที่ซ่อนตัวอยู่หลังจากนี้ต่างหาก

“ไม่ต้องเกรงใจ เดี๋ยวฉันยังจะขอยืมแรงของพวกคุณอยู่ ตอนนี้พวกเรามาดูอุปกรณ์ที่ดรอปลงมาจากบอสดีกว่า” ลู่หยางกล่าว

“คราวนี้จะต้องเป็นของโจรแน่ ๆ”

“ไม่มีทาง มันจะต้องเป็นของนักรบต่างหาก”

พอพูดถึงเรื่องอุปกรณ์ทุกคนก็กลับมากระตือรือร้นกันอีกครั้ง ซึ่งในตอนแรกเซี่ยหยู่เว่ยกำลังจะเอ่ยปากถามสิ่งที่ลู่หยางได้พูดค้างเอาไว้ แต่เมื่อเธอได้เห็นหน้าทีของทุกคน หญิงสาวก็เลือกที่จะเก็บคำถามของตัวเองเอาไว้ก่อน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด