บทที่ 39 ผลิตยา
บทที่ 39 ผลิตยา
“ทุกคนรอฉันก่อนนะ ฉันจะไปช่วยทุกคนแน่ ๆ” ลู่หยางคิดขณะที่มือยังคงปรุงยาอย่างต่อเนื่อง
5 นาทีต่อมาการปรุงยาก็ได้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายเหลือแค่การเทน้ำยาลงไปในขวดแก้วและระบายความร้อนก็จะถือว่ากระบวนการทุกอย่างเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์
แน่นอนว่าขวดแก้วแต่ละขวดไม่ใช่ของฟรี แล้วมันก็มีราคาต่ำสุดอยู่ที่ขวดละ 2 เหรียญทองแดง
ลู่หยางนำขวดแก้ว 30 ขวดที่ได้ซื้อเอาไว้ในก่อนหน้านี้มาวางเรียงกันบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ จากนั้นเขาก็หยิบขวดแก้วขวดหนึ่งมาวางที่ปลายท่อระบายความร้อนและทำการเปิดวาล์วเพื่อเทน้ำยาลงไปภายในขวด
ยาต้านพิษเป็นของเหลวสีดำที่มีความข้นอยู่เล็กน้อย ลู่หยางจึงทำการเขย่าขวดเบา ๆ ก่อนที่จะยกน้ำยาดื่มเข้าไปทั้งขวด
ระบบ: ค่าต้านพิษของคุณเพิ่มขึ้น 50 หน่วย
ลู่หยางกำหมัดอย่างยินดี เพราะนี่มันหมายความว่าเขาปรุงยาได้เป็นผลสำเร็จ
ก่อนหน้านี้เขารู้สึกกังวลใจอยู่บ้าง เพราะเขาไม่ได้ปรุงยาขั้นต้นแบบนี้มานานมากแล้ว ชายหนุ่มจึงไม่ได้คิดว่าตัวเองจะทำสำเร็จตั้งแต่ในครั้งแรกด้วยเหมือนกัน
เมื่อครั้งแรกสำเร็จแล้วครั้งต่อ ๆ ไปมันก็จะง่ายขึ้นกว่าเดิม หลังจากลู่หยางเทยาใส่ขวดแก้วส่วนที่เหลือ เขาก็หยิบสมุนไพรออกมาเพื่อทำการปรุงน้ำยาชุดต่อไป…
1 ชั่วโมงผ่านไปลู่หยางปรุงยามาได้แล้วถึงสามหม้อโดยไม่พลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ชายหนุ่มจึงมองไปยังขวดแก้วทั้ง 89 ขวดที่ถูกวางเรียงอยู่บนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบด้วยความสุขใจ เพราะถ้าหากพวกมันถูกขายในราคาขวดละ 5 เหรียญเงิน ก็หมายความว่าพวกมันมีมูลค่าสูงถึง 4 เหรียญทองเลยทีเดียว
หลังออกจากห้องปรุงยาและบอกลาโบเคนส์ ชายหนุ่มก็มุ่งหน้าตรงไปยังธนาคารประจำเมืองเซนต์กอลล์
ธนาคารนี้เป็นสถานที่สำหรับการเก็บเงินและอุปกรณ์ที่ทางเกมจัดไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เล่น ซึ่งผู้เล่นแต่ละคนจะมีกล่อง 1 ใบที่สามารถใส่ของได้ 50 ชิ้น หากพวกเขาต้องการที่จะเก็บของได้เพิ่มมากขึ้น ผู้เล่นก็จำเป็นจะต้องขอเช่ากล่องใบใหม่
อย่างไรก็ตามผู้เล่นก็ไม่ค่อยได้เช่ากล่องใบที่ 2 ของธนาคารมากนัก เพราะกล่องแต่ละใบมีค่าเช่าสูงถึง 1 เหรียญทองต่อสัปดาห์
ลู่หยางเปิดกล่องเก็บของเพื่อนำน้ำยาใส่ลงไป โดยน้ำยาก็มีการรวมกลุ่มกันเป็นกอง ๆ เหมือนกับสมุนไพร โดยแต่ละกองจะรวมน้ำยาไว้ทั้งหมด 30 ขวด
หลังเก็บน้ำยาเรียบร้อยแล้วเขาก็ติดต่อไปถามสถานการณ์ของเสี่ยวเหลียง และได้รู้ว่าเด็กหนุ่มยังคงเก็บเลเวลอย่างไม่หยุดพัก เขาจึงสั่งให้อีกฝ่ายออกไปพักนอกเกมได้แล้ว
พอเสี่ยวเหลียงออกจากเกม ลู่หยางก็ออกจากเกมไปพักผ่อนด้วยเช่นกัน
ชายหนุ่มถอดหมวกเกมพร้อมกับลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอน จากนั้นเขาก็กินอาหารง่าย ๆ และออกกำลังกายตามที่วางแผนไว้
ถึงแม้ร่างกายจะยังฟื้นตัวกลับมาไม่เต็มที่จากการออกกำลังกายเมื่อวานอย่างหนัก แต่ชายหนุ่มก็ยังคงฝืนทนออกกำลังกายต่อไปแม้ว่ากล้ามเนื้อจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม
นักปราชญ์โบราณเคยกล่าวไว้ว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้นจากวินัยที่ผู้คนจะต้องฝึกฝนซ้ำ ๆ อย่างสม่ำเสมอ
2 ชั่วโมงผ่านไปร่างกายของลู่หยางก็มาถึงขีดจำกัด ซึ่งในคราวนี้กล้ามเนื้อของชายหนุ่มให้ความเจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิม แต่ลู่หยางก็รู้สึกว่าเขากำลังควบคุมร่างกายของตัวเองได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
ชายหนุ่มฝืนลุกขึ้นยืนอยู่กับที่ ก่อนที่จะค่อย ๆ ลากสังขารไปยังห้องน้ำทีละก้าว หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเขาก็กลับมาล้มตัวลงนอนบนเตียง เมื่อตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลเขาก็ได้พบว่าเวลาล่วงเลยผ่านมาจนถึงประมาณ 4 โมงเย็นแล้ว
ลู่หยางกินอาหารที่ทำขึ้นอย่างง่าย ๆ ก่อนที่เขาจะสวมหมวกเพื่อกลับเข้าสู่เซคคัลเวิลด์อีกครั้งหนึ่ง
พอล็อกอินเข้าสู่เกม ลู่หยางก็เตรียมตัวจะมุ่งหน้าไปหาเงินที่ป่าโทรลล์ต่อไป แต่มันกลับมีคนติดต่อเข้ามาหาเขาเสียก่อน
เมื่อเปิดดูชายหนุ่มก็ได้พบว่าผู้ติดต่อมาคือฉือมู่ ซึ่งหลังจากที่เขาตอบรับแต่ยังไม่ทันได้ทักทาย มันก็มีเสียงหัวเราะของชายชราดังขึ้นมาเสียก่อน
“น้องชาย คราวนี้ฉันต้องขอบคุณนายจริง ๆ”
“มีอะไรงั้นเหรอครับ?” ลู่หยางถาม
“ด้วยโล่ที่นายให้ยืมมาเมื่อเช้ากิลด์ของฉันจึงกลายเป็นกิลด์แรกในเกมที่สามารถเคลียร์ดันเจียนเลเวล 3 ได้สำเร็จ และถูกจารึกชื่อลงในประวัติศาสตร์ของเซคคัลเวิลด์ นายคิดว่าฉันควรจะต้องเฉลิมฉลองกับความสำเร็จนี้ไหมล่ะ” ฉือมู่พูดอย่างตื่นเต้น
ลู่หยางไม่ได้รู้สึกตกใจกับข่าวนี้มากเท่าไหร่นัก เพราะพลังของโล่โกลเดนเดรคชิลด์อยู่ในระดับที่ดีมากอยู่แล้ว ไม่ว่าใครที่ได้รับโล่ชิ้นนี้ไปการผ่านดันเจียนเลเวล 3 ย่อมไม่ใช่ปัญหาเลย ยิ่งไปกว่านั้นภายใต้การนำของฉือมู่ยังมีผู้เล่นชั้นนำอยู่เป็นจำนวนอีกอย่างมากมาย
“ยินดีด้วยครับ” ลู่หยางกล่าว
“ที่มันเป็นแบบนี้นั่นก็เพราะความมีน้ำใจของน้องชายนั่นแหละ” ฉือมู่กล่าวอย่างยินดี เพราะการที่กิลด์ของเขาได้รับรางวัลเฟิร์สเคลียร์ มันก็ไม่เพียงแต่จะนำชื่อเสียงมาให้กับกิลด์อย่างมากมาย แต่มันยังช่วยกระตุ้นให้ผู้เล่นเป็นจำนวนมากต้องการจะมาสมัครเข้าร่วมกิลด์ของเขาอีกด้วย
จากเดิมสมาชิกภายในกิลด์ของชายชรามีอยู่ประมาณ 40,000 คน แต่ในชั่วข้ามคืนมันก็มีคนขอสมัครเข้าร่วมกิลด์เพิ่มขึ้นอีก 20,000 กว่าคน
“ครั้งนี้ฉันติดหนี้นายแล้ว ถ้ามีอะไรติดต่อมาหาฉันได้ตลอด ตราบใดก็ตามที่ฉันช่วยได้ ฉันจะไม่ปฏิเสธคำขอของนายอย่างเด็ดขาด” ฉือมู่กล่าว
สิ่งที่ทำให้ฉือมู่ดีใจกับรางวัลเฟิร์สเคลียร์ครั้งนี้มากที่สุดนั่นก็คือการทำสัญญากับสตูดิโอเกมชั้นแนวหน้าในประเทศได้สำเร็จถึงสามแห่ง อย่างไรก็ตามเขาก็ยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใครเลย เพราะเขาได้ส่งสมาชิกของทั้งสามสตูดิโอไปขยายขอบเขตของกิลด์ภายในเมืองต่าง ๆ
ทางลู่หยางก็มีความคิดที่จะขอความช่วยเหลือฉือมู่อยู่เหมือนกัน เพราะหนึ่งในวัตถุดิบสำหรับการอัปเกรดหัวใจแห่งเทพอสูรถูกซ่อนไว้ในดันเจียนเลเวล 3 ซึ่งแต่เดิมเขาตั้งใจจะรวมทีมไปลงดันเจียนอยู่แล้ว หากมีทีมของฉือมู่มันก็จะช่วยให้เขาลงดันเจียนได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
“ของที่ผมให้คุณช่วยหาเรียบร้อยแล้วหรือยัง?” ลู่หยางถาม
“ดาร์คสไปเดอร์ซิลค์ใช่ไหม? ฉันเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว รอแป๊บนึงเดี๋ยวฉันจะส่งคนเอามันไปให้” ฉือมู่กล่าว
“โอเค เดี๋ยวผมจะรอที่หน้าธนาคาร” ลู่หยางตอบ
หลังจากตัดสายฉือมู่ก็ได้หันไปพูดกับรองหัวหน้ากิลด์ของตัวเอง
“ชิงเฟิง ช่วยเอาของไปส่งให้ลู่หยางที่หน้าธนาคารเมืองเซนต์กอลล์หน่อย”
“ได้ครับ” ชิงเฟิงกล่าวก่อนที่เขาจะใช้ม้วนคัมภีร์ย้อนกลับเพื่อเดินทางกลับไปยังเมืองเซนต์กอลล์
ดาร์คสไปเดอร์ซิลค์ที่ลู่หยางให้ฉือมู่เตรียมไว้มีจำนวนสูงถึง 600 กอง ซึ่งจำนวนมากขนาดนี้ไม่เพียงพอสำหรับการบรรจุในกระเป๋าของผู้เล่นเพียงคนเดียว เมื่อมีการแลกเปลี่ยนไอเท็มเป็นจำนวนมากผู้เล่นจึงมักจะใช้ธนาคารเป็นจุดแลกเปลี่ยน
ระหว่างที่ลู่หยางกำลังยืนรออยู่หน้าธนาคาร มันก็มีกลุ่มผู้เล่นเดินมาจากระยะไกล
“หยู่เว่ย หลานอวี่ พวกเธออย่ากังวลไปนักเลย ฉันซื้อชุดเกราะระดับทองแดงสำหรับนักรบมาแล้ว ครั้งนี้พวกเราสามารถผ่านดันเจียนไปได้อย่างแน่นอน” เสียงที่คุ้นหูแต่ก็น่ารำคาญดังเข้ามาภายในหูของลู่หยาง
เมื่อชายหนุ่มเหลือบสายตาไปมอง เขาก็ได้พบกับกลุ่มของหลานอวี่ที่กำลังเดินเข้ามา
เมื่อหลานอวี่เห็นลู่หยาง เธอจึงโบกมือทักทายด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
“อาจารย์ คุณมาทำอะไรที่นี่งั้นเหรอ?”
“ฉันก็อยากจะถามเธอเหมือนกันว่าเธอมาทำอะไรที่นี่?” ลู่หยางถามกลับด้วยรอยยิ้ม
“พวกเรากำลังเตรียมตัวไปลงดันเจียน คราวนี้พวกเราซื้อชุดเกราะของนักรบมาจนครบเซ็ตแล้วพลังป้องกันจึงมีอยู่เกิน 71 แต้ม หลังจากนี้มันจะต้องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน” หลานอวี่ตอบ
“มั่นใจกันจังเลยนะ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“แน่นอน คราวนี้พวกเราใกล้จะเลเวล 4 กันแล้ว ไม่ว่ายังไงมันก็จะต้องไม่มีปัญหา” หลานอวี่ตอบอย่างมั่นใจ
“อาจารย์ คุณพอจะมีคู่มือดันเจียนเดทเคฟหรือเปล่า ถ้าคุณมีพวกเรายินดีซื้อในราคาสูง” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว
การให้สถานที่เก็บเลเวลลับและสูตรของปลาไหลทอดกรอบไปในก่อนหน้านี้ทำให้เซี่ยหยู่เว่ยเชื่อว่าลู่หยางไม่ใช่คนธรรมดา คนคนนี้อาจจะเป็นคนของสตูดิโอชั้นนำหรือสมาชิกคนสำคัญของกิลด์ขนาดใหญ่ เพราะบุคคลในระดับนั้นจะมีข้อมูลพวกนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
เดี๋ยวอีตาเจิ้งหยวนพูดแดกดันสวนมาแน่นอนนนนน