ตอนที่แล้วบทที่ 34 ปรับปรุงคาถา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 36 ของขวัญล้ำค่าจากก็อบลิน

บทที่ 35 บีเซล ราชาก็อบลินในอนาคต


บทที่ 35 บีเซล ราชาก็อบลินในอนาคต

“โอ้ย เกือบตายแล้วไหมล่ะ” ลู่หยางอุทานพร้อมกับเหงื่อที่ไหลไปทั่วทั้งใบหน้า เพราะถ้าหากเขาถูกบ้านถล่มทับลงมาพวกเขาย่อมเสียชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย

ก็อบลินด้านข้างตกใจจนไร้สติแต่พอเขาเริ่มดึงสติกลับมาได้แล้ว เพื่อนตัวน้อยก็เริ่มจัดแจงสภาพของตัวเองและโค้งคำนับให้กับลู่หยางอย่างสง่างาม

“ฉัน บีเซล ขอขอบคุณที่คุณช่วยชีวิตฉันเอาไว้ ได้โปรดรับเงิน 1 เหรียญทองนี้เป็นของตอบแทนน้ำใจด้วย”

“บีเซล?” แววตาของลู่หยางเป็นประกายขึ้นมาในทันที เพราะในชาติก่อนเขาคุ้นเคยกับชื่อ ๆ นี้เป็นอย่างมาก

3 ปีหลังจากนี้อาณาจักรก็อบลินจะมีการเปลี่ยนแปลงกษัตริย์องค์ใหม่ ซึ่งกษัตริย์องค์ต่อไปนั่นก็คือก็อบลินผู้ซึ่งมีชื่อว่าบีเซลนั่นเอง

ลู่หยางอดที่จะมองไปยังก็อบลินหนุ่มตรงหน้าไม่ได้ แล้วถึงแม้ว่าใบหน้าของอีกฝ่ายจะเต็มไปด้วยเขม่าควัน แต่มันก็ยังเห็นได้ชัดว่าสหายตัวน้อยคนนี้แท้ที่จริงแล้วคือกษัตริย์บีเซลจริง ๆ

ชายหนุ่มไม่คิดเลยว่าตัวเองจะโชคดีขนาดนี้ ถึงกับได้เจออีเวนต์ช่วยชีวิตราชาแห่งเผ่าก็อบลินในอนาคต

“ฉันไม่เอาเงินของคุณหรอก การช่วยคุณมันไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากอะไร” ลู่หยางกล่าวเพราะการเป็นสหายกับราชาในอนาคตมีมูลค่าสูงกว่าเงิน 1 เหรียญทองมาก

บีเซลเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะพูดว่า “เงินนี่มันยังน้อยเกินไปใช่ไหม? ขอโทษที ถ้าอย่างนั้นฉันขอมอบของรางวัลให้คุณ 5 เหรียญทอง”

แม้บีเซลจะมีเงินติดตัวไม่ถึง 5 เหรียญทอง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ชายหนุ่มตกลงเขาสามารถขอให้ทางบริษัทส่งเงินทั้งหมดมาให้ลู่หยางได้ในเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 5 นาที

ลู่หยางยังคงส่ายหัวและพูดว่า “ฉันบอกไปแล้วว่าการช่วยคุณมันเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”

แววตาของบีเซลไม่ค่อยดีมากนัก ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาด้วยความโมโห

“เจ้ามนุษย์โลภมาก! อย่างมากที่สุดฉันก็จะให้ค่าตอบแทนเพียงแค่ 10 เหรียญทองเท่านั้น ถ้าหากว่าคุณยังไม่ตกลงฉันจะไม่ให้เงินคุณเลยแม้แต่เหรียญเดียว”

เงิน 10 เหรียญทองมันมีความหมายว่าอะไร?

แม้เวลาจะล่วงเลยผ่านไปอีกหนึ่งเดือน แต่เงินจำนวนนี้มันก็มากพอที่จะซื้อชุดเซ็ตอุปกรณ์ระดับเงินเลเวล 10 ได้ครบทั้งเซ็ต

หากเป็นผู้เล่นทั่วไปเมื่อพวกเขาเห็นท่าทีโมโหของบีเซล พวกเขาก็คงคิดว่านี่คือปฏิกิริยาจริง ๆ แต่ในกรณีของลู่หยางผู้มีประสบการณ์เขาก็ไม่ได้มีความคิดแบบนั้นเลย

“นี่คุณก็อบลิน คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังดูถูกศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของฉันอยู่ ฉันบอกแล้วไงว่าการช่วยเหลือคุณมันเป็นเรื่องเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย และฉันก็ไม่ได้ต้องการเงินจากคุณแม้แต่เหรียญเดียว” ลู่หยางพูดอย่างเด็ดขาด

บีเซลนิ่งอึ้งไปเพราะในความทรงจำของเขา มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่ละโมบและชอบเอาเปรียบ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีเงินวางกองอยู่ตรงหน้า มนุษย์ก็พร้อมที่จะยอมตายเพื่อเงินได้ แล้วทำไมมนุษย์ตรงหน้าถึงดูไม่เหมือนมนุษย์ในความทรงจำของเขาเลย?

หลังจากนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ลู่หยางยังคงพูดอย่างหงุดหงิดต่อไป

“ฉันมาที่นี่เพื่อฆ่าวอลกิน ดูนั่น! ศพของวอลกินยังนอนตายอยู่เลย สาเหตุที่ฉันเจอคุณมันเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ แต่คุณกลับต้องการจะใช้เงินมาซื้อฉัน นั่นมันเป็นความคิดที่น่ารังเกียจสุด ๆ ไปเลย”

บีเซลมองไปตามทางที่ลู่หยางชี้และได้พบกับศพของวอลกินที่กำลังนอนอยู่บนพื้นจริง ๆ ทันใดนั้นก็อบลินหนุ่มก็อ้าปากกว้างขึ้นมาด้วยความตกใจ

“วอลกินตายแล้วจริง ๆ ด้วย!” หลังจากตรวจสภาพศพของวอลกินหลายครั้ง บีเซลก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

อย่างไรก็ตามลู่หยางก็ไม่ได้แสดงท่าทีสนใจบีเซลเลย เพราะเขากำลังหันหลังเพื่อเดินออกจากค่ายโทรลล์อย่างหงุดหงิด

ความโกรธในครั้งนี้เป็นความโกรธจริง ๆ ไม่ใช่การแสดงละคร และในปี 2040 เอไอก็ได้รับการพัฒนาจนมีสติปัญญาสูงมาก การพูดคุยกับบีเซลจึงไม่ต่างไปจากการพูดคุยกับคนจริง ๆ

ยิ่งไปกว่านั้นลู่หยางยังมีนิสัยซื่อตรงและยุติธรรม เขาชอบผูกมิตรกับคนที่มีน้ำใจและเกลียดคนที่คิดว่าทุกอย่างสามารถหาซื้อได้ด้วยเงิน

ตอนนี้เขามีหัวใจแห่งเทพอสูรในครอบครองแล้ว ความสำคัญของบีเซลจึงไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นมากขนาดนั้น ซึ่งถ้าหากว่าก็อบลินหนุ่มเป็นคนที่ชอบดูถูกคนอื่น ลู่หยางก็ไม่อยากจะผูกมิตรกับอนาคตราชาก็อบลินเลยแม้แต่นิดเดียว

บีเซลกำลังตื่นเต้นที่วอลกินตายไปแล้ว แต่เมื่อเขาได้เห็นลู่หยางกำลังจะจากไป ก็อบลินหนุ่มจึงรีบวิ่งมาขวางทางไว้อย่างรวดเร็ว

“เดี๋ยวก่อน!”

“มีอะไร?” ลู่หยางถาม

คราวนี้บีเซลโค้งคำนับลู่หยางอย่างจริงจังและเขาก็ยังยืนค้างเอาไว้ โดยในตอนที่หลังของเขาได้โค้งลงไปถึง 90 องศาแล้ว

“ช่วยยกโทษให้กับความหยาบคายของฉันด้วย หากคุณไม่ประสงค์จะรับเงินจากฉันก็ขอให้ยอมรับมิตรภาพของฉันกลับไปแทน หากคุณไม่รังเกียจบีเซลคนนี้ก็ยินดีจะเป็นเพื่อนกับคุณ” บีเซลกล่าวอย่างจริงใจ

ลู่หยางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะคิดกับตัวเองภายในใจว่า

“มันควรจะต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้วหรือเปล่า คนที่คิดว่าทุกอย่างซื้อได้ด้วยจะกลายเป็นราชาของพวกก็อบลินได้ยังไง?”

ราชาคือผู้ที่สมควรมีวิสัยทัศน์และความยุติธรรม ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็จะไม่ได้รับเลือกให้กลายเป็นราชาของเผ่าพันธุ์

“เอาล่ะ ฉัน ลู่หยางขอยอมรับมิตรภาพของคุณไว้ ฉันเชื่อว่าพวกเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันในอนาคต” ลู่หยางยื่นมือออกไปจับตัวบีเซลให้ยืดตัวขึ้น

บีเซลเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้น ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาด้วยความยินดี

“เยี่ยมไปเลย! ในที่สุดฉันก็ได้มีเพื่อนเป็นมนุษย์สักที”

“ก่อนหน้านี้คุณไม่เคยเจอมนุษย์มาก่อนเลยงั้นเหรอ?” ลู่หยางถามด้วยความสงสัย

“เคยเจอสิ แต่มนุษย์พวกนั้นมีแต่คนโลภไม่ต่างไปจากพวกเราก็อบลินสักเท่าไหร่ ในหมู่มนุษย์ทั้งหมดที่ฉันเคยเจอคุณเป็นคนแรกที่ไม่ได้มองทุกอย่างเป็นเงินเป็นทอง” บีเซลพูดอย่างจนใจ

ลู่หยางในชาติก่อนก็ไม่ใช่คนที่เห็นแก่เงินด้วยเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แม้ว่าจะมีป้อมปราการและเป็นผู้นำกิลด์ที่มีสมาชิก 5,000 คนก็ตาม

“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” ลู่หยางถาม

“จะพูดเรื่องนี้ไปมันก็น่าโมโห!” บีเซลพูดอย่างหงุดหงิดขณะที่นิ้วชี้ไปยังศพของวอลกิน

“คาราวานของฉันกำลังเดินทางผ่านเนินเขาของพวกฮาล์ฟออร์ค แต่ไอ้พวกสารเลวนี่ก็มาซุ่มโจมตีกองคาราวานซะก่อน ทุกคนในกองคาราวานต่างก็บาดเจ็บล้มตายกันไปหมด มีฉันเหลือรอดชีวิตมาเพียงแค่คนเดียว”

“ตอนแรกฉันคิดว่าวอลกินจับตัวฉันมาเรียกค่าไถ่ แต่ไป ๆ มา ๆ ฉันคิดว่ามันคงเอาตัวฉันมาบูชายัญเพื่อเผาทั้งเป็น”

เรื่องการบูชายัญเป็นประเพณีของเผ่าโทรลล์ และไม่ว่าเครื่องบูชายัญจะเป็นอะไร สิ่งเหล่านั้นต่างก็ล้วนแล้วแต่จะต้องถูกเผาเพื่อบูชาต่อเทพเจ้าที่โทรลล์นับถือ

“วอลกินอาจจะเห็นว่าคุณเป็นก็อบลินหน้าตาหล่อเหลาเลยอยากจะให้คุณไปเป็นข้ารับใช้ทวยเทพของพวกมันก็ได้” ลู่หยางพูดติดตลก

บีเซลเผยรอยยิ้มอย่างเขินอาย แต่ในทันใดนั้นมันก็มีกองกำลังโทรลล์เดินผ่านมา ก็อบลินหนุ่มจึงตกใจวิ่งไปหลบทางด้านหลังของลู่หยาง

“พวกเรากลับกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวพวกโทรลล์มันจะผ่านมามากกว่านี้” ลู่หยางกล่าว

บีเซลพยักหน้าพร้อมกับมองซ้ายมองขวา และทันใดนั้นเขาก็ได้พบว่าเสื้อผ้าและกระเป๋าเดินทางของตนอยู่ไม่ห่างจากอาคารที่กลายเป็นซากปรักหักพัง

หลังจากจัดแจงตัวเองเรียบร้อยแล้ว บีเซลก็วิ่งมาหาลู่หยางก่อนที่จะหยิบโลหะทรงกลมออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง

ชายหนุ่มจำอุปกรณ์ชิ้นนี้ได้ โดยมันเป็นอุปกรณ์เทเลพอร์ตที่สามารถเทเลพอร์ตผู้เล่นไปยังจุดหมายได้พร้อมกันสูงสุดถึงห้าคน

“นี่คือผลงานชิ้นเอกของพวกเรา เตรียมตัวเอาไว้ให้พร้อมฉันจะพาเราออกไปจากที่นี่แล้ว” บีเซลกล่าวก่อนที่เขาจะกดปุ่มบนแท่งทรงกลม ทำให้ร่างของพวกเขากลายเป็นแสงสว่างหายไปจากพื้นที่ตำแหน่งเดิมอย่างฉับพลัน

ในอีกด้านหนึ่งบริเวณจุดเทเลพอร์ตของบริษัทในย่านการค้าทางทิศตะวันตกของเมืองเซนต์กอลล์ มันก็ได้มีแสงสว่างปรากฏขึ้นวูบหนึ่งก่อนที่ร่างของลู่หยางและบีเซลจะปรากฏตัวขึ้นมา

เป้าหมายสำเร็จ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด