ตอนที่แล้วบทที่ 49 นักรบเกราะหนัก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 51 นายทำไม่ได้หรอก

บทที่ 50 เทคนิคขั้นเทพ


บทที่ 50 เทคนิคขั้นเทพ

อย่างไรก็ตามการใช้บัคนี้จำเป็นจะต้องใช้ทักษะของนักเวทธาตุไฟที่สูงมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นความเร็ว, มุมตกกระทบหรือจังหวะเวลา ทุกอย่างต่างก็ล้วนแล้วแต่จะต้องถูกคำนวณเอาไว้อย่างแม่นยำ

ลู่หยางไม่ได้ใช้บัคนี้มานานมากแล้วเขาจึงใช้ช่วงเวลาที่นักรบเกราะหนักกำลังเดินลาดตระเวนเข้าไปดูร่องระบายน้ำ และหลังจากที่ชายหนุ่มหาตำแหน่งที่เหมาะสมได้แล้วเขาก็เดินทางกลับไปหาสมาชิกภายในทีม

“เป็นยังไงบ้างครับ? พอจะมีวิธีการอะไรดี ๆ ไหม?” ชิงเฟิงถามแล้วเขาก็รู้สึกได้ว่าลู่หยางน่าจะหาวิธีได้แล้ว

เซี่ยหยูเว่ย, จางจื่อโป๋และคนอื่น ๆ ต่างมองไปที่ลู่หยางอย่างคาดหวังด้วยเช่นกัน

“ฉันหาวิธีได้แล้วทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม” ลู่หยางกล่าว

ระหว่างที่สมาชิกภายในทีมกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ เซี่ยหยู่เว่ยก็ถามขึ้นมาว่า

“พวกเราจะสู้ยังไง?”

ลู่หยางหันไปมองนักรบเกราะหนักที่กำลังเดินเข้ามายังตำแหน่งที่เขาเตรียมเอาไว้ จากนั้นชายหนุ่มก็เผยรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปากและพูดว่า

“ง่ายมาก”

พริบตาต่อมาร่างกายของชายหนุ่มก็กลายเป็นลำแสงหายไปอย่างกะทันหัน ก่อนที่เขาจะปรากฏตัวขึ้นระหว่างนักรบเกราะหนักทั้งสองแถว

“นี่มัน...?” ทุกคนตกตะลึง

“มีศัตรู! สังหารผู้บุกรุก!” นักรบเกราะหนักพูดขึ้นมาทันทีที่พวกมันได้เห็นการปรากฏตัวของลู่หยาง ก่อนที่หอกเหล็กกล้าทั้งแปดเล่มจะพุ่งเข้าหาชายหนุ่มพร้อม ๆ กัน

มอนสเตอร์ระดับอีลิทมีพลังโจมตีประมาณ 1 ใน 3 ของบอส ขณะที่ลู่หยางมีพลังป้องกันไม่ถึง 15 หน่วยและมีพลังชีวิตไม่ถึง 300 หน่วย หากเขาพลาดท่าถูกหอกทั้งแปดเล่มจู่โจมเข้าใส่พร้อม ๆ กัน ในเวลานั้นเขาก็จะต้องเสียชีวิตลงไปอย่างแน่นอน

ขณะที่พวกเซี่ยหยู่เว่ยกำลังคิดว่าลู่หยางจะถูกหอกแทงตาย ชายหนุ่มก็ได้ย่อตัวลงพึมพำคาถาในลำคอ ก่อนที่มันจะเกิดวงแหวนเปลวไฟพุ่งกระจายออกไปรอบด้าน

“รีซิสท์ไฟร์ริง!”

ตูม!

นักรบเกราะหนักทั้งสองฝั่งถูกผลักให้กระเด็นกันไปคนละทิศทาง โดยนักรบทางฝั่งขวาถูกผลักให้ตกลงไปในแม่น้ำ ขณะที่นักรบทางฝั่งซ้ายถูกผลักให้ตกลงไปในร่องระบายน้ำ และไม่ว่ามันจะดิ้นรนยังไงมันก็ไม่สามารถหลุดออกมาจากร่องระบายน้ำได้

เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้น

“มีวิธีแบบนี้ด้วย!”

“สวยมาก! นี่มันเป็นไอเดียที่แจ๋วไปเลย!!”

“ชิงเฟิง! เฮ่ยเจีย! เตรียมตัวให้พร้อม!! พอนักรบเกราะดำทั้งสี่ตัวนั้นขึ้นจากน้ำให้พวกคุณแบ่งกันไปชนกับพวกมันเอาไว้คนละสองตัว” ลู่หยางสั่งการ

“ครับ!” ชิงเฟิงขานรับพร้อมกับถือโล่ขนาดใหญ่พุ่งชาร์จเข้าใส่นักรบเกราะหนักตัวแรกที่กำลังปีนขึ้นฝั่ง จากนั้นเขาก็ใช้สกิลยั่วยุเพื่อดึงนักรบเกราะหนักอีกตัวหนึ่งเอาไว้

เสี่ยวเหลียงก็เคลื่อนไหวในทำนองเดียวกันเพื่อทำการดึงนักรบเกราะหนักที่เหลืออีกสองตัว

“ให้เวลาชิงเฟิงลดเกราะมัน 5 วินาที จากนั้นให้ทุกคนช่วยฉันโจมตีมอนสเตอร์ที่ชิงเฟิงดึงเอาไว้ก่อน” ลู่หยางสั่ง

หลังจากสั่งการจนจบชายหนุ่มก็ใช้ฟังก์ชั่นทำเครื่องหมายลูกศรสามเหลี่ยมเหนือหัวมอนสเตอร์ ซึ่งมันจะช่วยให้สมาชิกเข้าใจคำสั่งของผู้นำทีมได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ผู้เล่นทั้ง 12 คนเริ่มทำการจู่โจมพร้อมกัน และเนื่องจากลู่หยางเป็นคนนำทีม มอนสเตอร์ทั้งสี่จึงถูกสังหารภายในเวลาไม่ถึง 3 นาที ส่วนอีกด้านหนึ่งนักรบเกราะหนักทั้งสี่ที่ยังคงติดอยู่ในร่องระบายน้ำก็ยังไม่สามารถที่จะลุกขึ้นมาด้านบนได้

“เยี่ยม! แบบนี้ก็ง่ายเลย” จางจื่อโป๋กล่าว

“พวกเราไม่จำเป็นจะต้องแทงค์พวกมันเอาไว้แล้วใช่ไหม?” ชิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ต้องแล้ว พวกมันออกมาไม่ได้หรอก พวกนักเวทค่อย ๆ โจมตีไปไม่ต้องรีบร้อน” ลู่หยางกล่าว

“ครับ” ปานชีเฉินกวงและนักเวทอีก 3 คนพูดพร้อมกัน

เดิมทีมานาของพวกเขาเหลืออยู่ไม่มากแล้ว หากการต่อสู้ยังคงเป็นไปอย่างดุเดือดเช่นเดิม ในเวลานั้นมานาของพวกเขาย่อมไม่เพียงพออย่างแน่นอน แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ถึงแม้มานาของพวกเขาจะหมด แต่พวกเขาก็สามารถรอให้มานาฟื้นฟูขึ้นมาอย่างช้า ๆ และสามารถโจมตีได้อย่างสบายใจ

“อาจารย์ คุณโคตรเก่งเลย! คิดวิธีแบบนี้ขึ้นมาได้ยังไง” ชิงเฟิงกล่าวอย่างชื่นชม

“นี่คือเทคนิคชั้นยอดจริง ๆ ฉันเชื่อว่าตอนนี้ทั้งเกมคงจะมีคนเลียนแบบคุณได้แค่ไม่กี่คน” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวเสริม

“ไม่หรอก ฉันคิดว่าตอนนี้คงจะมีพี่ลู่หยางเพียงคนเดียวที่สามารถทำแบบนั้นได้ อย่างน้อยในกิลด์เพอร์เพิลโกลด์เดสตินี่กับโอเวอร์ลอร์ดของฉงป้าที่มีสมาชิกรวมกันนับแสนคนก็ไม่มีใครเลียนแบบการเคลื่อนไหวแบบนี้ได้” ชิงเฟิงพูดพร้อมกับส่ายหน้า

หลานอวี่และเซี่ยหยู่เว่ยมองไปทางชิงเฟิงด้วยความประหลาดใจ เพราะพวกเธอไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะยกย่องลู่หยางขนาดนี้

“นี่ฉันไม่ได้พูดเล่นนะ พวกคุณอาจจะเพิ่งรู้จักโหมดอิสระ แต่หัวหน้ากิลด์ของเรารู้จักโหมดอิสระตั้งแต่ก่อนเปิดเซิร์ฟแล้ว หลังเข้าเกมพวกเราก็ฝึกเล่นโหมดอิสระมาโดยตลอด สาเหตุที่ฉันสามารถแทงค์บอสได้นั้นก็เพราะโหมดอิสระเนี่ยแหละ แต่เทคนิคที่พี่ลู่หยางเพิ่งแสดงออกมา มันเป็นสิ่งที่ยากมากเกินไปและแม้แต่นักเวทในกิลด์ของฉันหรือกิลด์ของฉงป้าต่างก็ไม่มีทางที่จะเลียนแบบการเคลื่อนไหวนั้นได้ง่าย ๆ” ชิงเฟิงกล่าว

ความจริงแล้วสิ่งที่ชิงเฟิงพูดออกไปยังไม่ใช่ทั้งหมด เพราะในจังหวะที่ลู่หยางบลิ๊งค์เข้าไปในฝูงมอนสเตอร์ ชายหนุ่มได้ย่อตัวก่อนที่จะใช้รีซิสท์ไฟร์ริงออกมาด้วย

การย่อตัวเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้นักรบเกราะหนักกระเด็นลงไปในท่อระบายน้ำได้ อีกทั้งการเลือกมุมในการกระแทกออกไปย่อมไม่ใช่สิ่งที่จะเลียนแบบได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน เพราะถ้าหากมุมโจมตีอยู่ต่ำมากจนเกินไปมอนสเตอร์ก็จะกระเด็นไปชนกำแพงแล้วกระเด้งกลับมา ขณะที่ถ้าหากมุมโจมตีอยู่สูงเกินไปนักรบเกราะหนักก็จะกระเด็นไปไม่ถึงร่องระบายน้ำด้วยเช่นกัน

หลานอวี่มองลู่หยางด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมาว่า

“อาจารย์ คุณนี่เทพจริง ๆ”

“ฉันไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้นหรอก มันเป็นเพียงแค่เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกคนไม่จำเป็นจะต้องพูดชมมากขนาดนั้น” ลู่หยางกล่าวอย่างถ่อมตัว

ชิงเฟิงเผยรอยยิ้มโดยไม่พูดอะไรขึ้นมาอีกและเขาก็ตัดสินใจแล้วว่าทันทีที่เขาออกไปจากดันเจียนได้สำเร็จ เขาจะทำการส่งวิดีโอไปให้กับฉือมู่เพื่อให้นักเวทภายในกิลด์เริ่มฝึกใช้โหมดอิสระโดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของลู่หยาง

ไม่นานนักรบเกราะหนักทั้งสี่คนที่ติดอยู่ในช่องระบายน้ำก็ถูกสังหาร ทุกคนจึงเริ่มออกเดินทางกันต่อ

หลังจากเดินไปสักพัก ชิงเฟิงที่นำอยู่ด้านหน้าก็พูดขึ้นมาว่า

“ข้างหน้ามีนักรบเกราะหนักอีกแปดตัว คราวนี้พวกเราคงต้องรบกวนพี่ลู่หยางอีกแล้ว”

ชายหนุ่มกำลังจะตอบตกลง แต่ทันใดนั้นมันก็มีเสียงกวน ๆ ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังเสียก่อน

“เดี๋ยวก่อน!”

ทุกคนต่างก็รีบมองไปทางต้นเสียงในทันทีและได้พบว่าผู้ที่พูดประโยคนี้ขึ้นมาแท้ที่จริงแล้วคือเจิ้งหยวน

“มีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?” ชิงเฟิงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

เซี่ยหยู่เว่ยพยายามกลั้นอารมณ์และถามขึ้นมาว่า

“นายกำลังจะทำอะไรอีก?”

เมื่อเจิ้งหยวนเห็นทุกคนกำลังจ้องมองมาเขาก็เชิดหน้าอกอย่างภาคภูมิใจ จากนั้นเขาก็เดินไปด้านหน้าลู่หยางและพูดขึ้นมาว่า

“เมื่อกี้ฉันฟังทุกคนพูดแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะยากมาก ฉันเลยอยากจะลองดูบ้าง”

“นายกำลังจะทำบ้าอะไรเนี่ย?!” เซี่ยหยู่เว่ยพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว

“เจิ้งหยวนให้อาจารย์เขาเป็นคนลงมือเถอะ เรื่องนี้มันอันตรายเกินไป” หลานอวี่กล่าว

“ก็แค่บลิ๊งค์แล้วก็ใช้รีซิสท์ไฟร์ริงเท่านั้นเอง มันจะไปยากตรงไหน? สกิลสองสกิลนี้ฉันก็มีอยู่เหมือนกัน” เจิ้งหยวนกล่าวอย่างไม่พอใจ

ขณะนี้มันไม่ใช่เพียงหลานอวี่คนเดียวอีกต่อไปแล้ว เพราะแม้แต่เซี่ยหยู่เว่ยก็กำลังเข้าข้างลู่หยางมากขึ้นเรื่อย ๆ เจิ้งหยวนจึงอยากจะเหยียบย่ำลู่หยางต่อหน้าสาว ๆ เพื่อบอกว่าเรื่องแค่นี้เขาก็สามารถทำได้ด้วยเหมือนกัน

“ถ้าคุณไม่มีปัญหาฉันไปแล้วนะ ขอทางหน่อย” เจิ้งหยวนกล่าวขณะจ้องหน้าลู่หยาง

ชายหนุ่มอดที่จะขำขึ้นมาไม่ได้ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาว่า

“เชิญเลย แต่ฉันขอเตือนเอาไว้ก่อนว่าคุณทำไม่ได้หรอก เกิดตายขึ้นมาก็อย่ามาโทษกันทีหลังล่ะ”

“พูดอย่างกับมันยากมากขนาดนั้นแหละ!” เจิ้งหยวนพูดอย่างหยิ่งยโส ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปหานักรบเกราะหนักทั้งแปดตัว

“ทุกคนถอยไปหน่อย” ลู่หยางส่ายหัวพร้อมกับบอกสมาชิกภายในทีม

“ทำไมล่ะ?” เซี่ยหยูเว่ยถาม

“ถ้าถอยไปไกลกว่านี้นักรบจะเข้าไปชนมอนสเตอร์เอาไว้ไม่ทันนะ” จางจื่อโป๋กล่าว

พวกเซี่ยหยู่เว่ยยังไม่เคยลองโหมดอิสระมาก่อนพวกเธอจึงไม่เข้าใจว่าทำไมชิงเฟิงถึงชื่นชมลู่หยางมากขนาดนั้น และภายในใจของพวกเขาต่างก็คิดว่าเจิ้งหยวนสามารถลอกเลียนแบบการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้เหมือนกัน

“เชื่อฉันเถอะว่าเขาทำไม่ได้หรอก” ลู่หยางกล่าว

ทำไมคนแบบนี้ยังอยู่ในตี้อีกกกกกกก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด