บทที่ 48 สังหารคลิฟ
บทที่ 48 สังหารคลิฟ
หลังจากเวลาผ่านพ้นไปไม่ถึง 3 นาที พลังชีวิตของคลิฟก็ลดลงเหลือประมาณ 50% จนทำให้ทุกคนต่างก็รู้สึกผ่อนคลาย
“ที่แท้บอสตัวนี้ก็ไม่เท่าไหร่นี่หว่า”
“ใช่ มันไม่เห็นยากอย่างที่คิดเอาไว้เลย”
ตอนที่สมาชิกภายในทีมกำลังพูดคุยกัน ลู่หยางก็ไม่ได้ลดความระมัดระวังของตัวเองลงเลย แล้วเมื่อเขาได้เห็นพลังชีวิตของบอสลดลงต่ำกว่า 50% ชายหนุ่มก็เริ่มสังเกตมือซ้ายของคลิฟอย่างใกล้ชิด
“ไอ้พวกมนุษย์ที่ต่ำต้อยจงลิ้มรสความโกรธของข้าไปซะ!!” จู่ ๆ มือซ้ายของคลิฟที่ไม่ได้ถืออาวุธก็รวบรวมพลังน้ำแข็งเป็นทรงกลมและขว้างมันออกไปในตำแหน่งของหลานอวี่
“หลานอวี่หยุดมือแล้วหลบสกิลก่อนเร็วเข้า!” ลู่หยางตะโกนออกคำสั่ง
หลานอวี่อยู่ในช่วงระหว่างการใช้สกิล เธอจึงรู้สึกลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่อเธอได้ยินเสียงของลู่หยาง เธอก็หยุดใช้สกิลและกระโดดหลบออกไปในทันที
ก้อนน้ำแข็งตกลงตรงตำแหน่งที่หลานอวี่ยืนอยู่เมื่อสักครู่ในเวลาเพียงแค่ไม่นาน ก่อนที่มันจะทำให้พื้นที่บริเวณนั้นถูกแช่แข็งไปทั้งหมด
“นั่นมันสกิลอะไร? ทำไมมันถึงดูเหมือนมีพลังทำลายล้างเลย” หลานอวี่ถาม
“มันเป็นสกิลลดความเร็วหรือเปล่า?”
“ทำไมจู่ ๆ มันถึงใช้สกิลออกมามั่ว ๆ แบบนั้นล่ะ”
ทุกคนต่างก็สับสนเมื่อได้เห็นการเคลื่อนไหวของคลิฟ
“ทุกคนอย่าประมาท! สกิลของบอสไม่มีทางที่จะไร้ประโยชน์ จำเอาไว้ทุกครั้งที่เห็นสกิลของบอสจงให้ความสำคัญกับการหลบหลีกเป็นอันดับแรก” ลู่หยางตะโกนสั่ง
“แล้วพวกเราที่อยู่ในระยะประชิดล่ะ?” เซี่ยหยู่เว่ยตะโกนถาม
“ระยะประชิดก็ต้องหลบ” ลู่หยางตอบ
เซี่ยหยู่เว่ยพยักหน้าและเริ่มระวังบอสมากยิ่งขึ้น ส่วนทางด้านปานชีเฉินกวงและนักเวทคนอื่น ๆ ก็เริ่มระวังตัวเช่นกัน
10 วินาทีต่อมา
มือขวาของคลิฟเริ่มรวบรวมพลังน้ำแข็งอีกครั้ง โดยในคราวนี้มันได้ขว้างก้อนน้ำแข็งมาทางลู่หยาง ชายหนุ่มจึงขยับออกไปทางซ้าย 2 ก้าวเพื่อทำการหลบก้อนน้ำแข็งที่ถูกขว้างมา
เมื่อก้อนน้ำแข็งตกกระทบกับพื้น มันก็แตกกระจายแช่พื้นที่บริเวณนั้นให้กลายเป็นน้ำแข็งเหมือนเดิม เจิ้งหยวนที่เห็นการเคลื่อนไหวของลู่หยางจึงคิดภายในใจด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความดูถูก
“มันก็แค่สกิลลดความเร็ว ไม่เห็นจะมีอะไรน่ากลัวเลย”
10 วินาทีต่อมามือของคลิฟก็เริ่มรวบรวมพลังน้ำแข็ง โดยในคราวนี้เป้าหมายของมันคือเจิ้งหยวน
“หลบ!” ลู่หยางตะโกนบอก
อย่างไรก็ตามขณะนี้เจิ้งหยวนก็อยู่ในช่วงที่ร่ายเวทและไม่ได้สนใจคำเตือนของลู่หยางเลย เขายังคงยืนอยู่ในตำแหน่งเดิมจนกระทั่งยิงไฟร์บอลออกไปแล้วจึงทำการเคลื่อนไหวเพื่อหลบหลีกก้อนน้ำแข็ง
อย่างไรก็ตามการพยายามเคลื่อนไหวในตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว เพราะก้อนน้ำแข็งได้ปะทะเข้ากับร่างของเจิ้งหยวนเข้าเต็ม ๆ
ระบบ: คุณถูกพลังน้ำแข็งโจมตี ความเร็วในการเคลื่อนที่ลดลง 70%
“อาหารของข้า! ในที่สุดร่างกายของเจ้าก็ถูกชำระล้างให้สะอาดแล้ว มันถึงเวลาที่ข้าจะต้องปรุงร่างของเจ้าให้สุกเสียที” คลิฟร้องตะโกนอย่างดีใจ ก่อนที่มันจะรวบรวมพลังเปลวไฟและขว้างเข้าไปใส่ เจิ้งหยวนอีกครั้ง
คุณชายเอาแต่ใจเบิกตากว้างอย่างตกตะลึงและพยายามวิ่งหลบออกไปทางด้านข้าง อย่างไรก็ตามเนื่องมาจากความเร็วในการเคลื่อนที่ที่ลดลงไปจากเดิม 70% มันจึงทำให้การเคลื่อนไหวของเขาไม่ต่างไปจากเต่าคลาน
ตูม!
ร่างของเจิ้งหยวนปะทะเข้ากับลูกไฟเต็ม ๆ จนทำให้ก่อให้เกิดเปลวไฟอันลุกโชน
-100
เจิ้งหยวนมีพลังชีวิตอยู่ไม่ถึง 90 หน่วย การจู่โจมในครั้งนี้จึงทำให้เขาเสียชีวิตลงไปภายใต้การโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว
“แรงขนาดนั้นเลยเหรอ?!” จางจื่อโป๋อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ทุกคนระวังตัวเอาไว้ด้วย อย่าให้ใครพลาดโดนก้อนน้ำแข็งเข้าไปอีก” ลู่หยางตะโกนย้ำ
ชายหนุ่มหวังว่าสมาชิกภายในทีมจะไม่มีใครเสียชีวิตมากเกินไป เพราะในเวลานั้นความเสียหายของทีมจะไม่มากพอที่จะจัดการกับบอสลง
พวกเซี่ยหยู่เว่ยพยักหน้ารับอย่างเคร่งเครียด ซึ่งหลังจากที่พวกเธอได้เห็นพลังทำลายของบอส มันก็ไม่มีใครกล้าประมาทก้อนน้ำแข็งอีกต่อไป
ทุกคนยังคงโจมตีภายใต้คำแนะนำของลู่หยางต่อไป และภายในเวลาเพียงแค่ไม่นานพลังชีวิตของบอสก็ลดลงมาเหลือต่ำกว่า 10%
เมื่อเห็นว่าพลังชีวิตของบอสเหลือไม่ถึง 5,000 หน่วย ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าออกมาอย่างตื่นเต้น
“พวกเราทำได้!”
“มันกำลังจะตายแล้วจริง ๆ”
แม้แต่เซี่ยหยู่เว่ยก็กำลังแสดงสีหน้าตื่นเต้นออกมาด้วยเช่นกัน แต่ในทันใดนั้นปานชีเฉินกวงก็ตะโกนขึ้นมาซะก่อน
“หัวหน้า! มานาผมหมดแล้ว!!”
“ผมด้วย! ตอนนี้ผมใช้ไฟร์บอลไม่ได้แล้ว”
“ของผมก็หมด”
“ของผมก็หมดเหมือนกัน”
นักเวททั้งสี่คนต่างก็มานาหมดไปตาม ๆ กัน ซึ่งในความเป็นจริงมานาของพวกเขาสมควรจะหมดไปตั้งนานแล้ว แต่ในระหว่างการต่อสู้คลิฟได้โยนก้อนน้ำแข็งออกมาหลายครั้ง ทำให้สมาชิกภายในทีมจำเป็นจะต้องหลบการโจมตี และด้วยระยะเวลาที่เว้นว่างไปนี้จึงทำให้ทุกคนมีมานาจู่โจมมาจนถึงปัจจุบัน
“มานาของฉันก็ใกล้จะหมดแล้วเหมือนกัน” หลานอวี่กล่าว
แม้พลังชีวิตของบอสจะเหลืออยู่เพียงแค่น้อยนิด แต่ถ้าหากมานาของนักบวชหมดลง มันก็หมายความว่าตัวแทงค์จะไม่สามารถยืนชนบอสเอาไว้ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งในเวลานั้นพวกเขาก็จะไม่สามารถผ่านพ้นบอสตัวนี้ไปได้
“สายระยะประชิดเร่งโจมตี พวกเราจะต้องฆ่าบอสตัวนี้ลงให้ได้!” เซี่ยหยู่เว่ยกัดฟันส่งเสียงตะโกน
บอสระดับอีปิคมีโอกาสดรอปอุปกรณ์ระดับเงิน และถึงแม้ว่าสมาชิกทุกคนภายในทีมจะเสียชีวิต แต่ถ้าหากพวกเธอได้อุปกรณ์ระดับเงินมา การเสียชีวิตนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่คุ้มค่ามากแล้ว
“สู้เว้ย!!” พวกจางจื่อโป๋ต่างก็เข้าใจเหตุผลนี้ด้วยเช่นกัน พวกเขาจึงตะโกนปลุกใจพรรคพวกของตัวเอง
ระหว่างนั้นคลิฟก็ได้ขว้างก้อนน้ำแข็งในมือลงบนพื้น ชิงเฟิง, เซี่ยหยูเว่ยและคนอื่น ๆ จึงต่างก็รีบกระโดดถอยหลังด้วยความตกใจ
ตูม!
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างฉับพลันพร้อมกับวงกลมสีฟ้าที่ปรากฏขึ้นมารอบ ๆ ตัวของคลิฟ
ตอนนี้หลานอวี่ไม่มีมานาเหลือแล้ว ส่วนทางด้านพลังชีวิตของชิงเฟิงก็เหลือไม่ถึง 300 หน่วยด้วยเช่นกัน หากการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปเขาต้องตายภายใต้การโจมตีของบอสอย่างแน่นอน แต่คนอื่น ๆ ก็ไม่ได้มีเทคนิคในการชนบอสเหมือนกับเขา ชิงเฟิงจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากกัดฟันและใช้สกิลเพื่อยั่วยุบอสต่อไป
“ชิงเฟิงถอยออกมา เฮ่ยเจียเข้าไปยั่วยุบอสแล้วเปิดใช้สกิลชิลด์วอลล์” ลู่หยางตะโกนออกคำสั่ง
“ในที่สุดก็ถึงเวลาของผมแล้วสินะ” เสี่ยวเหลียงตะโกนอย่างตื่นเต้น ก่อนที่เขาจะวิ่งเข้าไปหาบอสเพื่อขัดขวางเส้นทางระหว่างบอสกับชิงเฟิงเอาไว้
“ชิลด์วอลล์!” เสี่ยวเหลียงปักโล่ลงกับพื้น ก่อนที่จะซ่อนร่างของตัวเองเอาไว้หลังโล่
ตูม!
กระบองขนาดใหญ่ของคลิฟฟาดโดนโล่เข้าอย่างจัง และในระหว่างที่ทุกคนคิดว่าเสี่ยวเหลียงจะได้รับความเสียหายมากกว่า 170 หน่วย แต่ในความเป็นจริงมันกลับมีตัวเลขปรากฏเหนือศีรษะของเด็กหนุ่มเพียงแค่ 102 หน่วยเท่านั้น
“ทำไมเบาขนาดนี้?” ชิงเฟิงถามด้วยความตกใจ
“นั่นคือสกิลป้องกันของนักรบชื่อว่าสกิลชิลด์วอลล์ เดี๋ยวฉันค่อยอธิบายรายละเอียดทีหลัง”
“เฮ่ยเจียอย่าพึ่งขยับ ตอนนี้รอบ ๆ ตัวของนายถูกแช่แข็งเอาไว้หมดแล้ว” ลู่หยางตะโกน
เมื่อพวกเซี่ยหยู่เว่ยเห็นเสี่ยวเหลียงดึงดูดความสนใจของบอสเอาไว้ได้แล้ว พวกเธอก็อยากจะเข้าไปโจมตีแต่คลิฟโยนก้อนน้ำแข็ง 3 ลูกติด ๆ กันเพื่อปิดเส้นทางจนทำให้นักสู้ระยะประชิดถูกดันออกไปบริเวณรอบนอกและไม่สามารถที่จะเข้าไปโจมตีได้เลย
“พวกเราเข้าไปโจมตีไม่ได้ แบบนี้จะทำยังไงกันดี?” จางจื่อโป๋ตะโกน
ผู้เล่นสายโจมตีระยะไกลก็ไม่เหลือมานา ขณะที่ผู้เล่นสายโจมตีระยะประชิดก็เข้าไปโจมตีไม่ได้ด้วยเช่นกัน แม้เสี่ยวเหลียงจะรับการโจมตีของบอสได้มากกว่า 10 ครั้ง แต่การพยายามสร้างความเสียหายเข้าใส่บอสที่เหลือพลังชีวิตเพียงแค่ 4% มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังแสดงสีหน้าสิ้นหวังออกมาอยู่นั้น ลูกไฟลูกหนึ่งก็พุ่งใส่ศีรษะของคลิฟอย่างแม่นยำ
-400 (คริติคอล)
ทุกคนต่างก็รีบหันไปมองอย่างลู่หยางในทันที และได้เห็นว่าชายคนนี้เพิ่งเก็บขวดยาเข้าใส่กระเป๋าแล้วทำการเรียกลูกไฟลูกที่ 2 ขึ้นมาภายในมือ
ฟิ้ว!
ลูกไฟอีกลูกพุ่งเข้าปะทะศีรษะของบอส
-400 (คริติคอล)
เลือดของคลิฟลดลงเหลือ 3% หรือก็คือ 1,200 หน่วย
“ลู่หยางยังเหลือมานา สู้เขานะอาจารย์!!” หลานอวี่ตะโกนอย่างตื่นเต้น
“สู้ๆ!” ปานชีเฉินกวงตะโกน
“สู้ๆ!” จางจื่อโป๋ตะโกน
“สู้ๆ!” เซี่ยหยูเว่ยตะโกน
ขอแค่ลู่หยางจู่โจมแบบเดิมอีกสามครั้ง บอสก็จะถูกสังหารลงไปอย่างแน่นอนและในระหว่างที่คลิฟเหลือพลังชีวิตเพียงแค่ 2% มันก็ทำการขว้างก้อนน้ำแข็งใส่ชายหนุ่ม
เมื่อได้เห็นก้อนน้ำแข็งที่กำลังพุ่งเข้ามา พวกเซี่ยหยู่เว่ยต่างก็พากันตะโกนส่งเสียงเตือน
“หลบ!”
ลู่หยางรู้ดีว่าเขาควรจะหลบก้อนน้ำแข็งที่พุ่งมาในครั้งนี้ แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะหลบการโจมตีได้เหมือนกัน เพราะพลังชีวิตของเสี่ยวเหลียงเหลือไม่ถึง 200 หน่วยแล้ว หากบอสจู่โจมอีกเพียงแค่สองครั้งเด็กหนุ่มก็จะเสียชีวิตลง
เพื่อไม่ให้เสี่ยวเหลียงสูญเสียค่าประสบการณ์โดยไม่จำเป็น ลู่หยางจึงตัดสินใจโชว์ทักษะนักเวทไฟที่สั่งสมมานานหลายปี
“น้องชายอดทนเอาไว้ ฉันสัญญาว่าจะไม่ให้นายเสียค่าประสบการณ์แน่นอน” ลู่หยางส่งเสียงตะโกน
เสี่ยวเหลียงมั่นใจในตัวของลู่หยางอย่างเต็มเปี่ยม และถึงแม้พลังชีวิตของตัวเองจะลดลงเรื่อย ๆ แต่เขาก็ยังคงยืนหยัดต่อหน้าบอสอย่างมั่นคง
1 วินาทีต่อมาก้อนน้ำแข็งก็ระเบิดบนตัวของลู่หยาง ซึ่งถ้าหากว่าชายหนุ่มหลบหลีกการโจมตีบอสจะต้องฟาดกระบองเข้าใส่เสี่ยวเหลียงอย่างแน่นอน
ในตอนนั้นแม้ว่าลู่หยางจะฆ่าบอสได้สำเร็จแต่เสี่ยวเหลียงก็ยังต้องเสียชีวิต แต่ถ้าเขายอมรับลูกน้ำแข็ง การโจมตีครั้งต่อไปของบอสก็จะเป็นการขว้างลูกไฟเข้ามาหาเขาแทน
“อาหารของข้า! ในที่สุดร่างกายของเจ้าก็ถูกชำระล้างให้สะอาดแล้ว มันถึงเวลาที่ข้าจะต้องปรุงร่างของเจ้าให้สุกเสียที” คลิฟที่เหลือพลังชีวิตแค่ 1% เริ่มทำการขว้างลูกไฟเข้าใส่ลู่หยาง
ลูกไฟลูกเล็ก ๆ ส่องแสงสีแดงพุ่งเข้าไปใส่ชายหนุ่มด้วยความรวดเร็ว ซึ่งในตอนนี้ลู่หยางถูกลดความเร็วไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขาจึงไม่มีทางวิ่งหลบลูกไฟได้อย่างแน่นอน แต่ในขณะที่ทุกคนคิดว่าลู่หยางกำลังจะถูกเปลวไฟเผาตาย ทันใดนั้นร่างของชายหนุ่มก็ได้กลายเป็นลำแสงขึ้นมาเสียก่อน
“บลิ๊งค์!”
ลู่หยางเทเลพอร์ตไปยังพื้นที่ที่ถูกแช่แข็งในบริเวณหนึ่งทำให้ร่างกายของเขาเข้าสู่สถานะถูกลดความเร็วอีกครั้ง
คลิฟเหลือพลังชีวิตแค่ 100 กว่า ๆ ซึ่งหลังจากที่มันขว้างลูกไฟ มันก็สมควรจะหันกลับมาฟาดกระบองเข้าใส่เสี่ยวเหลียงที่อยู่ใกล้ที่สุด อย่างไรก็ตามเมื่อร่างของลู่หยางตกกระทบลงบนบ่อน้ำแข็ง คลิฟจึงเปลี่ยนเป้าหมายเป็นการใช้ลูกไฟจู่โจมเข้าใส่ลู่หยางแทน
แต่ในระหว่างที่บอสกำลังรวบรวมลูกไฟภายในมือ ลูกไฟของลู่หยางก็พุ่งผ่านอากาศเป็นเส้นตรงสีแดงอันสวยงาม
ตูม!
ลูกไฟปะทะเข้ากับศีรษะของคลิฟอย่างแม่นยำ
-400 (คริติคอล)
ดวงตาของคลิฟเริ่มหมดแสงลง แขนซ้ายที่กำลังจะยกขึ้นก็หมดแรงทิ้งดิ่งลงไปพร้อม ๆ กับร่างกายอันใหญ่โต
ระบบ: คลิฟตายแล้ว
ระบบ: คุณได้รับค่าประสบการณ์ 4,128 หน่วย
ระบบ: ทีมที่นำโดยลู่หยางสังหารคลิฟบอสระดับอีปิคของดันเจียนได้สำเร็จ ข้อมูลทีมจึงได้รับการบันทึกลงในประวัติศาสตร์ของเกม ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นทุกคนภายในทีมด้วย
ข้อความแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้น 3 ครั้งติดต่อกันทำให้ทุกคนที่กำลังยืนตกตะลึงอยู่นั้นแทบที่จะขอร้องขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
พี่หยางแบกทุกคน 5555